สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว ppantip.com
เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ผมได้เดินทางไปเที่ยว "วังเวียง" สำหรับผมเป็นการเที่ยว วังเวียงครั้งที่ 2 . . . (วังเวียงครั้งเดียวไม่พอจริงๆ ^^ ) โดยส่วนตัวชอบทุกอย่างที่วังเวียงทั้งธรรมชาติ กิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ และแสงสีเสียงตอนกลางคืน
วันนี้ผมจะมาแชร์ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก และกิจกรรมที่ "วังเวียง" ครับ ^^
เริ่มที่
การเดินทาง
สำหรับทริปนี้ ผมเลือกเดินทางโดยสายการบิน Thai Lion Air ดอนเมือง-อุดรธานี เพราะผมอยากไปถึงอุดรเช้าๆ และเหมือนว่าตอนนั้น Thai Lion Air มีไฟล์ทเช้าสุด 6:00 น. ไปถึงอุดรประมาณ 7:30 และอีกอย่างได้ตั๋วราคาโปร ไป-กลับ ประมาณ 1,500 บาท แถมยังได้ cashback ด้วย ^^
เพื่อนๆ คนไหนสนใจ เข้าไปจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้นะครับ -->
https://bit.ly/3ar2L5V
หลังจากนั้นผมเหมารถตู้ไปยังด่านหนองคาย (ติดต่อจองรถตู้ไว้ล่วงหน้านะครับ) ผมเดินทางไปทั้งหมด 8 คน เหมารถตู้ 1 คัน ราคา 1,200 บาท/เที่ยว ตกคนละ 150 บาท และนัดให้เขามารับที่ด่านหนองคายวันกลับด้วย รวมราคารถตู้ไป-กลับ (สนามบินอุดร-ด่านหนองคาย) คนละ 300 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ผมถึงด่านหนองคาย ฝั่งไทย ประมาณ 8:15 น. พอไปถึงก็ไปซื้อตั๋วรถเมลล์ ข้ามฝั่งไปฝั่งลาว คนละ 20 บาท
พอมาถึงเราก็กรอกเอกสารขาเข้าให้เรียบร้อย (เพื่อความรวดเร็ว พกปากกาไปด้วยนะครับ) เตรียมพาสปอร์ต และยื่นต่อแถวเพื่อข้ามไปฝั่งลาว ขั้นตอนนี้มีค่าธรรมเนียม 40 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
***ทริปนี้ผมเน้นความสะดวก เนื่องจากไปกันหลายคน ผมติดต่อจองรถตู้จาก ด่านหนองคาย ฝั่งลาว ไปเที่ยวเวียงจันท์ และต่อด้วย วังเวียง เที่ยวละ 4,500 บาท (ไป-กลับ 9,000 บาท คนละ 1,125 บาท)
มาต่อกันครับ พอข้ามมาฝั่งลาว จัดการเรื่อง sim และหาอะไรกินนิดๆ หน่อย ก็รถตู้ออกเดินทางเที่ยวเวียงจันท์ก่อน เริ่มจากพระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ไปไหว้พระขอพร เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน ^^ ต่อด้วยไปแลนด์มาร์คของเวียงจันท์ นั่นก็คือ ประตูชัย
เที่ยวเวียงจันท์เสร็จก็เที่ยงกว่า ผมก็เลยให้รถตู้แวะทานมื้อเที่ยงที่เวียงจันท์ หลังจากนั้นก็ตรงไป วังเวียง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ถึงวังเวียง 17:30 น.
