คือมีแต่คนพูดเรื่อง MV แต่ผมขอพูดเรื่องความรู้สึกของงานเปิดตัวครั้งนี้ละกัน ในฐานะคนที่ชอบความเป็น 48G และยังอยากเห็นความเป็น 48G ในวงต่อไป มันเป็นความเห็นส่วนตัวใครไม่พอใจก็แลกเปลี่ยน comment ไว้ได้ เพราะผมก็ไม่พอใจถึงมาตั้งกระทู้นี้ สำหรับคนดู live อยู่บ้านอาจจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่สำหรับคนที่ไปดูคอนฯ และยืนอยู่ตรงนั้น นี่เป็นการจัดคอนฯ ที่จางมากถึงมากที่สุด
เหมือนงานนี้ อฟช มี concept การจัดเส้นเรื่องของคอนฯ เพื่อพยายามอยากดูดคนนอกใหม่ๆ สายเพลง pop ทั่วๆ ไปหรือเปล่าคุณถึงเอาแต่เพลงแต่งเองที่ไม่ใช่ 48G มาเล่นแต่ผลสุดท้ายมันพังมาก มันคือการจัดคอนฯ โดยเอาเพลงที่มีมายัดลงให้หมด ไม่ได้สนใจวางเส้นเรื่องของคอนฯ ก่อนว่าควรเป็นยังไงแล้วหาเพลงที่เหมาะสมมาลงในเส้นเรื่อง สักแต่จะยัด ทำให้คอนฯ นี้จางมากกก ถ้าเปรียบกับการทำอาหาร ก็คือเหมือนอยู่ดีๆ คุณเอาวัตถุดิบที่มีเข้ากันได้ไม่ได้ไม่สน (ซึ่งแต่ละตัวมันก็เป็นวัตถุดิบที่ดีแหละ) มายำๆ รวมกันได้อาหารจานนึง แทนที่จะคิดก่อนว่าจะทำอาหารอะไรแล้วค่อยไปหาวัตถุดิบมาปรุง พอเป็นคอนฯ มันเลยถึงกับง่วงเพลงมีแต่อารมณ์เอื่อยๆ ไม่เหมาะกับการเล่นคอนฯ อย่างมาก เพลงด้วยตัวมันเอง มันก็เพราะนะ ผมยังชอบมากเลย แต่พอคุณเอามาเรียงในการเล่นคอนฯ มันไม่เวิค มันกลายเป็นเส้นเรื่องที่ไม่มีอะไรเลย เรื่อยๆ เอื่อยไม่มีการดึงอารามณ์ อะไรทั้งนั้น ขนาดเพลง classic ที่หลายคนว่าน่าเบื่อและยาวเป็นเกือบชั่วโมงยังไม่แต่งออกมาอารมณ์เดียวกันทั้งเพลงเลย มันจะมีบาง movement (ไม่รู้ศัพท์ไทยเรียกว่ายังไง ใครเรียนดนตรี ช่วยแปลที) ที่ดึงอารมณ์เพลงที่แตกต่างออกมาจาก theme หลัก ไม่ใช่มาฟิลเดียวตั้งแต่ต้นยันจบ จะมีก็แค่ โดดดิด่ง ที่ดันลำโพงดับ ซึ่งปลุกอาราณ์พวกเราขึ้นมาเพื่อช่วยน้องๆ ได้ช่วงนึง
จนนี่ไม่รู้ว่ามาจากความต้องการขายของคนนอกหรือเปล่าถึงทำแบบนี้ (ก็ไม่รู้ใช่หรือเปล่า แต่กลายเป็นทุกวันนี้ทัศนคติที่ผมมีต่อ อฟช มันกลายเป็นแบบนี้ แล้วถ้ามันเป็นแบบนี้กับทุกคนผมว่า อฟช บริหารลูกค้าแย่ละนะ) ผมว่านะการที่พยายามขายคนนอก จนลืมคนที่ตั้งใจมาดูมันไม่เวิค เพราะถ้าผมเป็นคนนอก หรือเท่าที่ผมเคยเห็นคนนอก ส่วนใหญ่เวลาเค้าเห็นคาราหรือวงอะไรก็ได้ เค้าจะไม่ได้สะดุดสนใจหยุดดูขนาดนั้นนะ ก็แค่เดินผ่านๆ เหลือบๆ นิดๆ ยิ่งมาเอื่อยๆ แบบวันนี้ไม่มีใครสนหรอก สิ่งที่จะทำให้คนนอกสะดุดและหยุดดูคือ การที่เค้าเห็นอารมณ์ร่วมของคนที่มาต่างหาก มันจะแบบ “เห้ยมันมีอะไรพวกนี้มันทำอะไรกัน” ถ้าคุณคิดแต่จะขายของ ก็หมดกัน แทนที่คุณจะคิดว่าลูกค้าคุณต้องการอะไร วันนี้เราจะทำอะไรให้เค้ามีความสุขได้บ้างเพื่อคิดรูปแบบคอนฯ ทำยังไงที่จะมอบความสุขให้เค้า วันนี้เค้ามีปัญหาอะไร เราต้องคิดผลิตภัณฑ์มาแก้ปัญหาให้เค้านะ คุณกลับคิดว่าเราจะใช้โอกาสนี้ขายของยังไง จะยัดอะไรให้ลูกค้าดี ลูกค้าต้องการไม่ต้องการไม่รู้ จะขายอย่างเดียว จะยัดโฆษณา หนัง ละคร series อะไรลงไปในคอนฯ ครั้งนี้ยังไงดี มันก็เลยออกมาแบบนี้ ไม่ต้องหรอกครับ สินค้าคุณหน่ะ พวกเราช่วยกันดูพวกเราช่วยกันปั่น พวกเราช่วยกันขายจะตาย มีแต่คุณแหละที่ไม่เคยฟังเสียงเราเลย
อีกอันนึง (ผมอาจคิดมากไปเองแหละ แต่รู้สึกไม่สบายใจ) คือการที่คุณไม่เปิดคอนฯ โดยการเปิด overture แล้วอยู่ดีๆ น้องๆ ก็ขึ้นเวทีมาแสดงเพลงที่เป็นเพลงแต่งเอง อย่างที่พูดจนหมด (การเล่นเพลงแต่งเองไม่ใช่ปัญหานะ ปัญหาคือตามข้างบน) มันทำให้ผมรู้สึกว่าน้องเค้าไม่ได้ขึ้นเวทีในฐานะ BNK48 เป็นเพีบงแค่ BNK เท่านั้น รู้สึกได้ว่าทุกวัน อฟช จะยิ่งทำตัวออกห่างจากขนบของ 48G ไปเรื่อยๆ คุณต้องการบอกอะไรเราหรือเปล่า ว่าต่อไปนี้เราจะพยายามออกจากสาย 48G นะเราจะมาลองสาย pop ทั่วๆ ไปดู อืมคุณคิดว่าคุณเข้าใจลูกค้ากลุ่มนั่นได้ดีกว่าเจ้าตลาดเดิมที่เค้าทำตลาดอยู่แล้วก็ลองดู ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณพยายามจะบอกแล้วถ้ามันชัดเจนขึ้นเมื่อไหร่มันก็คงถึงเวลา ที่ถ้าวันหนึ่งวงนี้จะเป็นแค่ BNK ที่ไม่ใช่ BNK48 สำหรับผมแล้วก็คง bye bye ก่อนนะเพื่อน เพราะทุกวันนี้ดูคุณจะไม่อยากทำความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเก่าๆ อย่างผมอีกต่อไปละ คุณดูไม่ต้องการเราสักเท่าไหร่เลย ก็ถ้าคุณเห็นว่าคนใหม่เค้าจะรักคุณมากกว่าความรักที่เรามีให้ BNK48 มันก็เป็นสิทธิ์ของคุณ
ส่วนงานวันนี้ก็ยังมีปัญหาให้บ่นอีก จนเป็นปกติละ
