ตัดสินถูกหรือไม่?เหล่ากูรูว่ายังไงดราม่าท้ายเกมวีเออาร์เซฟแมนยู
รอย คีน อดีตยอดมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้ ทีมงานกรรมการทำถูกแล้วที่กลับคำตัดสินจนทำให้ "ปีศาจแดง" ไม่เสียประตู ในเกมที่เจ๊ากับ เอฟเวอร์ตัน โดยที่ แกรม ซูเนสส์ กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ 2 อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็มองแบบเดียวกัน แต่ แอนดี้ เกรย์ อดีตดาวเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มองตรงกันข้าม
รอย คีน ตำนานกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของประเทศอังกฤษ กล่าวว่าทีมงานกรรมการตัดสินถูกต้องแล้วที่ไม่ให้ เอฟเวอร์ตัน ได้ประตู ในช่วงท้ายของเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เสมอกับ "ปีศาจแดง" 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
ในช่วงท้ายเกมของนัดดังกล่าว โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน ส่งบอลเข้าไปนอนในก้นตาข่ายได้ จากการที่ลูกยิงของเขาไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังของทีมเยือน ซึ่งตอนแรกกรรมการ คริส คาวานาห์ ตัดสินให้มันเป็นประตู
อย่างไรก็ตาม ทีมงาน วีเออาร์ มองว่าที่จริงแล้วมันควรจะเป็นลูกล้ำหน้า จากการที่ตอนนั้น กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน นั่งอยู่หน้า ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนฯ ยูไนเต็ด โดยที่ไม่มีกองหลังคนไหนของอาคันตุกะอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าเขา จนทำให้ดาวเตะชาวไอซ์แลนด์มีส่วนกับเกมการเล่นจังหวะนี้ และสุดท้ายมันก็มีการเปลี่ยนคำตัดสิน
คีน เผยว่า "ที่จริงผมไม่คิดว่าเขา (เด เคอา) จะเซฟได้อยู่แล้วน่ะนะ แต่กรรมการก็ตัดสินได้ถูกต้องแล้ว บางครั้งจังหวะปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมจนทำให้ประตูที่เกิดขึ้นจะเป็นประตูชัย ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนมองเรื่องต่างๆ ด้วยอารมณ์มากกว่าด้วยหลักเหตุผลตามปกติ แต่จังหวะนี้ไม่ควรเป็นประตู"
"ถ้าเป็นผมน่ะ ผมจะหงุดหงิดที่ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ขยับให้พ้นจากวิถีบอลมากกว่า เขานั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น บอกผมทีเถอะว่าเขารออะไรอยู่ ? สิ่งที่คุณต้องทำคือพยายามออกจากจุดนั้นให้ได้ มันเป็นเรื่องพื้นๆ แท้ๆ ผมเข้าใจดีว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงผิดหวังกันมากๆ แต่มันเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว"
ขณะที่ แกรม ซูเนสส์ ตำนานดาวเตะ ลิเวอร์พูล ที่เป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ อีกราย ก็มีความเห็นแบบเดียวกัน "เขา (ซิกูร์ดส์สัน) อยู่ในทิศทางของลูกยิง จริงอยู่ว่าบอลมันแฉลบ แต่เขาก็อยู่ในทิศทางของมัน กฎมันให้ความสำคัญเรื่องทิศทางของลูกยิง ถ้าเกิดผมเป็นผู้รักษาประตู และมีใครอยู่ตรงนั้นแม้ว่าจะนั่งอยู่บนพื้น มันก็ถือว่าเขาอยู่ในทิศทางของลูกยิง ต่อให้ตอนนั้นสายตาของผมจะไม่ได้จับจ้องที่คนนั้นๆ (หมายถึงในกรณีที่ ซูเนสส์ เป็นผู้รักษาประตู) แต่มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีส่วนกับลูกยิง"
"ตอนแรกอีกฝ่ายตั้งใจยิงเข้ามาตรงกลางประตู ตอนที่บอลออกจากเท้าน่ะเขามองข้ามหัว ซิกูร์ดส์สัน ไปแล้ว อีกฝ่ายอยู่ในทิศทางการยิงอย่างแน่นอน การที่บอลมันแฉลบมันทำให้ทุกคนสับสนก็จริง แต่สำหรับผมแล้วเขาบังสายตาของผู้รักษาประตูอย่างชัดเจน"
