ขอพูดก่อนเลยบนความนี้อาจจะเป็นบทความสวนกระแส กรุณา ไม่ดราม่านะครับมันเป็นอีกมุมมองนึงรับฟังกันได้ใครไม่ชอบก็อย่าว่าพี่คนเขียนเขา
▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
:: พี่ต้อม & พี่จ็อบส์ & BNK48 - ในมุมที่อยากให้หลายคนได้รู้จัก ::
ข่าวการยุติบทบาทของสองผู้บริหาร BNK48 ในวันนี้ ซึ่งสืบเนื่องมาจากดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน อาจจะทำให้หลายคนดีใจ, พอใจ, โกรธ หรืออะไรก็ตามแต่
ในมุมนึงที่ผมไล่ตามอ่าน feed ตามโซเชียล ก็มีหลากหลายความเห็น รวมถึงคาดเดาต่างๆ นาๆ กันไป
.
แต่เมื่อวันที่ทั้งสองคนตัดสินใจยุติบทบาทตัวเองลงจาก BNK48 ผมในฐานะที่เคยร่วมงานกับทั้งสองคนนี้มาบ้าง ไม่มากก็น้อย
อยากถือโอกาสเขียนอะไรบางอย่าง ให้คนที่มองจากมุมนอก ได้เห็นอีกด้านนึง
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครหรอกครับที่จะมีแต่ด้านแย่ ด้านที่ไม่ดีติดตัวไปตลอด
แต่ด้านที่ดี ด้านที่น่าชื่นชม และมุมที่เราได้เรียนรู้จากเขาต่างหาก ที่เราสามารถเอามาพัฒนาตัวเราเองได้ในอนาคต
.
Disclaimer : ผู้เขียนเป็นผู้บริหารเว็บ Mango Zero ซึ่งเคยร่วมงานกับทาง BNK48 ในหลายโปรเจ็ค แม้ผมไม่ได้รับค่าจ้างอะไรมาเขียน แต่ก็ต้องบอกกันไว้ก่อน อย่าด่าผมเลย 5555
Note : ยาวมาก
.
24 ส.ค. 2017
ผมได้เจอพี่จ็อบส์ (จ็อบส์ซัง) ครั้งแรก ตอนนั้นเรายกทีมงานไปสัมภาษณ์และถ่ายทำเบื้องหลังการซ้อมของ BNK48
ในวันที่วงยังมีคนตามไม่เยอะ ซิงเกิล Aitakata ไม่ดังอย่างที่คาดหวัง ทั้งที่ลงทุนไปเยอะมาก ทั้งรายการทีวี การโปรโมท เมมเบอร์ที่มีจำนวนมาก
ในวันที่วงยังไม่ดัง ยังไม่มีคุ้กกี้ ยังไม่มีเธียร์เตอร์
แต่ความรู้สึกนึงที่เราเห็นได้ชัดเจนมากๆ ในวันนั้น
คือบรรยากาศในวง BNK48 มีความเป็นครอบครัวสูงมากๆ
และเห็นได้ชัดว่า พี่จ็อบส์รักและดูแลน้องเมมเบอร์ทุกคนมากๆ
รวมถึงเมมเบอร์เอง ก็รักและเคารพพี่จ็อบส์มากๆ ด้วยเช่นกัน
.
12 มิ.ย. 2018
หลังจากที่ BNK48 ดังแบบฉุดไม่อยู่ จากเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย แม้จะเคยได้เจอกันบ่อยครั้งตามงานอีเวนต์ แต่ผมไม่เคยได้คุยกับพี่ต้อม จิรัฐ แบบจริงจังเลยสักที
ผมส่งข้อความหาพี่ต้อมผ่านทาง FB Msg และนัดทีมงานเข้ามาสัมภาษณ์แถวสยาม
หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น จากการร่วมงานในโปรเจ็คอย่างหนังสือ General Election, หนังสือครบรอบ 2 ปี, BNK48 by the Way ฯลฯ
.
สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะแอบถามพี่ต้อมอยู่เสมอ คือเบื้องหลังการทำงาน
อาจจะเพราะเราเองก็ทำงานบริหารเหมือนกัน มีบริษัทต้องดูแล และเราก็อยากได้เรียนรู้อะไรจากพี่ๆ
ซึ่งทุกครั้งที่มีใครมาถามผมว่า BNK48 ดังขนาดนี้ได้ยังไง ? ผมก็จะตอบแบบไม่ลังเลเลย ว่าเพราะพี่ต้อมครับ
.
แม้หน้ากล้องพี่ต้อมจะดูเข้ม ดูขึงขัง จริงจัง ต่างจากพี่จ็อบส์ที่จะดูอ่อนโยนกว่า และน้ำตาไหลง่ายกว่า (ฮา)
หลังกล้องจริงๆ แล้วพี่ต้อมเป็น Geek มากๆ และเฮฮามากระดับนึง
แต่สิ่งนึงที่ผมนับถือพี่ต้อมมากๆ น่าจะเป็นเรื่องของ Vision กับเรื่อง Creativity
.
หลายคนอาจจะมองว่า BNK48 ก็เป็นแฟรนไชส์นึงของ 48 Group แค่เอาเพลงมาแปลง ทำตามกฏ ตามรูปแบบของญี่ปุ่น วงก็ดังได้ ไม่ต้องทำอะไร
อันนั้นก็คงต้องบอกให้ลองไปดูวง 48 ในประเทศอื่นๆ ดูครับ
หรือลองให้ดู BNK48 ในซิงเกิลแรกดูครับ
ก็จะเข้าใจว่า การทำให้วงดังในระดับนี้ได้ มันเป็นเรื่องยากมากๆๆๆๆ
.
อะไรที่ผมได้เรียนรู้จากพี่ต้อม และพี่จ็อบส์บ้าง ?
.
- Creativity ความคิดต่าง -
ตู้ปลา ที่ห้าง EmQuartier เป็นตัวอย่างเรื่องการคิดนอกกรอบเอามากๆ คือใน 48 Group ตอนนั้น ไม่มีวงไหนเลยนะ ที่มีตู้ปลาแบบนี้
ผมเคยถามพี่ต้อมว่า การทำอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องใช้ความพยายามแค่ไหนในการเจรจากับญี่ปุ่น ?
พี่ต้อมบอกที่เราต้องทำ ไม่ใช่คิดแต่ว่าทำยังไงให้ญี่ปุ่นยอม แต่ต้องคิดว่า ทำยังไงให้เราเชื่อในสิ่งที่เราทำมากๆ แล้วสิ่งอื่นจะตามมาเอง
.
หรืออย่างเรื่อง CSR ดูแลสังคม ตั้งแต่เรื่องน้ำท่วม, ภัยหนาว, มูลนิธิ BNK48 ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
หลายคนอาจจะมองว่า ก็วงดังแล้ว มีตังค์ ก็ต้องคืนกำไรสู่สังคมสิ
แต่ก็ต้องบอกว่า วงที่ทำเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่แรก และสม่ำเสมอในเมืองไทย ก็มีไม่กี่วงนะ ซึ่งการตัดสินใจทำเรื่องพวกนี้ ก็ต้องมาจากทีมบริหารนี่แหล่ะครับ
.