1. ลำโพงดับ งานใหญ่ขนาดนี้เพลงดับ คือมันไม่อะไรถ้านี่ครั้งแรก และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก สามปีที่ผ่านมา อฟช ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ถ้าเป้นแบบนี้ก็คือยังซ้ำชั้นอยู่ชั้นเดิม ไม่ขึ้นไปไหนสักที มันตรงกับที่เค้าพูดกันว่า “มีเรื่องต้องให้บ่นตลอดเลย”
2. คุณไม่ได้ deal งานกับทางห้างไว้ล่วงหน้าใช่มั้ยว่าจะมีโชว์ น้ำพุตอนสี่โมงครึ่ง ผมเดาได้จากสองข้อนี้
2.1 CGM48 ต้องเลื่อนโชว์จากสี่โมงเป็นสี่โมงสี่สิบ แปลว่าคุณเลื่อนเพราะเพิ่งรู้ว่ามีโชว์น้ำพุ what!!! ทำงานระดับนี้ไม่คุยกันก่อน นี่ไม่ใช่งานระดับนักศึกษาฝึกงานทำใช่มั้ย
2.2 ก่อนสี่โมงทีมงานเพิ่งเริ่มจะหาผ้าใบมาคุมส่วน control และอุปกรณ์ electronic แบบรีบๆ อันนี้อาจถ้าต้องเพิ่งคลุมเพราะก่อนหน้าต้องเทสระบบก็พอฟังได้ แต่จากข้อ 2.1 ผมว่าคุณไม่ได้ประสานงานไว้ล่วงหน้า แล้วน้ำพุมันฉีดถึงส่วนคนยืน โดยโซนด้านหน้าที่ติดเวทีฝั่งน้ำพุผมเห็นละบอกเลยเหมือนโดนฉีดน้ำใส่ตรงๆ ดีนะบางคนมีร่มติดตัวมา การเตรียมการณ์และประสานงานของคอนฯ ครั้งนี้นี้มันคืออะไร? คุณเอาคนมาโดนฉีดน้ำทั้งๆ ที่ไม่ใช่สงกรานต์ แต่เอาเถอะคุณอาจจะห้ามไม่ให้ ปิดโซนนั้นไว้หลักสี่ครึ่งค่อยเปิดให้เข้าไม่ได้ คนที่ยืนเลือกจะเข้าไปรอเองเพื่อจะได้อยู่หน้าเวที แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันจัดการได้ไม่เวิค มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้หรือเปล่า
ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นเวลาก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้ว ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ อฟช เรียนรู้อะไรบ้าง ผมยังจำงานคอน 1st 2gether ได้ วันนั้นผมยังแอบชม อฟช อยู่ในใจว่า “เตรียมการณ์ล่วงหน้าดีจัง รู้พยากรณ์ฯ เตรียมเสื้อกันฝนไว้ให้เราด้วย" วันนั้นเป็นวันที่ทุกอย่างดูดีไปหมด รวมถึงรู้สึกได้ถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ ฟค ภาพที่ออกมามันช่างประทับใจ (ภาพราชมังฯ มันขยับใกล้เข้ามาอีกนิดนึง) ยังจำเสียง river ที่ดังจนเป็น echo สะท้อนตึกฝั่งตรงข้ามกลับมา เสียง onigiri ที่พร้อมและดังไปทั้งถนน ทั้งๆ ที่วันนั้นพวกเรายืนตากฝนกันเกือบสามชั่วโมง หรือเพลง Kimi wa Melody ที่เปิดตัววันนั้นจะบอกเป็นนัยว่า วันนั้นแหละคือจุดสูงสุดของวง คือภาพความหลังอันหอมหวานที่ชวนให้นึกถึง (คอนฯ นี้เป้นคอนที่ดีที่สุดสำหรับผมละ เพราะผมนก Starto) แค่สงสัยว่าทำไม อฟช พัฒนาลง หรือที่เค้าพูดกันว่าทุกครั้งที่ อฟช ประชุมกันหัวข้อคือ วันนี้เราจะไล่ลูกค้ายังไง 5555
