5 มี.ค. 63
จากกรณีการแย่งสิทธิ์ลอตเตอรี่ 30 ล้านมหากาพย์ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแห่ง ที่ต่อสู้ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีครึ่ง
ล่าสุด วันนี้ (5 มี.ค.63) ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และ นางลาวัลย์ วิมูล หรือ ป้าลาวัลย์ ภรรยา พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาล เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เลขดำที่ พ.1230/60 เลขแดงที่ 484/61 ที่ ครูปรีชา เป็นโจทก์ และหมวดจรูญ เป็นจำเลย เรื่องละเมิด, เรียกทรัพย์คืน ที่บัลลังก์ที่ 10 เวลา 09.00 น. โดย ครูปรีชา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หลังศาลอ่านคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาในประเด็นที่ทาง ครูปรีชา ซึ่งเป็นโจทก์ ได้อุทธรณ์ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ คำสั่งที่ศาลชั้นต้น ได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน ลุงจรูญ ซึ่งศาลได้ตัดสินในประเด็นนี้ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยในประเด็นนี้
ส่วนอีกประเด็นคือ กระบวนพิจารณาเป็นกระบวนที่ผิดระเบียบ โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ได้จำหน่ายคดีไปแล้ว ซึ่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ถึงแม้ว่าจะมีการจำหน่ายคดี แต่เป็นเพียงการจำหน่ายคดีชั่วคราว และอำนาจการวินิจฉัยก็เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นอีกเช่นกัน ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองเรื่อง เท่ากับว่า ลุงจรูญ มีสิทธิ์เต็มตัวในการใช้เงิน และคำสั่งที่มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคดีนี้ไม่สามารถฎีกาได้ เนื่องจากการที่จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงินหรือไม่ นั้น เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้
สนับสนุนเนื้อหาโดย ThaiQuote
ปิดตำนานหวยอลเวง! หมวดจรูญได้ใช้เงิน 30 ล้านบาท หลังต่อสู้ยืดเยื้อกว่า 3 ปี
ล่าสุด วันนี้ (5 มี.ค.63) ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และ นางลาวัลย์ วิมูล หรือ ป้าลาวัลย์ ภรรยา พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาล เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เลขดำที่ พ.1230/60 เลขแดงที่ 484/61 ที่ ครูปรีชา เป็นโจทก์ และหมวดจรูญ เป็นจำเลย เรื่องละเมิด, เรียกทรัพย์คืน ที่บัลลังก์ที่ 10 เวลา 09.00 น. โดย ครูปรีชา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หลังศาลอ่านคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาในประเด็นที่ทาง ครูปรีชา ซึ่งเป็นโจทก์ ได้อุทธรณ์ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ คำสั่งที่ศาลชั้นต้น ได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน ลุงจรูญ ซึ่งศาลได้ตัดสินในประเด็นนี้ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยในประเด็นนี้
ส่วนอีกประเด็นคือ กระบวนพิจารณาเป็นกระบวนที่ผิดระเบียบ โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ได้จำหน่ายคดีไปแล้ว ซึ่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ถึงแม้ว่าจะมีการจำหน่ายคดี แต่เป็นเพียงการจำหน่ายคดีชั่วคราว และอำนาจการวินิจฉัยก็เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นอีกเช่นกัน ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองเรื่อง เท่ากับว่า ลุงจรูญ มีสิทธิ์เต็มตัวในการใช้เงิน และคำสั่งที่มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคดีนี้ไม่สามารถฎีกาได้ เนื่องจากการที่จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงินหรือไม่ นั้น เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้