ที่พัก
ทริปนี้ผมพักที่ "เวียงธารา" เพราะครั้งที่แล้วผมพลาดจองที่พักไม่ทัน ครั้งนี้ก็เลยไม่ลังเลเลย พอรู้ว่าจะมาที่นี่อีกครั้ง ผมก็รีบจองเลยและได้ราคาดีด้วย คืนละ 1,500 บาท และได้ cashback อีกต่างหาก ไปจองกันได้นะครับ -->
https://bit.ly/38jZ00R
***ผมพักที่นี่ทั้งทริป 4 วัน 3 คืน ค่าที่พักทั้งหมด คนละ 2,250 บาท รวมอาหารเช้า มีบริการรถรับ-ส่งไป Night Market ถ้าว่าคุ้มนะครับ
กิจกรรมที่ "วังเวียง"
Day 1 : หลังจากที่เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ผมก็ใช้บริการรถ-รับส่งของโรงแรม ไปเดินเล่น หาของกินที่ Night Market อ่อ . . . ในระหว่างที่เดินเล่น ผมหาแพ็คเกจ one day trip ด้วย ซึ่งจะเป็นโปรแกรมของ Day 2 แพ็คเกจที่ผมจองราคาคนละ 600 กว่าบาท มี Zipline, พายเรือคายัค, และบลูลากูน (ผมจองของบริษัท TCK) แถวนั้นมีบริษัททัวร์เยอะมาก เราสามารถเลือกได้เลยครับ หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อน
Day 2 : วันนี้เรียกได้ว่า โปรแกรมแอดเวนเจอร์สุดๆ หลังจากที่ทานมื่อเช้าเสร็จ บริษัททัวร์ก็มารับที่โรงแรม 9:00 น. แล้วพาเราไปเริ่มที่ Zipline ต่อด้วย พายเรือคายัค และปิดท้ายด้วย บลูลากูน อ่อ . . . แนะนำให้แต่งตัวมิดชิดนะครับ พวกชุดเล่นน้ำแขนยาว ขายาว เพราะแดดร้อนสุดๆ พอ Zipline เสร็จ พักกินมื้อเที่ยง (เขามีมื้อเที่ยงให้ฟรี) จากนั้นพายเรือคายัคล่องแม่น้ำซองตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ ใช้เวลานานด้วย ประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมก็เสร็จประมาณ 18:00 น. เขาก็มาส่งเราที่โรงแรม สนุกมากกกกกกกและเพลียสุดๆ อาบน้ำ ทานข้าว และนอนพักผ่อน
Day 3 : วันนี้ฟรีสไตล์ ตื่นสายเกือบ 10 โมง แต่ที่จริง วันนี้โปรแกรมก็แน่นเหมือนกันนะ 555 ทานมื้อเช้าเสร็จ ผมก็เดินเล่น ถ่ายรูปที่โรงแรม แล้วก็ไปติดต่อเหมารถสองแถวหน้าโรงแรม ราคาประมาณ 800 บาทนะ เหมือนคุ้นๆ ว่า ออกคนละ 100 บาท เพื่อไปเก็บตกแลนด์มาร์คต่างๆ เริ่มที่ สะพานส้ม ถ้ำจัง จุดชมวิวผาเงิน และ ผาหนามไซ ยัง ยังไม่พอ ถ้าไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงวังเวียง อีกอย่างนี่ก็คืนสุดท้ายแล้ว ผมก็เลยไปต่อที่ ซากุระบาร์ ไปดริ้งแอนด์แดนซ์ส่งท้ายกันหน่อย ^^
***โปรแกรมแน่นมากกกกก ถ้าใครไหวแนะนำย้าย ซากุระบาร์ไป Day 2 นะครับ
Day 4 : วันสุดท้ายที่วังเวียง เช้านี้ผมตื่นมาเก็บกระเป๋า ทานมื้อเช้าและเช็คเอ้าท์ นัดให้รถตู้มารับที่โรงแรม 9:00 น. เพื่อเดินทางไปยังด่าน ขากลับใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชั่วโมง 13:00 น. ก็มาถึงที่ด่านและแวะทานข้าว ช้อปปิ้งซื้อของฝากที่ Duty Fee หลังจากนั้นก็ซื้อตั๋วรถเมลล์และนั่งรถข้ามฝั่งมาฝั่งไทย สแกนพาสปอร์ตที่เครื่อง กลับเข้าสู่ประเทศไทย ขึ้นรถตู้ที่จองไว้ตั้งแต่วันแรก (ผมนัดรถตู้ให้มารับ 15:00 น.) ผมไปถึงสนามบินอุดร 15:45 ก็ได้เวลาเช็คอินพอดี (ไฟล์ทกลับ เวลา 17:10 น.) และผมก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
วันนี้ขอปิดทริป "ตะลุยลาว เที่ยวเวียงจันท์-วังเวียง พักเวียงธารา" เพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ถ้ามีอะไรแนะนำคอมเม้นท์มาได้นะครับ ^^
เจอกันทริปหน้าครับ . . .