เอาจริงๆ สำหรับผมวันนี้ผมให้คะแนนกลุ่มยิงมิกซ์ด้านหลังนะ ถึงแม้บางทีจะชอบยิงอะไรที่มันออกจาก 48 ไป แต่ไงก็ดีกว่าเงียบๆ ไม่มีอะไรไรเลย เพราะอย่างน้อยมีกลุ่มนี้เหมือนเป็นต้นเสียงให้คนอื่นยิงด้วย แล้วมันสร้าง reaction ระหว่างคนดูกับบนเวที (อันนี้หมายถึงคอนฯ อื่นๆ) เพราะสำหรับวันนี้กลุ่มนี้ถึงกับบิ้วพวกเราไม่ขึ้นครับ ผมยังง่วงเลย สุดท้ายมีแต่เสียงเชียร์จากกลุ่มนี้แหละที่คอยตอบโต้กับบนเวที ผมยังไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไหร่ จะเริ่มมาแย้วๆ ก็ตอนช่วยส่งเสียงตอนลำโพงดับนั่นแหละ เพราะถ้าไม่ได้กลุ่มนี้บอกเลย reaction จากคนดูแทบกริบ แถม spirit ของกลุ่มนี้ยังดีกว่าผมเลย คือเข้าใจว่าเตรียมมายิง แต่ไม่ได้ยิงก็ยังอุส่าห์อยู่จนจบ ถึงจะมีบางคนดูออกว่านอยๆ เพราะตัวผมเองนี่กลับเป็นคอนฯ แรกที่ MV จบผมเดินออกเลยไม่ได้ถ่ายรูปร่วม รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ มีอารามณ์ร่วมกับน้องๆ อย่างเต็มที่ อยากขอโทษ จริงๆ ผิดไปแล้ว แต่ตอนนั้นมันแอบเซ็งนิดๆ จริงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ผมไม่ควรอยู่ตั้งแต่เริ่ม ผมควรกลับตั้งแต่ CGM48 เล่นจบ (CGM48 นี่ performance มีเสน่ห์จริงๆ นะหวังว่าจะได้ดูสดๆ อีก)
ส่วนถ้าจะบอกว่าคอนฯ จากเพราะเพลง High Tension ผมว่าไม่นะ มันไม่น่าจากเพราะเพลง เพราะอัตราการขึ้นยอดวิว ณ ตอนนี้ก็ดูโอเคอยู่ แล้วเพลงก็โอเคอยู่นะ แล้วสำหรับผมเพลงมันไม่ได้ฟังไม่รู้เรื่องขนาดนั้นนะ มันก็ปกติของเพลง rap ถึงจะเป็นเพลงที่แต่งเพื่อภาษาไทยโดยเฉพาะ rap เร็วขนาดนั้นไม่ดูเนื้อยังไงก้ฟังไม่ออก
สรุป คหสต งานเป็นตัวครั้งนี้เอาไป 1/10
ปล. เห็นจ็อปซังใน MV คราวนี้แล้วความรู้สึกเปลี่ยนไป มันทำให้ความอยากดู MV ลดลงไปเยอะ สำหรับผมนะ ภาพลักษณ์คุณในสายตาพวกเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปละจนกว่าเราจะเห็นความจริงใจของคุณ ไม่ต้องเอาหน้าเข้ามาใน MV อีกแล้วนะ 555
