ฟกช้ำเกิน 1 เดือน อย่านิ่งนอนใจ ข้างนอกไม่เป็นอะไร ข้างในอาจเน่าแล้ว

จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้คืออยากเตือนหรือนิ่งนอนใจในสิ่งที่เรามองไม่เห็น
พูดถึง "รอยฟกช้ำ" ที่ข้างนอกสดใส แต่ข้างในเน่าเฟะ 

เริ่มจากโดนรถชนวันที่ 24 มกราคม 2020 
- ช่วงข้อเท้าขวาโดนกันชนรถยนต์กระแทกเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ตัวเอง 
- บริเวณข้อเท้ามีอาการชา และบวมแข็งเป็นไต ลุกขึ้นได้ปกติ คิดว่าไม่มีอะไรร้ายแรง เลยต่างคนต่างแยกย้ายกันไป
- ผ่านไปสักสามวัน บริเวณส้นเท้าเริ่มช้ำ แต่ตรงข้อเท้ายังไม่ออกสีอะไร อาการชาก็ยังอยู่ปกติดี
- ล่วงเลยไปเดือนนึง ส้นเท้าหายช้ำตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้วแหละ แต่ตรงข้อเท้าก็ยังชา
เป็นไตแข็งๆเหมือนเดิม แต่ออกสีช้ำบางๆเหมือนรูปแรก (แต่ยังไม่มีหนองนะ) 
- รู้สึกคันๆบริเวณที่ช้ำเลยเกา (แต่มันเหมือนคันอยู่ใต้ผิวหนัง) แล้วเอาเล็บจิกเหมือนตอนจิกตุ่มยุงกัด เนื้อบริเวณที่เอาเล็บจิกมันไม่ฟูขึ้นเหมือนเดิม
เหมือนเวลากดปลา หรือเนื้อสัตว์ที่มันไม่สด เนื้อมันจะไม่เด้งฟูคืนรูปน่ะ
- สามวันให้หลังมันก็กลายสภาพเหมือนรูปแรก เหมือนหนังบาง แล้วมีหนองข้างใน
- เลยตัดสินใจไปหาหมอเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ( 29 ก.พ. 2020) ก็เอาขาให้หมอดู พร้อมเล่าให้ฟังว่าเป็นมายังไง หมอก็ว่ามันปกติดีแหละ บริเวณที่แข็งๆมันก็เหมือนการที่โดนกระแทกแรงๆ เดี๋ยวมันก็หายไป แต่อาจจะใช้เวลาหน่อย นี่ก็เลยถามหมอว่า "แล้วตรงกลางที่มันเหมือนมีหนองนี่ปกติมั้ย กลัวเนื้อตายค่ะ 55555" หมอบอกปกติดีนะ นี่ก็เลย เออ ออ ไป ถึงแม้ในใจจะรู้สึกว่าไม่ปกติ แต่ก็รู้สึก 50-50 ในใจ คิดว่าตัวเอง panic ไปเองรึเปล่า 555555 สรุปหมอจ่ายยาแก้อักเสบมาให้กินอาทิตย์นึง พร้อมนัดติดตามอาการอีกรอบวันเสาร์หน้า ( 7 มี.ค. 2020)
- เคยลองหาอาการเนื้อตายหรือเนื้อเน่าในกูเกิ้ลนะ เค้าว่าถ้าเป็นจริงๆ บริเวณที่เป็นจะต้องปวดมากๆ แต่นี่ไม่รู้สึกอะไรเลย ยังชาๆอยู่เลย แต่เวลากดลงไปแล้วมันเหมือนมีถุงน้ำด้านในนะ
- วันเสาร์ถึงวันนัดก็ไปตามนัด ไม่ได้เจอหมอคนเดิม เจอหมอคนใหม่ ด้วยความที่หมอไม่เคยเห็นรอบแแรกที่มา
หมอเลยถามว่า "มันดูดีขึ้นหรือแย่ลงล่ะ" 
นี่ก็เลยบอกหมอว่า "มันดูแย่ลงนะหมอ" กะว่ารอบนี้จะให้หมอกรีดแผลให้ได้
หมอก็เอาไฟส่องแล้วส่องอีก "มันก็ดูเหมือนไม่มีหนองนะ แต่จะให้ผ่าก็ได้ จะให้หมอผ่ามั้ยล่ะ"
นี่ก็มีคำตอบในใจแล้วล่ะว่า ผ่าๆมันไปซะ ถ้าไม่มีอะไรก็แค่เย็บแผล จะได้หายข้องใจซะที เลยตอบหมอไปว่า "ผ่าค่ะ"

