วินาทีที่เธอสวมแหวนให้ฉัน..วินาทีนั้นฉันก็เป็นของเธอไปแล้ว
ฮิ้ว.ปูทางมาซะหวานขนาดนี้ แน่นอนว่ากระทู้นี้ต้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรัก และก็ขอบอกเลยว่าเป็นความรักที่กำลังสุกงอมหอมหวานหยาดเยิ้มเอามาก ๆ ด้วยค่า เพราะเราทั้งคู่เพิ่งจะผ่านการใช้คำว่าเจ้าสาวและเจ้าบ่าวมาหมาด ๆ นี่เอง
ต้องขอเกริ่นก่อนว่ากว่าที่เราทั้งคู่จะเดินทางมาจนได้มีวันแต่งงาน ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอย่างที่รู้กันว่าการแต่งงานหนึ่งครั้งเต็มไปด้วยขั้นตอน รายละเอียดยิบย่อยมากมาย สำหรับเราแล้วสิ่งที่ค่อนข้างยากที่สุดจะเป็นช่วงวันก่อนจัดงาน การเตรียมรายละเอียดต่าง ๆ ทั้ง การหาฤกษ์ รูปแบบของงาน คิดถึงธีมงาน การลำดับงาน รวมถึงการหาสถานที่ ซึ่งเราทั้งคู่ก็ใช้เวลาเตรียมหลายเดือนเลยทีเดียวค่ะ
และกว่าที่งานแต่งงานจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างและสวยงามแบบนี้ เบื้องหลังไม่ง่ายเลยค่ะ แต่โชคดีที่เราตัดสินใจจัดงานแต่งกับทางโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์
(Best Western Plus Wanda Grand Hotel) เหตุผลที่เราเลือกไว้ใจให้ทางโรงแรมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของเรา ก็เพราะว่าบรรดาเพื่อนสนิทของเราล้วนเคยมาจัดงานหมั้นและงานแต่งที่นี่หลายคู่เลย และเราเองก็เคยมาร่วมงานด้วย เป็นทั้งเพื่อนเจ้าสาวบ้าง ช่วยกั้นประตูเงินประตูทองบ้าง ได้ช่อดอกไม้จากเจ้าสาวก็เคยมาแล้ว เรียกได้ว่าเห็นขั้นตอนการจัดงานของเพื่อนมาหลายงานตั้งแต่ต้นยันจบ ก็เลยค่อนข้างมั่นใจกับการบริการของโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์มาก ๆ ค่ะ
นอกจากนั้นตัวโรงแรมเองก็ค่อนข้างตอบโจทย์หลายอย่าง หนึ่งเลยคือเรื่องการเดินทาง เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับทางด่วน อยู่ห่างจากอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพียง 5 นาที มีพื้นที่จอดรถเยอะ บวกกับพื้นที่ห้องจัดเลี้ยงกว้างใหญ่สามารถรองรับการจัดโต๊ะจีนได้ถึง 80 โต๊ะ และที่เราชอบก็คือเพดานของโรงแรมสูงถึง 7 เมตร โอ่อ่า หรูหรา ดูกว้างใหญ่มากค่า ที่สำคัญคือทางโรงแรมเค้าให้บริการแบบมืออาชีพตั้งแต่ต้นจนจบ อำนวยความสะดวกทั้งเรื่องของอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในพิธี ช่วยให้เราลดขั้นตอนยุ่งยากออกไปได้เยอะมาก เรียกได้ว่าครบตอบโจทย์การจัดงานแบบที่คู่บ่าวสาวมองหาเลยค่ะ
Best Western Plus Wanda Grand Hotel เค้ามีแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ เลือกได้ตามความชอบและงบประมาณ ทั้งแพ็กเกจงานหมั้น แพ็กเกจงานแต่ง และเนื่องจากว่าคู่เราได้ทำการจัดงานหมั้นกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้เราก็เลยเลือกแพ็กเกจงานแต่งอย่างเดียวค่ะ ซึ่งแพ็กเกจที่เราเลือกก็จะรวมสถานที่จัดงาน + ห้องพัก 1 คืน + อาหารสำหรับงานเลี้ยงและอุปกรณ์ตกแต่งที่ต้องใช้ในงานพิธีทั้งหมดด้วยค่ะ
