สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป ทุกคนครับ วันนี้จะมาขอตั้งกระทู้เปรียบเทียบแอร์หรือเครื่องปรับอากาศที่ช่วยป้องกันฝุ่น pm2.5 ครับ
เรื่องของเรื่องคือ ทำห้องใหม่ให้ลูกสาว และอยากจะติดแอร์ในห้องให้เค้าด้วย ห้องที่ทำให้ลูกสาวครับ ขนาด 3x4 เมตร เพดานสูง 2.5 เมตร
ก็ตามที่เรารู้กัน ถึงสถานการณ์ของมลภาวะ ฝุ่น pm2.5 ณ ตอนนี้ก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่นักใช่ไหมครับ และจากที่ผ่านๆมา
ตัวผมเองก็ได้เคยเข้าส่องในพันทิปอยู่บ่อยครั้งเพื่อหาข้อมูลการทำบ้านบ้าง หาดูรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆบ้าง ก็พอทราบมาว่า
ตอนนี้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันก็มีบางรุ่นที่ช่วยดักจับฝุ่น pm2.5 ได้ด้วย ก็ถือว่าดีมากเลย
ไม่พูดมากแล้วครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า คือเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปลองดู เพื่อเปรียบเทียบและ สอบถาม น้องพนักงาน
เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจที่ Powerby แถวบ้าน ว่ามีตัวไหน รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง (แม้จะมีในใจอยู่บางตัว จากที่ หาข้อมูลไปจาก PANTIP แล้วก็ตาม อย่างว่าเนาะ เห็นของจริง น่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ดี)
ซึ่งเป้าหมายหลักๆคือเน้น รุ่นที่สามารถช่วยป้องกันฝุ่น pm2.5 ได้ จริงๆ ทีนี้จากที่ผมบอกไป ผมมีในใจอยู่ 3 รุ่น 3 ยี่ห้อที่ถูกใจผมอยู่
ซึ่งก็เป็นยี่ห้อที่มองๆไว้ตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน มี LG , Panasonic และ Sharp ครับ
จากที่ไปดูของจริงและ ไปถามน้องพนักงาน โดยต้องของคุณน้องพนักงาน ที่ให้ข้อมูลช่วยผมเปรียบเทียบได้ดีมากๆ
แม้ในใจตอนแรก ยี่ห้อ ที่ใช้ประจำ จะมาอันดับหนึ่งก็ตาม แต่พอได้ไปคุยกับน้องพนักงาน เริ่มไขว้เขว เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้แหละครับ
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยและกัน
1. Sharp
ฟังก์ชั่นและข้อมูลหลักๆของ sharp ตัวนี้ก็คือ
- ตัวนี้ขนาด 8,860 BTU
- มีระบบฟอกอากาศแบบ Plasma Cluster
- กระจายความเย็น 4 ทิศทาง
- ค่า SEER อยู่ที่ 19.89
โดยมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่มีการการันตีไว้ก็มีอย่างเช่น
- ประหยัดพลังงานสูงสุด 65%
- ทำความเย็นเร็วขึ้น 40%
- กระจายความเย็นได้กว้างขึ้นเพราะบานสวิงหมุนได้ 180 องศา
- Japan quality 7 shields
- ประหยัดไฟเบอร์ 5
โดยราคาเต็มของเครื่องนี้ รุ่นนี้อยู่ที่ 22,990 บาท ยังไม่รวมโปรโมชั่น หรือส่วนลดอื่นๆ ซึ่งน้องพนักงานขายบอกว่า
โปรโมชั่นมีค่อนข้างบ่อย ราคาเปลี่ยนแทบทุกวัน (แต่วันที่ไป sharp ไม่มีโปรโมชั่นซะงั้น เศร้า)
2.Panasonic
ต่อมาเป็นแอร์ของ Panasonic หรือที่แฟนผมเรียกว่า แอร์น้องนาย รุ่น Panasonic nanoe
โดยฟังก์ชั่นหลักๆและข้อมูลของรุ่นนี้คือ
- ขนาด8,699 BTU
- มีระบบ Inverter
- มีระบบฟอกอากาศด้วยเทคโนโลยี nanoeTM
- ประหยัดพลังงานเบอร์ 5
- ค่า SEER สูงสุดอยู่ที่ 22.25
- มีระบบ Shower Airflow ที่มีการกระจายลมจากด้านบน
- ราคาเต็มอยู่ที่ 21,800 ราคาโปรโมชั่น ณ วันนั้น 17,004