ด้าน เจมี่ คาร์ราเกอร์ อีกหนึ่งอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่มาเป็นนักวิเคราะห์ให้ สกายสปอร์ตส์ ก็คิดว่ากรรมการตัดสินถูกต้องเช่นกัน "บอลมันไม่ได้โดนตัว ซิกูร์ดส์สัน และไม่ได้แฉลบตัวเขาเลยก็จริง แต่ประเด็นคือมันถือว่าเขาขวางผู้รักษาประตูอยู่รึเปล่า ? เขาอยู่หน้าผู้รักษาประตูพอดี ดังนั้นมันก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีการตัดสินออกมาแบบนั้น"
อย่างไรก็ตาม แอนดี้ เกรย์ อดีตแข้ง เอฟเวอร์ตัน ที่เป็นกูรูให้ บีอิน สปอร์ตส์ สื่อกีฬาอีกเจ้า บอกว่าลูกนี้ควรจะเป็นประตู เพราะ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ได้ถือว่าขัดขวางการเล่นของ เด เคอา เลย "การที่คุณอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามันไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเป็นจังหวะล้ำหน้าไปซะทุกครั้ง เขาขยับเท้าออกจากทิศทางการไหลของลูกบอลแล้ว ตอนแรก เด เคอา ขยับจะไปเซฟแล้วในตอนที่บอลไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เพื่อนร่วมทีมของเขาเอง ตอนนั้น กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ได้ทำอะไรที่จะส่งผลกับความสามารถในการเซฟของผู้รักษาประตูเลย"
credit : www.siamsport.co.th
องค์กรผู้ตัดสินแจงละเอียดริบประตูชัยเอฟเวอร์ตัน
องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาชี้แจงละเอียดยิบว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงอดได้ประตูชัยในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากมันเป็นประเด็นดราม่าอย่างหนัก
องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (พีจีเอ็มโอแอล) ยืนยันว่าตามกฎแล้วนั้นมันถือว่า กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน เข้าข่ายกับการอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จนส่งผลให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" อดได้ประตูในเกมลีกนัดที่พวกเขาเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
ตอนแรก เอฟเวอร์ตัน คิดว่าพวกเขาได้ประตูชัยแล้ว หลังจากที่ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ยิงไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก่อนที่บอลจะไหลเข้าไปกองในก้นตาข่าย แต่ทีมงาน วีเออาร์ คิดว่ามันเป็นจังหวะล้ำหน้า เพราะตอนนั้น ซิกูร์ดส์สัน นั่งอยู่ตรงหน้า ดาบิด เด เคอา นายด่านของทีมเยือนพอดี โดยที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ต่ำกว่าเขาด้วย ซึ่งหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินครั้งนี้
แถลงการณ์ของ พีจีเอ็มโอแอล เผยว่า "ตอนแรกกรรมการในสนามตัดสินให้มันเป็นประตู แต่แล้วทีมงาน วีเออาร์ ก็แนะนำกับกรรมการว่า ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จากการที่เขาขัดขวางทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา โดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟของ เด เคอา อย่างชัดเจน"
ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดกฎของเกมฟุตบอลนั้น กำหนดเงื่อนไขตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้วว่านักเตะจะถูกตัดสินว่าล้ำหน้าก็ต่อเมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเอง หรือขัดขวางการเล่นของคู่แข่ง โดยในกรณีที่จะเข้าข่ายการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเองนั้น ประกอบด้วยการที่นักเตะคนนั้นๆ เล่นบางอย่างด้วยตัวเอง, จับบอลที่มีคนส่งมาให้ และอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่แล้วในตอนที่เพื่อนร่วมทีมจับบอลในจังหวะแรก
ส่วนกรณีที่จะเข้าข่ายว่าขัดขวางการเล่นของคู่แข่งนั้น มีอย่างเช่น การทำให้คู่แข่งเล่นไม่ได้หรือไม่สามารถเล่นได้ด้วยการบดบังทัศนวิสัยของคู่แข่งอย่างชัดเจน, เข้าปะทะกับคู่แข่งเพื่อเล่นบอล, พยายามเล่นบอลในตอนที่อยู่ใกล้ๆ ในจังหวะที่ถือว่ามีผลกระทบกับคู่แข่ง และการทำบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับความสามารถในการที่คู่แข่งจะเล่นบอล เป็นต้น
