จขกท. วางแผนไปเที่ยวยุโรปกับครอบครัวช่วงสงกรานต์ปีนี้ โดยมีแผนการเดินทางลงเครื่องบินที่ Frankfurt แล้วเช่ารถขับไปเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก แล้วกลับมาขึ้นเครื่องกลับที่ Frankfurt ซึ่งตามแผนจะอยู่เนเธอร์แลนด์นานที่สุด ดังนั้น จขกท.ก็วางแผนว่าจะไปขอวีซ่าที่เนเธอร์แลนด์ เพราะนอกจากจะถูกต้องตามกฎการขอวีซ่าเชงเก้นแล้ว ยังเคยอ่านเจอว่าเนเธอร์แลนด์ให้วีซ่าระยะยาว
จขกท. และครอบครัวเคยไปเที่ยวยุโรปมาเกิน 10 ครั้ง ที่ผ่านมาได้วีซ่า 1-6 เดือน และก็มีบางครั้งได้พอดีกับจำนวนวันที่ไป แต่เมื่อปี 2018 จขกท. อ่านเจอในพันทิปว่าถ้าเขียนจดหมายปะหน้า อาจได้รับการพิจารณาพิเศษ ก็เลยลองเขียนจดหมายอธิบายว่าครอบครัวเราท่องเที่ยวเป็นประจำ และมีแผนที่จะเดินทางไปยุโรปทุกปี แล้วก็ไปยื่นที่สถานทูตเยอรมัน ตอนนั้นไปยื่น 2 คนกับลูกชายคนโตที่ยังเรียนอยู่ เจ้าหน้าที่สถานทูตก็ถามว่าจดหมายอะไร ก็ตอบไปว่าอยากขอวีซ่าระยะยาว เพราะมีแผนจะไปอีก เจ้าหน้าที่ก็พลิกพาสปอร์ตดูทั้ง 2 เล่ม แล้วแจ้งว่าพาสปอร์ตของ จขกท. เหลือแค่ปีกว่า ดังนั้นจะได้มากสุดแค่ 1 ปี และผลก็ออกมาตามที่แจ้ง จขกท. ได้วีซ่า 1 ปี ส่วนของลูกชายพาสปอร์ตเหลือ 3 ปีกว่า ได้วีซ่า 2 ปี
พอมาปีนี้จะไปกันทั้งครอบครัว 4 คน ต้องขอวีซ่าใหม่ 3 คน จขกท.เพิ่งต่อพาสปอร์ตเล่มใหม่ แต่ของอีก 2 คน เหลือไม่ถึงปี กับปีกว่า ก็เลยตัดสินใจไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ก่อน ซึ่งสามารถทำได้ โดยเอาเล่มเก่าไปยกเลิกด้วย เจ้าหน้าที่ถามเหตุผลก็ตอบตรง ๆ ว่าจะไปขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งตอนนี้มีข่าวว่าจะพิจารณาให้ระยะยาว ก็เลยขอทำใหม่เผื่อทางสถานทูตพิจารณาให้ระยะยาว จะได้ไม่มีปัญหาพาสปอร์ตหมดอายุก่อน
ได้พาสปอร์ตเรียบร้อย ก็เข้าไปจองคิวเนเธอร์แลนด์วันที่ 18 กพ.63 ซึ่ง จขกท. มีข้อจำกัดว่าลูกชายติดเรียน ไปได้แต่วันพฤหัสเท่านั้น ในตารางนัดหมายเหลือแค่วันพฤหัสที่ 26 มี.ค.63 วันเดียว ซึ่งก็ดูจะกระชั้นชิดกับวันที่จะเดินทางไป ก็เลยลองเข้าไปเช็คคิวของเยอรมัน ซึ่งเปลี่ยนจากรับยื่นที่สถานทูตเป็นยื่นผ่าน VFS ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 ปรากฏว่าว่างทุกวัน แล้วยังมีข้อดีว่าถ้าเคยได้วีซ่าเชงเก้นภายใน 59 เดือนไม่ต้องไปด้วยตัวเอง สามารถให้คนอื่นยื่นแทน หรือส่งไปก็ได้ จขกท. ก็เลยเปลี่ยนแผนการเดินทางให้อยู่เยอรมันเพิ่ม เพื่อให้เข้าเกณฑ์ที่สามารถขอวีซ่าที่เยอรมันได้