14 ม.ค. 2019
ผมหอบเอาไอเดียของการทำหนังสือ General Election ไปให้พี่ต้อมดูถึงออฟฟิศ BNK48 ไอเดียคือเราอยากทำทั้งหนังสือ และออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน
"เฮ้ย ดีๆ ผมชอบ ไอเดียนี้ผมซื้อ" พี่ต้อมบอก
"แต่ถ้าพี่จะเอาออนไลน์ ผมต้องชาร์จเพิ่ม XXX บาทนะครับ"
"เอาเลย คุณทำได้เลย"
แต่พี่จะขายหนังสือกี่บาท ? คือแค่ค่า Photo Set ก็ 5 ใบพี่ก็ขาย 250 บาทแล้ว อันนี้หนังสือร้อยกว่าหน้า แถมรูปในเล่มด้วย รวมทั้งค่าทำสื่อออนไลน์อีกบาน
พี่ต้อมตอบมาทันทีว่าขายไม่เกิน 380 บาท ผมพยายามถามเหตุผล เพราะราคาจะต่างจากสินค้าอื่นๆ มากเลยนะ ที่ปกติราคาจะสูงมากอยู่แล้ว
"ผมอยากให้แฟนคลับที่โหวตให้น้องๆ ทุกคน ได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้" พูดเสร็จพี่แกก็โบกมือลา ไปปั่นงานอื่นต่อ
.
- Vision -
ทุกครั้งที่เจอพี่ต้อม ผมมักจะแอบถามความลับของวงเสมอๆ ซึ่งแกก็ไม่เคยบอกอะไรหรอกนะ 555
แต่บางเรื่องที่พี่แกพอจะเล่าให้ฟังได้ บางทีเราฟังแล้วก็ โอ้ววว เอางั้นเลยเหรอพี่
เช่น การทำหนัง Where we belong ที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ยาก ไม่แมส รู้ว่าไม่ได้เงิน รู้ว่าขาดทุน แทนที่จะทำหนังแมส น่ารักสดใส ไอดอล
ผมถามว่า แล้วพี่จะทำไปทำไม ?
พี่ต้อมบอกว่า "ผมอยากเห็นมิวสิคกับเจนนิส ไปยืนรับรางวัลบนเวที ผมอยากเห็นหนังไทยไปไกลถึงเวทีนานาชาติ"
.
หรืออย่างการที่ทางวงให้เมมเบอร์ทุกคนสร้าง Fan Page ขึ้นมา และบริหารเพจด้วยตัวเอง
ในยุคเมื่อ 4 ปีก่อน เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของเมมเบอร์ทุกคนในอนาคต
.
มิ.ย. 2019
ภาพนึงที่ผมเห็นเป็นประจำ คือการที่เมมเบอร์ ชอบล้อเลียนหรือแซวผู้บริหารสองพี่น้องนี้เป็นประจำ ทั้งในเวลาที่มีหรือไม่มีสองคนนี้ก็ตาม
มีอยู่วันนึงที่ผมต้องไปปรึกษาพี่จ็อบส์ เรื่องการถ่ายทำรายการ by the way เราไปด้วยการเตรียมจด ว่าอะไรบ้างเป็นข้อห้ามของวง กฏต่างๆ มากมายก่ายกอง
แต่ประโยคที่ผมได้รับจากพี่จ็อบส์ เรียบง่ายเอามากๆ เลย
"ดูแลน้องๆ ให้มากๆ นะครับ ความปลอดภัยต้องมาก่อน ผมฝากน้องๆ ผมด้วย"
.
เวลาที่ผมถามเรื่องแนวทาง เรื่องบท หรือเรื่องสถานที่ พี่จ็อบส์จะเป็นห่วงแต่เรื่องความปลอดภัยของเมมเบอร์ตลอดเวลา
คุยเสร็จ พี่จ็อบส์ก็เดินหันไปดูเมมเบอร์ซ้อมต่อบนเวที แล้วเราก็ได้ยินเสียงล้อเลียนพี่จ็อบส์ ตามมาให้หลัง
.
นอกเรื่อง : สิ่งนึงที่ทางวงคงไม่ได้เปิดเผย เพราะถึงบอกไป คนก็มองในอีกแง่มุมอยู่ดี
แต่จากมุมมองคนนอก ที่ได้ร่วมงานกันบ่อยครั้ง ก็ต้องบอกว่า ทางวงดูแลเมมเบอร์ดีเอามากๆ เลยนะครับ ดีกว่าที่ศิลปินหลายวงของค่ายใหญ่ได้รับการดูแลด้วยซ้ำ
ทั้งเรื่องสวัสดิการณ์ รวมถึงเรื่องค่าตอบแทน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ น้องๆ ได้รับการดูแลที่ดีจริงๆ
.
