บันทึกเตือนใจ วันแมวป่วย

กระทู้สนทนา
เราเขียนกระทู้นี้ขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์   สำหรับคนเลี้ยงแมว โดยเฉพาะมือใหม่หัดเลี้ยงแมว

เราเป็นมือใหม่หัดเลี้ยงแมว  แต่ก่อนเลี้ยงก็ทำการศึกษาทุกอย่างจนมั่นใจว่าเลี้ยงได้  และด้วยความรักสัตว์  บวกกับเลี้ยงหมามาตลอดชีวิต เลยคิดว่าเปลี่ยนมาเลี้ยงแมวน่าจะเอาอยู่

แมวที่รับมาเลี้ยง เป็นแมวเบงกอล  เพศผู้สองตัว  (พ่อเบงกอลแท้  ผสมกับ แม่เบงกอล+เปอร์เซีย)   รับมาตั้งแต่ 2 เดือน  เราตั้งชื่อว่า  หินอ่อน และนับตังค์  ปัจจุบันอายุ 7  เดือน

เราเลี้ยงหินอ่อนและนับตังค์แบบที่กล้าพูดได้ว่า ระมัดระวังมาก เพราะวันแรกที่รับพวกนางมา  เรารู้เลยว่าแมวเราซน  ความเบงกอล ความตัวผู้  เราจึงต้องใส่ใจระวังมากๆ

แต่...แมวที่ซนมากมีโอกาสเสียชีวิตก่อนที่จะโต นี่คือเรื่องจริง

ด้วยความตั้งใจเลี้ยงระบบปิด แต่อยากให้แมวได้มีพื้นที่วิ่งเล่น จึงตัดสินใจเอาห้องนอน 1  ห้อง รื้อข้าวของออกหมดแล้วทำเป็นห้องแมว

เพราะแมวซน เราจะเซฟแมวทุกอย่าง  ไม่ว่าจะประตูหน้าต่าง ปลั๊กไฟ  ของกินของใช้  แต่วันที่เราพลาดก็เกิดขึ้น  หินอ่อนกินของเล่น

ของเล่นแมวทุกชิ้น เราก็อ่านและดูแล้วว่ามันเป็นของเล่นที่มีไว้สำหรับสัตว์เลี้ยง แต่ความระวังนั้นไม่มากพอ   ความซน  และความเบงกอล คือแรงแยะ  เราเผลอแปปเดียว  หินอ่อนกัดของเล่นออกเป็นเสี่ยงๆ  แล้วกินเข้าไป


ตอนแรกเราเห็นละ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะหินอ่อนกลืนลงไปแล้ว  ได้แต่หวังว่านางจะคายออกมาเหมือนคราวที่แทะยางรองพื้นกรง ซึ่งเราก็รื้อยางออกทั้งกรง ยอมทิ้ง เพื่อกันแมวแทะกิน

ซึ่งไม่นานนัก ครั้งนี้ หินอ่อนก็ขย้อนของเล่นที่กินออกมาทำให้เราเบาใจว่าไม่มีอะไรน่ากังวล  เราตัดสินใจทิ้งของเล่นที่เป็นยางทั้งหมดเพราะรู้แล้วว่า แมวตัวนี้ชอบแทะยางกิน


เวลาผ่านไป สักสองอาทิตย์  เราเริ่มเห็นความผิดปกติว่าหินอ่อนอ๊วกออกมากองเล็กๆ  บอกก่อนเรานี่ตรวจฉี่ ตรวจอึแมวเกือบทุกวัน เพื่อดูปริมาณการขับถ่ายการกินน้ำของแมว  ยิ่งพอเห็นแมวอ๊วก ทำให้เรายิ่งสังเกตฉี่กะอึแมวว่าปกติไหม

คำตอบคือ ปกติ

แต่เราก็ยังไม่ไว้ใจ หินอ่อนอ๊วกติดต่อกัน 3  วัน วันละกองสองกอง  เราพาหินอ่อนไปหาหมอ  หมอตรวจเบื้องต้นซักถามอาการ  หมอบอกว่าไม่น่าเป็นอะไรมาก เพราะหินอ่อนยังวิ่งซนทั้งวัน กระโดดแรงๆ  ทานอาหารตลอดเวลา ขับถ่ายดีเยี่ยม  และดีกรีความโลดโผนโจนทะยานไม่ลดลงเลย หมอบอกว่า  อาจมีก้อนขนในลำไส้  ให้ยาช่วยขับก้อนขนในช่องท้องมา


แต่เรื่องกลับไม่เป็นแบบนั้น วันรุ่งขึ้น หินอ่อนอ๊วกบ่อยมาก  ทุกครั้งที่กินอาหาร น้ำ กองอ๊วกใหญ่ขึ้น  เราจึงตัดสินใจพาหินอ่อนไปหาหมออีกครั้ง  ซึ่งครั้งนี้ เราบอกหมอว่า เราอยากตรวจละเอียด แม้หินอ่อนจะไม่มีอาการป่วยเลยสักนิดนอกจากอ๊วกแต่เราไม่สบายใจ  หมอจึงทำการเจาะเลือดและเอกซเรย์อย่างละเอียด

