รีวิวนี้เราจะพาไปออกทริปพักผ่อนเที่ยวเกาะช้างแบบง่ายๆ และแนะนำ ที่พักเกาะช้าง ราคาประหยัด แต่โลเคชั่นดี ริมทะเล เป็นทริปที่ ลางานวันเดียว ได้เที่ยวครบ จบ ในทริปเดียว!

บรรยากาศรีสอร์ท จะสวยน่าพักผ่อนแค่ไหน…กดอ่านรีวิว และดูภาพต่อในโพสต์นี้ได้เลย!

แพลนคร่าวๆ ของเราในรีวิวนี้
🏊🏻‍♀️ นอนพักผ่อน เล่นน้ำในรีสอร์ท
🦐 ดินเนอร์อาหารทะเลบนหาดหน้ารีสอร์ท
🚣🏻‍♀️ พายคายักชมพระอาทิตย์ตก
🍴 ชิมอาหารพื้นเมืองที่ร้าน Koh Chang 2488 Rustic Eastern Cuisine
 



การเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไป เกาะช้าง จ.ตราด
เราขับรถจากกรุงเทพฯ ไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. จากนั้น นำรถขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะช้าง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (เรือออกทุกครึ่งชั่วโมง)

สรุปค่าใช้จ่าย เฉพาะค่าเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปเกาะช้าง
- ค่าน้ำมันจากกรุงเทพฯ ไปเกาะช้าง ไปกลับ ประมาณ 900 บาท (เราใช้รถ Honda City)
- ค่าทางด่วนไปกลับทั้งหมด จากบ้านเราแถววงเวียนใหญ่ ประมาณ 300 บาท
- ค่าเรือเฟอร์รี่ สำหรับรถยันต์สี่ล้อ 1 คัน 120 บาท ไปกลับ 240 บาท
- ค่าเรือเฟอร์รี่ สำหรับบุคคล คนละ 80 บาท ไปกลับสองคน 320 บาท
รวมค่าเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ไปกลับทั้งหมด 1,760 บาท

 
Vayna Boutique Koh Chang
ครั้งนี้เราสองนุ่นเลือกที่พักที่ ‘เวนะ บูทีค เกาะช้าง’ ( VAYNA Boutique Koh Chang ) เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ริมหาดคลองพร้าว ที่เพิ่งรีโนเวทเสร็จและเปลี่ยนชื่อใหม่ ( ชื่อเดิมคือ VJ Serenity Koh Chang ) ทางเจ้าของเค้าได้ปรับปรุงรีสอร์ทใหม่เมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะโซนสระว่ายน้ำและบาร์ ที่สวยกว่าเดิมมาก จนจำของเดิมไม่ได้!

เมื่อมาถึงรีสอร์ท จะพบกับบริเวณล้อบบี้ หรือ แผนกต้อนรับ ไปเช็คอินและรับกุญแจห้องกันก่อนเนาะ เวลาเช็คอินที่นี่ก็ตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปเลย เช็คอิน 14:00 น. เช็คเอ้าท์ 12:00 น. ของวันถัดไป

 
ก่อนจะพาเข้าห้องไปดูห้องพัก เราขอพาไปที่ไฮไลท์ ซึ่งคือสระว่ายน้ำของรีสอร์ท จะอยู่ติดริมหาดแบบนี้ มองเห็นทะเลจากมุมนี้เลย และ มี bean bag ริมสระ ให้นั่งชิลกันด้วย
   


ในสระว่ายน้ำ มีมุมนึง ที่สามารถเปิดระบบจากุชชี่ได้ด้วย ไปนั่งแช่น้ำได้เพลินๆ

 
บริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำ หน้าหาด จะมีบาร์เล็กๆ ที่ดีไซน์เก๋ๆ มีชิงช้า ให้นั่งดื่มไป ชมวิวทะเลชิลๆ ได้ด้วย
 
 
ใครชอบอาบแดด จะหลงรักที่นี่ิเพราะเค้ามีเตียงอาบแดดให้เยอะมาก ลากไปริมหาดตามชอบได้เล้ย! และเราชอบที่โลเคชั่นรีสอร์ท จะอยู่ปลายหาดคลองพร้าวพอดี ซึ่งมุมนี้สงบกว่าช่วงอื่นของหาดนะ

 
หนึ่งในกิจกรรม ที่ห้ามพลาดของที่นี่ ก็คือ พายคายัก ชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งทางรีสอร์ทมีคายักให้เช่า ชม. ละ 100 บาท หรือถ้าจองแบบแพ็คเกจมากับทางรีสอร์ท จะมีบางแพ็คเกจที่รวมกิจกรรมนี้ฟรีด้วย ก่อนจองห้องพักที่เว็บไซต์อื่นๆ อย่าลืมติดต่อสอบถามกับทางรีสอร์ทโดยตรงด้วยนะคะ เวลาจองตรงกับรีสอร์ท มักจะได้สิทธิพิเศษอื่นๆ มากกว่าเสมอ : )
 
 
ถ้าใครเป็นสายชิลแนะนำว่า ต้องมานั่งชมพระอาทิตย์ตกบนโขดหินริมหาดหน้ารีสอร์ทตรงนี้ มุมนี้ทั้งสงบ ทั้งสวย และแอบโรแมนติก ฝั่งหาดคลองพร้าว จะเห็นวิวพระอาทิตย์ตก สวยที่สุดบนเกาะช้างเลยล่ะ!
 