Sam Chailikhit
ตะลุยลาว เที่ยวเวียงจันท์-วังเวียง พักเวียงธารา
เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ผมได้เดินทางไปเที่ยว "วังเวียง" สำหรับผมเป็นการเที่ยว วังเวียงครั้งที่ 2 . . . (วังเวียงครั้งเดียวไม่พอจริงๆ ^^ ) โดยส่วนตัวชอบทุกอย่างที่วังเวียงทั้งธรรมชาติ กิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ และแสงสีเสียงตอนกลางคืน
วันนี้ผมจะมาแชร์ข้อมูล การเดินทาง ที่พัก และกิจกรรมที่ "วังเวียง" ครับ ^^
เริ่มที่ การเดินทาง
สำหรับทริปนี้ ผมเลือกเดินทางโดยสายการบิน Thai Lion Air ดอนเมือง-อุดรธานี เพราะผมอยากไปถึงอุดรเช้าๆ และเหมือนว่าตอนนั้น Thai Lion Air มีไฟล์ทเช้าสุด 6:00 น. ไปถึงอุดรประมาณ 7:30 และอีกอย่างได้ตั๋วราคาโปร ไป-กลับ ประมาณ 1,500 บาท แถมยังได้ cashback ด้วย ^^
เพื่อนๆ คนไหนสนใจ เข้าไปจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้นะครับ --> https://bit.ly/3ar2L5V
หลังจากนั้นผมเหมารถตู้ไปยังด่านหนองคาย (ติดต่อจองรถตู้ไว้ล่วงหน้านะครับ) ผมเดินทางไปทั้งหมด 8 คน เหมารถตู้ 1 คัน ราคา 1,200 บาท/เที่ยว ตกคนละ 150 บาท และนัดให้เขามารับที่ด่านหนองคายวันกลับด้วย รวมราคารถตู้ไป-กลับ (สนามบินอุดร-ด่านหนองคาย) คนละ 300 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ผมถึงด่านหนองคาย ฝั่งไทย ประมาณ 8:15 น. พอไปถึงก็ไปซื้อตั๋วรถเมลล์ ข้ามฝั่งไปฝั่งลาว คนละ 20 บาท
พอมาถึงเราก็กรอกเอกสารขาเข้าให้เรียบร้อย (เพื่อความรวดเร็ว พกปากกาไปด้วยนะครับ) เตรียมพาสปอร์ต และยื่นต่อแถวเพื่อข้ามไปฝั่งลาว ขั้นตอนนี้มีค่าธรรมเนียม 40 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
***ทริปนี้ผมเน้นความสะดวก เนื่องจากไปกันหลายคน ผมติดต่อจองรถตู้จาก ด่านหนองคาย ฝั่งลาว ไปเที่ยวเวียงจันท์ และต่อด้วย วังเวียง เที่ยวละ 4,500 บาท (ไป-กลับ 9,000 บาท คนละ 1,125 บาท)
มาต่อกันครับ พอข้ามมาฝั่งลาว จัดการเรื่อง sim และหาอะไรกินนิดๆ หน่อย ก็รถตู้ออกเดินทางเที่ยวเวียงจันท์ก่อน เริ่มจากพระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ไปไหว้พระขอพร เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน ^^ ต่อด้วยไปแลนด์มาร์คของเวียงจันท์ นั่นก็คือ ประตูชัย
เที่ยวเวียงจันท์เสร็จก็เที่ยงกว่า ผมก็เลยให้รถตู้แวะทานมื้อเที่ยงที่เวียงจันท์ หลังจากนั้นก็ตรงไป วังเวียง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ถึงวังเวียง 17:30 น.
ที่พัก
ทริปนี้ผมพักที่ "เวียงธารา" เพราะครั้งที่แล้วผมพลาดจองที่พักไม่ทัน ครั้งนี้ก็เลยไม่ลังเลเลย พอรู้ว่าจะมาที่นี่อีกครั้ง ผมก็รีบจองเลยและได้ราคาดีด้วย คืนละ 1,500 บาท และได้ cashback อีกต่างหาก ไปจองกันได้นะครับ --> https://bit.ly/38jZ00R
***ผมพักที่นี่ทั้งทริป 4 วัน 3 คืน ค่าที่พักทั้งหมด คนละ 2,250 บาท รวมอาหารเช้า มีบริการรถรับ-ส่งไป Night Market ถ้าว่าคุ้มนะครับ
กิจกรรมที่ "วังเวียง"
Day 1 : หลังจากที่เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ผมก็ใช้บริการรถ-รับส่งของโรงแรม ไปเดินเล่น หาของกินที่ Night Market อ่อ . . . ในระหว่างที่เดินเล่น ผมหาแพ็คเกจ one day trip ด้วย ซึ่งจะเป็นโปรแกรมของ Day 2 แพ็คเกจที่ผมจองราคาคนละ 600 กว่าบาท มี Zipline, พายเรือคายัค, และบลูลากูน (ผมจองของบริษัท TCK) แถวนั้นมีบริษัททัวร์เยอะมาก เราสามารถเลือกได้เลยครับ หลังจากนั้นก็กลับมาพักผ่อน
Day 2 : วันนี้เรียกได้ว่า โปรแกรมแอดเวนเจอร์สุดๆ หลังจากที่ทานมื่อเช้าเสร็จ บริษัททัวร์ก็มารับที่โรงแรม 9:00 น. แล้วพาเราไปเริ่มที่ Zipline ต่อด้วย พายเรือคายัค และปิดท้ายด้วย บลูลากูน อ่อ . . . แนะนำให้แต่งตัวมิดชิดนะครับ พวกชุดเล่นน้ำแขนยาว ขายาว เพราะแดดร้อนสุดๆ พอ Zipline เสร็จ พักกินมื้อเที่ยง (เขามีมื้อเที่ยงให้ฟรี) จากนั้นพายเรือคายัคล่องแม่น้ำซองตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ ใช้เวลานานด้วย ประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมก็เสร็จประมาณ 18:00 น. เขาก็มาส่งเราที่โรงแรม สนุกมากกกกกกกและเพลียสุดๆ อาบน้ำ ทานข้าว และนอนพักผ่อน
Day 3 : วันนี้ฟรีสไตล์ ตื่นสายเกือบ 10 โมง แต่ที่จริง วันนี้โปรแกรมก็แน่นเหมือนกันนะ 555 ทานมื้อเช้าเสร็จ ผมก็เดินเล่น ถ่ายรูปที่โรงแรม แล้วก็ไปติดต่อเหมารถสองแถวหน้าโรงแรม ราคาประมาณ 800 บาทนะ เหมือนคุ้นๆ ว่า ออกคนละ 100 บาท เพื่อไปเก็บตกแลนด์มาร์คต่างๆ เริ่มที่ สะพานส้ม ถ้ำจัง จุดชมวิวผาเงิน และ ผาหนามไซ ยัง ยังไม่พอ ถ้าไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงวังเวียง อีกอย่างนี่ก็คืนสุดท้ายแล้ว ผมก็เลยไปต่อที่ ซากุระบาร์ ไปดริ้งแอนด์แดนซ์ส่งท้ายกันหน่อย ^^
***โปรแกรมแน่นมากกกกก ถ้าใครไหวแนะนำย้าย ซากุระบาร์ไป Day 2 นะครับ
Day 4 : วันสุดท้ายที่วังเวียง เช้านี้ผมตื่นมาเก็บกระเป๋า ทานมื้อเช้าและเช็คเอ้าท์ นัดให้รถตู้มารับที่โรงแรม 9:00 น. เพื่อเดินทางไปยังด่าน ขากลับใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชั่วโมง 13:00 น. ก็มาถึงที่ด่านและแวะทานข้าว ช้อปปิ้งซื้อของฝากที่ Duty Fee หลังจากนั้นก็ซื้อตั๋วรถเมลล์และนั่งรถข้ามฝั่งมาฝั่งไทย สแกนพาสปอร์ตที่เครื่อง กลับเข้าสู่ประเทศไทย ขึ้นรถตู้ที่จองไว้ตั้งแต่วันแรก (ผมนัดรถตู้ให้มารับ 15:00 น.) ผมไปถึงสนามบินอุดร 15:45 ก็ได้เวลาเช็คอินพอดี (ไฟล์ทกลับ เวลา 17:10 น.) และผมก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
วันนี้ขอปิดทริป "ตะลุยลาว เที่ยวเวียงจันท์-วังเวียง พักเวียงธารา" เพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ถ้ามีอะไรแนะนำคอมเม้นท์มาได้นะครับ ^^
เจอกันทริปหน้าครับ . . . Sam Chailikhit