cr : www.siamsport.co.th
FA ตั้งข้อหา 'อันเช่' ประพฤติไม่เหมาะสม เหตุโวยเปาหลังเกมเจ๊าผี
คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน ถูกทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ตั้งข้อหาประพฤติตัวไม่เหมาะสม จากการที่เขาไปพูดคุยกับกรรมการหลังจากเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1
ในเกมดังกล่าวทัพ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" เกือบคว้าชัยช่วงท้ายเกมจากลูกยิงของ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ที่ไปแฉลบ แฮร์รี่ แมกไกวร์ เข้าประตู แต่ VAR กลับมองว่า กิลฟี่ ซิกเกิร์ดสัน ที่ล้มอยู่กับพื้นไปรบกวนวิสัยทัศน์ของ ดาบิด เด เกอา ทำให้ประตูดังกล่าวถูกยกเลิกไป
ต่อมาหลังจบเกมกุนซือชาวอิตาเลี่ยน ก็ได้เข้าไปพูดกับผู้ตัดสิน คริส คาวานาฟ แต่กลับได้รับใบแดงเพราะถูกมองว่าไม่เหมาะสม และหลังจากนั้นเจ้าตัวเองก็ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจผิดและได้พูดคุยกันไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดทางเอฟเอ ก็ได้แถลงการณ์ตั้งข้อหากับทาง อันเชลอตติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"คาร์โล อันเชลอตติ ถูกตั้งข้อหาประพฤติตนไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎของเอฟเอ ในข้อ E3 ของ FA" จากแถลงการณ์
"มีการกล่าวหาว่าผู้จัดการทีมของเอฟเวอร์ตัน แสดงภาษา และ/หรือ ประพฤติตน อย่างไม่เหมาะสม ในสนามของการแข่งขันรายการพรีเมียร์ลีก ที่พบกับ
สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวัน อาทิตย์ ที่ 1 มีนาคม 2020"
"เจ้าตัวจะมีเวลาจนถึงวันพฤหัสบดี ที่ 5 มีนาคม 2020 ในการรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว"
หากโทษที่ทาง อันเชลอตติ ได้รับเป็นการห้ามลงคุมทีมข้างสนาม ก็อาจจะส่งกระทบกับการลุ้นพื้นที่ยุโรปของทีมโดยตรง เนื่องจากศึกหนักของพวกเขาในอีก 5 เกมข้างหน้าที่ต้องพบกับ เชลซี, ลิเวอร์พูล, นอริช, เลสเตอร์ และ สเปอร์ส
cr : www.soccersuck.com
ทายซิทีมไหนเอ่ย?เปิดรายชื่อทีมได้ประโยชน์จากวีเออาร์มากที่สุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นทีมที่ได้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือ "วีเออาร์" มากที่สุดในฤดูกาลนี้ ขณะที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ได้ประโยชน์น้อยที่สุดจากระบบนี้ จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อดังในเมืองผู้ดี
ทัพ "ปีศาจแดง" เกือบแพ้ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ยิงบอลไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้าประตูไป แต่ คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์แล้วชี้ว่า กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งลำหน้าจากจังหวะนั่งขวางหน้าปากประตูแม้หุบขาหลบก็ตาม ทำให้จบเกมทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
จากจังหวะดังกล่าว คาร์โล อันเชลอตติ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโมโหสุดขีดขณะที่อยู่ในพื้นที่เทคนิคข้างสนาม โดยหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวของท่านเปา "คาร์เล็ตโต้" เดินตรงปรี่เข้าไปในสนามพร้อมกับพูดจาแบบไม่พอใจใส่กรรมการ จากการกระทำดังกล่าวทำให้ คาวานาห์ จัดการควักใบแดงให้กับ "อันเช่" พร้อมกับชี้นิ้วให้เขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
