ความรักของเด็กม.ต้น ที่แสนจะทรมาร

ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยว่ากระทู้นี้อาจจะยาวมากเลยครับ เพราะด้วยเป็นถ้าเล่าแบบรัดรวบมันจะไม่สนุก ให้คิดสะว่ากระทู้เป็นนิยายสั้นเรื่องหนึ่งก็ได้ครับ
และขออภัยด้วยสำหรับภาษาไทยที่เขียนผิด เพราะผมเรียนอยู่ที่ไต้หวัน ส่วนใครอยากรู้ว่าผมมาเรียนที่ไต้หวันได้ยังไง ก็ไปดูกระทู้ที่ผมเคยเขียนไว้ ส่วนชื่อคนต่างๆผมอาจจะปลอมๆขึ้นมาเพราะเหตุการทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุติ (จริงๆนะ)  อันที่จริงผมคิดตั้งนานละว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีหรือไม่ผมคิดไว้ว่าจะเอาเรื่องทั้งหมดของผมไปเขียนเป็นนิยาย แต่เนื่องจากเมื่อคืนผมฝันบวกกับผมเพิ่งกับจากญี่ปุ่นกักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน ดังนั้นเลยตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ออกมา ส่วนถ้าใครอยากรู้ว่าผมฝันอะไรถึงคิดเขียนออกมา ตอนท้ายผมถึงเฉลยครับ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมแต่งขึ่นมาเอง (จริงๆนะ) โอเคเริ่มกันเลยดีกว่า  
  
เรื่องของผมมันเริ่มขึ่นตอนขี้น ม.2 เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งได้ย้ายไปที่อื่นเนื่องจากเรื่องที่บ้านเมื่อมันย้ายออกไปจากที่ตอน ม.1 ผมไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษอยู่ดีๆผมก็ไปสนิทกับหลิว มันเป็นคนที่จะเรียกว่าเด็กเกเรก็ได้แต่สำหรับผมมันเป็นเพื่อนสนิทที่หาอะไรสนุกๆทำไปเลย พอผมเริ่มสนิทกับหลิว ผมก็เริ่มสนิทกับนาง(คนที่ผมชอบ) นางมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อลี เจ้ลีจะมีรสนิยมที่ชอบผู้ชายเลวๆ อย่างที่ผมเคยได้ยินจากผู้หญิงคนอื่นว่า ผู้ชายไม่เลวผู้หญิงไม่ชอบ แต่ด้วยปากที่ไม่มีหูรูดทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่ชอบ ส่วนนางก็จะชอบตามเจ้ลีไป ด้วยหน้าตาที่น่ารักบวกกับบุคลิกที่ใสซื่อแน่นอนว่าต้องตกเป็นเป้าหมายของพวกเพลบอยแน่นอน แล้วนางก็ดันมีรสนิยมเดียวกับเจ้ลีผมเลยไม่แปลกใจที่สนิทกันมากขนาดนั้น ตอน ม.1 นางมีคนที่ชอบอย่างมากชอบแบบที่เขาเรียกว่าหัวปักหัวปลัมกันเลยทีเดียว แล้วคนที่นางชอบก็ถือว่าเป็นหัวโจกของ ม.1 เลยก็ได้แต่พอขึ่นขอเรียกมันว่าไอ้อ้วนละกัน (ผมไม่ได้แค้นอะไรนะครับแต่มันอ้วนจริงๆ) แต่พอ ม.2 มันมีเรื่องเกิดขึ่นเลยทำให้รุ่นพี่ที่มันรู้จักและเป็นขาใหญ่ของ ร.