............... ช่วงเช้าท้องฟ้ามัวซัวคล้ายจะมีฝนตก ที่ทางเข้าคุ้มวงศ์สะหวันปลูกต้นดาหลา ที่กำลังออกดอกสะพรั่งอยู่สองข้างทางเข้าสู่อาณาจักร อันเต็มไปด้วยแมกไม้เขียวจนเกือบครึ้ม รถเก๋งสีแดงแล่นฉิวผ่านประตูรั้วเข้ามาก่อนที่สายฝนจะโปรยปราย เสียงเม็ดฝนกระทบใบไม้ดังคลื่นซ่าราวกับอยู่ในป่า ที่ปัดน้ำฝนไกวไปมา คนในรถมีหญิงสาวสองคนพูดคุยกันอยู่ คนหนึ่งพูดจนเกือบบ่นจนเพื่อนต้องเอาหูฟังมาใส่
‘เจม วัฒนา’ เธอมีเชื้อสายไทยอเมริกัน ดวงตาโตคิ้วเรียว เส้นผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนสลวย สวมเสื้อยืดทับด้วยสูท เธอไม่ได้ชอบสวมสูทนักหรอก แต่มันช่วยพรางสายตาของพวกผู้ที่ชอบมองหน้าอกคัดเอฟตามสายเลือดของผู้เป็นแม่ชาวอเมริกัน นิสัยตรงไปตรงมาจนค่อนข้างโผงผาง ต่างกับเนย เธอมีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้าหมวยและสวยจัดจ้านด้วยเครื่องสำอาง เรื่องนิสัยจะขี้เล่นและคอยห้ามปรามเวลาเพื่อนโมโหฉุนเฉียวไปมีเรื่องกับใครเข้า
ตั้งแต่คบกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เนยจะคอยปรามถ้าเจมไปมีเรื่องโดยเฉพาะพวกผู้ชายที่มาทำท่าหื่นใส่ เจมเคยถ่ายแบบบิกีนี่เพื่อหาเงินใช้หนี้ให้พ่อที่ติดพนันจนถูกเจ้าหนี้ขู่ฆ่า เก็บออมเงินจนซื้อบ้านได้จึงได้เลิกอาชีพนางแบบ ชีวิตที่มีพวกเสี่ยพยายามซื้อเธอด้วยเงิน รวมทั้งถูกคนรอบตัวมองด้วยอคติตั้งแต่นั้นมา เนยเป็นคนเดียวที่เข้าใจเพื่อน พวกนั้นบางคนก็อิจฉาในความสวยของเจม
สายตาเพ่งมองผ่านม่านมัวไปที่เรือนไม้แบบภาคเหนือที่สร้างมากว่าแปดสิบปีตามอายุเจ้าของคุ้มที่ชื่อ ’เจ้าวงศ์สะหวัน’ ตาแก่เจ้าของธุรกิจค้าผ้าไหม ที่เจมได้ยินชื่อมานานตั้งแต่เด็ก คงจะแก่หงำอายุไม่ต่ำกว่าแปดสิบ ที่เธอจะมาติดต่อเพื่อขอโฉนดที่ดินคืน ความรู้สึกของสาวห้าวฝ่อไปเยอะ สถานที่แห่งนี้มันมีแต่ความสงัดและโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก เล่าลือกันมาว่าภายในคุ้มผีดุนัก ยามค่ำคืนมักจะมีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา นี่ขนาดมากลางวันยังน่าขนลุกขนาดนี้ โชคยังดีที่ชวนเนยมาด้วย แม่นี่ก็เอาแต่แต้มริมฝีปากด้วยลิปสติก ใส่หูฟังโยกๆ ไปด้วย ไม่สนใจโลกภายนอก
ฝนยังไม่ทันสร่างซาแสงแดดแรกของวันใหม่มาถึง คนสวนวิ่งออกมาดูที่ปั๊มน้ำ น้ำท่วมขังต้องเร่งระบายออก คนหนึ่งวัยหนุ่มผิวขาวริมฝีปากชมพู เขาพึ่งจะหันมาเห็นรถยนต์ของผู้มาเยือน สั่งงานคนแก่เสร็จก็รีบสาวเท้าตรงมาอย่างไว