จขกท. จองคิววันที่ 25 ก.พ. ไปถึงศูนย์ยื่นวีซ่า VFS เยอรมัน ที่จามจุรีสแควร์ ก่อนเวลาเกือบชั่วโมง เพราะเผื่อเวลาหาที่จอดรถ แต่พอมาจริง ๆ ที่จอดว่างมาก ซึ่งข้อดีของศูนย์นี้อีกอย่างก็คือการเดินทางสะดวก มา MRT ก็ได้ ขับรถมาก็จอดสะดวก แถมยังจอดฟรี 2 ชม.อีก ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS อยู่ชั้น 4 แยกเป็น 2 ศูนย์ เท่าที่จำได้เป็นอีกศูนย์รับยื่นของอิตาลี ส่วนศูนย์ที่ จขกท. ไปยื่นรับยื่นหลายประเทศ มีโครเอเชีย เชค สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ เยอรมัน เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าก่อนเวลานัดนิดหน่อย เข้าไปในศูนย์ค่อนข้างว่าง นั่งแป๊บเดียวก็เรียกคิวแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด หรือปกติคนก็น้อยแบบนี้
เจ้าหน้าที่ VFS สุภาพและให้การช่วยเหลือดีมาก จขกท.พิมพ์แบบฟอร์มขอวีซ่าด้วยเครื่องพิมพ์ inkjet ที่บ้าน เจอปัญหาว่าไม่ชัด อ่าน QR code ไม่ได้ เค้าก็เอาไป xerox เพื่อให้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังอ่านไม่ได้อยู่ดี ก็เลยให้ จขกท. ออกไปพิมพ์ใหม่เฉพาะหน้า QR code ที่ร้านชั้น 3 ตรงนี้ขอแนะนำเพื่อน ๆ สมาชิกกรอกฟอร์มเสร็จแล้วให้ save ไฟล์ PDF แล้วนำมาด้วย เผื่อมีปัญหาจะได้พิมพ์ใหม่ได้เลย ไม่ต้องกรอกใหม่อีกครั้ง และปัญหาที่ 2 คือรูปที่ใช้ สถานทูตเยอรมันไม่อนุญาตให้ใช้รูปที่เคยใช้ในการขอครั้งก่อน ถึงแม้ว่ารูปนั้นจะไม่เกิน 6 เดือนก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะให้ยื่นก็ได้ แต่ทางสถานทูตอาจปฎิเสธ แนะนำให้ถ่ายใหม่ แต่ปัญหาคือลูกชายไม่ได้มาด้วย ตอนแรกเค้าบอกว่ารอได้ถึง 5 โมง แต่พอ จขกท. บอกว่าน่าจะมาถึงได้เร็วสุด 5 โมง แต่อาจเลทนิดหน่อย เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้ายังไงเค้าจะรอให้ บริการดีมากเลย ขอชมค่ะ
หลังจากตรวจเอกสารเสร็จ เค้าก็ถามว่าจะให้ VFS ส่ง SMS แจ้งความคืบหน้าการยื่นวีซ่าให้ไหม ถ้าให้ส่งมีค่าใช้จ่ายคนละ 55 บาท แต่ถ้าไม่รับ SMS ก็สามารถตรวจสอบเองได้ที่ website โดยกรอกหมายเลขตามใบเสร็จที่ให้มาได้เลย จขกท.เลือกตรวจสอบเองจาก website ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็มีเฉพาะค่าธรรมเนียมขอวีซ่าคนละ 2,800 บาท (80 ยูโร) และค่าธรรมเนียมของ VFS คนละ 510 บาท
วันที่ 26 ก.พ. จขกท. ลองเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าใน Website www.vfsglobal.com/Germany/Thailand /Thai/index.html คลิกที่กล่องตรวจสอบสถานะคำร้อง พิมพ์หมายเลขตามใบเสร็จและนามสกุลผู้ขอ ก็สามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้ ผลแจ้งว่า Your visa application xxx is under process at Germany Embassy แล้วพอเช้าวันที่ 27 ก.พ. เข้าไปเช็คอีก คราวนี้ขึ้นว่า Your visa application xxx is now ready to be picked up at the VFS German VAC from 8am-17.15pm, Monday to Friday. อะไรจะเร็วขนาดนี้