แต่ถึงแม้ว่าคู่เราจะไม่ได้จัดงานหมั้นกันที่โรงแรม แต่วันนี้เราก็ได้นำภาพส่วนหนึ่งในพิธีหมั้น รวมพิธีขันหมากของเพื่อนสนิทที่เคยจัดที่โรงแรม Best Western Plus Wanda Grand มาเล่าให้ฟังกันด้วย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่กำลังวางแผนหมั้นและจัดงานแต่งที่โรงแรมนี้ จะได้รู้ว่าเราต้องเตรียมตัวอะไร ยังไงบ้าง และเมื่อเสร็จแล้วงานจะออกมาหน้าตาประมาณไหนค่ะ
เริ่มกันที่งานพิธีหมั้นในช่วงเช้าค่ะ สำหรับรายละเอียดการจัดงานหมั้นของเพื่อน เราจะขอเล่าการจัดไทม์ไลน์คร่าว ๆ ไว้ตามนี้ค่ะ
6.09 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์
7.50 น. ตั้งขบวนขันหมาก
8.09 น. พิธีแห่ขันหมาก
8.39 น. พิธีเจรจาสู่ขอและพิธีสวมแหวนหมั้น
9.00 น. พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่
10.00น. พิธีรดน้ำสังข์
11.30น. พิธีส่งตัวเข้าหอ
(**** รายละเอียดเวลาของเพื่อน ๆ อาจจะแตกต่างกันไปตามฤกษ์มงคลของแต่ละคนนะคะ)
ช่วงเช้า หลังจากที่เตรียมตัว แต่งหน้าพร้อมชุดพร้อม ก็ได้เวลาเริ่มต้นพิธีสงฆ์กันค่ะ ทางเพื่อนก็ได้เชิญพระสงฆ์ที่นับถือมาประกอบพิธีในครั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ มีการทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ซึ่งตรงนี้ทางโรงแรมก็ยังได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อาสนะสำหรับพระสงฆ์/ โต๊ะหมู่บูชา/ ตั่งรดน้ำสังข์/ ชุดรับแขก เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ (หรือคู่ไหนที่ต้องการเวลาที่กระชับขึ้นมาก็สามารถจัดงานแบบลดสัดส่วนลงมาให้เหลือเพียงแค่เฉพาะพิธีหมั้นก็ได้เช่นกันค่ะ)
หลังจากรอฤกษ์พร้อม ทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลาเริ่มเข้าพิธีการสู่ขอและตั้งขบวนแห่ขันหมากกันค่ะ ซึ่งในระหว่างนี้เพื่อนเราก็ได้รออยู่กับคุณแม่อยู่ในห้องพักของทางโรงแรมค่ะ เมื่อถึงเวลาได้ฤกษ์มงคล ทีมเจ้าบ่าวพร้อมขบวนขันหมาก พานธูปเทียนแพ ขันหมากเอก และขันหมากโท ก็จะค่อย ๆ เคลื่อนขบวนขึ้นมาสู่ขอ สำหรับคนที่นำขบวนขันหมากในคราวนี้ก็คือคุณพ่อ และญาติผู้ใหญ่ของทางเจ้าบ่าวค่ะ
สำหรับงานหมั้นครั้งนี้เราเองก็ได้มีโอกาสมาช่วยเพื่อนกั้นประตูเงินประตูทองในครั้งนี้ด้วย ^^ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเฮฮา สนุกสนานมาก ๆ และเมื่อทางเจ้าบ่าวฝ่าประตูต่าง ๆ ได้แล้ว ทางแม่เพื่อนก็ได้รับพานขันหมากทั้งหมดไว้เสร็จเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของพิธีการเจรจาสู่ขอและสวมแหวนหมั้นค่ะ