‘“ใครมาไม่รู้แต่เช้าเลยลุงฉาย”
‘“ขอโทษครับคุณอินทร์ ผมลืมเปิดประตูทิ้งไว้” คนแก่ถือประแจค้างสีหน้าเหวอ ฝนตกทีไรน้ำท่วมทุกที ปั๊มน้ำก็ดันมาเสีย ต้องรีบระบายน้ำลงแม่น้ำปิง
‘“พี่เจ้านัดใครไว้หรือเปล่า เห็นหอบแบบจำลองทำร้านผ้าไหมไปที่สำนักงาน ท่าจะเปิดสาขาใหม่แน่ พึ่งได้โฉนดที่ดินสวยๆ ชานเมืองเชียงใหม่ ทำเลเหมาะมาก” อินทร์มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของเจ้าวงศ์สะหวัน ชี้ไปที่ตึกชั้นเดียวอาคารสมัยใหม่ในสวน สองพี่น้องนักธุรกิจหนุ่มรุ่นที่สามแล้ว พี่ชายมีชื่อเดียวกับเจ้าปู่วงศ์สะหวันที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยวัยชรา ธุรกิจค้าผ้าไหมกำลังไปได้ด้วยดี นับตั้งแต่เจ้าปู่ได้เซ็นมอบอำนาจให้หลานชายคนโตมีสิทธิ์เด็ดขาดในทรัพย์สิน ส่วนคนรองเจ้าอินทร์เป็นคนเงียบๆ นิสัยชอบศิลปะวาดรูป มีแกลลอรี่เป็นของตัวเอง เวลาว่างจะชอบดีดกีตาร์ร้องเพลง
‘“ค่อยยังชั่วหน่อยยังมีคนอยู่ ฉันนึกว่าที่นี่เป็นบ้านร้างเสียอีก”
เจม วัฒนา ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก พยักหน้าให้เนยลงจากรถได้ แดดยามสายทำให้มองพื้นที่ในคุ้มวงศ์สะหวันแจ่มชัดขึ้น เหมือนผิดแผกไปจากเดิม กล้วยไม้สวยๆ กำลังออกช่อ ทางเดินปูด้วยตัวหนอน โคมไฟ ม้านั่งดีไซน์มาอย่างลงตัวกับสิ่งแวดล้อม พอเงยหน้าจะได้ยินเสียงนกเขา นอกจากเรือนไม้เก่าๆ ยังมีอาคารสมัยใหม่อยู่ในสวน ตกกลางคืนถ้าเปิดไฟประดับคงจะสวยไปอีกแบบ
‘“แย่จริง บ้านช่องก็ออกจะรวย ทำไมต้องโกงพ่อฉันด้วย” เจมกลับไม่มีกะใจเพลิดเพลินไปกับสวนสวย
‘“ใจเย็นๆ นะไอ้เจม เรื่องมันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้”
‘“ไม่รู้ล่ะ ฉันต้องมาคุยกับตาแก่ให้รู้เรื่อง”
วันนี้ต้องเห็นดีกัน หากเจรจาไม่รู้เรื่องก็ต้องฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อทวงโฉนดคืน โฉนดบ้านที่เธอเก็บออมเงินมาซื้อด้วยความเหนื่อยยาก คุณพ่อแอบเอาตีเป็นเงินเอามาร่วมหุ้นทำร้านผ้าไหมโดยไม่บอกกล่าวกับเธอ ถึงตอนนี้ร้านที่ว่ายังไม่คืบหน้าเลย ดูท่าจะโดนโกงแน่ๆ