วันที่ 28 ก.พ. ไปรับเล่มคืนที่ VFS พร้อมกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดเป็นวงกว้างขึ้น ซึ่งครอบครัวเราก็ปรึกษากันอยู่ว่าจะได้ไปไหมเนี่ย ถ้าได้วีซ่าเท่ากับระยะเวลาที่เดินทาง แล้วสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายอาจต้องทิ้งวีซ่าไปเลย แต่ถ้าได้ยาวก็จะได้เลื่อนโปรแกรมออกไปอีกหน่อย
ผล จขกท. ได้ Multiple Visa 90 วัน ระยะเวลา 3 ปี ส่วนสามีกับลูกชายคนเล็ก ได้ Multiple Visa 90 วัน 2 ปี เข้าใจว่าเค้าให้ตามประวัติการเดินทางเข้าออกยุโรปและวีซ่าเชงเก้นที่เคยได้รับ เพราะปกติครอบครัวเราเดินทางด้วยกันตลอดและได้วีซ่าเหมือน ๆ กัน แต่มีปี 2018 ที่ จขกท.ไปกับลูกชายคนโต 2 คนและได้วีซ่า 1 ปีมา ซึ่งในช่วง 5 ปี จขกท. ไปยุโรปมา 3 ครั้ง ปี 2016 ปี 2018 และปี 2019 ส่วนสามีและลูกชายคนเล็ก ไปแค่ปี 2016 และปี 2019 ซึ่งในการขอวีซ่าปี 2019 ได้วีซ่าแค่ 1 เดือน
ตอนนี้วีซ่าพร้อม โรงแรมพร้อม รถพร้อม คนพร้อม เหลือรอสถานการณ์ว่าจะได้ไปตามแผนหรือต้องเลื่อนออกไป แต่โอกาสเลื่อนคงมากกว่าไปตามแผน เพราะเยอรมันถูกประกาศเป็น 1 ในประเทศเสี่ยงแล้ว แล้วจะมาเล่าสู่กันใหม่นะคะ
[CR] ขอวีซ่าเชงเก้นเยอรมันผ่าน VFS ก.พ. 2563 ช่วง COVID-19 ระบาด
จขกท. และครอบครัวเคยไปเที่ยวยุโรปมาเกิน 10 ครั้ง ที่ผ่านมาได้วีซ่า 1-6 เดือน และก็มีบางครั้งได้พอดีกับจำนวนวันที่ไป แต่เมื่อปี 2018 จขกท. อ่านเจอในพันทิปว่าถ้าเขียนจดหมายปะหน้า อาจได้รับการพิจารณาพิเศษ ก็เลยลองเขียนจดหมายอธิบายว่าครอบครัวเราท่องเที่ยวเป็นประจำ และมีแผนที่จะเดินทางไปยุโรปทุกปี แล้วก็ไปยื่นที่สถานทูตเยอรมัน ตอนนั้นไปยื่น 2 คนกับลูกชายคนโตที่ยังเรียนอยู่ เจ้าหน้าที่สถานทูตก็ถามว่าจดหมายอะไร ก็ตอบไปว่าอยากขอวีซ่าระยะยาว เพราะมีแผนจะไปอีก เจ้าหน้าที่ก็พลิกพาสปอร์ตดูทั้ง 2 เล่ม แล้วแจ้งว่าพาสปอร์ตของ จขกท. เหลือแค่ปีกว่า ดังนั้นจะได้มากสุดแค่ 1 ปี และผลก็ออกมาตามที่แจ้ง จขกท. ได้วีซ่า 1 ปี ส่วนของลูกชายพาสปอร์ตเหลือ 3 ปีกว่า ได้วีซ่า 2 ปี
