เรื่องมาถึง Ep.9 แล้ว คนดูอย่างเราที่ลุ้นมาทุกสัปดาห์ เริ่มจากกระแสไม่ได้โด่งดังมากมาย (รู้แค่ว่าเป็นผลงานคัมแบคในรอบเกือบ 2 ปี ของ “พัคซอจุน”) แต่ไม่น่าเชื่อว่าด้วยตัวบท เนื้อเรื่อง การแสดง สีภาพ มุมกล้อง หรือแม้แต่เพลงประกอบ มันพาเรื่องนี้ไต่ระดับมาติดระดับทั้งเรตติ้งและกระแสที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนอดมาตั้งกระทู้ไม่ได้จริงๆ
จากเนื้อเรื่องเดินมาถึงตอนนี้ คนดูอย่างเรานอกจากถูกบีบอัดไปกับชีวิตของพระเอกพัคแซรอย และลุ้นไปกับกลเกมทางธุรกิจแบบชิคๆ ว่าจะทลายยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารได้หรือไม่ อีกอย่างที่ต้องเพิ่มความทุรนทุรายให้คนดูไปอีกก็เรื่องความสัมพันธ์ของพระเอกกับสองสาว ที่ถึงขั้นต้องแบ่งทีมกันเลย #ทีมอีซอ #ทีมซูอา
ในมุมของคนดูที่ดูจากเส้นเรื่องแล้ว พระเอกก็คนธรรมดาอย่างเราอ่ะแหละ ถึงแม้ผู้แต่งจะพยายามเขียนให้เป็นตัวละครในอุดมคติ (ที่สื่อให้คนมองเป็นฮีโร่ อยากยึดตามแบบคนแบบนี้ เพราะในสังคมปัจจุบันคงหาคนแบบนี้ยากล่ะ ตรรกะพระเอกเลยออกมาแบบ เห้ยยยย!! ดีว่ะ เราอยากเป็นแบบนี้บ้าง อยากทำให้ดีกว่าเดิม และไม่ทำร้ายใคร)
จาก ep.9 ล่าสุด ขอคาดเดาสถานการณ์อันคลุมเครือของนิยามความรักของอีตาเถ้าแก่เลยว่า เถ้าแก่ไม่รู้ตัวเลยว่ารักน้องหมวยอีซอไปแล้ว สังเกตจากตอนรู้ว่านางเอกจะถูกซื้อตัวไปอีกฝั่ง มันสับสน ไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะเถ้าแก่ไม่มั่นใจในการขาดกำลังคนในการทำให้ร้านประสบความสำเร็จอย่างอีซอ แต่มันสื่อทางแววตาว่าชีวิตพระเอกขาดอีซอไม่ได้ แววตาพระเอกกลัว กลัวการสูญเสียผู้หญิงคนนี้ ต่างจากตอนซูอา พระเอกไม่ได้กลัวที่จะสูญเสียซูอา แต่อยากให้ซูอามีความสุขในเส้นทางชีวิต เหมือนคนที่หวังดีต่อกันมากกว่า
นิยามความรักของพระเอก กรณีที่ 1) รักและขาดเขาไม่ได้ 2) แค่เห็นเขามีความสุขก็พอแล้ว ลูกผู้ชายมาก
เรามาดูในความเป็นจริงรักใน กรณีที่ 1 น่าจะใกล้เคียงชีวิตรักทั่วไปมากที่สุด เพราะมันรักจนขาดกันไม่ได้ มันจะต้องอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันอ่ะ รักแบบนี้มันจะเจ็บมากถ้าต้องจากกันไม่ว่าจากกันด้วยวิธีใด
แค่นางเอกขู่ว่าจะลาออก ในหัวสมองที่มีแต่เรื่องแก้แค้นก็คิดเรื่องนางเอกแทรกเข้ามา แค่นางเอกบอกว่านิสัยเราต่างกันมากก็เอามาคิดวุ่นวายใจ อีเถ้าแก่นี่มันไม่รู้ใจตัวเองจริงๆเลย ต้องมีเหตุการณ์ฟาดๆมากระตุ้นนางซักหน่อย...