อินทร์เนื้อตัวเปียกปอนแถมยังล้มทำให้เลอะโคลน พอมาเจอแขกก็สอบถามตามมารยาท เจมค่อนข้างเสียงดังใส่ สีหน้ายุ่ง เนยยกมือห้าม ตนจะอาสาพูดเอง บอกกล่าวจะขอพบกับเจ้าวงศ์สะหวันเพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่าง อินทร์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย หรือว่าพี่ชายไปก่อเรื่อง ท่าทางนิ่มๆ ไม่นึกว่าตะปบทีได้สาวสวยไม่ยอกเลยสงสัย ไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงแล้วไม่รับผิดชอบเลยตามมาเอาเรื่องถึงบ้าน
‘“เดี๋ยวผมไปตาม พี่เจ้าให้นะครับ เช้านี้อยู่พอดี” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม
‘“เดี๋ยวก่อน เรียกเจ้าว่าพี่ เจ้าไม่ได้แก่คราวปู่คุณรึไง เรามาพบเจ้าวงศ์สะหวันนะ อย่าเข้าใจผิดเป็นคนอื่น” เจมหันมาพูด น้ำเสียงค่อนข้างห้วน ชายหนุ่มยิ้มเขิน เอามือโปะขมับ ท่าจะเจอสาวห้าวเข้าให้แล้ว ยังดีที่สาวหน้าหมวยยิ้มเก่ง ดูเป็นมิตรมาก
‘“ถ้าเจ้าปู่วงศ์สะหวันน่ะใช่ ปู่ของผมเองครับ แต่ถ้าเจ้าวงศ์สะหวัน ชื่อเดียวกันแต่เป็นคนหนุ่ม เขาเป็นพี่ชายของผม พวกคุณจะขอพบคนไหน ส่วนผมชื่ออินทร์ครับ ไม่ต้องเรียกเจ้านำหน้าก็ได้” พูดไปสายตาของอินทร์มองไปที่สาวสวยที่สวมสูท เธอคงเป็นลูกครึ่งแน่ ทรวดทรงเหมือนสาวอเมริกัน แต่ใบหน้าสวยหวานแบบสาวเอเชีย
สองสาวหน้าเหวอบ้าง หันมาซุบซิบกัน โดนหลอกเข้าให้แล้ว นึกว่าจะโดนผีหลอก ดันโดนคนหลอก เนยหันมาฉีกยิ้มให้ชายหนุ่ม ดูเปลือกนอกเขามอมแมมก็จริง แต่สง่าราศีไม่น่าจะใช่คนสวน เลยเลือกจะพูดจาดีด้วย ผิดกับเจมที่ห้าวตลอด
‘“ฉันชื่อเนยค่ะ ถ้าคุณสนใจจะซื้อรถยนต์ละก็ ติดต่อผ่านฉันได้เลยนะคะ”
‘“คุณเป็นพริ้ตตี้?” อินทร์เลิกคิ้ว มองแบบแปลกๆ
‘เจมตบที่ต้นแขนหนึ่งที ที่นอกเรื่อง จะขายของท่าเดียว
‘“ฉันไม่ใช่พริ้ตตี้นะคะ ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ถึงเมื่อก่อนจะเคยเป็นพริ้ตตี้ก็เถอะ” เนยยังคุมน้ำเสียงได้ คุณอินทร์ก็ดูเป็นสุภาพบุรุษอยู่หรอก แต่แอบงอนทำหน้าเชิดเล็กน้อย ผู้ชายก็แบบนี้ชอบมองพริ้ตตี้เป็นเหยื่ออันโอชะ เธอเลิกทำตั้งนานแล้ว “อย่าถือสาเพื่อนของฉันเลยนะคะ ผู้หญิงบทเลือดจะไปลมจะมาก็งี้ เรามาที่นี่มีธุระกับเจ้าหนุ่ม เออ...ฉันใช่คำพูดถูกไหมเนี่ย เจ้าที่เป็นคนหนุ่ม”
‘“เปล่าถือสาเลยครับ บ้านนี้มักมีผู้หญิงมาโวยวาย เอ๊ย ไม่ใช่มาเสียงดังหน่อย พี่ชายผมรูปหล่อ ไม่รู้ไปขายเสน่ห์ที่ไหนมาบ้าง พวกคุณคงมีธุระกับพี่ชายผมแน่ ส่วนเจ้าปู่ท่านเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่ได้พบปะผู้คนข้างนอกนานแล้วครับ”