พอมาปีนี้จะไปกันทั้งครอบครัว 4 คน ต้องขอวีซ่าใหม่ 3 คน จขกท.เพิ่งต่อพาสปอร์ตเล่มใหม่ แต่ของอีก 2 คน เหลือไม่ถึงปี กับปีกว่า ก็เลยตัดสินใจไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ก่อน ซึ่งสามารถทำได้ โดยเอาเล่มเก่าไปยกเลิกด้วย เจ้าหน้าที่ถามเหตุผลก็ตอบตรง ๆ ว่าจะไปขอวีซ่าเชงเก้น ซึ่งตอนนี้มีข่าวว่าจะพิจารณาให้ระยะยาว ก็เลยขอทำใหม่เผื่อทางสถานทูตพิจารณาให้ระยะยาว จะได้ไม่มีปัญหาพาสปอร์ตหมดอายุก่อน
ได้พาสปอร์ตเรียบร้อย ก็เข้าไปจองคิวเนเธอร์แลนด์วันที่ 18 กพ.63 ซึ่ง จขกท. มีข้อจำกัดว่าลูกชายติดเรียน ไปได้แต่วันพฤหัสเท่านั้น ในตารางนัดหมายเหลือแค่วันพฤหัสที่ 26 มี.ค.63 วันเดียว ซึ่งก็ดูจะกระชั้นชิดกับวันที่จะเดินทางไป ก็เลยลองเข้าไปเช็คคิวของเยอรมัน ซึ่งเปลี่ยนจากรับยื่นที่สถานทูตเป็นยื่นผ่าน VFS ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 ปรากฏว่าว่างทุกวัน แล้วยังมีข้อดีว่าถ้าเคยได้วีซ่าเชงเก้นภายใน 59 เดือนไม่ต้องไปด้วยตัวเอง สามารถให้คนอื่นยื่นแทน หรือส่งไปก็ได้ จขกท. ก็เลยเปลี่ยนแผนการเดินทางให้อยู่เยอรมันเพิ่ม เพื่อให้เข้าเกณฑ์ที่สามารถขอวีซ่าที่เยอรมันได้
จขกท. จองคิววันที่ 25 ก.พ. ไปถึงศูนย์ยื่นวีซ่า VFS เยอรมัน ที่จามจุรีสแควร์ ก่อนเวลาเกือบชั่วโมง เพราะเผื่อเวลาหาที่จอดรถ แต่พอมาจริง ๆ ที่จอดว่างมาก ซึ่งข้อดีของศูนย์นี้อีกอย่างก็คือการเดินทางสะดวก มา MRT ก็ได้ ขับรถมาก็จอดสะดวก แถมยังจอดฟรี 2 ชม.อีก ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS อยู่ชั้น 4 แยกเป็น 2 ศูนย์ เท่าที่จำได้เป็นอีกศูนย์รับยื่นของอิตาลี ส่วนศูนย์ที่ จขกท. ไปยื่นรับยื่นหลายประเทศ มีโครเอเชีย เชค สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ เยอรมัน เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าก่อนเวลานัดนิดหน่อย เข้าไปในศูนย์ค่อนข้างว่าง นั่งแป๊บเดียวก็เรียกคิวแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด หรือปกติคนก็น้อยแบบนี้
เจ้าหน้าที่ VFS สุภาพและให้การช่วยเหลือดีมาก จขกท.พิมพ์แบบฟอร์มขอวีซ่าด้วยเครื่องพิมพ์ inkjet ที่บ้าน เจอปัญหาว่าไม่ชัด อ่าน QR code ไม่ได้ เค้าก็เอาไป xerox เพื่อให้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังอ่านไม่ได้อยู่ดี ก็เลยให้ จขกท. ออกไปพิมพ์ใหม่เฉพาะหน้า QR code ที่ร้านชั้น 3 ตรงนี้ขอแนะนำเพื่อน ๆ สมาชิกกรอกฟอร์มเสร็จแล้วให้ save ไฟล์ PDF แล้วนำมาด้วย เผื่อมีปัญหาจะได้พิมพ์ใหม่ได้เลย ไม่ต้องกรอกใหม่อีกครั้ง และปัญหาที่ 2 คือรูปที่ใช้ สถานทูตเยอรมันไม่อนุญาตให้ใช้รูปที่เคยใช้ในการขอครั้งก่อน ถึงแม้ว่ารูปนั้นจะไม่เกิน 6 เดือนก็ตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะให้ยื่นก็ได้ แต่ทางสถานทูตอาจปฎิเสธ แนะนำให้ถ่ายใหม่ แต่ปัญหาคือลูกชายไม่ได้มาด้วย ตอนแรกเค้าบอกว่ารอได้ถึง 5 โมง แต่พอ จขกท. บอกว่าน่าจะมาถึงได้เร็วสุด 5 โมง แต่อาจเลทนิดหน่อย เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้ายังไงเค้าจะรอให้ บริการดีมากเลย ขอชมค่ะ