สำหรับเรื่องนี้มีการถกเถียงกันว่าสมควรเป็นประตูของ เอฟเวอร์ตัน หรือไม่ อย่างไรก็ตาม องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) ยืนยันว่าตามกฎแล้วนั้นถือว่า ดาวเตะไอซ์แลนด์ เข้าข่ายกับการอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จากการที่เขาขัดขวางทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา โดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน เดอะ ซัน ได้มีการเปิดเผยสถิติสโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่ได้ประโยชน์จากการกลับคำตัดสินของ วีเออาร์ มากที่สุด และ ณ ตอนนี้ก็คือทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยพวกเขาได้รับผลบวกถึง 8 ครั้งจากการเล่น 28 เกม ตามด้วย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 7 ครั้ง และ คริสตัล พาเลซ 5 ครั้ง
ในส่วนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์จากวีเออาร์ เพียง 1 ครั้ง เช่นเดียวกับ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้, "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ วิตี้, "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ส่วนทีมที่ได้ประโยชน์น้อยที่สุดก็คือ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ผลติดลบ 6 ครั้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด +8
ไบรท์ตัน +7
คริสตัล พาเลซ +5
เบิร์นลีย์ +4
เซาธ์แฮมป์ตัน +3
เลสเตอร์ +1
ลิเวอร์พูล +1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ +1
นิวคาสเซิ่ล +1
สเปอร์ส +1
บอร์นมัธ 0
วัตฟอร์ด - 1
อาร์เซน่อล -2
เอฟเวอร์ตัน -2
แอสตัน วิลล่า -3
เชลซี -4
เวสต์แฮม -4
นอริช -5
วูล์ฟส์ -5
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด -6
cr : www.siamsport.co.th
เหล่ากูรูว่ายังไงดราม่าท้ายเกมVARเซฟแมนยู & องค์กรผู้ตัดสินแจงริบประตูชัยท็อฟฟี่ & เปิดรายชื่อทีมได้ประโยชน์จากVARมากสุด
รอย คีน อดีตยอดมิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด ชี้ ทีมงานกรรมการทำถูกแล้วที่กลับคำตัดสินจนทำให้ "ปีศาจแดง" ไม่เสียประตู ในเกมที่เจ๊ากับ เอฟเวอร์ตัน โดยที่ แกรม ซูเนสส์ กับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ 2 อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็มองแบบเดียวกัน แต่ แอนดี้ เกรย์ อดีตดาวเตะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มองตรงกันข้าม
รอย คีน ตำนานกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของประเทศอังกฤษ กล่าวว่าทีมงานกรรมการตัดสินถูกต้องแล้วที่ไม่ให้ เอฟเวอร์ตัน ได้ประตู ในช่วงท้ายของเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เสมอกับ "ปีศาจแดง" 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
ในช่วงท้ายเกมของนัดดังกล่าว โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน ส่งบอลเข้าไปนอนในก้นตาข่ายได้ จากการที่ลูกยิงของเขาไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังของทีมเยือน ซึ่งตอนแรกกรรมการ คริส คาวานาห์ ตัดสินให้มันเป็นประตู
อย่างไรก็ตาม ทีมงาน วีเออาร์ มองว่าที่จริงแล้วมันควรจะเป็นลูกล้ำหน้า จากการที่ตอนนั้น กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน นั่งอยู่หน้า ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนฯ ยูไนเต็ด โดยที่ไม่มีกองหลังคนไหนของอาคันตุกะอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าเขา จนทำให้ดาวเตะชาวไอซ์แลนด์มีส่วนกับเกมการเล่นจังหวะนี้ และสุดท้ายมันก็มีการเปลี่ยนคำตัดสิน
