เป็นเชิงสปอยล์บวกเม้าท์มอยนะคะ ไม่เคยทำรีวิวมาก่อน555
หนังเรื่องนี้เข้าโรงมาตอนปี 2007 พร้อม ทไวไลท์ อิคลิป เราไปกับญาติเค้าอยากดูทไวไลท์มากกว่าก็เลยต้องไป เสียดายมาถึงทุกวันนี้ 555 จนกระทั่งเห็นว่ามันเข้า Netflix พอดีเลยหาโอกาสมาดูซักหน่อย
เราดูแบบซับอังกฤษ อาจจะเข้าใจเนื้อหาผิดไปบ้าง ขออภัยนะคะ ใช้ sense ดูเอา555
เนื้อเรื่องตอนแรกพระเอกกับภรรยาอยากมีบ้าน แต่ตัวเองเป็นคนฐานะปานกลางก็เลยไม่มีเงินซื้อ ประจวบเหมาะกับมีโครงการ downsizing ที่บอกว่าจะช่วยลดจำนวนประชากรที่มากเกินบนโลกขณะนี้ มาเหลือขนาดตัวละ 5 นิ้ว ถ้าตัวเท่านี้เงิน 80$ ใช้จ่ายอยู่ได้เป็นสองสามเดือนแน่ะ พระเอกกับภรรยาก็เลยจะไปร่วมโครงการเป็นคนตัวจิ๋ว จะได้อยู่บ้านหรูๆกับเค้าในราคาไม่กี่ตังค์
ตอนทั้งคู่ไปที่บาร์มีคนๆนึงมาพูดว่า "ถามจริงเหอะ ถ้าไปเป็นคนจิ๋ว เงินก็ใช้น้อยกว่า ภาษีก็จ่ายน้อยกว่า เอาเปรียบคนตัวใหญ่ชัดๆ แล้วอย่างนี้พวกนายจะมีสิทธิมนุษยชนเท่าเทียมกับเราหรอ"
ประเด็นนี้ทำให้เราแบบเห้ยย ถ้าเล่นประเด็นนี้นี้เจ๋งเลย รัฐบาลจัดทำโครงการมาจริงๆไม่ได้ช่วยโลกแต่เอาคนมาเป็นหนูทดลองแทนเพื่อทดลองยา หรือพอยอมเซ็นต์สัญญามอบอำนาจเนื้อตัวร่างกายให้ รัฐบาลอาจจะค่อยขูดรีดพวกนี้แทนแบบต่อสู้ไม่ได้เพราะมีความเป็นมนุษย์ไม่เท่ารึเปล่า
แต่ไม่ใช่ค่ะคุ๊ณณ หนังแทบไม่ได้เล่นประเด็นนี้ นี่ว่าน่าเสียดายมาก เพราะหลังจากพระเอกไปอยู่ในเมือง leisuretown (เมืองคนจิ๋ว) ก็มีการทำให้เห็นโลกทุนนิยมที่ยังมีอยู่ในนี้ คนฐานะปานกลางกลายเป็นคนรวย คนจนตอนยังเป็นคนตัวใหญ่ พอเป็นคนจิ๋วกฌยังอยู่ในสลัมจนๆอยู่ดี ถึงขนาดโลกจะเปลี่ยนไป แต่สังคมมนุษย์ก็ยังคงเดิม ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่ยังไง
หรือเค้าจะเล่นประเด็นเรื่องทำชีวิตให้มีความหมาย เห็นคุณค่าในชีวิต ซึ่งเป็นคำโปรยใน poster ก็มีให้เห็นว่าพระเอกลองใช้ชีวิตแบบใหม่ ไปปาร์ตี้ กินเหล้าเสพยา(ซึ่งมันดีตรงไหนเนี่ยชีวิตแบบนี้55) เลิก appreciate วัตถุต่างๆแต่มาดูที่คนจริงๆ การมีน้ำใจ การช่วยเหลือคนอื่น การทำเพื่อคนอื่น (ซึ่งนางเอกก็เป็นตัวแทนของการทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเองได้ดี) ซึ่งประเด็นนี้ก็โอเคนะที่เค้านำเสนอ แต่ไม่ได้มี conflict อะไรเลยในประเด็นนี้ เลยไม่รู้ว่าต้องการชูโรงเรื่องนี้จริงๆรึเปล่า
มีประเด็นยิบย่อยเรื่องโลกร้อน น้ำแข็งละลาย คนตัวเล็กก็เจาะชั้นโลกลงไปอีกชั้นนึงเพื่ออนาคตข้างหน้าโลกใน leisuretown จะล่มสลาย ซึ่งถ้าจะนำเสนอแน ว apocalypse, distopia ก็น่าจะเน้นกว่านี้หน่อย อันนี้ดูไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเยอะ
สรุปคือเรื่องนี้มีประเด็นเยอะมากแต่เล่นไม่ค่อยสุด เสียดายประเด็นด้านการเมืองถ้าเอามาเล่นน่าจะมันมาก อาจจะเป็นหนังดีอีกเรื่องนึงของผู้กำกับคนนี้ก็ได้ ไม่รู้เรื่องนี้กับทไวไลท์อิคลิป อันไหนน่าเบื่อกว่ากัน5555 แต่แปลกใหม่ดี ชอบฉากตอนพระเอกถูก downsizing ดูแปลกใหม่ วิทยาการล้ำหน้าดี
