realme นั้นเรียกได้ว่าเปิดตัวกันบ่อยพอสมควรและในการเปิดตัวแต่ละครั้งก็เสริมเข้ามาทั้งในเรื่องของช่องว่างทางการตลาดและราคาได้ดีรวมถึงสเปคที่ให้มานั้นเมื่อเทียบกับเรทราคาใกล้ๆกันต้องบอกว่าค่อนข้างจัดเต็มอย่างมากและทำได้คุ้มราคาเป็นจุดเด่นหลักๆของแบรนด์นี้และการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อยๆของแบรนด์นี้ก็เป็นผลจากพวกนี้นั้นเองครับ ในตลาดทั่วโลกต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้โตไวมากและเติบโตเยอะขึ้นมากๆครับในการทำตลาดที่เก่งพอสมควรเลย และในครั้งนี้ realme ได้เปิดตัว realme 6 Pro และ realme 6 ไปแล้วในต่างประเทศครับแน่นอนว่าเด่นๆเลยคือเรื่องของ หน้าจอ 90 Hz การชาร์จไว หน้าจอแบบเจาะรู กล้องหน้ามุมกว้าง กล้อง 64MP ที่ทำราคาได้ไม่ถึงหมื่นต้องบอกเลยว่าน่าสนใจครับ ครั้งนี้เรามาอยู่กับทาง realme 6 Pro ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองกันไปเต็มๆแล้วมันจะน่าสนใจ หรือน่าเล่นมากกว่ารุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน หรือคนใช้ 5 Pro นั้นจะสมควรอัพไหมมาชมกันเลย
realme 6 Pro นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่กว่าและได้ใช้งาน CPU Snapdragon นั้นเองครับ รุ่น Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz และความถี่ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอ 120Hz มันมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.60% นอกจากนี้มันยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซต 720G 8nm อีกด้วย สำหรับกล้องหลังของมันมี 4 ตัวเช่นกันประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์กว้าง 8MP + เลนส์เทเล 12MP + เลนส์มาโคร 2MP ส่ววนกล้องหน้าคู่ของมันจะเป็นแบบเจาะรูที่มีประกอบด้วยเลนส์ 16MP + เลนส์กว้าง 8MP และมาพร้อมกับ แบต 4300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W ไวมากๆ รวมถึงสแกนนิ้วมาให้ตรงขอบเครื่อง ที่ ระยะเวลาในการใช้งานค่อนข้างไว อีกทั้งมาพร้อมกับ สีใหม่ที่เป็นลวดลายสายฟ้า และ โหมดต่างๆที่แทรกเสริมเข้ามาครับในทั้งกล้อง วีดีโอ ระบบ หน้าจอถือว่าเป็นครั้งที่จัดเต็มอีกครั้งของทาง realme
ทางด้านราคานั้น มาพร้อมกับสเปค RAM 8/128GB เปิดราคา 10,990 บาทครับผม และมาในสี สายฟ้า Lightning Blue และ Lightning Red
UNBOX
สำหรับตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิมพร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่นแต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมาครับ ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่นก่อนๆเท่าไรนั้นเอง
- ตัวเครื่อง
- เคสใส TPU
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 30W
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- ฟิลม์กันรอยติดมาให้แล้ว
มาที่ตัวเคสถือว่า มีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และเป็นการออกแบบเดียวกันกับ realme 5 Pro รุ่นก่อนนู้นเลยนั้นเองครับที่จะปกป้องได้ค่อนข้างดีและตัวเคสอะไรนั้นจะเป็นแบบเดียวกันเลย
DESIGN
ทางด้านงานออกแบบ ในรุ่น 6 Pro นั้นจริงๆในตอนสัมผัสครั้งแรกเลยแอบรู้สึกความแน่นพรีเมี่ยมมากกว่าเดิมแบบชัดเจนครับทั้งขนาด ความโค้งงานประกอบฝาหลังพวกนี้รู้สึกว่าเออแน่นดีไม่แปลกๆแบบรุ่นแรกๆหรือรุ่นก่อนหน้าครับแน่นอนว่าการวางกล้องหลังอะไรยังคงอิงแบบเดิมมาตั้งแต่รุ่นก่อนยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบอะไรเท่าไรนัก แต่ที่เด่นๆคือฝาหลังลายสายฟ้าฝาดครับ แน่นอนว่าเอาจริงๆตอนเห็นรูปเรนเดอร์คิดว่ามันจะเส้นแบบชัดเจน จนแปลกๆไปเลย แต่พอของจริงเออฝาหลังมันดูเนียนตาดูดีกว่ารูปเรนเดอร์เยอะไม่ลิเกแบบเส้นสายฟ้าชัดเจนมากครับ
ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว มาพร้อมการเจาะรูมุมซ้ายบน 2 กล้องครับและเป็นความละเอียดแบบ Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ที่เป็นครั้งแรกของเรทราคานี้เลย และ ความสว่าง 480 nits
ทางด้านกล้องหน้าด้านบนนั้นจะเป็นแบบเจาะรูแล้วแต่มาพร้อม 2 กล้องเลยใหญ่หน่อยครับเพราะรุ่นนี้กล้องหน้ากว้างมากๆ ใส่เข้ามาด้วยเก็บภาพได้หมดเลย ส่วนพวกเซนเซอร์ลำโพงอะไรก็แทรกตรงขอบหน้าจอข้างบนแบบเดิมเลย
ทางด้านขอบล่างนั้นจะยังคงมีความหนาตามเรทราคาของมันอยู่ครับพอรับได้ไม่ได้เยอะหรือน่าเกลียดอะไร ส่วนการควบคุมนั้นยังคงใช้งานแบบ 3 ปุ่มหรือใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้นั้นเอง จะเห็นว่ามีฟิลม์ปกติติดมาให้แล้วด้วยครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ากล้องแอบนูนขึ้นมาเยอะพอสมควร และฝาหลังมีความโค้งรับได้ดีครับแน่นอนว่า รุ่นนี้ยังคงมีไมค์ตัดเสียง อัดเสียงมาให้ในด้านบนครับ และวัสดุรอบๆเป็นพลาสติกเงาสีดำเงาไม่มีส่วนเว้าอะไรครับ
มาที่ด้านขวากันเลยจุดนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆของรุ่นนี้คือในแง่ของการสแกนนิ้วจากด้านหลังมาสู่ด้านข้างนั้นเองครับเพราะ ไม่ได้ใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอเลยมาใช้งานด้านข้างแทน ส่วนปุ่มอื่นๆก็ไม่มีอะไรเลยครับ เพราะ Power ได้รวมไปกับตัวสแกนนิ้วแล้วนั้นเอง
ทางด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Triple Slot และรองรับ Micro-SD ครับแน่นอนว่าปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงยังคงอยู่ในด้านนี้ และเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งหมด สีดำเงาไม่ได้มีลวดลายหรือไล่สีอะไรแบบตัวอื่นๆเน้นเรียบๆเลยครับ
ส่วนขอบเครื่องในด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีการออกแบบที่อิงการวางตำแหน่งอะไรที่คุ้นเคยกันดีครับ ตรงกลางเป็นUSB-C พร้อมกับ ลำโพง และ มีรูไมค์มาให้ ส่วนทางด้านรู 3.5 มม. นั้นยังคงมีมาให้อยู่ไม่ได้ตัดไปไหนครับ
ฝาหลังกันหน่อยต้องบอกว่าฝาหลังครั้งนี้เล่นกับแสงมิติของแสงได้สวยงามและมีลวดลายสายฝ้าสวยงามครับ และโทนเข้มๆ เล่นกับแสงได้ดีสายฟ้าไม่ได้ชัดเจนเกินไปเหมือนแค่เป็นเว้าๆเล่นกับแสงเท่านั้นถ้าไม่มีแสงไฟส่องตรงๆครับ ส่วนถ้าเจอแสงไฟแหล่งแสงก็จะชัดเจนขึ้นครับสวยขึ้นแล้วแต่คนชอบเลย สีน้ำเงินเข้มสวยงามขอบสีดำไล่สีได้ดี ส่วนการวางโลโก้แนวนอนเช่นเดิม พร้อมกับ กล้องมุมซ้ายบนครับ ทางด้านสแกนนิ้วย้ายไปข้างๆแล้วนั้นเอง
ทางด้านกล้องหลังวางเรียงกันยาวๆ แต่ส่วนกล้องท้ายๆจะชิดกันนิดหน่อยครับ ส่วนกล้องหน้ามี 2 ตัวทำให้ภาพรวมกล้องทั้งหมดมีมากถึง 6 ตัวครับ แน่นอนว่ากล้องหลักพัฒนามาเป็น 64MP แล้ว ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4) ครับในตัวกล้องนี้
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) 20:9 Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่าง 480 nits, 81.5% NTSC color gamut, กระจก Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซต Snapdragon 720G 8nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 618