เกี่ยวกับงานคอนฯ เปิดตัว High Tension มันดูยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกมั้ยครับ
เหมือนงานนี้ อฟช มี concept การจัดเส้นเรื่องของคอนฯ เพื่อพยายามอยากดูดคนนอกใหม่ๆ สายเพลง pop ทั่วๆ ไปหรือเปล่าคุณถึงเอาแต่เพลงแต่งเองที่ไม่ใช่ 48G มาเล่นแต่ผลสุดท้ายมันพังมาก มันคือการจัดคอนฯ โดยเอาเพลงที่มีมายัดลงให้หมด ไม่ได้สนใจวางเส้นเรื่องของคอนฯ ก่อนว่าควรเป็นยังไงแล้วหาเพลงที่เหมาะสมมาลงในเส้นเรื่อง สักแต่จะยัด ทำให้คอนฯ นี้จางมากกก ถ้าเปรียบกับการทำอาหาร ก็คือเหมือนอยู่ดีๆ คุณเอาวัตถุดิบที่มีเข้ากันได้ไม่ได้ไม่สน (ซึ่งแต่ละตัวมันก็เป็นวัตถุดิบที่ดีแหละ) มายำๆ รวมกันได้อาหารจานนึง แทนที่จะคิดก่อนว่าจะทำอาหารอะไรแล้วค่อยไปหาวัตถุดิบมาปรุง พอเป็นคอนฯ มันเลยถึงกับง่วงเพลงมีแต่อารมณ์เอื่อยๆ ไม่เหมาะกับการเล่นคอนฯ อย่างมาก เพลงด้วยตัวมันเอง มันก็เพราะนะ ผมยังชอบมากเลย แต่พอคุณเอามาเรียงในการเล่นคอนฯ มันไม่เวิค มันกลายเป็นเส้นเรื่องที่ไม่มีอะไรเลย เรื่อยๆ เอื่อยไม่มีการดึงอารามณ์ อะไรทั้งนั้น ขนาดเพลง classic ที่หลายคนว่าน่าเบื่อและยาวเป็นเกือบชั่วโมงยังไม่แต่งออกมาอารมณ์เดียวกันทั้งเพลงเลย มันจะมีบาง movement (ไม่รู้ศัพท์ไทยเรียกว่ายังไง ใครเรียนดนตรี ช่วยแปลที) ที่ดึงอารมณ์เพลงที่แตกต่างออกมาจาก theme หลัก ไม่ใช่มาฟิลเดียวตั้งแต่ต้นยันจบ จะมีก็แค่ โดดดิด่ง ที่ดันลำโพงดับ ซึ่งปลุกอาราณ์พวกเราขึ้นมาเพื่อช่วยน้องๆ ได้ช่วงนึง
จนนี่ไม่รู้ว่ามาจากความต้องการขายของคนนอกหรือเปล่าถึงทำแบบนี้ (ก็ไม่รู้ใช่หรือเปล่า แต่กลายเป็นทุกวันนี้ทัศนคติที่ผมมีต่อ อฟช มันกลายเป็นแบบนี้ แล้วถ้ามันเป็นแบบนี้กับทุกคนผมว่า อฟช บริหารลูกค้าแย่ละนะ) ผมว่านะการที่พยายามขายคนนอก จนลืมคนที่ตั้งใจมาดูมันไม่เวิค เพราะถ้าผมเป็นคนนอก หรือเท่าที่ผมเคยเห็นคนนอก ส่วนใหญ่เวลาเค้าเห็นคาราหรือวงอะไรก็ได้ เค้าจะไม่ได้สะดุดสนใจหยุดดูขนาดนั้นนะ ก็แค่เดินผ่านๆ เหลือบๆ นิดๆ ยิ่งมาเอื่อยๆ แบบวันนี้ไม่มีใครสนหรอก สิ่งที่จะทำให้คนนอกสะดุดและหยุดดูคือ การที่เค้าเห็นอารมณ์ร่วมของคนที่มาต่างหาก มันจะแบบ “เห้ยมันมีอะไรพวกนี้มันทำอะไรกัน” ถ้าคุณคิดแต่จะขายของ ก็หมดกัน แทนที่คุณจะคิดว่าลูกค้าคุณต้องการอะไร