เนยดึงแขนเพื่อนมากระซิบ เกือบปล่อยไก่แล้ว ต้องใช่เจ้าคนหนุ่มแน่ ไม่ใช่ตาแก่อย่างที่คาดคิดไว้ เจมหน้าจ๋อย จะมาเคลียร์ปัญหากับใครก็ไม่รู้ หน้าตายังไม่เคยเห็นเลย มันเป็นเวลาเดียวกับที่มีรถแล่นผ่านหน้า ตรงไปที่อาคารสำนักงาน มองจากที่ไกลเห็นชายหนุ่มสวมชุดสูทสีเทาเปิดประตูออกมาต้อนรับชายอีกคนเข้าไปในสำนักงาน เจมทันเห็นแค่แผ่นหลัง ไหล่กว้างดูภูมิฐานจะต้องใช่คนนี้แน่ คนที่โกงพ่อของเธอ อินทร์เดินตามมานึกทบทวน พี่เจ้าได้นัดใครไว้
‘“พี่เจ้าบอกว่า ได้นัดกับคนที่ชื่อวัฒนา สงสัยจะเป็นผู้ชายคนนี้”
‘“ใครบอก! ฉันต่างหากที่ชื่อวัฒนา ฉันได้โทรนัดจากเลขาฯ ของเจ้า”
‘“อ้าว เหรอครับคุณผู้หญิง”
‘“ก็คุณแม่ของฉันเป็นคนอเมริกัน แม่ชอบชื่อวัฒนา เลยตั้งให้ฉัน” เธอแอบเขิน คุณพ่อจะตั้งชื่อให้เธอว่าพรนับพัน คุณแม่ไม่ยอมท่าเดียว จะเอาชื่อนี้
‘“อืม ก็ไม่ถึงกับแปลก แต่ส่วนใหญ่ชื่อนี้มักเป็นชื่อผู้ชาย”
พูดคุยอีกครู่ อินทร์ก็นำสองสาวไปทีสำนักงาน ลุงฉายซ่อมปั๊มน้ำเสร็จแล้ว ระบายน้ำลงแม่น้ำปิง ทิวทัศน์ที่พอมองผ่านแมกไม้ให้ดีจะเห็น เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำ ภายในสำนักงาน ชายสองคนกำลังถกกันอยู่ในรายละเอียดของการสร้างเป็นตึกหลายชั้น ตกลงว่าจะสร้างในแบบห้าง เจมมองแผ่นหลังนั้นไม่วางตา ดูภูมิฐานมากพอชายคนนั้นหันมา ใบหน้าอ่อนใส ริมฝีปากสีชมพูแย้มยิ้มนิดๆ สวยกว่าอินทร์อีก อายุคงไม่เกินยี่สิบห้า
จบแระ ไว้จะมาต่อ ถ้าว่างเด้อ555
อ่านเรื่องของผมหน่อย นิยาย "มะล่องก่องแก่ง"
‘เจม วัฒนา’ เธอมีเชื้อสายไทยอเมริกัน ดวงตาโตคิ้วเรียว เส้นผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนสลวย สวมเสื้อยืดทับด้วยสูท เธอไม่ได้ชอบสวมสูทนักหรอก แต่มันช่วยพรางสายตาของพวกผู้ที่ชอบมองหน้าอกคัดเอฟตามสายเลือดของผู้เป็นแม่ชาวอเมริกัน นิสัยตรงไปตรงมาจนค่อนข้างโผงผาง ต่างกับเนย เธอมีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้าหมวยและสวยจัดจ้านด้วยเครื่องสำอาง เรื่องนิสัยจะขี้เล่นและคอยห้ามปรามเวลาเพื่อนโมโหฉุนเฉียวไปมีเรื่องกับใครเข้า
ตั้งแต่คบกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เนยจะคอยปรามถ้าเจมไปมีเรื่องโดยเฉพาะพวกผู้ชายที่มาทำท่าหื่นใส่ เจมเคยถ่ายแบบบิกีนี่เพื่อหาเงินใช้หนี้ให้พ่อที่ติดพนันจนถูกเจ้าหนี้ขู่ฆ่า เก็บออมเงินจนซื้อบ้านได้จึงได้เลิกอาชีพนางแบบ ชีวิตที่มีพวกเสี่ยพยายามซื้อเธอด้วยเงิน รวมทั้งถูกคนรอบตัวมองด้วยอคติตั้งแต่นั้นมา เนยเป็นคนเดียวที่เข้าใจเพื่อน พวกนั้นบางคนก็อิจฉาในความสวยของเจม
