ชีวิต 108 อาชีพในออสเตรเลียกับ Work and Holiday Visa และทุนการศึกษาที่ดาร์วิน

เราก็เหมือนคนหลายๆ คนทั่วไปที่มีความฝันในวัยเด็ก ว่าอยากมาเรียนเมืองนอก แต่มันช่างเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เพราะบ้านเราไม่มีกำลังพอที่จะสนับสนุนส่งเสียให้มาเรียน แค่ในประเทศก็กระอักหนึ่งเบอร์แล้ว เราเรียนจบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านอโศกหลังจากนั้นก็เป็นมนุษย์เงินเดือนใน กทม แบบเดือนชนเดือนจนอายุเกือบขึ้นเลข 3 ก็มาฉุกคิดได้ว่า เอ๊ะ ชีวิตจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรอ ลืมอะไรไป อยากทำอะไรรึเปล่า สิ่งที่ตั้งใจไว้ ว่าจะมาใช้ชีวิตเมืองนอก มาเที่ยว มาให้เวลาตามหาด้านอื่นๆ ของตัวเอง หลังจากที่ทำงานมาตลอดตั้งแต่ปี 2 แบบไม่มีพัก Gap year ที่มาช้าหน่อยก็ต้องมาล่ะละ พอลองหาข้อมูลแล้วพบว่า โครงการ Work and Holiday คือ โปรแกรมที่มีใช้เงินทุนน้อยที่สุดและเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับเราแล้ว 
                
Work and Holiday ตอนนี้ป๊อปมากเพราะเปิดโควตาให้ขอวีซ่าไปทำงานและท่องเที่ยวที่ออสเตรเลียกันได้ยาวนานสุดถึง 3 ปี ในยุคเราต้องกดโควตาแข่งบุญแข่งวาสนากันเพราะจำกัดวีซ่าเพียงปีละ 500 คน ส่วนตอนนี้ว่าบาปบุญ ออสเตรเลียอยากได้แรงงานคุณภาพเลยส่งมาเลยจ้า เอาไป 2,000 เพียงแค่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด จบ ป. ตรี มีผล Ielts 4.5 ขึ้นไป มี statement $ 5,000 หนทางออกไปแตะขอบฟ้าอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ที่เหลือก็มาจากแต้มบุญในการกดโควตาของท่านล้วนๆ 
                
หลังจากผ่านโปรเซสที่ว่า ก็ได้ฤกษ์ทิ้งการงานแบบฉบับมนุษย์ออฟฟิศในเมืองไทยมาเริ่มชีวิตใหม่ในซิดนีย์ อะไรที่เคยวาดภาพไว้สวยหรู หรือที่เคยทำงานในไทยแบบสบายๆ แต่งหน้าม้วนผมทำเล็บไปทำงาน ก็ขอให้ลืมมัน เพราะโลกใบใหม่สดใสแบบกรรมกรจะได้เริ่มแล้วที่นี่


# Wedding Cake Rock, Sydney 

คนไทยส่วนใหญ่ที่มาเรียนและทำงาน หรือแม้แต่ชาว WAH (Work and Holiday) ทั้งหลายมักจะเริ่มต้นด้วยอาชีพท๊อปฮิต ในร้านอาหาร คาเฟ่ งานคลีน เราก็เช่นกันมาเริ่มต้นด้วยงานแรกก็เป็นงานเบเกอรี่กึ่งคาเฟ่ในซิดนีย์ หน้าที่หลัก คือ ขายเค้ก ขนมปัง เสิร์ฟกาแฟ ล้างจานล้างแก้ว ช่วยในครัว ทำความสะอาดเก็บร้านต่างๆ สารพัดที่จะเรียกใช้ ด้วยความที่เราไม่เคยทำงานพวกนี้มาก่อน ช่วงแรกเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะชาวมนุษย์ออสซี่พี่แกกินกาแฟจริงจัง ต้องเรียนรู้จำประเภทของกาแฟต่างๆ จำหน้าตาเค้กเพราะนี่ คือ ร้านเบเกอรี่ต้นตำรับอันเก่าแก่ของชาวอิตาลี ร้านลุคบ้านๆ แต่ยุ่งโคตร เค้ามีชื่อเค้กศัพท์แสงเฉพาะมากมาย ต้องพยายามทำให้ไว เซิ้งวนๆ ไป ไหนจะสำเนียงอิตาเลี่ยนของพวกพี่แก แถมเจ้าของร้านยังขี้โมโหอีก แต่เราเอนจอยเพราะลุงป้าที่มาร้านเป็นประจำเหมือนสภากาแฟน่ารักถึงบางคนจากหัวร้อนไปหน่อย บอกได้ว่า เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ที่ได้มาเห็นเค้าทำเค้กกันในครัวได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน

ในปีแรกเราสนุกสนานกับการทำงานและไปเที่ยวน้อยมาก จนอยู่ดีๆ ก็คิดว่า นี่เหมือนเป็นแรงงานอยู่ กทม เลยนี่หว่า ต่างกันที่สถานที่กับงินที่ได้ เหลืออีกไม่กี่เดือนต้องกลับแล้ว ชั้นยังไม่มีเงินเก็บ ยังเที่ยวไม่รอบเลย ชั้นเพลินไป ชั้นชิวไป ความคิดเริ่มเข้าโหมดเดิม ชีวิตต้องการความเปลี่ยนแปลงงงงง เราทำงานที่เบเกอรี่ สลับกับ ร้านไทยบ้าง อยู่ 8 เดือน ตอนนั้นทางรัฐบาลประกาศให้ประเทศไทยสามารถต่อวีซ่าปีที่ 2 ได้เป็นปีแรก ด้วยความที่เหลือวีซ่าอยู่เพียง 4 เดือน ตายแล้วเก็บ 88 วัน ไร่ก็ไร่ ชั้นต้องไปต่อแล้วจุดนี้ ชั้นยังไปไม่รอบเลย ไม่ได้แล้ว ชั้นจะอยู่!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่