- RAM LPPDDR4x 6GB + storage (UFS 2.1) 64GB, RAM LPPDDR4x 6GB / 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 256GB
- ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI 1.0
- กล้องหลัง 64MP ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP (f/2.1), Sony IMX1471, เลนส์กว้าง 105° ความละเอียด 8MP (f/2.2)
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
- รูแจ็ค 3.5mm, Dolby Atmos, วิทยุ FM
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.9×75.8×9.4mm; น้ำหนัก: 195g
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, Dual Frequency (L1 + L5) GPS, NavIC, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน CPU ตัวใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของค่ายเลยคือ Snapdragon 720G พร้อมกับ RAM 8 GB และ หน่วยความจำเป็น UFS 128 GB ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 280K ต้องบอกว่าคะแนนโหดเอาเรื่องเลยครับส่วนคะแนนการอ่านเขียน ทำไปได้ 49700 และ เขียนไป 198 ครับและ Rxmonitor ขึ้น Non-CA และ Divevine L3 อยู่นะครับในการเช็ค Netflix SD เท่านั้นครับ โดยรวมนั้นถือว่าสเปคเมื่อเทียบกับราคาต้องบอกว่าทำได้ดีครับ ทั้งตัว CPU GPU และการรองรับครับ ทางด้าน Wifi ก็รองรับ Wifi 5Ghz ด้วยเช่นกันในรุ่นนี้
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นหลังจากที่เปิดตัวไปไม่นานครับ พัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI 1 แล้วไม่ได้ใช้งาน Colour OS แล้วนั้นเองครับ การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็๋นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
[SR] รีวิว realme 6 Pro จัดเต็มจอ 90Hz พร้อม Snapdragon 720G และ กล้อง 64MP !
realme นั้นเรียกได้ว่าเปิดตัวกันบ่อยพอสมควรและในการเปิดตัวแต่ละครั้งก็เสริมเข้ามาทั้งในเรื่องของช่องว่างทางการตลาดและราคาได้ดีรวมถึงสเปคที่ให้มานั้นเมื่อเทียบกับเรทราคาใกล้ๆกันต้องบอกว่าค่อนข้างจัดเต็มอย่างมากและทำได้คุ้มราคาเป็นจุดเด่นหลักๆของแบรนด์นี้และการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อยๆของแบรนด์นี้ก็เป็นผลจากพวกนี้นั้นเองครับ ในตลาดทั่วโลกต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้โตไวมากและเติบโตเยอะขึ้นมากๆครับในการทำตลาดที่เก่งพอสมควรเลย และในครั้งนี้ realme ได้เปิดตัว realme 6 Pro และ realme 6 ไปแล้วในต่างประเทศครับแน่นอนว่าเด่นๆเลยคือเรื่องของ หน้าจอ 90 Hz การชาร์จไว หน้าจอแบบเจาะรู กล้องหน้ามุมกว้าง กล้อง 64MP ที่ทำราคาได้ไม่ถึงหมื่นต้องบอกเลยว่าน่าสนใจครับ ครั้งนี้เรามาอยู่กับทาง realme 6 Pro ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองกันไปเต็มๆแล้วมันจะน่าสนใจ หรือน่าเล่นมากกว่ารุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน หรือคนใช้ 5 Pro นั้นจะสมควรอัพไหมมาชมกันเลย
realme 6 Pro นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่กว่าและได้ใช้งาน CPU Snapdragon นั้นเองครับ รุ่น Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz และความถี่ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอ 120Hz มันมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.60% นอกจากนี้มันยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซต 720G 8nm อีกด้วย สำหรับกล้องหลังของมันมี 4 ตัวเช่นกันประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์กว้าง 8MP + เลนส์เทเล 12MP + เลนส์มาโคร 2MP ส่ววนกล้องหน้าคู่ของมันจะเป็นแบบเจาะรูที่มีประกอบด้วยเลนส์ 16MP + เลนส์กว้าง 8MP และมาพร้อมกับ แบต 4300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W ไวมากๆ รวมถึงสแกนนิ้วมาให้ตรงขอบเครื่อง ที่ ระยะเวลาในการใช้งานค่อนข้างไว อีกทั้งมาพร้อมกับ สีใหม่ที่เป็นลวดลายสายฟ้า และ โหมดต่างๆที่แทรกเสริมเข้ามาครับในทั้งกล้อง วีดีโอ ระบบ หน้าจอถือว่าเป็นครั้งที่จัดเต็มอีกครั้งของทาง realme
ทางด้านราคานั้น มาพร้อมกับสเปค RAM 8/128GB เปิดราคา 10,990 บาทครับผม และมาในสี สายฟ้า Lightning Blue และ Lightning Red
UNBOX
สำหรับตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิมพร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่นแต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมาครับ ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่นก่อนๆเท่าไรนั้นเอง
- ตัวเครื่อง
- เคสใส TPU
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 30W
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- ฟิลม์กันรอยติดมาให้แล้ว
มาที่ตัวเคสถือว่า มีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และเป็นการออกแบบเดียวกันกับ realme 5 Pro รุ่นก่อนนู้นเลยนั้นเองครับที่จะปกป้องได้ค่อนข้างดีและตัวเคสอะไรนั้นจะเป็นแบบเดียวกันเลย
DESIGN
ทางด้านงานออกแบบ ในรุ่น 6 Pro นั้นจริงๆในตอนสัมผัสครั้งแรกเลยแอบรู้สึกความแน่นพรีเมี่ยมมากกว่าเดิมแบบชัดเจนครับทั้งขนาด ความโค้งงานประกอบฝาหลังพวกนี้รู้สึกว่าเออแน่นดีไม่แปลกๆแบบรุ่นแรกๆหรือรุ่นก่อนหน้าครับแน่นอนว่าการวางกล้องหลังอะไรยังคงอิงแบบเดิมมาตั้งแต่รุ่นก่อนยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบอะไรเท่าไรนัก แต่ที่เด่นๆคือฝาหลังลายสายฟ้าฝาดครับ แน่นอนว่าเอาจริงๆตอนเห็นรูปเรนเดอร์คิดว่ามันจะเส้นแบบชัดเจน จนแปลกๆไปเลย แต่พอของจริงเออฝาหลังมันดูเนียนตาดูดีกว่ารูปเรนเดอร์เยอะไม่ลิเกแบบเส้นสายฟ้าชัดเจนมากครับ
ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว มาพร้อมการเจาะรูมุมซ้ายบน 2 กล้องครับและเป็นความละเอียดแบบ Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ที่เป็นครั้งแรกของเรทราคานี้เลย และ ความสว่าง 480 nits
ทางด้านกล้องหน้าด้านบนนั้นจะเป็นแบบเจาะรูแล้วแต่มาพร้อม 2 กล้องเลยใหญ่หน่อยครับเพราะรุ่นนี้กล้องหน้ากว้างมากๆ ใส่เข้ามาด้วยเก็บภาพได้หมดเลย ส่วนพวกเซนเซอร์ลำโพงอะไรก็แทรกตรงขอบหน้าจอข้างบนแบบเดิมเลย
ทางด้านขอบล่างนั้นจะยังคงมีความหนาตามเรทราคาของมันอยู่ครับพอรับได้ไม่ได้เยอะหรือน่าเกลียดอะไร ส่วนการควบคุมนั้นยังคงใช้งานแบบ 3 ปุ่มหรือใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้นั้นเอง จะเห็นว่ามีฟิลม์ปกติติดมาให้แล้วด้วยครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ากล้องแอบนูนขึ้นมาเยอะพอสมควร และฝาหลังมีความโค้งรับได้ดีครับแน่นอนว่า รุ่นนี้ยังคงมีไมค์ตัดเสียง อัดเสียงมาให้ในด้านบนครับ และวัสดุรอบๆเป็นพลาสติกเงาสีดำเงาไม่มีส่วนเว้าอะไรครับ
มาที่ด้านขวากันเลยจุดนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆของรุ่นนี้คือในแง่ของการสแกนนิ้วจากด้านหลังมาสู่ด้านข้างนั้นเองครับเพราะ ไม่ได้ใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอเลยมาใช้งานด้านข้างแทน ส่วนปุ่มอื่นๆก็ไม่มีอะไรเลยครับ เพราะ Power ได้รวมไปกับตัวสแกนนิ้วแล้วนั้นเอง