26 ก.พ. 2020
มี LINE จากทาง PR แจ้งว่าวันนี้จะมีแถลงข่าวที่ตู้ปลา กรณีดราม่าที่เกิด น่าเสียดายที่ผมติดงานไม่ได้ไปตามข่าว
มารู้อีกทีคือตอนที่ PR แจ้งผมมาว่า ข่าวที่ลงในเว็บเราเขียนผิด (ซึ่งกราบขออภัยมา ณ ที่นี้) พอเช็คเรื่องราวทั้งหมดแล้วได้ทราบข่าวการประกาศยุติบทบาทจาก BNK48 ลง ก็แอบใจหาย
ผมคิดว่ามันค่อนข้างชัดเจนนะครับ ว่าถ้าไม่มีสองคนนี้ BNK48 อาจจะไม่ได้มาไกลจนถึงขนาดนี้ก็ได้
ในความสะใจของหลายๆ คน
ก็มีบางส่วนเหมือนกัน ที่แอบใจหาย
.
พี่จ็อบส์อาจจะเป็นคนที่ทุกคนเห็นกันบ่อยกว่า แต่พี่ต้อมเองก็เป็นที่คุ้นตาของทุกคนเช่นกัน
ผมเชื่อว่าทั้งสองคน คงได้พิสูจน์ตัวเองในบทบาทใหม่ หรืออะไรที่จะเป็นหลังจากนี้ เราก็คงได้แต่ติดตามข่าวกันต่อไป
แต่เชื่อผมเถอะครับ ว่าเรื่องราวในวันนี้ คงไม่มีใครเสียใจ มากไปกว่าสองคนนี้อีกแล้ว
การที่เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น รวมถึงการได้เรียนรู้จากความสำเร็จที่เขาเคยทำเอาไว้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีจริงไหมครับ
ขอให้พี่ทั้งสองคนโชคดี
/ Khajochi's Blog
#iAM48 #BNK48
Link :
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3389150971101018&id=157534500929364
ต้อม & จ็อบ & BNKในอีกมุมมองที่อยากให้ทุกคนรู้จัก
▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
:: พี่ต้อม & พี่จ็อบส์ & BNK48 - ในมุมที่อยากให้หลายคนได้รู้จัก ::
ข่าวการยุติบทบาทของสองผู้บริหาร BNK48 ในวันนี้ ซึ่งสืบเนื่องมาจากดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน อาจจะทำให้หลายคนดีใจ, พอใจ, โกรธ หรืออะไรก็ตามแต่
ในมุมนึงที่ผมไล่ตามอ่าน feed ตามโซเชียล ก็มีหลากหลายความเห็น รวมถึงคาดเดาต่างๆ นาๆ กันไป
.
แต่เมื่อวันที่ทั้งสองคนตัดสินใจยุติบทบาทตัวเองลงจาก BNK48 ผมในฐานะที่เคยร่วมงานกับทั้งสองคนนี้มาบ้าง ไม่มากก็น้อย
อยากถือโอกาสเขียนอะไรบางอย่าง ให้คนที่มองจากมุมนอก ได้เห็นอีกด้านนึง
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครหรอกครับที่จะมีแต่ด้านแย่ ด้านที่ไม่ดีติดตัวไปตลอด
แต่ด้านที่ดี ด้านที่น่าชื่นชม และมุมที่เราได้เรียนรู้จากเขาต่างหาก ที่เราสามารถเอามาพัฒนาตัวเราเองได้ในอนาคต
.
Disclaimer : ผู้เขียนเป็นผู้บริหารเว็บ Mango Zero ซึ่งเคยร่วมงานกับทาง BNK48 ในหลายโปรเจ็ค แม้ผมไม่ได้รับค่าจ้างอะไรมาเขียน แต่ก็ต้องบอกกันไว้ก่อน อย่าด่าผมเลย 5555
Note : ยาวมาก
.