section กรีดแผล 
- ถามหมอว่า "ฉีดยาชามั้ยคะ 55555" ตอนแรกหมอจะไม่ฉีดยาชาให้ หมอบอก "ฉีดไปก็เท่านั้นแหละ ชาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ" นี่คิดในใจ มันก็ชาแหละหมอ แต่ฉีดให้หน่อยเถอะ กรุกลัววววว  
- "อ่ะ หมอกำลังจะฉีดยาชานะ" (ไม่รู้สึกเลยว่าโดนจิ้ม เพราะตอนบริเวณนั้นยังชาอยู่ตั้งแต่แรกที่โดนรถชน แต่ก็ยังรู้สึกอยู่บ้างว่าเหมือนยาชาไหลๆ)
- "กรีดละนะ" หมอ..  ไม่ต้องบอกก็ได้ ไม่อยากรู้ 
- ระหว่างที่บีบๆเค้นๆเพื่อเอาหนองออก "ไม่เห็นจะมีหนองเลย มีแต่เลือด" (รู้สึกได้เลยว่าเลือดไหลผ่านผิวหนัง) "อุ่ย ๆ ยาชาไหลออก" (นางคุยกับพยาบาล)
- แล้วก็บรรจงบีบๆเค้นๆหาหนอง บีบไปบ่นไป ไม่เห็นจะมีหนอง แล้วก็ไม่รู้ทำอะไร เราก็ไม่กล้าดูเนอะ ได้แต่นอนจิกเบาะเพราะความเจ็บ 555555
แต่คิดว่าหมอน่าจะแหกแผลดูเนื้อด้านในแหละ เพราะรู้สึกเจ็บๆ 
- "เนื้อเน่าอ่ะ" "โห...เยอะด้วย" "หมอขอกรีดเพิ่มนะ" แล้วหมอก็กรีดเพิ่ม ไม่ฉีดยาชาให้ด้วย
- "อื้อหือ.. โพรงใหญ่มาก" จ่ะ..หมอ พร้อมซาวน์ ซี้ดปากจากพยาบาล
- แล้วหลังจากนั้นหมอทำอะไรบ้างก็ไม่รู้แล้ว รู้แต่ว่าเจ็บ แล้วก็มาถึงช๊อตใช้น้ำเกลือล้างแผล คิดว่าหมอน่าจะดูดน้ำเกลือใส่ไซริงแล้วฉีดพ่นเข้าไปในแผลแหละ เพราะรู้สึกแสบมาก แสบลึกๆ แสบแบบ โอ้ ม่าย ฟักกิ้ง ก๊อด
- ขั้นตอนสุดท้ายคือ ยัดผ้ากอตที่ชุบด้วยเบตาดีนยัดเข้าไปในแผล อันนี้ก็แสบไม่แพ้กัน นอนกัดฟัน กำราวเตียงแน่น 55555555
- สุดท้ายก็ปิดแผลและให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด แล้วก็ต้องขี่มอไซค์กลับบ้านเองอีกด้วย 

การดูแลแผลติดเชื้อคือ : หมอนัดไปล้างแผลทุกวันและฉีดยาฆ่าเชื้อทุกวัน, ยาฆ่าเชื้อแบบกิน 3 เวลาหลังอาหาร, แผลห้ามโดนน้ำ

วันนี้อาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2020
- ไปล้างแผลตามนัด ก็แอบเหลือบดูบ้าง ทั้งอยากรู้ ทั้งกลัว ไปเห็นจังหวะที่พยาบาลกำลังสาวผ้ากอตออกจากแผล คิดในใจ ไม่น่าเลยตรู 555555 แผลที่หมอกรีดก็ประมาณ 1 นิ้วชี้ (ประมาณ 2-2.5 นิ้ว) แอบดูอีกรอบก็ตอนยัดผ้ากอตใส่ในแผลเรียบร้อยแล้ว ยัดซะตุงเลย ถึงว่าสาวออกมายาวเชียว - -" 

ประเด็นของกระทู้นี้คืออยากเตือนว่าอย่านิ่งนอนใจ คิดว่าไม่เป็นอะไรมากเหมืนเจ้าของกระทู้ ไม่ได้ไปหาหมอตั้งแต่วันแรกที่โดนรถชน เพราะคิดว่าไม่ได้มีอาการกระดูกหัก กล้ามเนื้อฉีก หรือเอ็นฉีก เพราะไม่มีอาการเจ็บใดๆเลย และภายนอกดูปกติมาก 

รู้สึกดีแล้วที่ตัดสินใจขอให้หมอผ่าให้ ถ้าเชื่อตามหมอว่า "มันก็ดูปกติดีนะ"
น่าจะได้ตัดขาแทนอ่ะดูทรง 555555 



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่