นอกจากนั้นก็ยังมีในส่วนที่ค่อนข้างตรงใจกับที่ผมต้องการนั่นก็คือ
- ลดฝุ่น pm2.5 ได้
- สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆได้
นอกจากนั้นพนักงานขายก็บอกอีกว่าตัว nanoe ของ Panasonic นี้
- มีระบบช่วยสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและผม ส่งผลให้เราจะไม่ผิวแห้งหรือผมแห้งเวลาอยู่ในห้องแอร์อีกด้วย
พอแฟนผมมีท่าทีสนใจรุ่นนี้มากขึ้นน้องพนักงานก็เดินหายไป และเดินกลับมาพร้อมกับเจ้าใบนี้ ซึ่งเหมือนเป็นใบที่แจ้งว่า
- สามารถยับยังเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆได้ เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ,ไวรัสโคโรน่าในแมว
(ส่วนโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังอยู่ในการทดลองและรอการยืนยัน เค้าจึงไม่ได้ยืนยันว่าได้ผลแน่ๆ) ,ไวรัสไข้หวัดนก ,H1N1
- นอกจากเชื้อโรคต่างๆแล้วพวกเชื้อรา เกสรดอกไม้ หรือกลิ่นก็ช่วยได้ด้วยเหมือนกัน
และพนักงานขายก็เคลมอีกว่าทั้งหมดในแบรนด์ที่เป็นของญี่ปุ่นนั้นมีแค่ Panasonic ที่ได้รับสัญลักษณ์ JAPAN QUALITY นี้จากญี่ปุ่น
ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสัญลักณ์นี้นั้นสำคัญอย่างไรบ้าง
แต่น้องพนักงานบอกว่าตัวนี้ยังไม่ได้ตรา ประหยัดไฟเบอร์ 5 เนื่องจากเพิ่งออกมาเลย กำลังยื่นขออยู่เค้าบอกมาแบบนี้นะ
แต่ความสามารถเรื่องประหยัดไฟ ก็เบอร์5 แต่ยังไม่ได้ตรามาเท่านั้นเอง
3.LG
สุดท้ายก็เป็นของ LG inverter
ฟังก์ชั่นและข้อมูลหลักๆของ LG inverter รุ่นนี้คือ
- ขนาด 12,000 BTU
- มีระบบ Inverter
- ระบบฟอกอากาศ 3M Micro dust filter + Plasmater Lonizer
- ป้องกันฝุ่น pm2.5
- ระบบการะจายความเย็น 4 ทิศทาง
- SEER 19.45
- ราคา 23,998
นอกจากนั้นก็จะมีฟังก์ชั่นอื่นๆเช่น
- ประหยัดพลังงานเบอร์ 5
- ประหยัดพังงานสูงสุด 70%
- สามารถดักจับฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก 1.0 ไมครอน
- มีหน้าจอแสดงสถานะ 6 ระดับ
- ใครที่มีคูปอง 300 บาท จาก กฟผ. สามารถใช้เป็นส่วนลดกับตัวนี้ได้
ทั้ง 3 รุ่นนี้คือ 3 รุ่นที่ค่อนข้างจะถูกใจผมกับแฟนผมที่สุด แต่ทั้งสองคนผมกับแฟนเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าสรุปแล้วจะเลือกรุ่นไหนดี
เลยอยากจะสอบถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆหน่อยครับว่ารุ่นไหนโอเค รุ่นไหนไม่โอเค ใครใช้ 1 ใน 3 รุ่นนี้อยู่บ้างก็อยากจะทราบว่า
ใช้งานจริงแล้วโอเคหรือเปล่า หรือที่บ้านใครใช้รุ่นไหนอยู่ ก็แนะนำกันได้ครับ
แม้ตอนนี้ใจผมกับแฟนตอนนี้ จะเริ่มเอนเอียงมาที่ Panasonic ก็ตาม จากที่ตั้งใจไว้ตอนแรกเป็นอีกยี่ห้อ
แต่ก็นั้นแหละคับ ถามจากพี่ๆเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ตรง เคยใช้จริงมาน่าจะช่วย ในการตัดสินใจผม กับแฟนได้ดียิ่งขึ้น
ยังไง รบกวนด้วยนะครับ และถ้ากระทู้นี้ผิดพลาดอย่างไรก็น้อมรับคำติชมครับ
ปล.1 เนื่องจากห้องที่ทำให้ลูกสาวมีขนาดประมาณ 3x4 เมตร เพดานสูง 2.5เมตร ราคาและขนาดของแอร์ที่ผมเลือกดู จึงเป็นขนาดที่พอเหมาะกับขนาดห้อง จึงไม่ทราบราคาของขนาดอื่นๆครับ
ปล.2 ขอบคุณน้องพนักงานที่ Powerby ให้ข้อมูล และให้บริการดีมากๆครับ และผมเพิ่งทราบจากน้องพนักงานขายว่าซื้อเครื่องไว้ก่อนได้ ( ในกรณีที่บ้านยังไม่เสร็จ ) แล้วค่อยให้เค้าไปติดตั้งภายหลังได้ด้วย