ร. เกลียดมันผมขอไม่เล่ารายระเอียดละกันด้วยยาว อย่างรู้กันครับ ผู้ชายแบบนั้นเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นอยู่แล้ว นางคบกับไอ้อ้วนตอนนั้นผมไม่ได้สนิทกับนางผมถึงมารู้ทีหลังด้วยความไร้เดียงสาของนางก็ทำให้ไอ้อ้วนเป็นแผลใจของนาง แต่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดครับ   
สุดท้ายนางก็ไม่เข็ดครับนางสนิทกับเจ้ลีมากขึ้นหลังจากเลิกกับไอ้อ้วน ทำให้นางรู้จักคนจาก ม.ปลาย อื่นอีกเยอะพอผมเริ่มสนิทกับนางจากที่เป็นเพื่อนก็กลายเป็นเพื่อนสนิท ผู้หญิงในห้องไม่ค่อยชอบนางสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้บาดหมางกัน พอกลายเป็นเพื่อนสนิทก็กลายเป็นว่าผมหลงเสน่ห์นางไปสะแล้วเอาจริงนางเป็นเสปคของผมด้วยซ้ำ ตัวเตี้ยๆหน้าตาหน้ารัก ไม่แปลกที่จะมีผู้ชายหลายคนมาจีบ   
แต่ก่อนที่จะเริ่มเรื่องความทรมารไปรู้จักเพื่อนสนิทผมหลิวก่อนละกัน หลิวมันจะเป็นคนแบดๆหน่อยมันรู้จักคนเยอะแต่ไม่ใช้คนที่ชอบหาเรื่องคน ที่ผมสนิทกับนางเพราะหลิวมันเป็นคนแบดๆเนี่ยแหละ แล้วเพื่อนผมยังมีอีกคนผมเรียกมันว่า จา ไอ้จาจะเป็นคนอ้วนๆและมันก็เหมือนกับหลิว รู้จักคนแต่ไม่หาเรื่อง พวกผมสามคนมักจะก่อเรื่อง ก็ตามสูตรเด็กเกเรครับ จนครูห้องปกครองเวลาเกิดเรื่องของห้องผม มักจะถามว่าแล้วสามตัวนั้นไม่เกี่ยวหรอ พูดแล้วขำ พวกผมเกเรแต่ก็ไม่ค่อยเดือดร้อนห้องอื่นสักเท่าไรส่วนมากจะเกรียนครูสะมากกว่า เด็กอะนะหาเรืองสนุกๆเล่นไป   
กับมาเรื่องของนาง แน่นอนหลังจากเลิกกับไอ้อ้วน นางก็ไปคบกับผู้ชายนอก รร แล้วก็ตามเคยครับเลิก พอทีนี้นางก็ยังไม่เข็ดแต่เพิ่มเติมคือสูบบุหรี่ครับ จริงไอ้เจ้ลีมันก็ดูดอยู่แล้ว นางเพิ่งมาสูบทีหลัง ทีไอ้หลิวสนิทกับพวกนางเพราะมันก็สูบเหมือนกัน พอขึ้นเทอม 2  พอนางเลิกกับคนนี้นางก็ไม่ได้คบกับใครในเทอมนี้เลย ทุกครั้งมักจะเห็นนางทำหน้าเศร้าส่วนไอ้หลิวก็จะเป็นคนกวนๆหน่อยเลยชอบไปสกิดต่อมน้ำตาของนาง ผมมักจะสงสารนางและชอบคิดว่าทั้งๆที่รู้ผลสรุปแต่ก็ยังจะคบกับพวกนั้นอีก จากความสงสารกับกลายเป็นอยากปกป้องไม่อยากเห็นน้ำตาของนาง หลังจากนั้นผมก็เริ่มคุยกับนางมากขึ้นพอสนิทมากขึ้นพอผมได้พูดกับนางมากขึ้นมันทำให้รู้ตัวว่าผมกำลังรักนาง มันไม่ใช้ความชอบแต่มันคือความรัก