24 ส.ค. 2017
ผมได้เจอพี่จ็อบส์ (จ็อบส์ซัง) ครั้งแรก ตอนนั้นเรายกทีมงานไปสัมภาษณ์และถ่ายทำเบื้องหลังการซ้อมของ BNK48
ในวันที่วงยังมีคนตามไม่เยอะ ซิงเกิล Aitakata ไม่ดังอย่างที่คาดหวัง ทั้งที่ลงทุนไปเยอะมาก ทั้งรายการทีวี การโปรโมท เมมเบอร์ที่มีจำนวนมาก
ในวันที่วงยังไม่ดัง ยังไม่มีคุ้กกี้ ยังไม่มีเธียร์เตอร์
แต่ความรู้สึกนึงที่เราเห็นได้ชัดเจนมากๆ ในวันนั้น
คือบรรยากาศในวง BNK48 มีความเป็นครอบครัวสูงมากๆ
และเห็นได้ชัดว่า พี่จ็อบส์รักและดูแลน้องเมมเบอร์ทุกคนมากๆ
รวมถึงเมมเบอร์เอง ก็รักและเคารพพี่จ็อบส์มากๆ ด้วยเช่นกัน
.
12 มิ.ย. 2018
หลังจากที่ BNK48 ดังแบบฉุดไม่อยู่ จากเพลงคุกกี้เสี่ยงทาย แม้จะเคยได้เจอกันบ่อยครั้งตามงานอีเวนต์ แต่ผมไม่เคยได้คุยกับพี่ต้อม จิรัฐ แบบจริงจังเลยสักที
ผมส่งข้อความหาพี่ต้อมผ่านทาง FB Msg และนัดทีมงานเข้ามาสัมภาษณ์แถวสยาม
หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น จากการร่วมงานในโปรเจ็คอย่างหนังสือ General Election, หนังสือครบรอบ 2 ปี, BNK48 by the Way ฯลฯ
.
สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะแอบถามพี่ต้อมอยู่เสมอ คือเบื้องหลังการทำงาน
อาจจะเพราะเราเองก็ทำงานบริหารเหมือนกัน มีบริษัทต้องดูแล และเราก็อยากได้เรียนรู้อะไรจากพี่ๆ
ซึ่งทุกครั้งที่มีใครมาถามผมว่า BNK48 ดังขนาดนี้ได้ยังไง ? ผมก็จะตอบแบบไม่ลังเลเลย ว่าเพราะพี่ต้อมครับ
.
แม้หน้ากล้องพี่ต้อมจะดูเข้ม ดูขึงขัง จริงจัง ต่างจากพี่จ็อบส์ที่จะดูอ่อนโยนกว่า และน้ำตาไหลง่ายกว่า (ฮา)
หลังกล้องจริงๆ แล้วพี่ต้อมเป็น Geek มากๆ และเฮฮามากระดับนึง
แต่สิ่งนึงที่ผมนับถือพี่ต้อมมากๆ น่าจะเป็นเรื่องของ Vision กับเรื่อง Creativity
.
หลายคนอาจจะมองว่า BNK48 ก็เป็นแฟรนไชส์นึงของ 48 Group แค่เอาเพลงมาแปลง ทำตามกฏ ตามรูปแบบของญี่ปุ่น วงก็ดังได้ ไม่ต้องทำอะไร
อันนั้นก็คงต้องบอกให้ลองไปดูวง 48 ในประเทศอื่นๆ ดูครับ
หรือลองให้ดู BNK48 ในซิงเกิลแรกดูครับ
ก็จะเข้าใจว่า การทำให้วงดังในระดับนี้ได้ มันเป็นเรื่องยากมากๆๆๆๆ
.
อะไรที่ผมได้เรียนรู้จากพี่ต้อม และพี่จ็อบส์บ้าง ?
.