(รีวิว) Downsizing หนัง Plot หลักล้าน เนื้อหาหลักร้อย เสียดายมากก
หนังเรื่องนี้เข้าโรงมาตอนปี 2007 พร้อม ทไวไลท์ อิคลิป เราไปกับญาติเค้าอยากดูทไวไลท์มากกว่าก็เลยต้องไป เสียดายมาถึงทุกวันนี้ 555 จนกระทั่งเห็นว่ามันเข้า Netflix พอดีเลยหาโอกาสมาดูซักหน่อย
เราดูแบบซับอังกฤษ อาจจะเข้าใจเนื้อหาผิดไปบ้าง ขออภัยนะคะ ใช้ sense ดูเอา555
เนื้อเรื่องตอนแรกพระเอกกับภรรยาอยากมีบ้าน แต่ตัวเองเป็นคนฐานะปานกลางก็เลยไม่มีเงินซื้อ ประจวบเหมาะกับมีโครงการ downsizing ที่บอกว่าจะช่วยลดจำนวนประชากรที่มากเกินบนโลกขณะนี้ มาเหลือขนาดตัวละ 5 นิ้ว ถ้าตัวเท่านี้เงิน 80$ ใช้จ่ายอยู่ได้เป็นสองสามเดือนแน่ะ พระเอกกับภรรยาก็เลยจะไปร่วมโครงการเป็นคนตัวจิ๋ว จะได้อยู่บ้านหรูๆกับเค้าในราคาไม่กี่ตังค์
ตอนทั้งคู่ไปที่บาร์มีคนๆนึงมาพูดว่า "ถามจริงเหอะ ถ้าไปเป็นคนจิ๋ว เงินก็ใช้น้อยกว่า ภาษีก็จ่ายน้อยกว่า เอาเปรียบคนตัวใหญ่ชัดๆ แล้วอย่างนี้พวกนายจะมีสิทธิมนุษยชนเท่าเทียมกับเราหรอ"
ประเด็นนี้ทำให้เราแบบเห้ยย ถ้าเล่นประเด็นนี้นี้เจ๋งเลย รัฐบาลจัดทำโครงการมาจริงๆไม่ได้ช่วยโลกแต่เอาคนมาเป็นหนูทดลองแทนเพื่อทดลองยา หรือพอยอมเซ็นต์สัญญามอบอำนาจเนื้อตัวร่างกายให้ รัฐบาลอาจจะค่อยขูดรีดพวกนี้แทนแบบต่อสู้ไม่ได้เพราะมีความเป็นมนุษย์ไม่เท่ารึเปล่า
แต่ไม่ใช่ค่ะคุ๊ณณ หนังแทบไม่ได้เล่นประเด็นนี้ นี่ว่าน่าเสียดายมาก เพราะหลังจากพระเอกไปอยู่ในเมือง leisuretown (เมืองคนจิ๋ว) ก็มีการทำให้เห็นโลกทุนนิยมที่ยังมีอยู่ในนี้ คนฐานะปานกลางกลายเป็นคนรวย คนจนตอนยังเป็นคนตัวใหญ่ พอเป็นคนจิ๋วกฌยังอยู่ในสลัมจนๆอยู่ดี ถึงขนาดโลกจะเปลี่ยนไป แต่สังคมมนุษย์ก็ยังคงเดิม ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่ยังไง
หรือเค้าจะเล่นประเด็นเรื่องทำชีวิตให้มีความหมาย เห็นคุณค่าในชีวิต ซึ่งเป็นคำโปรยใน poster ก็มีให้เห็นว่าพระเอกลองใช้ชีวิตแบบใหม่ ไปปาร์ตี้ กินเหล้าเสพยา(ซึ่งมันดีตรงไหนเนี่ยชีวิตแบบนี้55) เลิก appreciate วัตถุต่างๆแต่มาดูที่คนจริงๆ การมีน้ำใจ การช่วยเหลือคนอื่น การทำเพื่อคนอื่น (ซึ่งนางเอกก็เป็นตัวแทนของการทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเองได้ดี) ซึ่งประเด็นนี้ก็โอเคนะที่เค้านำเสนอ แต่ไม่ได้มี conflict อะไรเลยในประเด็นนี้ เลยไม่รู้ว่าต้องการชูโรงเรื่องนี้จริงๆรึเปล่า
มีประเด็นยิบย่อยเรื่องโลกร้อน น้ำแข็งละลาย คนตัวเล็กก็เจาะชั้นโลกลงไปอีกชั้นนึงเพื่ออนาคตข้างหน้าโลกใน leisuretown จะล่มสลาย ซึ่งถ้าจะนำเสนอแน ว apocalypse, distopia ก็น่าจะเน้นกว่านี้หน่อย อันนี้ดูไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเยอะ
สรุปคือเรื่องนี้มีประเด็นเยอะมากแต่เล่นไม่ค่อยสุด เสียดายประเด็นด้านการเมืองถ้าเอามาเล่นน่าจะมันมาก อาจจะเป็นหนังดีอีกเรื่องนึงของผู้กำกับคนนี้ก็ได้ ไม่รู้เรื่องนี้กับทไวไลท์อิคลิป อันไหนน่าเบื่อกว่ากัน5555 แต่แปลกใหม่ดี ชอบฉากตอนพระเอกถูก downsizing ดูแปลกใหม่ วิทยาการล้ำหน้าดี