หลังจากตรวจเอกสารเสร็จ เค้าก็ถามว่าจะให้ VFS ส่ง SMS แจ้งความคืบหน้าการยื่นวีซ่าให้ไหม ถ้าให้ส่งมีค่าใช้จ่ายคนละ 55 บาท แต่ถ้าไม่รับ SMS ก็สามารถตรวจสอบเองได้ที่ website โดยกรอกหมายเลขตามใบเสร็จที่ให้มาได้เลย จขกท.เลือกตรวจสอบเองจาก website ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็มีเฉพาะค่าธรรมเนียมขอวีซ่าคนละ 2,800 บาท (80 ยูโร) และค่าธรรมเนียมของ VFS คนละ 510 บาท
วันที่ 26 ก.พ. จขกท. ลองเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าใน Website www.vfsglobal.com/Germany/Thailand /Thai/index.html คลิกที่กล่องตรวจสอบสถานะคำร้อง พิมพ์หมายเลขตามใบเสร็จและนามสกุลผู้ขอ ก็สามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้ ผลแจ้งว่า Your visa application xxx is under process at Germany Embassy แล้วพอเช้าวันที่ 27 ก.พ. เข้าไปเช็คอีก คราวนี้ขึ้นว่า Your visa application xxx is now ready to be picked up at the VFS German VAC from 8am-17.15pm, Monday to Friday. อะไรจะเร็วขนาดนี้
วันที่ 28 ก.พ. ไปรับเล่มคืนที่ VFS พร้อมกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดเป็นวงกว้างขึ้น ซึ่งครอบครัวเราก็ปรึกษากันอยู่ว่าจะได้ไปไหมเนี่ย ถ้าได้วีซ่าเท่ากับระยะเวลาที่เดินทาง แล้วสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายอาจต้องทิ้งวีซ่าไปเลย แต่ถ้าได้ยาวก็จะได้เลื่อนโปรแกรมออกไปอีกหน่อย
ผล จขกท. ได้ Multiple Visa 90 วัน ระยะเวลา 3 ปี ส่วนสามีกับลูกชายคนเล็ก ได้ Multiple Visa 90 วัน 2 ปี เข้าใจว่าเค้าให้ตามประวัติการเดินทางเข้าออกยุโรปและวีซ่าเชงเก้นที่เคยได้รับ เพราะปกติครอบครัวเราเดินทางด้วยกันตลอดและได้วีซ่าเหมือน ๆ กัน แต่มีปี 2018 ที่ จขกท.ไปกับลูกชายคนโต 2 คนและได้วีซ่า 1 ปีมา ซึ่งในช่วง 5 ปี จขกท. ไปยุโรปมา 3 ครั้ง ปี 2016 ปี 2018 และปี 2019 ส่วนสามีและลูกชายคนเล็ก ไปแค่ปี 2016 และปี 2019 ซึ่งในการขอวีซ่าปี 2019 ได้วีซ่าแค่ 1 เดือน
ตอนนี้วีซ่าพร้อม โรงแรมพร้อม รถพร้อม คนพร้อม เหลือรอสถานการณ์ว่าจะได้ไปตามแผนหรือต้องเลื่อนออกไป แต่โอกาสเลื่อนคงมากกว่าไปตามแผน เพราะเยอรมันถูกประกาศเป็น 1 ในประเทศเสี่ยงแล้ว แล้วจะมาเล่าสู่กันใหม่นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้