- Creativity ความคิดต่าง -
ตู้ปลา ที่ห้าง EmQuartier เป็นตัวอย่างเรื่องการคิดนอกกรอบเอามากๆ คือใน 48 Group ตอนนั้น ไม่มีวงไหนเลยนะ ที่มีตู้ปลาแบบนี้
ผมเคยถามพี่ต้อมว่า การทำอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องใช้ความพยายามแค่ไหนในการเจรจากับญี่ปุ่น ?
พี่ต้อมบอกที่เราต้องทำ ไม่ใช่คิดแต่ว่าทำยังไงให้ญี่ปุ่นยอม แต่ต้องคิดว่า ทำยังไงให้เราเชื่อในสิ่งที่เราทำมากๆ แล้วสิ่งอื่นจะตามมาเอง
.
หรืออย่างเรื่อง CSR ดูแลสังคม ตั้งแต่เรื่องน้ำท่วม, ภัยหนาว, มูลนิธิ BNK48 ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
หลายคนอาจจะมองว่า ก็วงดังแล้ว มีตังค์ ก็ต้องคืนกำไรสู่สังคมสิ
แต่ก็ต้องบอกว่า วงที่ทำเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่แรก และสม่ำเสมอในเมืองไทย ก็มีไม่กี่วงนะ ซึ่งการตัดสินใจทำเรื่องพวกนี้ ก็ต้องมาจากทีมบริหารนี่แหล่ะครับ
.
14 ม.ค. 2019
ผมหอบเอาไอเดียของการทำหนังสือ General Election ไปให้พี่ต้อมดูถึงออฟฟิศ BNK48 ไอเดียคือเราอยากทำทั้งหนังสือ และออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน
"เฮ้ย ดีๆ ผมชอบ ไอเดียนี้ผมซื้อ" พี่ต้อมบอก
"แต่ถ้าพี่จะเอาออนไลน์ ผมต้องชาร์จเพิ่ม XXX บาทนะครับ"
"เอาเลย คุณทำได้เลย"
แต่พี่จะขายหนังสือกี่บาท ? คือแค่ค่า Photo Set ก็ 5 ใบพี่ก็ขาย 250 บาทแล้ว อันนี้หนังสือร้อยกว่าหน้า แถมรูปในเล่มด้วย รวมทั้งค่าทำสื่อออนไลน์อีกบาน
พี่ต้อมตอบมาทันทีว่าขายไม่เกิน 380 บาท ผมพยายามถามเหตุผล เพราะราคาจะต่างจากสินค้าอื่นๆ มากเลยนะ ที่ปกติราคาจะสูงมากอยู่แล้ว
"ผมอยากให้แฟนคลับที่โหวตให้น้องๆ ทุกคน ได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้" พูดเสร็จพี่แกก็โบกมือลา ไปปั่นงานอื่นต่อ
.
- Vision -
ทุกครั้งที่เจอพี่ต้อม ผมมักจะแอบถามความลับของวงเสมอๆ ซึ่งแกก็ไม่เคยบอกอะไรหรอกนะ 555
แต่บางเรื่องที่พี่แกพอจะเล่าให้ฟังได้ บางทีเราฟังแล้วก็ โอ้ววว เอางั้นเลยเหรอพี่
เช่น การทำหนัง Where we belong ที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ยาก ไม่แมส รู้ว่าไม่ได้เงิน รู้ว่าขาดทุน แทนที่จะทำหนังแมส น่ารักสดใส ไอดอล
ผมถามว่า แล้วพี่จะทำไปทำไม ?
พี่ต้อมบอกว่า "ผมอยากเห็นมิวสิคกับเจนนิส ไปยืนรับรางวัลบนเวที ผมอยากเห็นหนังไทยไปไกลถึงเวทีนานาชาติ"
.
หรืออย่างการที่ทางวงให้เมมเบอร์ทุกคนสร้าง Fan Page ขึ้นมา และบริหารเพจด้วยตัวเอง
ในยุคเมื่อ 4 ปีก่อน เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานของเมมเบอร์ทุกคนในอนาคต
.
