Train To Khun TAN ตอน นั่งรถไฟไปลำปางก้าวขึ้นดอยขุนตาลแวะกินข้าวซอยที่เจียงใหม่
ออกเดินทางอีกครั้งจุดหมายคืออุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อุโมงค์ขุนตาน เส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน ยาว 1.35 KM มืดมิดสนิทนานราวกับรถไฟกำลังพาเราข้ามเวลาไปสู่สถานที่ใหม่ที่ห่างไกลความวุ่ยวาย... ห่างคุณต้องการความสงบดอยขุนตาลคือคำตอบ

ครั้งนี้เดินทางโดยรถไฟไทยจากสถานีหัวลำโพง..รถไฟออก สี่ทุ่ม - ถึงสถาณีขุนตาน บ่ายโมครึ่ง เป็นการนั่งรถไฟที่นานที่สุดในชีวิต ทั้งนอน ทั้งนั่ง ทั้งเดิน วนๆ ไป 800 กว่ารอบก็ยังไม่ถึง
นั่งใจลอยคอยป้ามาขายข้าวตามสถาณีที่รถไฟจอดตามสถาณีใหญ่ๆ กว่าจะถึงสถาณีขุนตานก็ ประมาณบ่ายโมงครึ่ง...

รถไฟที่ใช้บริการเป็นแบบตู้นอนปรับอากาศ แต่ด้วยการเดินทางที่ยาวนานผมจึงเดินเล่นไปตู้โน่นตู้นี้เพื่อชมวิวข้างทางที่รถไฟแล่นผ่านไป มีทั้ง ธรรมชาติ และบ้านเรือนสลับกันไป ส่วนนึงของการเดินบนรถไฟนั้นก็เพื่อหาของกินด้วยเพราะหิวมาก สุดท้ายก็ได้ข้าวไข่เจียวมา 1 กล่อง พร้อมกาแฟ ร้อน 1 แก้ว

เมื่อรถไฟมาถึงจุดหมายปลายทางแต่.....การเดินทางยังไม่จบเรายังต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ทำการอุทยานดอยขุนตาลอีกเป็นระยะทางรวมตั้งแต่ สถาณีรถไฟ ไปจนถึง ย.4 ( ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์) มีทั้งหมด 4 ย ก็ประมาณ 7 -8 KM ตั้งแต่สถาณีรถไฟจนถึง ย.4 ถือว่าเป็นการออกกำลังกายและฝึกซ้อมเทรลไปในตัวอีกทริปหนึ่งครับ เส้นทางเดินขึ้นที่นี่ไม่ยากครับถ้าเดินตอนเช้าน่าจะดีกว่านี้

ก่อนเดินทางขึ้นอุทยานก็ต้องมาอุโมงค์ แห่งการเวลาก่อนเดินเข้าไปข้างในอุโมงค์ ความเย็นที่สัมผัสได้ในขณะที่ข้างนอกอถโมงค์แดดร้อนถามว่าผมเดินเข้าไปถึงไปบอกเลยว่าเดินเข้าไปไม่ถึง 10 เมตร ก็ขนลุกแล้วครับมันมืดมากจริงๆ

เริ่มเดินในทริปนี้ แบ่งการเดินเป็น 2 ช่วงนะครับ ช่วงแรกคือเดินไปให้ถึง ย.2 ที่เป็นลานกางเต๊นท์ เพราะออกเดินตอนประมาณบ่าย2 คาดว่าไม่น่าจะเดินขึ้นไปทันจุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยจึงเปลี่ยนแพลนไปเดินขึ้นตอนเช้ามืดแทนนะครับ

เดินมาถึง ย.2 ก็กางเต๊นท์ เคลียสัมภาระที่แบกขึ้นพักผ่อนตามธรรมชาติที่นี่ถือว่าเดินไม่ยากนะครับทางค่อนข้างดีแต่ถ้าเดินตอนบ่ายอาจจะร้อนหน่อยนะครับ ขึ้นมาถึงก็มีคนมาก่อนหน้าแล้วหลายกลุ่มอยู่ในทริปนี้เราเตรียมอาหารแบบที่ทำง่ายๆไป แต่กลุ่มอื่นๆที่มาก่อนนั้น อาหารการกินช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน มีทั้ง ปิ้งย่าง ชาบู อื่นๆอีกมากมาย เท่าที่ได้กลิ่นอาหารที่ลอยมาตามลม ตัดภาพไปที่อาหารของเรา . . . . . . .