คีน เผยว่า "ที่จริงผมไม่คิดว่าเขา (เด เคอา) จะเซฟได้อยู่แล้วน่ะนะ แต่กรรมการก็ตัดสินได้ถูกต้องแล้ว บางครั้งจังหวะปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมจนทำให้ประตูที่เกิดขึ้นจะเป็นประตูชัย ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนมองเรื่องต่างๆ ด้วยอารมณ์มากกว่าด้วยหลักเหตุผลตามปกติ แต่จังหวะนี้ไม่ควรเป็นประตู"
"ถ้าเป็นผมน่ะ ผมจะหงุดหงิดที่ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ขยับให้พ้นจากวิถีบอลมากกว่า เขานั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น บอกผมทีเถอะว่าเขารออะไรอยู่ ? สิ่งที่คุณต้องทำคือพยายามออกจากจุดนั้นให้ได้ มันเป็นเรื่องพื้นๆ แท้ๆ ผมเข้าใจดีว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงผิดหวังกันมากๆ แต่มันเป็นการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว"
ขณะที่ แกรม ซูเนสส์ ตำนานดาวเตะ ลิเวอร์พูล ที่เป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ อีกราย ก็มีความเห็นแบบเดียวกัน "เขา (ซิกูร์ดส์สัน) อยู่ในทิศทางของลูกยิง จริงอยู่ว่าบอลมันแฉลบ แต่เขาก็อยู่ในทิศทางของมัน กฎมันให้ความสำคัญเรื่องทิศทางของลูกยิง ถ้าเกิดผมเป็นผู้รักษาประตู และมีใครอยู่ตรงนั้นแม้ว่าจะนั่งอยู่บนพื้น มันก็ถือว่าเขาอยู่ในทิศทางของลูกยิง ต่อให้ตอนนั้นสายตาของผมจะไม่ได้จับจ้องที่คนนั้นๆ (หมายถึงในกรณีที่ ซูเนสส์ เป็นผู้รักษาประตู) แต่มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีส่วนกับลูกยิง"
"ตอนแรกอีกฝ่ายตั้งใจยิงเข้ามาตรงกลางประตู ตอนที่บอลออกจากเท้าน่ะเขามองข้ามหัว ซิกูร์ดส์สัน ไปแล้ว อีกฝ่ายอยู่ในทิศทางการยิงอย่างแน่นอน การที่บอลมันแฉลบมันทำให้ทุกคนสับสนก็จริง แต่สำหรับผมแล้วเขาบังสายตาของผู้รักษาประตูอย่างชัดเจน"
ด้าน เจมี่ คาร์ราเกอร์ อีกหนึ่งอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่มาเป็นนักวิเคราะห์ให้ สกายสปอร์ตส์ ก็คิดว่ากรรมการตัดสินถูกต้องเช่นกัน "บอลมันไม่ได้โดนตัว ซิกูร์ดส์สัน และไม่ได้แฉลบตัวเขาเลยก็จริง แต่ประเด็นคือมันถือว่าเขาขวางผู้รักษาประตูอยู่รึเปล่า ? เขาอยู่หน้าผู้รักษาประตูพอดี ดังนั้นมันก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีการตัดสินออกมาแบบนั้น"
อย่างไรก็ตาม แอนดี้ เกรย์ อดีตแข้ง เอฟเวอร์ตัน ที่เป็นกูรูให้ บีอิน สปอร์ตส์ สื่อกีฬาอีกเจ้า บอกว่าลูกนี้ควรจะเป็นประตู เพราะ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ได้ถือว่าขัดขวางการเล่นของ เด เคอา เลย "การที่คุณอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามันไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเป็นจังหวะล้ำหน้าไปซะทุกครั้ง เขาขยับเท้าออกจากทิศทางการไหลของลูกบอลแล้ว ตอนแรก เด เคอา ขยับจะไปเซฟแล้วในตอนที่บอลไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เพื่อนร่วมทีมของเขาเอง ตอนนั้น กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ไม่ได้ทำอะไรที่จะส่งผลกับความสามารถในการเซฟของผู้รักษาประตูเลย"
credit : www.siamsport.co.th
องค์กรผู้ตัดสินแจงละเอียดริบประตูชัยเอฟเวอร์ตัน
องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาชี้แจงละเอียดยิบว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงอดได้ประตูชัยในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากมันเป็นประเด็นดราม่าอย่างหนัก
องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (พีจีเอ็มโอแอล) ยืนยันว่าตามกฎแล้วนั้นมันถือว่า กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน เข้าข่ายกับการอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จนส่งผลให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" อดได้ประตูในเกมลีกนัดที่พวกเขาเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