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงนับสินสอดค่ะ ซึ่งสถานที่ที่จัดงานทาง
Best Western Plus Wanda Grand Hotel เค้าก็ดูแลและจัดเตรียมไว้อย่างดี ทั้งอุปกรณ์ประกอบ จากนั้นคุณแม่ของเจ้าสาวก็จะทำการนับสินสอด ซึ่งสินสอดที่เตรียมมาก็จะจัดวางอยู่บนผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง ประกอบด้วยสินสอดทองหมั้น และเครื่องประดับต่าง ๆ ค่ะ หลังจากนับเสร็จแล้ว ก็จะมีการโรยถั่วงา ข้าวตอกดอกไม้ไปบนสินสอดเพื่อเป็นเคล็ด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เงินนั้นงอกเงยและความรักงอกงาม จากนั้นจะให้ญาติผู้ใหญ่ทางเจ้าสาวแบกสินสอดขึ้นไว้บนบ่าพร้อมพูดเสียงดัง ๆ ว่า หนักมากเลย เงินเยอะมาก แบกไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นก็จะนำไปเก็บไว้ทางด้านหลัง
ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ มาถึงแล้ว ช่วงพิธีสวมแหวนค่ะ หลังจากแม่เจ้าสาวได้ทำการกล่าวอนุญาตแล้ว เจ้าบ่าวจะเข้าไปกราบคุณแม่ และเดินมารับตัวเราไปเข้าร่วมพิธีพร้อมพวงมาลัย เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะเข้าไปกราบคุณพ่อแม่ของทั้ง 2 ครอบครัว และเมื่อใกล้ถึงเวลามงคล ก็เตรียมพิธีสวมแหวน ในการสวมแหวนทางเจ้าบ่าวจะเป็นคนสวมให้เจ้าสาวก่อนค่ะ และตามธรรมเนียมเจ้าสาวก็จะต้องกราบที่ตักเจ้าบ่าว แล้วสวมแหวนกลับค่ะ เจ้าบ่าวก็จะหอมแก้มเป็นการขอบคุณ เป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกปลาบปลื้ม(แทนเพื่อน) สุด ๆ
หลังจากสวมแหวานเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่ช่วงพิธีรับไหว้ หรือพิธีไหว้ผู้ใหญ่ โดยพิธีนี้บ่าวสาวจะทำการกราบเคารพญาติผู้ใหญ่ โดยเรียงลำดับจากกราบคุณพ่อคุณแม่ของทางฝ่ายเจ้าบ่าว 3 ครั้ง ซึ่งทางโรงแรมก็จะได้จัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ มาไว้ให้ด้วยค่ะไม่ว่าจะเป็นพานธูป เทียนแพ จากนั้นจะตามด้วยการเคารพพ่อแม่เจ้าสาว และไล่เรียงไปจนถึงญาติคนอื่น ๆ จนครบ หลังจากที่ท่านได้ให้พรและผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือเสร็จแล้ว ท่านก็ใส่ซองเงินลงบนพานเพิ่มเติม เสร็จแล้วก็รอฤกษ์เพื่อที่จะทำพิธีต่อไปค่ะ
เมื่อถึงฤกษ์ที่ได้กำหนดไว้แล้ว ก็เข้าสู่ช่วงเวลารดน้ำสังข์ หรือชื่อพิธีเต็ม ๆ ว่า “พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และปราสาทพร” เริ่มจากให้ทั้งคู่จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นไปนั่งที่ตั่งเพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งปกติแล้วเค้าจะให้เจ้าสาวเป็นคนนั่งด้านซ้ายของเจ้าบ่าวค่ะ จากนั้นประธานในพิธีงานแต่งก็จะทำการคล้องพวงมาลัย และสวมมงคลแฝดไว้บนศรีษะของทั้งคู่ เจิมที่หน้าผาก และจากนั้นจะให้ประธานเริ่มรดน้ำสังข์เป็นคนแรก ตามด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ แขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน ต่อจากนั้นก็จะเป็นแขกคนอื่น ๆ เมื่อแขกรดน้ำสังข์จนครบทุกคนแล้ว ประธานก็จะถอดมงคลแฝดม้วนเป็นเลข 8 มอบใส่มือบ่าวสาวค่ะ
หลังจากทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกขั้นตอนแล้ว จะถึงช่วงเวลาทำพิธีและส่งตัวเข้าห้องหอค่ะ โดยปกติแล้วทางเจ้าบ่าว จะขึ้นไปรออยู่ที่ห้องหอกับฝ่ายญาติผู้ใหญ่ที่จะทำพิธีส่งตัวให้ เมื่อถึงฤกษ์มงคลแล้วแล้วคุณแม่ของเจ้าสาวก็จะไปส่งที่ห้องนอนค่ะ ทางคุณแม่จะทำพูดฝากฝังเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวอย่างเป็นทางการไว้ด้วย
ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายทางฝ่ายผู้ใหญ่ที่ได้เชิญมาซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานด้วยกันมานานมากแล้ว มีฐานะหน้าที่การงานดี และมีลูกหลานดีจะมาช่วยปูที่นอน จัดเรียงหมอนสองใบให้สวยงาม หลังจากนั้นเค้าจะวางข้าวของตามธรรมเนียมที่ต้องใช้เอาไว้ บนเตียง อย่าง หินบดยาหรือหินก้อนเส้า, ฟักเขียว, แมวคราว (แมวตัวผู้ที่อายุมากแล้ว), พานใส่ถุงข้าวเปลือก งา ถั่วทองหรือถั่วเขียว และขันใส่น้ำฝนมาประกอบพิธีและให้พร โดยของแต่ละอย่างก็จะมีความหมายดี ๆ เป็นสิริมงคลสำหรับชีวิตคู่ หลังจากนั้น ก็เป็นอันเสร็จพิธีหมั้นค่ะ
[BR] รีวิวจัดงานหมั้น&งานแต่งในฝันแบบวันเดียวจบ ที่โรงแรม Best Western Plus Wanda Grand Hotel
ฮิ้ว.ปูทางมาซะหวานขนาดนี้ แน่นอนว่ากระทู้นี้ต้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรัก และก็ขอบอกเลยว่าเป็นความรักที่กำลังสุกงอมหอมหวานหยาดเยิ้มเอามาก ๆ ด้วยค่า เพราะเราทั้งคู่เพิ่งจะผ่านการใช้คำว่าเจ้าสาวและเจ้าบ่าวมาหมาด ๆ นี่เอง
ต้องขอเกริ่นก่อนว่ากว่าที่เราทั้งคู่จะเดินทางมาจนได้มีวันแต่งงาน ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอย่างที่รู้กันว่าการแต่งงานหนึ่งครั้งเต็มไปด้วยขั้นตอน รายละเอียดยิบย่อยมากมาย สำหรับเราแล้วสิ่งที่ค่อนข้างยากที่สุดจะเป็นช่วงวันก่อนจัดงาน การเตรียมรายละเอียดต่าง ๆ ทั้ง การหาฤกษ์ รูปแบบของงาน คิดถึงธีมงาน การลำดับงาน รวมถึงการหาสถานที่ ซึ่งเราทั้งคู่ก็ใช้เวลาเตรียมหลายเดือนเลยทีเดียวค่ะ
และกว่าที่งานแต่งงานจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างและสวยงามแบบนี้ เบื้องหลังไม่ง่ายเลยค่ะ แต่โชคดีที่เราตัดสินใจจัดงานแต่งกับทางโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ (Best Western Plus Wanda Grand Hotel) เหตุผลที่เราเลือกไว้ใจให้ทางโรงแรมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของเรา ก็เพราะว่าบรรดาเพื่อนสนิทของเราล้วนเคยมาจัดงานหมั้นและงานแต่งที่นี่หลายคู่เลย และเราเองก็เคยมาร่วมงานด้วย เป็นทั้งเพื่อนเจ้าสาวบ้าง ช่วยกั้นประตูเงินประตูทองบ้าง ได้ช่อดอกไม้จากเจ้าสาวก็เคยมาแล้ว เรียกได้ว่าเห็นขั้นตอนการจัดงานของเพื่อนมาหลายงานตั้งแต่ต้นยันจบ ก็เลยค่อนข้างมั่นใจกับการบริการของโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์มาก ๆ ค่ะ