มีอยู่วันหนึ่งเวลาพักนางชอบมาหาผม พอนางเขามาใกล้ๆหัวใจผมก็เริ่มเต้นแรงขึ่นเลยๆ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกมากเพราะความรู้สึกแบบนี้มันทำให้ผมปวดหัวมาก ช่วงนั้นผมเป็นช่วงที่ผมเริ่มดูดบุหรี่ไม่นาน ถามว่าเพราะอะไรผมถึงดูดบุหรี่ เพราะว่าความรักมันทำให้คนตาบอด ผมคิดว่าทำตัวแบดๆ นางอาจชอบผมก็ได้(บวกกับตอนนั้นเป็นช่วงที่มีเรื่องหลายอย่าง) ช่วงนั้นถือว่าเป็นช่วงทรมารที่สุดเพราะผมหัวใจเต้นแรงเวลาที่เจอนาง แต่ก็ถือว่าโชคดีผมตอนนั้นใกล้จะปิดเทอมใหญ่ ผมค่อยๆนำทางนางมาเรื่อยๆ จนมันมีครั้งนึงที่ผมถามว่าจะเรียนต่อที่ไหน นางบอกจะไปเรียนโรงเรียนกลางคืนส่วนตอนกลางวันก็ทำงานตอนนั้นผมแบบเอาจริงดิ ผมก็พูดกับนางว่า  
 “แน่ใจนะ ถามจริงจะไม่เสียภายหลังจริงนะ”   
“ไม่รู้ดิแต่พ่อเราให้ความหวังเราสูงเกินอาจจะแค่อยากออกมาจากตรงนั้นแค่นี้ละมั่ง”  
“แต่มันก็ดีแล้วไม่หรอ แต่เขาความคาดหวังจาก เนี่ยแหละพ่อแม่ต้องคาดหวังจากเราเป็นธรรมดา ดีกว่าที่เขาไม่สนใจแล้วปล่อย”   
นางอึ้งไปสักพักแล้วยิ้มให้ผมแล้วเดินจากไป ก่อนนางจะจากไป ผมบอกให้นางเลิกบุหรี่ นางเลยบอกให้ผมเลิกก่อนแล้วนางจะค่อยเลิก ผมเลยไม่แตะ  ถามว่านางเลิกไหม สักพักอะครับเพราะช่วงปิดเทอมไม่ค่อยได้คุยกับนาง เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบทักคนอื่นก่อน เลยไม่ได้คุยกันต่อนปิดเทอมใหญ่ นางก็ไปคบอีกคนรู้สึกนางจะชำจากคนนี้มาก แต่ก็เลิกก่อนเปิดเทอม ผมที่ในช่วงปิดเทอมเอาแต่คิดเรื่องนาง เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่าตัวผมเองชอบนาง ทำให้ในช่วงเปิดเทอมขึ่น ม.3 เลยต้องค้นคำตอบ พอเปิดเทอมวันแรกตามสูตรผมครับไปสายเพื่อที่จะไม่ต้องไปฟัง ผ.อ บ่นเลยไม่รู้ว่ามีนักเรียนหญิงใหม่เข้ามาในห้อง ส่วนมากผมเข้าห้องมาสิ่งแรกที่ทำคือนอน ฉะนั้นเลยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ พอผมได้รู้ว่านางโดนเล่นกับความรู้สึกผมก็รู้ได้เลยผมลืมมองจุดสำคัญไปคือเจ้ลี เพราะเจ้แกเลยทำให้นางได้เจอกับพวกนอก รร แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้เพราะผมก็สนิทกับเจ้ลีเหมือนกับ ส่วนนักเรียนใหม่ดูเหมือนจะสนิทกับพวกนางอย่างมากแต่พอกลับมาจากทัศนศึกษาก็เกิดเรื่องทำให้นางกับเจ้ลีทะเลาะกัน เจ้ลีอยากจะคืนดีกับนางแต่ด้วยเรื่องหลายอย่างทำให้นางไม่อยากคืนดี ส่วนเด็กใหม่ก็ไปอยู่ฟังนางเพราะเด็กใหม่เห็นบรรยากาศในห้องก็รู้ดีมีหลายคนที่เกลียดเจ้ลี เป็นคนที่ฉลาดใช่ได้ พอเรื่องเริ่มเพลาลง  