  
และในค่ำคืนแรกบนเกาะช้าง แนะนำว่า อย่าเพิ่งออกไปไหนไกล ทานดินเนอร์กันริมหาดหน้ารีสอร์ทนี่แหละ
บรรยากาศดี๊ดี และราคาไม่แพงแบบนี้… จะหนีไปที่อื่นทำไม เนาะๆ
ที่รีสอร์ท จะมีเมนูดินเนอร์ให้เลือกทั้งแบบอาหารไทย พวกเมนูซีฟู๊ดต่างๆ และแบบบาร์บีคิว

 
เริ่มต้นมื้อนี้ด้วย Cocktails เย็นๆ คนละแก้ว
 
 
อาหารที่เราทานกันวันนี้เป็นแนว ซีฟู๊ด หรือ เมนูอาหารทะเลต่างๆ
จานแรกนี้คือ “พล่าปลากระพง” เค้าเสิร์ฟมาแบบประกระพงทอดกรอบทั้งตัว และราดน้ำพล่ามาบนตัวปลาเลยค่ะ รสชาติไม่จัดจ้านมากเท่าไหร่
 

จานต่อมาในภาพด้านบน คือ ข้าวผัดสับปะรด ที่เสิร์ฟมาให้ในลูกสับปะรด และโรยเม็ดมะม่วงหิมพานมาด้วย
และในภาพด้านล่างคือ กุ้งลายเสือผัดพริกเกลือ
เราสองนุ่นชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ เค้าใช้กุ้งตัวใหญ่และสดมากกกก เนื้อกุ้งคือเด้งกรุบๆ และปรุงรสมาได้จัดจ้านถึงใจ และกลมกล่อมมาก
 

มาดูส่วนห้องพักกันบ้างเนาะ นี่คือทางเข้าตึกห้องพักค่ะ ดีไซน์ได้อารมณ์ความเป็นไทย ถ่ายรูปออกมาดูแปลกตาดี และบริเวณด้านข้างตึกจะเป็นที่จอดรถ

 
ห้องที่เรานอนชื่อห้อง TROPICAL THAI ROOM ห้องพัก กว้างขวาง ไม่แออัด มีต้นไม้ประดับ กว้าง 45 ตรม. มีเตียงขนาด 6 ฟุต นุ่มและหลับสบายมากๆ และ มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำ และห้องน้ำก็แบ่งสัดส่วนอย่างดี
ถึงจะไม่เห็นวิวทะเลจากห้องนอน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาคืนละประมาณ สองพันบาท ค่ะ

 
 ที่นี่จะมีห้องที่เห็นวิวทะเลแค่ 4 ห้องเท่านั้น ชื่อห้อง TROPICAL THAI ROOM with Seaview ด้านในจะเหมือนกันห้อง TROPICAL THAI ROOM ที่เรานอน แต่จะเห็นวิวทะเลจากระเบียงค่ะ

 
อีกหนึ่งมุมที่ทางรีสอร์ทเพิ่งมีเพิ่มเติมขึ้นมาหลังจากรีโนเวทคือมุมนี้ค่ะ บริเวณข้างตึกห้องพัก มีที่นั่งพักท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

 
 
ห้องอาหารของรีสอร์ท ตกแต่งแบบไทยๆ ด้วยสไตล์ไม้ไผ่ แต่แฝงความฟิวชั่นเข้ามาด้วย เรามาทานอาหารเช้า และอาหารเที่ยงที่นี่กันค่ะ
 

อาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทั้งอาหารไทยและฝรั่ง เช่น ไส้กรอก แฮม เบค่อน ขนมปัง ผลไม้ สลัด ไก่ทอด ผัดผัก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว เมนูไข่ดาว ไข่เจียว ที่ทำสดๆ ใหม่ๆ

 
 
และถ้าใครหิวตอนกลางวัน ขอแนะนำ “ขันโตก” เซ็ตนี้อร่อยทุกอย่างและคุ้มมาก มีกับข้าว 4 อย่าง (สะเต๊ะไก่ ต้มยำกุ้งลายเสือ ลาบหมูทอด มัสมั่นไก่) ของหวาน 1 อย่าง (ข้าวเหนียวมะม่วง) และข้าว 1 โถ