คาดการณ์ต่อเลยว่า รักแบบกรณีที่ 1 พระเอกจะทุ่มสุดตัวเพื่อได้รักได้ครอบครอง หมวยอีซอก็เหมือนพระเอกล่ะ แต่ถ้าถึงจุดที่หมวยเจ็บมากหมวยไม่ทน เถ้าแก่คงดั้นด้นดึงหมวยกลับมาแทบทุกวิธี รอดูเถ้าแก่เททั้งหน้าตัก #รอดู!!!
Itaewon Class ความแตกต่างในนิยามคำว่ารักของ พัคแซรอย กับ ผู้หญิง 2 คน
จากเนื้อเรื่องเดินมาถึงตอนนี้ คนดูอย่างเรานอกจากถูกบีบอัดไปกับชีวิตของพระเอกพัคแซรอย และลุ้นไปกับกลเกมทางธุรกิจแบบชิคๆ ว่าจะทลายยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารได้หรือไม่ อีกอย่างที่ต้องเพิ่มความทุรนทุรายให้คนดูไปอีกก็เรื่องความสัมพันธ์ของพระเอกกับสองสาว ที่ถึงขั้นต้องแบ่งทีมกันเลย #ทีมอีซอ #ทีมซูอา
ในมุมของคนดูที่ดูจากเส้นเรื่องแล้ว พระเอกก็คนธรรมดาอย่างเราอ่ะแหละ ถึงแม้ผู้แต่งจะพยายามเขียนให้เป็นตัวละครในอุดมคติ (ที่สื่อให้คนมองเป็นฮีโร่ อยากยึดตามแบบคนแบบนี้ เพราะในสังคมปัจจุบันคงหาคนแบบนี้ยากล่ะ ตรรกะพระเอกเลยออกมาแบบ เห้ยยยย!! ดีว่ะ เราอยากเป็นแบบนี้บ้าง อยากทำให้ดีกว่าเดิม และไม่ทำร้ายใคร)
จาก ep.9 ล่าสุด ขอคาดเดาสถานการณ์อันคลุมเครือของนิยามความรักของอีตาเถ้าแก่เลยว่า เถ้าแก่ไม่รู้ตัวเลยว่ารักน้องหมวยอีซอไปแล้ว สังเกตจากตอนรู้ว่านางเอกจะถูกซื้อตัวไปอีกฝั่ง มันสับสน ไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะเถ้าแก่ไม่มั่นใจในการขาดกำลังคนในการทำให้ร้านประสบความสำเร็จอย่างอีซอ แต่มันสื่อทางแววตาว่าชีวิตพระเอกขาดอีซอไม่ได้ แววตาพระเอกกลัว กลัวการสูญเสียผู้หญิงคนนี้ ต่างจากตอนซูอา พระเอกไม่ได้กลัวที่จะสูญเสียซูอา แต่อยากให้ซูอามีความสุขในเส้นทางชีวิต เหมือนคนที่หวังดีต่อกันมากกว่า
นิยามความรักของพระเอก กรณีที่ 1) รักและขาดเขาไม่ได้ 2) แค่เห็นเขามีความสุขก็พอแล้ว ลูกผู้ชายมาก
เรามาดูในความเป็นจริงรักใน กรณีที่ 1 น่าจะใกล้เคียงชีวิตรักทั่วไปมากที่สุด เพราะมันรักจนขาดกันไม่ได้ มันจะต้องอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันอ่ะ รักแบบนี้มันจะเจ็บมากถ้าต้องจากกันไม่ว่าจากกันด้วยวิธีใด
แค่นางเอกขู่ว่าจะลาออก ในหัวสมองที่มีแต่เรื่องแก้แค้นก็คิดเรื่องนางเอกแทรกเข้ามา แค่นางเอกบอกว่านิสัยเราต่างกันมากก็เอามาคิดวุ่นวายใจ อีเถ้าแก่นี่มันไม่รู้ใจตัวเองจริงๆเลย ต้องมีเหตุการณ์ฟาดๆมากระตุ้นนางซักหน่อย...
คาดการณ์ต่อเลยว่า รักแบบกรณีที่ 1 พระเอกจะทุ่มสุดตัวเพื่อได้รักได้ครอบครอง หมวยอีซอก็เหมือนพระเอกล่ะ แต่ถ้าถึงจุดที่หมวยเจ็บมากหมวยไม่ทน เถ้าแก่คงดั้นด้นดึงหมวยกลับมาแทบทุกวิธี รอดูเถ้าแก่เททั้งหน้าตัก #รอดู!!!