ผมที่รู้ว่าตัวเองชอบนางแล้วก็กะจะสารภาพรักออกไป ผมที่คิดมาอย่างดีแล้วว่าถ้าปฎิเสษก็แค่กลับไปเป็นเพื่อนสนิทนางเหมือนเดิม นางมีความสุขแค่นี้ผมก็พอใจแล้ว แต่ผมก็เจอกับเรื่องตลกแล้วครับ ผมกับอาจารประจำชั้นสนิทกันจนมี Line ครูประจำชั้นชอบออกหัวขอรายงานแล้วให้พวกผมไปเขียน
 อย่างเช่น ฉันชอบ...เพราะอะไร และหัวขอทีครูออกคืออยากจะขอบคุณใครในห้อง ขอความเขียนไว้ว่านางอยากขอบคุณผมเพราะผมมักจะใช้ความคิดของตัวเองช่วยนำทางนางในทางที่ถูก 
 
 ผมปวดหัวอย่างมาก ผมพูดเอาแต่พูดว่า ความจริงแล้วนางคิดยังไงกันแน่ วันที่ผมจะสารภาพออกไป แต่นางก็กลับให้ความหวังผม แล้วผมควรทำยังไงรอเวลาต่อไปทรมารตัวเองต่อ ไปหรือจะพูดออกไป ทำให้ผมคิดหนักมาก และสิ่งที่ผมเลือกก็คือยุทติทุกอย่างผมสารภาพออกไปและเป็นอย่างที่ผมคิด  
“กูชอบวะ”  
“…..........”  
“่กูแค่อยากหยุดความรู้สึกที่มีให้”  
“เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้วเนอะ”  
“แน่นอนคำสารภาพครั้งนี้ก็เพื่อหยุดทุกความรู้สึกที่กูมีให้ เจอกันพรุ้งนี้”  
และผมก็ปากไม่ตรงกับใจครับ ผมไม่ได้พูดว่าผมอยากปกป้องนางผมไม่ได้พูดว่าไม่อยากเห็นน้ำตานนาง ผมไม่กล้า กลับกลายเป็นว่าผมไม่กล้า กลับกลายเป็นว่าผมไม่กล้าที่จะทำลายกำแพงนั้น แต่มันยังไม่จบ หลังจากนั้นเพื่อนผมไอ้หลิว ผมได้บอกกับมันว่าผมโดนนางปฏิเสธ มันก็หัวเราะใหญ่แล้วมันก็บอกว่า รู้สึกไงวะกูอยากสารภาพรักดูบาง มันบอกว่างั้นกูลองไปสารภาพรักกับนางดูแล้วกัน  ผมได้ยินคำนี้มันทำให้ผมกลัวมากผมก็บอกมันว่า งั้นมาพนันสนุกเกอร์กันถ้าใครแพ้ไปสารภาพรักกับใครสักคนในห้อง และผมก็ตั้งใจแพ้เพราะผมรู้ว่ามันต้องไปสารภาพกับนางแน่ๆ เพราะว่าไอ้หลิวมันกล้าแค่นางเพราะผู้หญิงคนอื่นมันไม่สนิท ทั้งๆที่รู้ว่านางต้องรู้ว่าเล่นกันแต่ในใจผมมันกลัว พวกผมเป็นพวกที่พนันจริงจังฉะนั้นสัญญาก็ต้องเป็นสัญญาผมหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดไปที่ messenger ผมได้พิมไปว่า  
"กูว่ากูยังชอบหว่ะ กูลืมความรู้สึกนี้ไปไม่ได้  
"ลืมไม่ได้หรือไม่อยากลืม" 
"ไม่รู้ดิ แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอนเลย" 
"…............" 
