ขอท้าวความ เราอยู่กับสามีเรามา13ปีมีลูก3คน ไม่ได้จดทะเบียนกัน สามีเราเริ่มทำงานเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2562เกี่ยวกับยืนวีซ่า เลยได้ไปเจอกับผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ข้างหน้า เป็นคนมั่นใจ คุยเก่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม สามีมีเราชอบพูดประมานว่า เนี้ยผู้หญิงที่สถานทูตชอบเราแน่เลย เราดูออกว่าแบบไหนคุยเล่นว่าแบบไหนคิดอะไร ชอบชวนคุย แต่ตัวเค้าก็คุยเรื่องงานนะไม่มีอะไร เพราะว่าเวลามีอะไรผิดพลาดเรื่องเอกสาร น้องเขาจะได้ช่วย (เพราะนางเป็นคนไทย ที่เหลือเป็นคนอินโดหมด) แล้วเวลากลับมาก็ชอบพูดถึงนางบ่อยๆ เล่านู้นนี้ว่าคุยไรกันและบอกว่าขอเบอร์มาเผื่อไปยื่นไปรับไม่ทันได้โทรบอกนางไว้ (แต่ตอนเราถามหาเบอร์สามีบอกว่าลบไปแล้ว กลัวเราไม่สบายใจ) หลังๆเราเริ่มเอ๊ะใจว่าทำไมพูดถึงบ่อย เราเลยบอกไปว่าคุยธรรมดาหรือจีบ สามีเรายังยืนยันว่าไม่มีอะไร เราเลยขอตามไปด้วย เขาก็ให้เราไปบอกว่าแสดงความบริสุทธิ์ใจ(เรามีเวลาตามพอสมควร เพราะเข้างานเป็นกะ) ครั้งแรกไป เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ไปนั่งง่วงๆ สามีเราก็ชี้ให้ดูว่านี่ไงน้องคนนี้ที่บอก "ตัวเองมาน้องเขาไม่กล้าคุยกับเค้าเรา" เราก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่เราคิดในใจว่าสามีเราต้องชอบนางคนนี้แน่ๆ เราเลยไปบ่อยขึ้น ครั้งที่สองที่สามเราเป็นคนไปยื่น นางก็ยิ้มแย้ม พูดจาดี ยังบอกเราด้วยว่า "พี่เขามาชอบมาแกล้งหนูทุกวันเลย เอ้ย ทุกครั้งเลย และหัวเราะกับสามีเรา" แต่เราสังเกตนางชอบทำตาหวานใส่สามีเรา แล้วสามีเราก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยคุยกับเรา ชอบเหม่อลอยเหมือนคนคิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา เราคุยด้วยก็ไม่ค่อยได้ยิน ชอบเปิดเพลงรักเพลงคิดถึงฟังทั้งวันทั้งคืน เอาโทรศัพท์ติดตัวแทบจะตลอดเวลา แล้วเราก็เริ่มงี่เง่าว่าที่สามีเราเปลี่ยนไปเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ เราเริ่มพูดถึงผู้หญิงคนนี้บ่อยๆ เราชอบถามสามีเราว่าเธอรักเขาใช่ไหม สามีเราก็จะบอกว่าไม่มีอะไรตัวเองไม่ต้องคิดมาก เขาก็คุยเล่นคุยแหย่ไปงั้นส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องงาน แล้วเราก็เริ่มเศร้า แอบนอนร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ เพราะตอนที่สามีมาจีบเราเขาก็ทำกับเราแบบนี้ วันที่ 13 กุมภาพันธ์เราร้องไห้ตอนกลางคืน เขามากอดเราถามว่าเราร้องไห้ทำไม อย่าคิดมาก แล้วบอกให้เรานอน พอเช้าของวันที่ 14 กุมภาพันธ์เขาก็ไปยื่นวีซ่าเอง แต่เราไม่เข้าไปเพราะเราไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น สามีเราก็เลยออกมานั่งรอข้างนอกเป็นเพื่อน พอเสร็จเขาก็มาส่งเราไปทำงาน สักบ่ายสามโมงเราเลยโทรหาสามีของเรา