[CR] เปรียบเทียบแอร์/เครื่องปรับอากาศ ที่ช่วยเรื่องป้องกันฝุ่น pm 2.5
เรื่องของเรื่องคือ ทำห้องใหม่ให้ลูกสาว และอยากจะติดแอร์ในห้องให้เค้าด้วย ห้องที่ทำให้ลูกสาวครับ ขนาด 3x4 เมตร เพดานสูง 2.5 เมตร
ก็ตามที่เรารู้กัน ถึงสถานการณ์ของมลภาวะ ฝุ่น pm2.5 ณ ตอนนี้ก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่นักใช่ไหมครับ และจากที่ผ่านๆมา
ตัวผมเองก็ได้เคยเข้าส่องในพันทิปอยู่บ่อยครั้งเพื่อหาข้อมูลการทำบ้านบ้าง หาดูรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆบ้าง ก็พอทราบมาว่า
ตอนนี้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันก็มีบางรุ่นที่ช่วยดักจับฝุ่น pm2.5 ได้ด้วย ก็ถือว่าดีมากเลย
ไม่พูดมากแล้วครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า คือเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปลองดู เพื่อเปรียบเทียบและ สอบถาม น้องพนักงาน
เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจที่ Powerby แถวบ้าน ว่ามีตัวไหน รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง (แม้จะมีในใจอยู่บางตัว จากที่ หาข้อมูลไปจาก PANTIP แล้วก็ตาม อย่างว่าเนาะ เห็นของจริง น่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจได้ดี)
ซึ่งเป้าหมายหลักๆคือเน้น รุ่นที่สามารถช่วยป้องกันฝุ่น pm2.5 ได้ จริงๆ ทีนี้จากที่ผมบอกไป ผมมีในใจอยู่ 3 รุ่น 3 ยี่ห้อที่ถูกใจผมอยู่
ซึ่งก็เป็นยี่ห้อที่มองๆไว้ตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน มี LG , Panasonic และ Sharp ครับ
จากที่ไปดูของจริงและ ไปถามน้องพนักงาน โดยต้องของคุณน้องพนักงาน ที่ให้ข้อมูลช่วยผมเปรียบเทียบได้ดีมากๆ
แม้ในใจตอนแรก ยี่ห้อ ที่ใช้ประจำ จะมาอันดับหนึ่งก็ตาม แต่พอได้ไปคุยกับน้องพนักงาน เริ่มไขว้เขว เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้แหละครับ
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยและกัน
1. Sharp
ฟังก์ชั่นและข้อมูลหลักๆของ sharp ตัวนี้ก็คือ
- ตัวนี้ขนาด 8,860 BTU
- มีระบบฟอกอากาศแบบ Plasma Cluster
- กระจายความเย็น 4 ทิศทาง
- ค่า SEER อยู่ที่ 19.89
โดยมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่มีการการันตีไว้ก็มีอย่างเช่น
- ประหยัดพลังงานสูงสุด 65%
- ทำความเย็นเร็วขึ้น 40%
- กระจายความเย็นได้กว้างขึ้นเพราะบานสวิงหมุนได้ 180 องศา
- Japan quality 7 shields
- ประหยัดไฟเบอร์ 5
โดยราคาเต็มของเครื่องนี้ รุ่นนี้อยู่ที่ 22,990 บาท ยังไม่รวมโปรโมชั่น หรือส่วนลดอื่นๆ ซึ่งน้องพนักงานขายบอกว่า
โปรโมชั่นมีค่อนข้างบ่อย ราคาเปลี่ยนแทบทุกวัน (แต่วันที่ไป sharp ไม่มีโปรโมชั่นซะงั้น เศร้า)
2.Panasonic
ต่อมาเป็นแอร์ของ Panasonic หรือที่แฟนผมเรียกว่า แอร์น้องนาย รุ่น Panasonic nanoe
โดยฟังก์ชั่นหลักๆและข้อมูลของรุ่นนี้คือ
- ขนาด8,699 BTU
- มีระบบ Inverter
- มีระบบฟอกอากาศด้วยเทคโนโลยี nanoeTM
- ประหยัดพลังงานเบอร์ 5
- ค่า SEER สูงสุดอยู่ที่ 22.25
- มีระบบ Shower Airflow ที่มีการกระจายลมจากด้านบน
- ราคาเต็มอยู่ที่ 21,800 ราคาโปรโมชั่น ณ วันนั้น 17,004
นอกจากนั้นก็ยังมีในส่วนที่ค่อนข้างตรงใจกับที่ผมต้องการนั่นก็คือ
- ลดฝุ่น pm2.5 ได้
- สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆได้
นอกจากนั้นพนักงานขายก็บอกอีกว่าตัว nanoe ของ Panasonic นี้
- มีระบบช่วยสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและผม ส่งผลให้เราจะไม่ผิวแห้งหรือผมแห้งเวลาอยู่ในห้องแอร์อีกด้วย
พอแฟนผมมีท่าทีสนใจรุ่นนี้มากขึ้นน้องพนักงานก็เดินหายไป และเดินกลับมาพร้อมกับเจ้าใบนี้ ซึ่งเหมือนเป็นใบที่แจ้งว่า
- สามารถยับยังเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆได้ เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ,ไวรัสโคโรน่าในแมว
(ส่วนโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังอยู่ในการทดลองและรอการยืนยัน เค้าจึงไม่ได้ยืนยันว่าได้ผลแน่ๆ) ,ไวรัสไข้หวัดนก ,H1N1
- นอกจากเชื้อโรคต่างๆแล้วพวกเชื้อรา เกสรดอกไม้ หรือกลิ่นก็ช่วยได้ด้วยเหมือนกัน
และพนักงานขายก็เคลมอีกว่าทั้งหมดในแบรนด์ที่เป็นของญี่ปุ่นนั้นมีแค่ Panasonic ที่ได้รับสัญลักษณ์ JAPAN QUALITY นี้จากญี่ปุ่น
ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสัญลักณ์นี้นั้นสำคัญอย่างไรบ้าง
แต่น้องพนักงานบอกว่าตัวนี้ยังไม่ได้ตรา ประหยัดไฟเบอร์ 5 เนื่องจากเพิ่งออกมาเลย กำลังยื่นขออยู่เค้าบอกมาแบบนี้นะ
แต่ความสามารถเรื่องประหยัดไฟ ก็เบอร์5 แต่ยังไม่ได้ตรามาเท่านั้นเอง
3.LG
สุดท้ายก็เป็นของ LG inverter
ฟังก์ชั่นและข้อมูลหลักๆของ LG inverter รุ่นนี้คือ
- ขนาด 12,000 BTU
- มีระบบ Inverter
- ระบบฟอกอากาศ 3M Micro dust filter + Plasmater Lonizer
- ป้องกันฝุ่น pm2.5
- ระบบการะจายความเย็น 4 ทิศทาง
- SEER 19.45
- ราคา 23,998
นอกจากนั้นก็จะมีฟังก์ชั่นอื่นๆเช่น
- ประหยัดพลังงานเบอร์ 5
- ประหยัดพังงานสูงสุด 70%
- สามารถดักจับฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก 1.0 ไมครอน
- มีหน้าจอแสดงสถานะ 6 ระดับ
- ใครที่มีคูปอง 300 บาท จาก กฟผ. สามารถใช้เป็นส่วนลดกับตัวนี้ได้
ทั้ง 3 รุ่นนี้คือ 3 รุ่นที่ค่อนข้างจะถูกใจผมกับแฟนผมที่สุด แต่ทั้งสองคนผมกับแฟนเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าสรุปแล้วจะเลือกรุ่นไหนดี
เลยอยากจะสอบถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆหน่อยครับว่ารุ่นไหนโอเค รุ่นไหนไม่โอเค ใครใช้ 1 ใน 3 รุ่นนี้อยู่บ้างก็อยากจะทราบว่า
ใช้งานจริงแล้วโอเคหรือเปล่า หรือที่บ้านใครใช้รุ่นไหนอยู่ ก็แนะนำกันได้ครับ
แม้ตอนนี้ใจผมกับแฟนตอนนี้ จะเริ่มเอนเอียงมาที่ Panasonic ก็ตาม จากที่ตั้งใจไว้ตอนแรกเป็นอีกยี่ห้อ
แต่ก็นั้นแหละคับ ถามจากพี่ๆเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ตรง เคยใช้จริงมาน่าจะช่วย ในการตัดสินใจผม กับแฟนได้ดียิ่งขึ้น
ยังไง รบกวนด้วยนะครับ และถ้ากระทู้นี้ผิดพลาดอย่างไรก็น้อมรับคำติชมครับ
ปล.1 เนื่องจากห้องที่ทำให้ลูกสาวมีขนาดประมาณ 3x4 เมตร เพดานสูง 2.5เมตร ราคาและขนาดของแอร์ที่ผมเลือกดู จึงเป็นขนาดที่พอเหมาะกับขนาดห้อง จึงไม่ทราบราคาของขนาดอื่นๆครับ
ปล.2 ขอบคุณน้องพนักงานที่ Powerby ให้ข้อมูล และให้บริการดีมากๆครับ และผมเพิ่งทราบจากน้องพนักงานขายว่าซื้อเครื่องไว้ก่อนได้ ( ในกรณีที่บ้านยังไม่เสร็จ ) แล้วค่อยให้เค้าไปติดตั้งภายหลังได้ด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้