"กูไม่ได้ต้องการอะไรมากแต่กูแค่อยากได้คำตอบ" 
"…............." 
"กูชอบเป็นแฟนกับกูได้ไหม" 
"กูขอโทษกูกลัวว่าจะเล่นกับความรู้สึกกูเหมือนคนอื่นกูเลยไม่อยากคบกับ" 
"…..............." 
"ไม่เป็นไรนะ" 
"อืมกูโอเค" 
"แต่กูว่าไม่โอเค" 
"แค่กูได้ยินคำตอบกูก็ดีใจแล้ว"  
  
วันถัดมาผมมองหน้านางแถบไม่ติดนางเอาแต่หลบหน้าผมตลอด จนไอ้หลิวทนไม่ไหวมันเข้าไปคุยกับนางโดยที่ผมไม่รู้ตัว แล้วอยู่ดีผมก็เห็นนางทำหน้าทุกข์ แล้วนางก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมที่ยังไม่รู้เรื่องก็เดินไปถามไอ้หลิว มันบอกว่าเห็นรายงานของนางที่เขียนถึงผมตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้บอกผม มันเลยไปรู้สึกหงุนหงินเลยไปถามให้แล้วคำตอบของนางก็คือไม่รู้ กลายเป็นคำตอบที่ผมได้มันไม่ใช้ของจริง เด็กใหม่ที่เห็นนางไปห้องนำโดยใบหน้าอันโศกเศร้าก็เลยตามไปทำให้ผมรู้ทันทีว่า ผมเผลอไปทำร้ายเขาโดยไม่รู้ตัวสะแล้ว ผมบอกกับตัวเองว่าพอเถอะหยุดตามหาความจริง ให้ทุกอย่างมันพอแค่นี้ ไม่งั้นคนที่ทรมารอาจไม่ใช้ผมแต่เป็นนาง  
  
  
หลังจากนั้นผมก็พูดคุยกับนางปกตินางตอนแรกมันกันยังทรมารแต่หลังมาความรู้สึกก็ค่อยๆจางลง นางเป็นคนชอบโพส IG อยู่บ่อยๆเวลาที่นางไม่สบายผมก็จะทักไปเหมือนแต่ก่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งผมทะเลาะกับคนในบ้านเพราะรู้ว่าผมสูบบุหรี่ มันทำให้ผมที่มีแผลในใจอยู่แล้วมันระเบิดออกมาผมเป็นคนที่อคติครับตอนนี้ยังหาเหตุผลของการมีขีวิตอยู่เลย ผมไม่ชอบคนที่บ้านครับเมื่อก่อนมักจะมีปากเสียงกันตลอด แต่ต่อมาผมเริ่มไม่โต้ตอบก็ไม่ค่อยทะเลาะแต่มันเริ่มสร้างกำแพงกับหลุมในหัวใจ ผมไม่เคยไว้ใจใครที่จะพูดเรื่องในบ้านออกไป แต่ผมกลับไว้ใจนางแล้วได้ให้นางช่วยผม เป็นครั้งแรกเลยครับทีขอให้ใครช่วยเรื่องของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่เกิดเรื่องแย่ผมจะเก็บไว้ในใจแล้วบอกกับตัวเองว่า วันข้างหน้าจะดีกว่านี้ แต่ผมกลับเชื่อใจนาง ที่ผมนำมาเขียนเพราะผมฝันว่าแฟนเก่านางมาขอคืนดี แต่นางไม่พูดอะไรแล้วร้องไห้ พอนางลุกไปผมที่นั้งกับหลิวที่เห็นเหตุการอยู่ดีๆผมก็น้ำตาไหล หลิวถามผมร้องไห้ทำไมผมบอกมันว่าไม่รู้ดิ แล้วก็ตื่นพร้อมกับน้ำตาในโลกจริง มันเลยทำให้ผมรู้สึกอยากเขียนขึ้นมา ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่