บาเยิร์นทีมที่สามคว้าชัยรวด7เกมแรกชปล.

บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากเยอรมนี กลายเป็นทีมที่สามในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คว้าชัยชนะ 7 เกมแรกของฤดูกาล

บาเยิร์น มิวนิค คว้าชัยชนะ 6 เกมรวดจากเกมรอบแบ่งกลุ่ม ที่อยู่ร่วมกลุ่มกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, โอลิมเปียกอส และ เซอร์เวน่า ซเวซดา ยิงแหลกถึง 24 ประตู และเสียเพียง 5 ประตูเท่านั้น ก่อนจะบุกถล่ม เชลซี 3-0 นัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย โอกาสผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศสดใสมาก

จากชัยชนะทั้ง 7 เกมแรก ทำให้ บาเยิร์น เพิ่งเป็นทีมที่สามที่ทำได้ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อจาก บาร์เซโลน่า ฤดูกาล 2002-03 ที่ทำได้ถึง 9 เกมติดต่อกัน และ เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2014-15 ที่ทำได้ 7 เกมติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองซีซั่นดังกล่าว บาร์ซ่า และ มาดริด ต่างไปไม่ถึงแชมป์

ทั้งนี้ นอกจากชนะรวดทั้ง 7 เกมแล้ว เสือใต้ ยังมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงเพิ่มอีกประตูในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ กลายเป็นประตูที่ 11 ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ ในรายการนี้เหนือ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ของ ดอร์ทมุนด์ ที่ยิงรวม 10 ประตู ทั้งตอนอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ด้วย



credit : www.thsport.com

สุดโหด!เลวานดอฟสกี้ทาบสถิติโรนัลโด้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิง บาเยิร์น ทาบสถิติการทำประตูในเกมเยือนของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก สูงที่สุดตลอดกาล ที่จำนวน 9 ประตู แถมนี่ยังเป็นฤดูกาลที่เขาทำประตูในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เยอะที่สุดตลอดอาชีพการเล่นด้วย

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าคนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ บุนเดสลีกา เยอรมัน ทาบสถิติการทำประตูในนัดเยือนของเกมระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อ 1 ฤดูกาลมากที่สุด ที่จำนวน 9 ลูก หลังจากล่าสุดเขาทำได้ 1 ประตู ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ต้นสังกัดบุกไปชนะ เชลซี 3-0 ถึงสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ เลวานดอฟสกี้ ยิงในเกมเยือนได้มากถึงขนาดนั้น เป็นเพราะในรอบแบ่งกลุ่มเขาเคยซัดคนเดียว 4 ลูก ในเกมที่ บาเยิร์น บุกไปถล่ม เซอร์เวน่า ซเวซด้า (เร้ด สตาร์ เบลเกรด) 6-0 โดยเขายังเคยทำได้อีก 2 ประตูในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับนัดเยือน โอลิมเปียกอส ด้วย

ทั้งนี้ คนเดียวก่อนหน้านี้ที่ทำประตูในนัดเยือนของเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 9 ลูกในฤดูกาลเดียวคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำได้ตอนอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2013-14 โดยมันยังทำให้ในฤดูกาลนี้ เลวานดอฟสกี้ ทำประตูในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปรวมแล้ว 11 ประตูด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นซีซั่นที่เขาทำประตูในศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ได้มากที่สุดภายในฤดูกาลเดียวตลอดอาชีพการเล่นของเขาเช่นกัน หลังจากผลงานที่ดีที่สุดก่อนหน้านี้คือตอนที่ทำ 10 ประตู ในช่วงที่เล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อฤดูกาล 2012-13

credit : www.siamsport.co.th

กุนซือลียงอวยโรนัลโด้ยังคงตัวท็อปของโลก

รูดี้ การ์เซีย กุนซือ โอลิมปิก ลียง ซูฮก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิง ยูเวนตุส ยังคงเป็นแข้งระดับท็อปของโลก แต่ยันเกมวันพุธนี้ไม่มีการเน้นจับตา โรนัลโด้ โดยเฉพาะ

รูดี้ การ์เซีย เฮดโค้ช โอลิมปิก ลียง กล่าวยกย่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ว่า ยังคงเป็นนักฟุตบอลระดับหัวแถวของโลก ก่อนที่ ลียง จะเปิดบ้านดวลกับ "ม้าลาย" ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้

โรนัลโด้ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง โดยทำประตูในเกม เซเรีย อา มาติดต่อกัน 11 นัด แถมมีสถิติกระหน่ำ 65 ประตูในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ ซึ่งถึงแม้ ดาวเตะวัย 35 ปี มีสถิติการทำประตูที่น่ากลัว แต่ การ์เซีย เตือนลูกทีมว่า ต้องคอยจับตาดูนักเตะ ยูเว่ คนอื่นๆ ด้วย

"จริงๆ แล้วผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่เขาเป็นมืออาชีพที่สุดยอดมาก เขาทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ ทั้งก่อนและหลังการฝึกซ้อม ถือเป็นเรื่องน่าสนใจที่วงการฟุตบอลมีนักกีฬาแบบเขา เขาคือหนึ่งในสุดยอดนักเตะบนโลกใบนี้ และถือเป็นเรื่องดีที่มีโอกาสได้ดวลกับเขา"  

"เราไม่มีแผนรับมือ โรนัลโด้ โดยเฉพาะ เราจำเป็นต้องรับมือกับพวกเขาทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าเรามีแผนมารับมือ โรนัลโด้ เราจำเป็นต้องมีแผนไว้
สำหรับ (เปาโล) ดีบาล่า และ (กอนซาโล่) อิกวาอิน ด้วย พวกเขาเป็นทีมที่มีนักเตะความสามารถสูงหลายคน ดังนั้นเราจำเป็นต้องรับมือกับพวกเขาแบบทีม" อดีตกุนซอ อาแอส โรม่า กล่าว



credit : www.siamsport.co.th