ตอนแรก เอฟเวอร์ตัน คิดว่าพวกเขาได้ประตูชัยแล้ว หลังจากที่ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ยิงไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก่อนที่บอลจะไหลเข้าไปกองในก้นตาข่าย แต่ทีมงาน วีเออาร์ คิดว่ามันเป็นจังหวะล้ำหน้า เพราะตอนนั้น ซิกูร์ดส์สัน นั่งอยู่ตรงหน้า ดาบิด เด เคอา นายด่านของทีมเยือนพอดี โดยที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ต่ำกว่าเขาด้วย ซึ่งหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินครั้งนี้
แถลงการณ์ของ พีจีเอ็มโอแอล เผยว่า "ตอนแรกกรรมการในสนามตัดสินให้มันเป็นประตู แต่แล้วทีมงาน วีเออาร์ ก็แนะนำกับกรรมการว่า ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จากการที่เขาขัดขวางทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา โดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟของ เด เคอา อย่างชัดเจน"
ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดกฎของเกมฟุตบอลนั้น กำหนดเงื่อนไขตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้วว่านักเตะจะถูกตัดสินว่าล้ำหน้าก็ต่อเมื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเอง หรือขัดขวางการเล่นของคู่แข่ง โดยในกรณีที่จะเข้าข่ายการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นของทีมตัวเองนั้น ประกอบด้วยการที่นักเตะคนนั้นๆ เล่นบางอย่างด้วยตัวเอง, จับบอลที่มีคนส่งมาให้ และอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่แล้วในตอนที่เพื่อนร่วมทีมจับบอลในจังหวะแรก
ส่วนกรณีที่จะเข้าข่ายว่าขัดขวางการเล่นของคู่แข่งนั้น มีอย่างเช่น การทำให้คู่แข่งเล่นไม่ได้หรือไม่สามารถเล่นได้ด้วยการบดบังทัศนวิสัยของคู่แข่งอย่างชัดเจน, เข้าปะทะกับคู่แข่งเพื่อเล่นบอล, พยายามเล่นบอลในตอนที่อยู่ใกล้ๆ ในจังหวะที่ถือว่ามีผลกระทบกับคู่แข่ง และการทำบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับความสามารถในการที่คู่แข่งจะเล่นบอล เป็นต้น
cr : www.siamsport.co.th
FA ตั้งข้อหา 'อันเช่' ประพฤติไม่เหมาะสม เหตุโวยเปาหลังเกมเจ๊าผี
คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน ถูกทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ตั้งข้อหาประพฤติตัวไม่เหมาะสม จากการที่เขาไปพูดคุยกับกรรมการหลังจากเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1
ในเกมดังกล่าวทัพ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" เกือบคว้าชัยช่วงท้ายเกมจากลูกยิงของ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ที่ไปแฉลบ แฮร์รี่ แมกไกวร์ เข้าประตู แต่ VAR กลับมองว่า กิลฟี่ ซิกเกิร์ดสัน ที่ล้มอยู่กับพื้นไปรบกวนวิสัยทัศน์ของ ดาบิด เด เกอา ทำให้ประตูดังกล่าวถูกยกเลิกไป
ต่อมาหลังจบเกมกุนซือชาวอิตาเลี่ยน ก็ได้เข้าไปพูดกับผู้ตัดสิน คริส คาวานาฟ แต่กลับได้รับใบแดงเพราะถูกมองว่าไม่เหมาะสม และหลังจากนั้นเจ้าตัวเองก็ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจผิดและได้พูดคุยกันไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดทางเอฟเอ ก็ได้แถลงการณ์ตั้งข้อหากับทาง อันเชลอตติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"คาร์โล อันเชลอตติ ถูกตั้งข้อหาประพฤติตนไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎของเอฟเอ ในข้อ E3 ของ FA" จากแถลงการณ์
"มีการกล่าวหาว่าผู้จัดการทีมของเอฟเวอร์ตัน แสดงภาษา และ/หรือ ประพฤติตน อย่างไม่เหมาะสม ในสนามของการแข่งขันรายการพรีเมียร์ลีก ที่พบกับ
สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวัน อาทิตย์ ที่ 1 มีนาคม 2020"