มิ.ย. 2019
ภาพนึงที่ผมเห็นเป็นประจำ คือการที่เมมเบอร์ ชอบล้อเลียนหรือแซวผู้บริหารสองพี่น้องนี้เป็นประจำ ทั้งในเวลาที่มีหรือไม่มีสองคนนี้ก็ตาม
มีอยู่วันนึงที่ผมต้องไปปรึกษาพี่จ็อบส์ เรื่องการถ่ายทำรายการ by the way เราไปด้วยการเตรียมจด ว่าอะไรบ้างเป็นข้อห้ามของวง กฏต่างๆ มากมายก่ายกอง
แต่ประโยคที่ผมได้รับจากพี่จ็อบส์ เรียบง่ายเอามากๆ เลย
"ดูแลน้องๆ ให้มากๆ นะครับ ความปลอดภัยต้องมาก่อน ผมฝากน้องๆ ผมด้วย"
.
เวลาที่ผมถามเรื่องแนวทาง เรื่องบท หรือเรื่องสถานที่ พี่จ็อบส์จะเป็นห่วงแต่เรื่องความปลอดภัยของเมมเบอร์ตลอดเวลา
คุยเสร็จ พี่จ็อบส์ก็เดินหันไปดูเมมเบอร์ซ้อมต่อบนเวที แล้วเราก็ได้ยินเสียงล้อเลียนพี่จ็อบส์ ตามมาให้หลัง
.
นอกเรื่อง : สิ่งนึงที่ทางวงคงไม่ได้เปิดเผย เพราะถึงบอกไป คนก็มองในอีกแง่มุมอยู่ดี
แต่จากมุมมองคนนอก ที่ได้ร่วมงานกันบ่อยครั้ง ก็ต้องบอกว่า ทางวงดูแลเมมเบอร์ดีเอามากๆ เลยนะครับ ดีกว่าที่ศิลปินหลายวงของค่ายใหญ่ได้รับการดูแลด้วยซ้ำ
ทั้งเรื่องสวัสดิการณ์ รวมถึงเรื่องค่าตอบแทน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ น้องๆ ได้รับการดูแลที่ดีจริงๆ
.
26 ก.พ. 2020
มี LINE จากทาง PR แจ้งว่าวันนี้จะมีแถลงข่าวที่ตู้ปลา กรณีดราม่าที่เกิด น่าเสียดายที่ผมติดงานไม่ได้ไปตามข่าว
มารู้อีกทีคือตอนที่ PR แจ้งผมมาว่า ข่าวที่ลงในเว็บเราเขียนผิด (ซึ่งกราบขออภัยมา ณ ที่นี้) พอเช็คเรื่องราวทั้งหมดแล้วได้ทราบข่าวการประกาศยุติบทบาทจาก BNK48 ลง ก็แอบใจหาย
ผมคิดว่ามันค่อนข้างชัดเจนนะครับ ว่าถ้าไม่มีสองคนนี้ BNK48 อาจจะไม่ได้มาไกลจนถึงขนาดนี้ก็ได้
ในความสะใจของหลายๆ คน
ก็มีบางส่วนเหมือนกัน ที่แอบใจหาย
.
พี่จ็อบส์อาจจะเป็นคนที่ทุกคนเห็นกันบ่อยกว่า แต่พี่ต้อมเองก็เป็นที่คุ้นตาของทุกคนเช่นกัน
ผมเชื่อว่าทั้งสองคน คงได้พิสูจน์ตัวเองในบทบาทใหม่ หรืออะไรที่จะเป็นหลังจากนี้ เราก็คงได้แต่ติดตามข่าวกันต่อไป
แต่เชื่อผมเถอะครับ ว่าเรื่องราวในวันนี้ คงไม่มีใครเสียใจ มากไปกว่าสองคนนี้อีกแล้ว
การที่เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น รวมถึงการได้เรียนรู้จากความสำเร็จที่เขาเคยทำเอาไว้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีจริงไหมครับ
ขอให้พี่ทั้งสองคนโชคดี
/ Khajochi's Blog
#iAM48 #BNK48
Link : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3389150971101018&id=157534500929364