แล้วเริ่มคุยกับเขาว่าเลิกคุยกับผู้หญิงคนนี้ได้ไหม ไม่ต้องคุยเล่นอีกเราไม่ชอบเราเสียใจแล้วถ้าไปยื่นวีซ่าที่นี่อีกให้โทรหาเราตลอด ถ้าคุยกับผู้หญิงคนนี้อีก 1 ครั้งเราจะตบหน้า 1 ทีคุยครั้งที่ 2 เราจะตบหน้า 2 ทีไปเรื่อยๆ ถ้าตัวเองยอมเจ็บตัวได้ตัวเองก็คุยต่อไป สามีเราพูดให้เรารู้สึกดีขึ้นมา โดยบอกว่าสัญญาว่าจะไม่คุยอีก ด้วยการบอกว่ารักเราคนเดียวไม่เคยคิดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ ขอให้เราเชื่อใจ เขาสัญญาหลังจากนั้นเราก็รู้สึกดีขึ้น เอาใจสามีมากขึ้นทำตัวดีขึ้น ทำให้เขารู้ว่าเรารักเขาจริงๆ พอมาวันเสาร์อาทิตย์ที่ 15 16 เราโทรหาเขาช่วงเย็นๆเขาก็ไม่ค่อยจะรับสายบอกว่าโทรศัพท์ไม่ได้พก บอกเราว่าไปตกปลาไปดูไก่ตีเอาโทรศัพท์ทิ้งไว้ให้ลูกเล่นที่บ้าน เราก็เชื่อ ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ เราก็รู้สึกว่ามันเหมือนเดิมทุกอย่าง ที่ไม่เหมือนเดิมเลย คือกอดแล้วไม่อุ่น พอมาวันอาทิตย์ที่23 สามีก็มาส่งเราทำงานช่วงบ่ายถ้าเราโทรหาเขาเขาก็ไม่รับสายเลยจนสองทุ่มครึ่ง เขาบอกเราว่าเอาโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินไว้ใต้เบาะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราเชื่อใจ พอเช้าวันที่ 24 ก็มีไปยื่นวีซ่าที่นั้นอีก เราก็ไปด้วยเพราะเป็นวันหยุดของเรา เขากับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่คุยกันเลยแค่ยิ้มให้กันอย่างเดียว พอตกเย็นกลับมาเขาก็ไปเข้าห้องน้ำนาน เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติก็เข้านานอยู่แล้วชอบไปนั่งเล่นเกม พอออกมาก็เอาโทรศัพท์มาชาร์จแบตไว้เพราะแบตจะหมด แล้วเขาก็ไปนั่งเล่นหมากรุกบ้านข้างๆกับเพื่อน เรารู้สึกสงสัยเราก็เลยไปเปิดโทรศัพท์ของเขาดู (ปกติเราไม่ยุ่งกับโทรศัพท์ของเขา) ปรากฏว่าเข้าไปเจอไลน์ส่งมา เป็นชื่อของผู้หญิงคนนั้น แต่ทุกอย่างมันถูกลบออกไปหมดแม้กระทั่งชื่อเพื่อนเขาก็ลบ(เบอร์โทรของผู้หญิงก็บล็อคไว้ ไม่ให้โทรเข้า) มันขึ้นมาแค่บางประโยคที่คุยกันกินอะไร อร่อยไหม เราก็เลยเป็นคนส่งกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะรู้ก็เลยไม่ส่งกลับมาแค่อ่านอย่างเดียว เราเดินไปหาสามีของเรา แล้วถามว่านี่คืออะไร และทุกๆอย่างมันงงไปหมด เราทำอะไรไม่ถูกได้แค่พูดว่ามาทำกับเราอย่างนี้ทำไม สามีเราบอกว่าเขาจะจบกับผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าเรารู้เรื่องนี้แล้วเขาก็จะคบต่อไปไม่ได้ เขาเคยบอกกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วว่าถ้าแฟนพี่จับได้พี่จะเลิกกับหนูนะ สามีเราโทรไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่า พี่เลิกกับหนูนะพี่เลือกแฟนพี่ หลังจากนั้นเราก็เถามคำถามต่างๆนานาจากสามีเรา ว่าทำอะไรกันมาบ้าง เขาบอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแค่แอบไปหาไปกินข้าวด้วยกันเฉยๆ แล้วก็นอนกอดกัน ในวันที่เราโทรไปแล้วเขาไม่รับสาย(ไปมาหลายครั้งแล้ว) แล้วเขาก็พูดว่าเขาขอโทษเขาสัญญาเขาจะไม่ทำให้เราเสียใจอีก เราเอาเบอร์สามีเราโทรไปหาผู้หญิงคนนั้น เพื่อคุยว่าจะเลิกยุ่งกับสามีของเราไหม นางบอกว่า "หนูไม่ยุ่งแล้วหนูขอโทษ หนูก็แค่คุยเล่นขำๆ ไม่ได้คิดอะไรกันเลยจริงๆนะ หนูกลัวบาปกรรม ถ้าหนูรู้ส่าพี่จะโกรธขนาดนี้หนูไม่ทำหรอก" เราก็เลยบอกว่างั้นก็เลิกยุ่งกับสามีของเราไปเลย ต่อจากนี้อย่าให้เห็นว่าคุยกันอีก นางก็ตกลงและสัญญา พอตอนกลางคืนเราก็เอาโทรศัพท์ของสามีเราส่งไลน์ไปหาผู้หญิงคนนั้น เพราะเราอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นยังจะคบกว่าสามีเราต่ออีกไหม เราเลยส่งไปว่า "พี่ขอโทษ เราจะจบกันจริงๆหรอ พี่เลือกหนูพี่ไม่เลือกมัน นางตอกลับมาว่า แต่แฟนพี่โกรธมาก เราเลยส่งไปอีกว่า เรามาถึงกันขนาดนี้แล้วเราจะถอยกันหรอ นางก็ไม่ตอบจนตอนเช้า เราส่งไปใหม่ว่า โกรธพี่หรอจะจบกันจริงๆใช่ไหม นางตอบว่าหนูขอถอยเพราะแฟนพี่โกรธ เราก็ยังหยอดไปอีกว่า เราจะเลิกกันจริงๆใช่ไหม พี่แล้วถ้าหนูถ้าหนูบอกว่าเลิกพี่ก็จะเลิก แล้วนางก็ตอบแค่ว่าหนูไปทำงานก่อนนะคะ และเช้าของวันนั้นเราก็ได้ไปยื่นวีซ่าที่นั่นอีก(สามีเราไปยื่นอีกที่) นางเห็นเราแล้วนางก็ตกใจ ยิ้มให้เราและกล่าว สวัสดีค่ะพี่ เราบอกนางไม่ต้องมาสวัสดีเรา เราถามนางว่ากอดกับสามีกูอุ่นไหม นางยังทำหน้าไม่พอใจ ตอบเสียงแข็งว่าหนูไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว เราก็พูดกับนางไปดีๆ(ไม่ได้ด่าสักคำ)ด้วยความใจเย็น เรื่องกฎแห่งกรรม ทั้งๆที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีเมียมีลูกอยู่แล้วอยากจะคบ ทำยังนี้กับกูได้ไง จิตใจทำด้วยอะไร นางบอกว่าว่า "พี่ก็ไปบอกสามีพี่ว่าเลิกยุ่งกับหนู เพราะว่าหนูไม่ได้เป็นคนเริ่ม สามีพี่เริ่มมาคุยกับหนูก่อน" และนางก็ส่งเอกสารและคิวให้แบบไม่พอใจ และเราก็ได้ไปยื่นวีซ่าที่นี่อีกบ่อยๆ นางก็เริ่มทำหน้าทำตา นางโยนสมุดวีซ่าใส่เรา เกือบหล่นจากเคาน์เตอร์ เราพูดกับนางไปว่า ถ้าส่งให้ขนาดนี้ไม่โยนให้หล่นลงมาเลยล่ะคะน้อง นางบอกว่าให้ทำให้ก็ได้นะสามีเรานั่งหันหลังและบอกให้เราอย่าไปต่อล้อต่อเถียง ใจจริงเราก็ไม่อยากอะไรหรอกเพราะมันเป็นสถานที่ราชการ(มีอีกหลายอย่าง แต่พอแค่นี้พอ วันที่เราจับได้เราก็มีด่านางไปบ้าง แต่สามีเราโดนไปหลายทีอยู่หน้าบวมไปหลายวัน แต่ปฏิกิริยาของเธอนั้นช่างน่าโดนซะเกินแต่ก็ยังไม่มีโอกาส ) จากเหตุการณ์นี้นางก็ยังดูทำตัวอ่อนน้อมกับสามีของเราตอนที่ให้สามีเราไปยื่นเอกสาร เราควรจะเชื่อใจสามีเราอยู่ไหม ว่าจะไม่ไปหานางอีก เพราะถ้าไปอีกเชื่อเลยว่านางก็ยังรับได้ ที่สามีมีเราเเละลูกอยู่ ถ้าแท็กผิดห้องต้องขออภัย แค่อยากได้ความเห็นว่าควรเชื่อใจไหม และควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี
เราควรจะเชื่อใจสามีของเราอีกไหม