"เจ้าตัวจะมีเวลาจนถึงวันพฤหัสบดี ที่ 5 มีนาคม 2020 ในการรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว"
หากโทษที่ทาง อันเชลอตติ ได้รับเป็นการห้ามลงคุมทีมข้างสนาม ก็อาจจะส่งกระทบกับการลุ้นพื้นที่ยุโรปของทีมโดยตรง เนื่องจากศึกหนักของพวกเขาในอีก 5 เกมข้างหน้าที่ต้องพบกับ เชลซี, ลิเวอร์พูล, นอริช, เลสเตอร์ และ สเปอร์ส
cr : www.soccersuck.com
ทายซิทีมไหนเอ่ย?เปิดรายชื่อทีมได้ประโยชน์จากวีเออาร์มากที่สุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นทีมที่ได้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือ "วีเออาร์" มากที่สุดในฤดูกาลนี้ ขณะที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ได้ประโยชน์น้อยที่สุดจากระบบนี้ จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อดังในเมืองผู้ดี
ทัพ "ปีศาจแดง" เกือบแพ้ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ยิงบอลไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้าประตูไป แต่ คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์แล้วชี้ว่า กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งลำหน้าจากจังหวะนั่งขวางหน้าปากประตูแม้หุบขาหลบก็ตาม ทำให้จบเกมทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
จากจังหวะดังกล่าว คาร์โล อันเชลอตติ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโมโหสุดขีดขณะที่อยู่ในพื้นที่เทคนิคข้างสนาม โดยหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวของท่านเปา "คาร์เล็ตโต้" เดินตรงปรี่เข้าไปในสนามพร้อมกับพูดจาแบบไม่พอใจใส่กรรมการ จากการกระทำดังกล่าวทำให้ คาวานาห์ จัดการควักใบแดงให้กับ "อันเช่" พร้อมกับชี้นิ้วให้เขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
สำหรับเรื่องนี้มีการถกเถียงกันว่าสมควรเป็นประตูของ เอฟเวอร์ตัน หรือไม่ อย่างไรก็ตาม องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) ยืนยันว่าตามกฎแล้วนั้นถือว่า ดาวเตะไอซ์แลนด์ เข้าข่ายกับการอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จากการที่เขาขัดขวางทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา โดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน เดอะ ซัน ได้มีการเปิดเผยสถิติสโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่ได้ประโยชน์จากการกลับคำตัดสินของ วีเออาร์ มากที่สุด และ ณ ตอนนี้ก็คือทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยพวกเขาได้รับผลบวกถึง 8 ครั้งจากการเล่น 28 เกม ตามด้วย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 7 ครั้ง และ คริสตัล พาเลซ 5 ครั้ง
ในส่วนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์จากวีเออาร์ เพียง 1 ครั้ง เช่นเดียวกับ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้, "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ วิตี้, "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ส่วนทีมที่ได้ประโยชน์น้อยที่สุดก็คือ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ผลติดลบ 6 ครั้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด +8
ไบรท์ตัน +7
คริสตัล พาเลซ +5
เบิร์นลีย์ +4
เซาธ์แฮมป์ตัน +3
เลสเตอร์ +1
ลิเวอร์พูล +1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ +1
นิวคาสเซิ่ล +1
สเปอร์ส +1
บอร์นมัธ 0
วัตฟอร์ด - 1
อาร์เซน่อล -2
เอฟเวอร์ตัน -2
แอสตัน วิลล่า -3
เชลซี -4
เวสต์แฮม -4
นอริช -5
วูล์ฟส์ -5
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด -6
cr : www.siamsport.co.th