ทางด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Triple Slot และรองรับ Micro-SD ครับแน่นอนว่าปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงยังคงอยู่ในด้านนี้ และเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งหมด สีดำเงาไม่ได้มีลวดลายหรือไล่สีอะไรแบบตัวอื่นๆเน้นเรียบๆเลยครับ
ส่วนขอบเครื่องในด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีการออกแบบที่อิงการวางตำแหน่งอะไรที่คุ้นเคยกันดีครับ ตรงกลางเป็นUSB-C พร้อมกับ ลำโพง และ มีรูไมค์มาให้ ส่วนทางด้านรู 3.5 มม. นั้นยังคงมีมาให้อยู่ไม่ได้ตัดไปไหนครับ
ฝาหลังกันหน่อยต้องบอกว่าฝาหลังครั้งนี้เล่นกับแสงมิติของแสงได้สวยงามและมีลวดลายสายฝ้าสวยงามครับ และโทนเข้มๆ เล่นกับแสงได้ดีสายฟ้าไม่ได้ชัดเจนเกินไปเหมือนแค่เป็นเว้าๆเล่นกับแสงเท่านั้นถ้าไม่มีแสงไฟส่องตรงๆครับ ส่วนถ้าเจอแสงไฟแหล่งแสงก็จะชัดเจนขึ้นครับสวยขึ้นแล้วแต่คนชอบเลย สีน้ำเงินเข้มสวยงามขอบสีดำไล่สีได้ดี ส่วนการวางโลโก้แนวนอนเช่นเดิม พร้อมกับ กล้องมุมซ้ายบนครับ ทางด้านสแกนนิ้วย้ายไปข้างๆแล้วนั้นเอง
ทางด้านกล้องหลังวางเรียงกันยาวๆ แต่ส่วนกล้องท้ายๆจะชิดกันนิดหน่อยครับ ส่วนกล้องหน้ามี 2 ตัวทำให้ภาพรวมกล้องทั้งหมดมีมากถึง 6 ตัวครับ แน่นอนว่ากล้องหลักพัฒนามาเป็น 64MP แล้ว ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4) ครับในตัวกล้องนี้
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) 20:9 Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่าง 480 nits, 81.5% NTSC color gamut, กระจก Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซต Snapdragon 720G 8nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 618
- RAM LPPDDR4x 6GB + storage (UFS 2.1) 64GB, RAM LPPDDR4x 6GB / 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 256GB
- ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI 1.0
- กล้องหลัง 64MP ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP (f/2.1), Sony IMX1471, เลนส์กว้าง 105° ความละเอียด 8MP (f/2.2)
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
- รูแจ็ค 3.5mm, Dolby Atmos, วิทยุ FM
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.9×75.8×9.4mm; น้ำหนัก: 195g
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, Dual Frequency (L1 + L5) GPS, NavIC, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน CPU ตัวใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของค่ายเลยคือ Snapdragon 720G พร้อมกับ RAM 8 GB และ หน่วยความจำเป็น UFS 128 GB ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 280K ต้องบอกว่าคะแนนโหดเอาเรื่องเลยครับส่วนคะแนนการอ่านเขียน ทำไปได้ 49700 และ เขียนไป 198 ครับและ Rxmonitor ขึ้น Non-CA และ Divevine L3 อยู่นะครับในการเช็ค Netflix SD เท่านั้นครับ โดยรวมนั้นถือว่าสเปคเมื่อเทียบกับราคาต้องบอกว่าทำได้ดีครับ ทั้งตัว CPU GPU และการรองรับครับ ทางด้าน Wifi ก็รองรับ Wifi 5Ghz ด้วยเช่นกันในรุ่นนี้
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นหลังจากที่เปิดตัวไปไม่นานครับ พัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI 1 แล้วไม่ได้ใช้งาน Colour OS แล้วนั้นเองครับ การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็๋นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้