และสิ่งที่พบก็คือ หมอเอกซเรย์เจอสิ่งแปลกปลอมในลำไส้  ย้ำเข้าไปในลำไส้แล้ว หลุดเข้าไปเกินกระเพาะจึงไม่สามารถขย้อนออกมาได้


หมอบอกว่าดูจากขนาดแล้ว ไม่รู้ว่าแมวกลืนเข้าไปได้ยังไง และไม่รู้ว่าทำไมถึงกิน เพราะปกติธรรมชาติแมวจะไม่กินยาง  นอกจากยางรัดแกงวงเล็กๆ  หรือสิ่งแปลกปลอมที่ชิ้นใหญ่และเคี้ยวยาก  และความชิ้นใหญ่ทำให้หมอเกรงว่าจะไม่สามารถถ่ายออกมาทางอุจจาระได้  พรุ่งนี้ให้พาตัวหินอ่อนมา กลืนแป้ง และรอการทำการผ่าตัดลำไส้

เรากลับบ้านมานั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร  เพราะหินอ่อนก็อ๊วกรายชั่วโมงเลย  สลับกับกินเป็นพายุและซนเป็นลิง   และทุกครั้งที่อ๊วกนางจะทำท้องเสียงดังบุ๊บบั๊บๆ  ดังสนั่น   เรานี่สงสารแมวมาก  เราไม่รู้จะทำไงได้แต่ภาวนาขอให้นางหยุดอ๊วกและอึออกมา  แม้คุณหมอจะบอกว่าแทบเป็นไปได้ยาก   

แต่เหมือนมาปาฏิหาริย์  อยู่ๆ  หินอ่อนก็หยุดอ๊วก  และนอนหลับไป  วันรุ่งขึ้นเราจึงพาหินอ่อนไปกักตัวเพื่อเตรียมผ่าตัด

เรากลับบ้านมาดูแลนับตังค์ แล้วทำความสะอาดห้องแมวตามปกติ  และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง  เราเขี่ยอึแมวดูเหมือนทุกครั้ง  ครั้งนี้เราเห็นอึก้อนหนึ่งที่ใหญ่มาก  ขนาดน้องๆมะนาวลูกเล็กเลย  เราแปลกใจ จึงไปเอาถุงใส่มือแล้วแหวกอึดู  พระเจ้าเมตตามาก  หินอ่อนอึเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมาทั้ง 2  ชิ้น ใช่ค่ะ 2  ชิ้นใหญ่ๆ  นั่น  ทั้งที่หมออธิบายให้ฟังแล้วว่าแมวจะมีแรงเบ่งอึน้อยกว่าหมาทำให้โอกาสขับถ่ายของชิ้นใหญ่ออกมายากมาก  ตอนนั้นเราทำใจละ ผ่าก็ผ่า ดูคอสต์ค่ารักษาไว้หมดละ..  เตรียมเงินไว้ได้เลย 2 หมื่น  


พอปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเราดีใจมาก  รีบโทรหาหมอบอกว่ายกเลิกการผ่า ขอตรวจฟีล์มเอกซเรย์อีกรอบโดยละเอียด  ซึ่งผลออกมาน่ายินดีมาก  ไม่มีก้อนสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่เลย  หินอ่อนนางทำได้นางเบ่งมันออกมาพร้อมอึนาง

จากนั้นกระบวนการรักษา ก็ดำเนินต่อไป  หมอต้องให้น้ำเกลือและยาไล่อึในลำไส้นางที่ตกค้างอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะหินอ่อนอาจอึไม่สะดวกโดนสิ่งแปลกปลอมก้อนยักษ์ขวางลำไส้

หมอให้พักฟื้นตอนแรกน่าจะพักสักวัน  แต่ไม่นานก่อนเย็นๆ  คุณหมอให้รับนางกลับบ้าน เพราะนางฟื้นตัวเร็วมากไม่มีอาการแมวป่วย ป่วนทั้งพี่เลี้ยงและโรงพยายาลได้สบายมาก

ตอนนี้หินอ่อนหายละคะ ยังเหลือแค่อาการเมายาและยังต้องป้อนยาบำรุงตับเพราะสารเคมีจากสิ่งแปลกปลอมละลายลงไปอยู่ในเลือดนาง  แม้หมอจะให้น้ำเกลือกับยาทางสายเพื่อช่วยแล้วก็ตาม  และมียาเคลือบกระเพาะในการบรรเทาการอักเสพจากการอ๊วกรุนแรงและติดต่อกัน


ค่าตับหมอบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะตับขับสารพิษออกและฟื้นฟูได้  สำคัญหินอ่อนแข็งแรงมาก มากกว่าแมวปกติทั่วไปหลายเท่า  ขนาดป่วยจนต้องผ่าตัด ยังไม่มีอาการซึม มีไข้ตัวร้อนเลย

จะจำคราวนี้ไว้เป็นบทเรียนเลย  ของปลอดภัยของแมวทั่วไป  ใช่จะปลอดภัยสำหรับแมวซนๆบ้านนี้

โฉมหน้าจอมซน


คู่แฝดจอมซ่า  หินอ่อน _นับตังค์

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่