นอกจากนั้นตัวโรงแรมเองก็ค่อนข้างตอบโจทย์หลายอย่าง หนึ่งเลยคือเรื่องการเดินทาง เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้กับทางด่วน อยู่ห่างจากอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพียง 5 นาที มีพื้นที่จอดรถเยอะ บวกกับพื้นที่ห้องจัดเลี้ยงกว้างใหญ่สามารถรองรับการจัดโต๊ะจีนได้ถึง 80 โต๊ะ และที่เราชอบก็คือเพดานของโรงแรมสูงถึง 7 เมตร โอ่อ่า หรูหรา ดูกว้างใหญ่มากค่า ที่สำคัญคือทางโรงแรมเค้าให้บริการแบบมืออาชีพตั้งแต่ต้นจนจบ อำนวยความสะดวกทั้งเรื่องของอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในพิธี ช่วยให้เราลดขั้นตอนยุ่งยากออกไปได้เยอะมาก เรียกได้ว่าครบตอบโจทย์การจัดงานแบบที่คู่บ่าวสาวมองหาเลยค่ะ
Best Western Plus Wanda Grand Hotel เค้ามีแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ เลือกได้ตามความชอบและงบประมาณ ทั้งแพ็กเกจงานหมั้น แพ็กเกจงานแต่ง และเนื่องจากว่าคู่เราได้ทำการจัดงานหมั้นกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้เราก็เลยเลือกแพ็กเกจงานแต่งอย่างเดียวค่ะ ซึ่งแพ็กเกจที่เราเลือกก็จะรวมสถานที่จัดงาน + ห้องพัก 1 คืน + อาหารสำหรับงานเลี้ยงและอุปกรณ์ตกแต่งที่ต้องใช้ในงานพิธีทั้งหมดด้วยค่ะ
แต่ถึงแม้ว่าคู่เราจะไม่ได้จัดงานหมั้นกันที่โรงแรม แต่วันนี้เราก็ได้นำภาพส่วนหนึ่งในพิธีหมั้น รวมพิธีขันหมากของเพื่อนสนิทที่เคยจัดที่โรงแรม Best Western Plus Wanda Grand มาเล่าให้ฟังกันด้วย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่กำลังวางแผนหมั้นและจัดงานแต่งที่โรงแรมนี้ จะได้รู้ว่าเราต้องเตรียมตัวอะไร ยังไงบ้าง และเมื่อเสร็จแล้วงานจะออกมาหน้าตาประมาณไหนค่ะ
เริ่มกันที่งานพิธีหมั้นในช่วงเช้าค่ะ สำหรับรายละเอียดการจัดงานหมั้นของเพื่อน เราจะขอเล่าการจัดไทม์ไลน์คร่าว ๆ ไว้ตามนี้ค่ะ
6.09 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์
7.50 น. ตั้งขบวนขันหมาก
8.09 น. พิธีแห่ขันหมาก
8.39 น. พิธีเจรจาสู่ขอและพิธีสวมแหวนหมั้น
9.00 น. พิธีรับไหว้ผู้ใหญ่
10.00น. พิธีรดน้ำสังข์
11.30น. พิธีส่งตัวเข้าหอ
(**** รายละเอียดเวลาของเพื่อน ๆ อาจจะแตกต่างกันไปตามฤกษ์มงคลของแต่ละคนนะคะ)