ตามนี้เลยครับ .. จริงก็เตรียมอาหารสำเร็จรูปอุ่นร้อนในหม้อต้มน้ำ ข้าวก็ง่ายมากขึ้นมีแบบสุกแล้วแค่เอามาต้อมในน้ำร้อนก็กินได้แล้ว แต่ก็อดนึกถึงชาบูไม่ได้...

หลังจากถึงลานกางเต๊นแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากไปเดินเสพบรรยากาศรอบๆลานสน ตกเย็นอากาศก็เริ่มเย็นสบายนอนมองยอดสนไปครับ

เช้าวันที่ 2 ก็ออกเดินตอน ตี 4 ครึ่ง ไปยัง ย.4 จุดชมวิวที่สูงที่สุดในดอยขุนตาล แล้วก็สิ่งขาดไม่ได้คือมีความลืมเก่งตั้งใจจะเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมต้มน้ำร้อนจิบกาแฟดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้า..... ครับเตรียมไปทุกอย่าง แก๊สกระป๋อง กาแฟ แก้ว น้ำเตรียมต้ม .....แต่ไม่ได้เอาหม้อต้อมน้ำไปด้วย.....
แต่ก็ไม่เป็นไรกาแฟเรากินเมื่อไหร่ก็ได้แต่ยอดเขานี้เรามาบ่อยๆไม่ได้เพราะมันไกล...

จุดไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนที่มาถึงดอยขุนตาลต้องเดินขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยืนถ่ายรูปกับเสาธงที่โบกสบัดไปตามสายลม

ด้วยกรอบเวลาที่จำกัดเราจึงต้องเดินทางกลับไปสู่โลกแห่งความจริงที่เราได้ข้ามเวลาออกมาพักสมองให้ปลอดโป่งเตรียมตัวเพื่อกับไปใช้ชีวิตตามวงจรชีวิตแบบเดิม...แต่อย่าลืมว่าถ้าเมื่อไหร่เรารู้ตัวว่าเหนื่อยล้าให้ลองมองหาสถานที่ที่เราอยากไปแล้วจัดกระเป๋าแล้วสะพายมันออกไปสู่โลกที่เราคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับเรา

ผ่านไปอีกหนึ่งทริปสำหรับการเดินทางไปให้ธรรมชาติบำบัด

...แต่เดี๋ยวก่อนก่อนเดินทางยังไม่จบแค่นั้นอย่างที่บอกว่าเราต้องเดินทางตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้แต่ระหว่างช่วงเวลาที่ยังเหลือในระหว่างการเดินทางนั้นยังคงพอมีเวลาให้ได้สัมผัสรสชาติของอาหารที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ใช่ครับขากลับผมนั่งรถไฟต่อไปที่เชียงใหม่ไหนๆก็มาถึงเชียงใหม่แล้วก็ขอกินอาหารอร่อยๆ ก่อนเดินทางกัลบบ้าน ที่ กทม . มันคือ.....ข้าวซอยเนื้อนั่นเอง เอง เอง เอง แล้วพบกันในสถานที่ใหม่ๆ ครับผม
[SR] นั่งรถไฟไปลำปางก้าวขึ้นดอยขุนตาลแวะกินข้าวซอยที่เจียงใหม่
ออกเดินทางอีกครั้งจุดหมายคืออุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อุโมงค์ขุนตาน เส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน ยาว 1.35 KM มืดมิดสนิทนานราวกับรถไฟกำลังพาเราข้ามเวลาไปสู่สถานที่ใหม่ที่ห่างไกลความวุ่ยวาย... ห่างคุณต้องการความสงบดอยขุนตาลคือคำตอบ
นั่งใจลอยคอยป้ามาขายข้าวตามสถาณีที่รถไฟจอดตามสถาณีใหญ่ๆ กว่าจะถึงสถาณีขุนตานก็ ประมาณบ่ายโมงครึ่ง...
เมื่อรถไฟมาถึงจุดหมายปลายทางแต่.....การเดินทางยังไม่จบเรายังต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ทำการอุทยานดอยขุนตาลอีกเป็นระยะทางรวมตั้งแต่ สถาณีรถไฟ ไปจนถึง ย.4 ( ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์) มีทั้งหมด 4 ย ก็ประมาณ 7 -8 KM ตั้งแต่สถาณีรถไฟจนถึง ย.4 ถือว่าเป็นการออกกำลังกายและฝึกซ้อมเทรลไปในตัวอีกทริปหนึ่งครับ เส้นทางเดินขึ้นที่นี่ไม่ยากครับถ้าเดินตอนเช้าน่าจะดีกว่านี้
เริ่มเดินในทริปนี้ แบ่งการเดินเป็น 2 ช่วงนะครับ ช่วงแรกคือเดินไปให้ถึง ย.2 ที่เป็นลานกางเต๊นท์ เพราะออกเดินตอนประมาณบ่าย2 คาดว่าไม่น่าจะเดินขึ้นไปทันจุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยจึงเปลี่ยนแพลนไปเดินขึ้นตอนเช้ามืดแทนนะครับ
เดินมาถึง ย.2 ก็กางเต๊นท์ เคลียสัมภาระที่แบกขึ้นพักผ่อนตามธรรมชาติที่นี่ถือว่าเดินไม่ยากนะครับทางค่อนข้างดีแต่ถ้าเดินตอนบ่ายอาจจะร้อนหน่อยนะครับ ขึ้นมาถึงก็มีคนมาก่อนหน้าแล้วหลายกลุ่มอยู่ในทริปนี้เราเตรียมอาหารแบบที่ทำง่ายๆไป แต่กลุ่มอื่นๆที่มาก่อนนั้น อาหารการกินช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน มีทั้ง ปิ้งย่าง ชาบู อื่นๆอีกมากมาย เท่าที่ได้กลิ่นอาหารที่ลอยมาตามลม ตัดภาพไปที่อาหารของเรา . . . . . . .
เช้าวันที่ 2 ก็ออกเดินตอน ตี 4 ครึ่ง ไปยัง ย.4 จุดชมวิวที่สูงที่สุดในดอยขุนตาล แล้วก็สิ่งขาดไม่ได้คือมีความลืมเก่งตั้งใจจะเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมต้มน้ำร้อนจิบกาแฟดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้า..... ครับเตรียมไปทุกอย่าง แก๊สกระป๋อง กาแฟ แก้ว น้ำเตรียมต้ม .....แต่ไม่ได้เอาหม้อต้อมน้ำไปด้วย.....
แต่ก็ไม่เป็นไรกาแฟเรากินเมื่อไหร่ก็ได้แต่ยอดเขานี้เรามาบ่อยๆไม่ได้เพราะมันไกล...
จุดไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนที่มาถึงดอยขุนตาลต้องเดินขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยืนถ่ายรูปกับเสาธงที่โบกสบัดไปตามสายลม
ด้วยกรอบเวลาที่จำกัดเราจึงต้องเดินทางกลับไปสู่โลกแห่งความจริงที่เราได้ข้ามเวลาออกมาพักสมองให้ปลอดโป่งเตรียมตัวเพื่อกับไปใช้ชีวิตตามวงจรชีวิตแบบเดิม...แต่อย่าลืมว่าถ้าเมื่อไหร่เรารู้ตัวว่าเหนื่อยล้าให้ลองมองหาสถานที่ที่เราอยากไปแล้วจัดกระเป๋าแล้วสะพายมันออกไปสู่โลกที่เราคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับเรา
...แต่เดี๋ยวก่อนก่อนเดินทางยังไม่จบแค่นั้นอย่างที่บอกว่าเราต้องเดินทางตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้แต่ระหว่างช่วงเวลาที่ยังเหลือในระหว่างการเดินทางนั้นยังคงพอมีเวลาให้ได้สัมผัสรสชาติของอาหารที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ใช่ครับขากลับผมนั่งรถไฟต่อไปที่เชียงใหม่ไหนๆก็มาถึงเชียงใหม่แล้วก็ขอกินอาหารอร่อยๆ ก่อนเดินทางกัลบบ้าน ที่ กทม . มันคือ.....ข้าวซอยเนื้อนั่นเอง เอง เอง เอง แล้วพบกันในสถานที่ใหม่ๆ ครับผม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้