วันนี้เราจะทำอะไรให้เค้ามีความสุขได้บ้างเพื่อคิดรูปแบบคอนฯ ทำยังไงที่จะมอบความสุขให้เค้า วันนี้เค้ามีปัญหาอะไร เราต้องคิดผลิตภัณฑ์มาแก้ปัญหาให้เค้านะ คุณกลับคิดว่าเราจะใช้โอกาสนี้ขายของยังไง จะยัดอะไรให้ลูกค้าดี ลูกค้าต้องการไม่ต้องการไม่รู้ จะขายอย่างเดียว จะยัดโฆษณา หนัง ละคร series อะไรลงไปในคอนฯ ครั้งนี้ยังไงดี มันก็เลยออกมาแบบนี้ ไม่ต้องหรอกครับ สินค้าคุณหน่ะ พวกเราช่วยกันดูพวกเราช่วยกันปั่น พวกเราช่วยกันขายจะตาย มีแต่คุณแหละที่ไม่เคยฟังเสียงเราเลย
อีกอันนึง (ผมอาจคิดมากไปเองแหละ แต่รู้สึกไม่สบายใจ) คือการที่คุณไม่เปิดคอนฯ โดยการเปิด overture แล้วอยู่ดีๆ น้องๆ ก็ขึ้นเวทีมาแสดงเพลงที่เป็นเพลงแต่งเอง อย่างที่พูดจนหมด (การเล่นเพลงแต่งเองไม่ใช่ปัญหานะ ปัญหาคือตามข้างบน) มันทำให้ผมรู้สึกว่าน้องเค้าไม่ได้ขึ้นเวทีในฐานะ BNK48 เป็นเพีบงแค่ BNK เท่านั้น รู้สึกได้ว่าทุกวัน อฟช จะยิ่งทำตัวออกห่างจากขนบของ 48G ไปเรื่อยๆ คุณต้องการบอกอะไรเราหรือเปล่า ว่าต่อไปนี้เราจะพยายามออกจากสาย 48G นะเราจะมาลองสาย pop ทั่วๆ ไปดู อืมคุณคิดว่าคุณเข้าใจลูกค้ากลุ่มนั่นได้ดีกว่าเจ้าตลาดเดิมที่เค้าทำตลาดอยู่แล้วก็ลองดู ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณพยายามจะบอกแล้วถ้ามันชัดเจนขึ้นเมื่อไหร่มันก็คงถึงเวลา ที่ถ้าวันหนึ่งวงนี้จะเป็นแค่ BNK ที่ไม่ใช่ BNK48 สำหรับผมแล้วก็คง bye bye ก่อนนะเพื่อน เพราะทุกวันนี้ดูคุณจะไม่อยากทำความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเก่าๆ อย่างผมอีกต่อไปละ คุณดูไม่ต้องการเราสักเท่าไหร่เลย ก็ถ้าคุณเห็นว่าคนใหม่เค้าจะรักคุณมากกว่าความรักที่เรามีให้ BNK48 มันก็เป็นสิทธิ์ของคุณ
ส่วนงานวันนี้ก็ยังมีปัญหาให้บ่นอีก จนเป็นปกติละ
1. ลำโพงดับ งานใหญ่ขนาดนี้เพลงดับ คือมันไม่อะไรถ้านี่ครั้งแรก และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก สามปีที่ผ่านมา อฟช ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ถ้าเป้นแบบนี้ก็คือยังซ้ำชั้นอยู่ชั้นเดิม ไม่ขึ้นไปไหนสักที มันตรงกับที่เค้าพูดกันว่า “มีเรื่องต้องให้บ่นตลอดเลย”
2. คุณไม่ได้ deal งานกับทางห้างไว้ล่วงหน้าใช่มั้ยว่าจะมีโชว์ น้ำพุตอนสี่โมงครึ่ง ผมเดาได้จากสองข้อนี้
