ล่าสุดเราไปมาละค่ะ คือเรางงๆกับอาการที่เป็น เมื่อวันพฤหัสที่27ที่ผ่านมา อยู่เราก็แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ร้อนไปทั้งตัว เวียนหัว แล้วก็อ๊วก คือ นั่งทนทำงานทั้งน้ำตา อดทนจนวินาทีสุดท้าย ไม่ไหวจริงๆ เลยต้องขอกลับบ้าน พอเดินออกมาพ้นบริษัทหายเฉย อาการร้อนวูบๆ ปวดหัวเหมือนโดนบีบขมับก็หาย เราเลยรีบไปหาหมอ หมอก็ตรวจแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร เลยขอให้หมอส่งตัวไปพบหมอตรวจสุขภาพจิตว่าเราเป็นบ้า หรือเครียดหรือเปล่า หมอก็ให้ทำแบบทดสอบตรวจคลื่นสมอง ก็บอกว่าปกติ เราก็ยืนยันว่าหนูต้องบ้าแน่ๆ มันเป็นจริงๆ  เพราะอยู่ๆก็หวีดขึ้นมาในห้องน้ำ แล้วก็ร้อนไปทั้งตัว มันเป็นจริงๆ หมอก็หัวเราะ ว่าถ้าคุณบ้า คนจะรู้ตัวเองไหม จะแปลความหมายยากๆที่หมอถามได้ไหม จะสบตาหมอไหม จะมีคลื่นสมองปกติไหม คุณไม่ได้บ้า แต่จิตอ่อน แล้วหมอก็ยิ้มไม่พูดอะไรต่อ ยาก็ไม่จ่ายทวิตตามินก็ไม่มี หลังจากที่หมอพูดว่าเราจิตอ่อน เราฉุนมาก เลยไปเป็นอาสาสมัครแต่งหน้าศพ แล้วก็เข้าคอร์สปฏิบัติปลงสังขารดูผ่าตัดศพจริงประชดเลย อ่อนดีนัก ก็ต้องทำให้แข็ง แล้วหล้งจากทำภารกิจที่ตั้งไว้สำเร็จตั้งแต่28,29,1วันนี้เราก็หายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย ตอนแรกเราเห็นศพยอมรับว่า จิตอ่อนจริง กลัวจนตัวสั่น ก็พยายามกำหนดเหมือนที่หลวงพ่อจรัญท่านสอนว่า..เห็นหนอ เห็นหนอ แล้วก็หายกลัว จากการพิจารณาแล้ว ก็เหมือนหุ่นนอนนิ่งๆ และที่เรารู้มา1อย่างความลับของศพผช.ที่ตายแล้ว..ตรงนั้นมันหดด้วยนะคะ..ก็พยายามมอง ไม่ได้ทะลึ่งนะคะ มันหดจริงๆค่ะ...หาแทบไม่เจอเลยจริงๆค่ะ  อยากบอกว่า..เมื่อเกิดภาวะความเครียด สิ่งเดียวที่ช่วยคุณได้คือสติ และสภาวะจิตที่เข้มแข็งนะคะ ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