ช่วงเช้า หลังจากที่เตรียมตัว แต่งหน้าพร้อมชุดพร้อม ก็ได้เวลาเริ่มต้นพิธีสงฆ์กันค่ะ ทางเพื่อนก็ได้เชิญพระสงฆ์ที่นับถือมาประกอบพิธีในครั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ มีการทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ซึ่งตรงนี้ทางโรงแรมก็ยังได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อาสนะสำหรับพระสงฆ์/ โต๊ะหมู่บูชา/ ตั่งรดน้ำสังข์/ ชุดรับแขก เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ (หรือคู่ไหนที่ต้องการเวลาที่กระชับขึ้นมาก็สามารถจัดงานแบบลดสัดส่วนลงมาให้เหลือเพียงแค่เฉพาะพิธีหมั้นก็ได้เช่นกันค่ะ)
หลังจากรอฤกษ์พร้อม ทุกอย่างพร้อม ก็ได้เวลาเริ่มเข้าพิธีการสู่ขอและตั้งขบวนแห่ขันหมากกันค่ะ ซึ่งในระหว่างนี้เพื่อนเราก็ได้รออยู่กับคุณแม่อยู่ในห้องพักของทางโรงแรมค่ะ เมื่อถึงเวลาได้ฤกษ์มงคล ทีมเจ้าบ่าวพร้อมขบวนขันหมาก พานธูปเทียนแพ ขันหมากเอก และขันหมากโท ก็จะค่อย ๆ เคลื่อนขบวนขึ้นมาสู่ขอ สำหรับคนที่นำขบวนขันหมากในคราวนี้ก็คือคุณพ่อ และญาติผู้ใหญ่ของทางเจ้าบ่าวค่ะ
สำหรับงานหมั้นครั้งนี้เราเองก็ได้มีโอกาสมาช่วยเพื่อนกั้นประตูเงินประตูทองในครั้งนี้ด้วย ^^ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเฮฮา สนุกสนานมาก ๆ และเมื่อทางเจ้าบ่าวฝ่าประตูต่าง ๆ ได้แล้ว ทางแม่เพื่อนก็ได้รับพานขันหมากทั้งหมดไว้เสร็จเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของพิธีการเจรจาสู่ขอและสวมแหวนหมั้นค่ะ
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงนับสินสอดค่ะ ซึ่งสถานที่ที่จัดงานทาง Best Western Plus Wanda Grand Hotel เค้าก็ดูแลและจัดเตรียมไว้อย่างดี ทั้งอุปกรณ์ประกอบ จากนั้นคุณแม่ของเจ้าสาวก็จะทำการนับสินสอด ซึ่งสินสอดที่เตรียมมาก็จะจัดวางอยู่บนผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง ประกอบด้วยสินสอดทองหมั้น และเครื่องประดับต่าง ๆ ค่ะ หลังจากนับเสร็จแล้ว ก็จะมีการโรยถั่วงา ข้าวตอกดอกไม้ไปบนสินสอดเพื่อเป็นเคล็ด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เงินนั้นงอกเงยและความรักงอกงาม จากนั้นจะให้ญาติผู้ใหญ่ทางเจ้าสาวแบกสินสอดขึ้นไว้บนบ่าพร้อมพูดเสียงดัง ๆ ว่า หนักมากเลย เงินเยอะมาก แบกไม่ไหวแล้ว หลังจากนั้นก็จะนำไปเก็บไว้ทางด้านหลัง
ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ มาถึงแล้ว ช่วงพิธีสวมแหวนค่ะ หลังจากแม่เจ้าสาวได้ทำการกล่าวอนุญาตแล้ว เจ้าบ่าวจะเข้าไปกราบคุณแม่ และเดินมารับตัวเราไปเข้าร่วมพิธีพร้อมพวงมาลัย เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะเข้าไปกราบคุณพ่อแม่ของทั้ง 2 ครอบครัว และเมื่อใกล้ถึงเวลามงคล ก็เตรียมพิธีสวมแหวน ในการสวมแหวนทางเจ้าบ่าวจะเป็นคนสวมให้เจ้าสาวก่อนค่ะ และตามธรรมเนียมเจ้าสาวก็จะต้องกราบที่ตักเจ้าบ่าว แล้วสวมแหวนกลับค่ะ เจ้าบ่าวก็จะหอมแก้มเป็นการขอบคุณ เป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกปลาบปลื้ม(แทนเพื่อน) สุด ๆ
หลังจากสวมแหวานเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่ช่วงพิธีรับไหว้ หรือพิธีไหว้ผู้ใหญ่ โดยพิธีนี้บ่าวสาวจะทำการกราบเคารพญาติผู้ใหญ่ โดยเรียงลำดับจากกราบคุณพ่อคุณแม่ของทางฝ่ายเจ้าบ่าว 3 ครั้ง ซึ่งทางโรงแรมก็จะได้จัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ มาไว้ให้ด้วยค่ะไม่ว่าจะเป็นพานธูป เทียนแพ จากนั้นจะตามด้วยการเคารพพ่อแม่เจ้าสาว และไล่เรียงไปจนถึงญาติคนอื่น ๆ จนครบ หลังจากที่ท่านได้ให้พรและผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือเสร็จแล้ว ท่านก็ใส่ซองเงินลงบนพานเพิ่มเติม เสร็จแล้วก็รอฤกษ์เพื่อที่จะทำพิธีต่อไปค่ะ
เมื่อถึงฤกษ์ที่ได้กำหนดไว้แล้ว ก็เข้าสู่ช่วงเวลารดน้ำสังข์ หรือชื่อพิธีเต็ม ๆ ว่า “พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และปราสาทพร” เริ่มจากให้ทั้งคู่จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นไปนั่งที่ตั่งเพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งปกติแล้วเค้าจะให้เจ้าสาวเป็นคนนั่งด้านซ้ายของเจ้าบ่าวค่ะ จากนั้นประธานในพิธีงานแต่งก็จะทำการคล้องพวงมาลัย และสวมมงคลแฝดไว้บนศรีษะของทั้งคู่ เจิมที่หน้าผาก และจากนั้นจะให้ประธานเริ่มรดน้ำสังข์เป็นคนแรก ตามด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ แขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน ต่อจากนั้นก็จะเป็นแขกคนอื่น ๆ เมื่อแขกรดน้ำสังข์จนครบทุกคนแล้ว ประธานก็จะถอดมงคลแฝดม้วนเป็นเลข 8 มอบใส่มือบ่าวสาวค่ะ
หลังจากทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกขั้นตอนแล้ว จะถึงช่วงเวลาทำพิธีและส่งตัวเข้าห้องหอค่ะ โดยปกติแล้วทางเจ้าบ่าว จะขึ้นไปรออยู่ที่ห้องหอกับฝ่ายญาติผู้ใหญ่ที่จะทำพิธีส่งตัวให้ เมื่อถึงฤกษ์มงคลแล้วแล้วคุณแม่ของเจ้าสาวก็จะไปส่งที่ห้องนอนค่ะ ทางคุณแม่จะทำพูดฝากฝังเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวอย่างเป็นทางการไว้ด้วย
ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายทางฝ่ายผู้ใหญ่ที่ได้เชิญมาซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานด้วยกันมานานมากแล้ว มีฐานะหน้าที่การงานดี และมีลูกหลานดีจะมาช่วยปูที่นอน จัดเรียงหมอนสองใบให้สวยงาม หลังจากนั้นเค้าจะวางข้าวของตามธรรมเนียมที่ต้องใช้เอาไว้ บนเตียง อย่าง หินบดยาหรือหินก้อนเส้า, ฟักเขียว, แมวคราว (แมวตัวผู้ที่อายุมากแล้ว), พานใส่ถุงข้าวเปลือก งา ถั่วทองหรือถั่วเขียว และขันใส่น้ำฝนมาประกอบพิธีและให้พร โดยของแต่ละอย่างก็จะมีความหมายดี ๆ เป็นสิริมงคลสำหรับชีวิตคู่ หลังจากนั้น ก็เป็นอันเสร็จพิธีหมั้นค่ะ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน