อดีตสสร.40 แสดงจุดยืน ต้องแก้รธน.60 ปชช.ต้องมีส่วนร่วม เชื่อแก้ได้ถ้ารบ.เอาด้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_2025856
 

“อดีตสสร. 40” แสดงจุดยืนต้องแก้รธน.60 แนะ ปชช.ต้องมีส่วนร่วม พร้อมเชิญทุกภาคส่วนออกมาส่งเสียงร่วมหาทางแก้ เชื่อแก้ได้หากรัฐบาลเอาด้วย
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ถ.พระราม 9 อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 (ส.ส.ร.40) อาทิ นายธงชาติ รัตนปรีชา อดีต ส.ส.ร.นครศรีธรรมราช นายเดโช สวนานนท์ ส.ส.ร.สุราษฎร์ธานี นายบุญเลิศ คชายุทธเดช ส.ส.ร.นนทบุรี นายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ส.ร.ตาก และนายสุธินันท์ จันทระ ส.ส.ร.ชุมพร
 
โดยนายธงชาติกล่าวว่า วันนี้ตัวแทน ส.ส.ร.40 ซึ่งเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันจนได้ข้อสรุปซึ่งเป็นสาระสำคัญ 4 ประการคือ

1. ส.ส.ร.40 ที่มาร่วมประชุมในวันนี้ มีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ทางการเมือง ที่กำลังเผชิญวิกฤตการณ์หลายด้าน ดังเป็นที่ปรากฏให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผนวกกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 การเลิกจ้างงาน การชุมนุมของนิสิต นักศึกษา และการท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาอย่างมากในวันนี้
 
2. เราเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างกว้างขวาง ทั้งก่อให้เกิดปัญหาในการพัฒนาประชาธิปไตย และการพัฒนาประเทศ

3. การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 จะต้องแก้กันในประเด็นที่เป็นอุปสรรค เช่น มาตรา 256 ที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นทำได้ยาก หรือเรียกว่าแก้ไม่ได้ด้วยซ้ำไป จะต้องปลดล็อกประเด็นสำคัญตรงนี้ก่อนเพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ง่ายขึ้น
 
และ 4. การแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นขึ้นได้แล้ว จุดเริ่มต้นของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ตามแนวทางของรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยให้ที่มาของ ส.ส.ร.มีจุดยึดโยงกับประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นได้รับการยอมรับ และได้รับความเชื่อถือจากทุกฝ่าย เป็นกฏหมายสูงสุดที่มีความชอบธรรม นำพาประเทศไทยไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
 
เมื่อถามว่า จะมีการขับเคลื่อนอย่างไรเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถแก้ไขได้ นายธงชาติกล่าวว่า ประเด็นสำคัญขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดนี้ เพราะหากรัฐบาลต้องการให้มีการแก้ไขย่อมแก้ไขได้ เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่รัฐบาลเป็นผู้คุมอยู่โดยเฉพาะเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ถ้า ส.ว.เอาด้วยก็แก้ได้ โดยเริ่มจากมาตรา 256 ก่อน ทั้งนี้ วันนี้ในส่วนของฝ่ายค้านก็ทำงานของเขาไป เราออกมาแสดงความเห็นเพื่อให้เห็นว่า เราเห็นด้วยกับแนวทางที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากมีอะไรที่อดีต ส.ส.ร.จะช่วยแก้ไขได้ เราก็พร้อมจะสื่อสาร
 
เมื่อถามว่า เห็นควรว่าจะต้องแก้ไขในมาตราใดบ้าง นายธงชาติกล่าวว่า ที่มา ส.ว.ที่คัดเลือกกันมา ไม่มีส่วนใดยึดโยงกับอำนาจของประชาชน แต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่คัดเลือกกันมาเอง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นแต่เพียงพิธีกรรม ที่จะเสริมสร้างความชอบธรรมให้เขาเท่านั้น ระบบการเลือกตั้งก็เป็นอะไรที่ผิดแผกแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนที่บัตรหนึ่งใบเลือกได้ทั้งคนทั้งพรรค หลักการใหญ่คือรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ทำลายองค์กรทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองเป็นองค์กรทางการเมืองที่ไม่เคยถูกยุบเลย แต่มีการนำเหตุผลที่ไม่สำคัญมายุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นองค์กรประชาธิปไตย ทำให้ระบอบประชาธิปไตยไม่แข็งแรงและอ่อนแอลง
 
เมื่อถามว่า หลังจากนี้อดีต ส.ส.ร.40 จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร หลังจากมีการประชุมวันนี้แล้ว นายธงชาติกล่าวว่า วันนี้คงต้องแสวงหาความร่วมมือกัน วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เรากำลังแสวงหาความร่วมมือจากอดีตส.ส.ร.ทั้งหลาย เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันที่มากขึ้นกว่านี้ และจะแสดงพลังกันต่อไป
 
เมื่อถามว่า จะมีช่องทางใดที่จะสามารถเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แม้ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เอาด้วยหรือไม่ นายเดโช กล่าวว่า ต้องให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงช่วยกันส่งเสียง ว่าจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะรับไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ประชาชนทั้งประเทศเรียกร้อง ตนเชื่อว่าย่อมจะแก้ได้ โดยพวกเราในวันนี้เป็นเพียงคณะหนึ่งในอีกหลายร้อยคณะในประเทศนี้ ที่มีส่วนเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เราจึงขออนุญาตออกมาพูดดังๆ ให้ชัดเจนว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วปล่อยไว้ไม่ได้
 

---

 
ส.ส.เพื่อไทย เตือน กมธ. ระวังโดนเด็กถอนหงอก จี้ รีบเสนอประเด็น แก้รธน.
https://www.thairath.co.th/news/politic/1786210
 
"ชวลิต" ส.ส.เพื่อไทย เตือน กมธ.รธน.ระวังเด็กถอนหงอก จี้ รีบเสนอประเด็นแก้ รธน.เป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว ก่อนประเทศดิ่งเหว ยก "ไทยแลนด์โอนลี่" ส.ว.มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร
 
วันที่ 4 มี.ค. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบว่า วันพฤหัสบดีที่ 5 มีค.2563 จะมีการประชุม กมธ.ศึกษาแก้ไข รธน. เป็นการประชุมถึงครั้งที่ 9 แล้ว แต่งานของ กมธ. ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหาที่ประเทศขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงนั้น เพราะกติกาใน รธน.ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสืบทอดอำนาจ และหัวหน้าคณะรัฐประหาร ก็สืบทอดอำนาจจริงๆ ทั้งใช้อำนาจนั้นอย่างไม่เป็นธรรม จนเด็กถอนหงอกจัดแฟลชม็อบทั่วประเทศ เป็นที่อับอายไปทั่วโลกอยู่ในปัจจุบัน
 
"จะไปต่อว่าเด็กหรือเยาวชนของชาติที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้คงไม่ได้ เพราะเขาเหล่านั้นเห็นเต็มตาว่า ต้องมารับมรดกบ้านเมืองที่ล้มเหลว ยับเยิน จบมาแล้ว ไม่มีงานทำ พ่อ แม่ มีหนี้สินรกรุงรัง ชอบธรรมแล้วหรือที่จะยกมรดกบาปให้กับเยาวชนมารับช่วงต่อ ผู้ใหญ่รุ่นเราต้องส่งมอบมรดกบ้านเมืองที่งดงามให้เยาวชนได้รังสรรค์ต่อในรุ่นต่อรุ่น" นายชวลิต กล่าว...
 
นายชวลิต กล่าวต่อว่า ถ้า กมธ.ศึกษาการแก้ รธน.ไม่ใช้โอกาสนี้รีบสื่อสารกับประชาชนคนไทยว่า จะแก้ รธน.ให้เป็นประชาธิปไตยในประเด็นไหน อย่างไร มีขั้นตอน มีไทม์ไลน์อย่างไร ถ้าไม่ทำช่วงนี้ ถือว่าท่านไม่รู้สถานการณ์บ้านเมือง จงใจรักษาอำนาจของคณะรัฐประหาร สมควรถูกสังคมประณาม ไม่ควรทำหน้าที่นี้ต่อไป กลับไปเลี้ยงหลานดีกว่า แต่ถ้าท่านกล้าหาญ หักธงที่ถูกสั่งการมาถือเอาประโยชน์ชาติ บ้านเมืองเป็นที่ตั้งโดยสุจริต สุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มภัยท่าน ขอเรียนยืนยันว่า ไม่มี รธน.ประเทศไหนผิดเพี้ยนเท่ากับ รธน.ปี 60 อีกแล้ว ไทยแลนด์โอนลี่จริงๆ
 
"ขอยกสักหนึ่งตัวอย่าง ไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนในโลก ที่ ส.ว. ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ไม่มีจริงๆ ไทยแลนด์โอนลี่ น่าอับอายๆ จึงขอเสนอแนะให้ กมธ.ศึกษาแก้ รธน. รีบดำเนินการตามที่ประชาชนต้องการ ท่านจะได้รับการสรรเสริญ และได้รับการจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของประเทศไทยในยุคนี้" ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าว...