สายตาเพ่งมองผ่านม่านมัวไปที่เรือนไม้แบบภาคเหนือที่สร้างมากว่าแปดสิบปีตามอายุเจ้าของคุ้มที่ชื่อ ’เจ้าวงศ์สะหวัน’ ตาแก่เจ้าของธุรกิจค้าผ้าไหม ที่เจมได้ยินชื่อมานานตั้งแต่เด็ก คงจะแก่หงำอายุไม่ต่ำกว่าแปดสิบ ที่เธอจะมาติดต่อเพื่อขอโฉนดที่ดินคืน ความรู้สึกของสาวห้าวฝ่อไปเยอะ สถานที่แห่งนี้มันมีแต่ความสงัดและโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก เล่าลือกันมาว่าภายในคุ้มผีดุนัก ยามค่ำคืนมักจะมีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา นี่ขนาดมากลางวันยังน่าขนลุกขนาดนี้ โชคยังดีที่ชวนเนยมาด้วย แม่นี่ก็เอาแต่แต้มริมฝีปากด้วยลิปสติก ใส่หูฟังโยกๆ ไปด้วย ไม่สนใจโลกภายนอก
ฝนยังไม่ทันสร่างซาแสงแดดแรกของวันใหม่มาถึง คนสวนวิ่งออกมาดูที่ปั๊มน้ำ น้ำท่วมขังต้องเร่งระบายออก คนหนึ่งวัยหนุ่มผิวขาวริมฝีปากชมพู เขาพึ่งจะหันมาเห็นรถยนต์ของผู้มาเยือน สั่งงานคนแก่เสร็จก็รีบสาวเท้าตรงมาอย่างไว
‘“ใครมาไม่รู้แต่เช้าเลยลุงฉาย”
‘“ขอโทษครับคุณอินทร์ ผมลืมเปิดประตูทิ้งไว้” คนแก่ถือประแจค้างสีหน้าเหวอ ฝนตกทีไรน้ำท่วมทุกที ปั๊มน้ำก็ดันมาเสีย ต้องรีบระบายน้ำลงแม่น้ำปิง
‘“พี่เจ้านัดใครไว้หรือเปล่า เห็นหอบแบบจำลองทำร้านผ้าไหมไปที่สำนักงาน ท่าจะเปิดสาขาใหม่แน่ พึ่งได้โฉนดที่ดินสวยๆ ชานเมืองเชียงใหม่ ทำเลเหมาะมาก” อินทร์มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของเจ้าวงศ์สะหวัน ชี้ไปที่ตึกชั้นเดียวอาคารสมัยใหม่ในสวน สองพี่น้องนักธุรกิจหนุ่มรุ่นที่สามแล้ว พี่ชายมีชื่อเดียวกับเจ้าปู่วงศ์สะหวันที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยวัยชรา ธุรกิจค้าผ้าไหมกำลังไปได้ด้วยดี นับตั้งแต่เจ้าปู่ได้เซ็นมอบอำนาจให้หลานชายคนโตมีสิทธิ์เด็ดขาดในทรัพย์สิน ส่วนคนรองเจ้าอินทร์เป็นคนเงียบๆ นิสัยชอบศิลปะวาดรูป มีแกลลอรี่เป็นของตัวเอง เวลาว่างจะชอบดีดกีตาร์ร้องเพลง
‘“ค่อยยังชั่วหน่อยยังมีคนอยู่ ฉันนึกว่าที่นี่เป็นบ้านร้างเสียอีก”
เจม วัฒนา ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก พยักหน้าให้เนยลงจากรถได้ แดดยามสายทำให้มองพื้นที่ในคุ้มวงศ์สะหวันแจ่มชัดขึ้น เหมือนผิดแผกไปจากเดิม กล้วยไม้สวยๆ กำลังออกช่อ ทางเดินปูด้วยตัวหนอน โคมไฟ ม้านั่งดีไซน์มาอย่างลงตัวกับสิ่งแวดล้อม พอเงยหน้าจะได้ยินเสียงนกเขา นอกจากเรือนไม้เก่าๆ ยังมีอาคารสมัยใหม่อยู่ในสวน ตกกลางคืนถ้าเปิดไฟประดับคงจะสวยไปอีกแบบ
‘“แย่จริง บ้านช่องก็ออกจะรวย ทำไมต้องโกงพ่อฉันด้วย” เจมกลับไม่มีกะใจเพลิดเพลินไปกับสวนสวย
‘“ใจเย็นๆ นะไอ้เจม เรื่องมันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้”
‘“ไม่รู้ล่ะ ฉันต้องมาคุยกับตาแก่ให้รู้เรื่อง”
วันนี้ต้องเห็นดีกัน หากเจรจาไม่รู้เรื่องก็ต้องฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อทวงโฉนดคืน โฉนดบ้านที่เธอเก็บออมเงินมาซื้อด้วยความเหนื่อยยาก คุณพ่อแอบเอาตีเป็นเงินเอามาร่วมหุ้นทำร้านผ้าไหมโดยไม่บอกกล่าวกับเธอ ถึงตอนนี้ร้านที่ว่ายังไม่คืบหน้าเลย ดูท่าจะโดนโกงแน่ๆ
อินทร์เนื้อตัวเปียกปอนแถมยังล้มทำให้เลอะโคลน พอมาเจอแขกก็สอบถามตามมารยาท เจมค่อนข้างเสียงดังใส่ สีหน้ายุ่ง เนยยกมือห้าม ตนจะอาสาพูดเอง บอกกล่าวจะขอพบกับเจ้าวงศ์สะหวันเพื่อเคลียร์ปัญหาบางอย่าง อินทร์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย หรือว่าพี่ชายไปก่อเรื่อง ท่าทางนิ่มๆ ไม่นึกว่าตะปบทีได้สาวสวยไม่ยอกเลยสงสัย ไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงแล้วไม่รับผิดชอบเลยตามมาเอาเรื่องถึงบ้าน
‘“เดี๋ยวผมไปตาม พี่เจ้าให้นะครับ เช้านี้อยู่พอดี” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม
‘“เดี๋ยวก่อน เรียกเจ้าว่าพี่ เจ้าไม่ได้แก่คราวปู่คุณรึไง เรามาพบเจ้าวงศ์สะหวันนะ อย่าเข้าใจผิดเป็นคนอื่น” เจมหันมาพูด น้ำเสียงค่อนข้างห้วน ชายหนุ่มยิ้มเขิน เอามือโปะขมับ ท่าจะเจอสาวห้าวเข้าให้แล้ว ยังดีที่สาวหน้าหมวยยิ้มเก่ง ดูเป็นมิตรมาก
‘“ถ้าเจ้าปู่วงศ์สะหวันน่ะใช่ ปู่ของผมเองครับ แต่ถ้าเจ้าวงศ์สะหวัน ชื่อเดียวกันแต่เป็นคนหนุ่ม เขาเป็นพี่ชายของผม พวกคุณจะขอพบคนไหน ส่วนผมชื่ออินทร์ครับ ไม่ต้องเรียกเจ้านำหน้าก็ได้” พูดไปสายตาของอินทร์มองไปที่สาวสวยที่สวมสูท เธอคงเป็นลูกครึ่งแน่ ทรวดทรงเหมือนสาวอเมริกัน แต่ใบหน้าสวยหวานแบบสาวเอเชีย
สองสาวหน้าเหวอบ้าง หันมาซุบซิบกัน โดนหลอกเข้าให้แล้ว นึกว่าจะโดนผีหลอก ดันโดนคนหลอก เนยหันมาฉีกยิ้มให้ชายหนุ่ม ดูเปลือกนอกเขามอมแมมก็จริง แต่สง่าราศีไม่น่าจะใช่คนสวน เลยเลือกจะพูดจาดีด้วย ผิดกับเจมที่ห้าวตลอด
‘“ฉันชื่อเนยค่ะ ถ้าคุณสนใจจะซื้อรถยนต์ละก็ ติดต่อผ่านฉันได้เลยนะคะ”
‘“คุณเป็นพริ้ตตี้?” อินทร์เลิกคิ้ว มองแบบแปลกๆ
‘เจมตบที่ต้นแขนหนึ่งที ที่นอกเรื่อง จะขายของท่าเดียว
‘“ฉันไม่ใช่พริ้ตตี้นะคะ ฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ถึงเมื่อก่อนจะเคยเป็นพริ้ตตี้ก็เถอะ” เนยยังคุมน้ำเสียงได้ คุณอินทร์ก็ดูเป็นสุภาพบุรุษอยู่หรอก แต่แอบงอนทำหน้าเชิดเล็กน้อย ผู้ชายก็แบบนี้ชอบมองพริ้ตตี้เป็นเหยื่ออันโอชะ เธอเลิกทำตั้งนานแล้ว “อย่าถือสาเพื่อนของฉันเลยนะคะ ผู้หญิงบทเลือดจะไปลมจะมาก็งี้ เรามาที่นี่มีธุระกับเจ้าหนุ่ม เออ...ฉันใช่คำพูดถูกไหมเนี่ย เจ้าที่เป็นคนหนุ่ม”
‘“เปล่าถือสาเลยครับ บ้านนี้มักมีผู้หญิงมาโวยวาย เอ๊ย ไม่ใช่มาเสียงดังหน่อย พี่ชายผมรูปหล่อ ไม่รู้ไปขายเสน่ห์ที่ไหนมาบ้าง พวกคุณคงมีธุระกับพี่ชายผมแน่ ส่วนเจ้าปู่ท่านเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่ได้พบปะผู้คนข้างนอกนานแล้วครับ”
เนยดึงแขนเพื่อนมากระซิบ เกือบปล่อยไก่แล้ว ต้องใช่เจ้าคนหนุ่มแน่ ไม่ใช่ตาแก่อย่างที่คาดคิดไว้ เจมหน้าจ๋อย จะมาเคลียร์ปัญหากับใครก็ไม่รู้ หน้าตายังไม่เคยเห็นเลย มันเป็นเวลาเดียวกับที่มีรถแล่นผ่านหน้า ตรงไปที่อาคารสำนักงาน มองจากที่ไกลเห็นชายหนุ่มสวมชุดสูทสีเทาเปิดประตูออกมาต้อนรับชายอีกคนเข้าไปในสำนักงาน เจมทันเห็นแค่แผ่นหลัง ไหล่กว้างดูภูมิฐานจะต้องใช่คนนี้แน่ คนที่โกงพ่อของเธอ อินทร์เดินตามมานึกทบทวน พี่เจ้าได้นัดใครไว้
‘“พี่เจ้าบอกว่า ได้นัดกับคนที่ชื่อวัฒนา สงสัยจะเป็นผู้ชายคนนี้”
‘“ใครบอก! ฉันต่างหากที่ชื่อวัฒนา ฉันได้โทรนัดจากเลขาฯ ของเจ้า”
‘“อ้าว เหรอครับคุณผู้หญิง”
‘“ก็คุณแม่ของฉันเป็นคนอเมริกัน แม่ชอบชื่อวัฒนา เลยตั้งให้ฉัน” เธอแอบเขิน คุณพ่อจะตั้งชื่อให้เธอว่าพรนับพัน คุณแม่ไม่ยอมท่าเดียว จะเอาชื่อนี้
‘“อืม ก็ไม่ถึงกับแปลก แต่ส่วนใหญ่ชื่อนี้มักเป็นชื่อผู้ชาย”
พูดคุยอีกครู่ อินทร์ก็นำสองสาวไปทีสำนักงาน ลุงฉายซ่อมปั๊มน้ำเสร็จแล้ว ระบายน้ำลงแม่น้ำปิง ทิวทัศน์ที่พอมองผ่านแมกไม้ให้ดีจะเห็น เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำ ภายในสำนักงาน ชายสองคนกำลังถกกันอยู่ในรายละเอียดของการสร้างเป็นตึกหลายชั้น ตกลงว่าจะสร้างในแบบห้าง เจมมองแผ่นหลังนั้นไม่วางตา ดูภูมิฐานมากพอชายคนนั้นหันมา ใบหน้าอ่อนใส ริมฝีปากสีชมพูแย้มยิ้มนิดๆ สวยกว่าอินทร์อีก อายุคงไม่เกินยี่สิบห้า