2.1 CGM48 ต้องเลื่อนโชว์จากสี่โมงเป็นสี่โมงสี่สิบ แปลว่าคุณเลื่อนเพราะเพิ่งรู้ว่ามีโชว์น้ำพุ what!!! ทำงานระดับนี้ไม่คุยกันก่อน นี่ไม่ใช่งานระดับนักศึกษาฝึกงานทำใช่มั้ย
2.2 ก่อนสี่โมงทีมงานเพิ่งเริ่มจะหาผ้าใบมาคุมส่วน control และอุปกรณ์ electronic แบบรีบๆ อันนี้อาจถ้าต้องเพิ่งคลุมเพราะก่อนหน้าต้องเทสระบบก็พอฟังได้ แต่จากข้อ 2.1 ผมว่าคุณไม่ได้ประสานงานไว้ล่วงหน้า แล้วน้ำพุมันฉีดถึงส่วนคนยืน โดยโซนด้านหน้าที่ติดเวทีฝั่งน้ำพุผมเห็นละบอกเลยเหมือนโดนฉีดน้ำใส่ตรงๆ ดีนะบางคนมีร่มติดตัวมา การเตรียมการณ์และประสานงานของคอนฯ ครั้งนี้นี้มันคืออะไร? คุณเอาคนมาโดนฉีดน้ำทั้งๆ ที่ไม่ใช่สงกรานต์ แต่เอาเถอะคุณอาจจะห้ามไม่ให้ ปิดโซนนั้นไว้หลักสี่ครึ่งค่อยเปิดให้เข้าไม่ได้ คนที่ยืนเลือกจะเข้าไปรอเองเพื่อจะได้อยู่หน้าเวที แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันจัดการได้ไม่เวิค มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้หรือเปล่า
ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นเวลาก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้ว ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ อฟช เรียนรู้อะไรบ้าง ผมยังจำงานคอน 1st 2gether ได้ วันนั้นผมยังแอบชม อฟช อยู่ในใจว่า “เตรียมการณ์ล่วงหน้าดีจัง รู้พยากรณ์ฯ เตรียมเสื้อกันฝนไว้ให้เราด้วย" วันนั้นเป็นวันที่ทุกอย่างดูดีไปหมด รวมถึงรู้สึกได้ถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ ฟค ภาพที่ออกมามันช่างประทับใจ (ภาพราชมังฯ มันขยับใกล้เข้ามาอีกนิดนึง) ยังจำเสียง river ที่ดังจนเป็น echo สะท้อนตึกฝั่งตรงข้ามกลับมา เสียง onigiri ที่พร้อมและดังไปทั้งถนน ทั้งๆ ที่วันนั้นพวกเรายืนตากฝนกันเกือบสามชั่วโมง หรือเพลง Kimi wa Melody ที่เปิดตัววันนั้นจะบอกเป็นนัยว่า วันนั้นแหละคือจุดสูงสุดของวง คือภาพความหลังอันหอมหวานที่ชวนให้นึกถึง (คอนฯ นี้เป้นคอนที่ดีที่สุดสำหรับผมละ เพราะผมนก Starto) แค่สงสัยว่าทำไม อฟช พัฒนาลง หรือที่เค้าพูดกันว่าทุกครั้งที่ อฟช ประชุมกันหัวข้อคือ วันนี้เราจะไล่ลูกค้ายังไง 5555
เอาจริงๆ สำหรับผมวันนี้ผมให้คะแนนกลุ่มยิงมิกซ์ด้านหลังนะ ถึงแม้บางทีจะชอบยิงอะไรที่มันออกจาก 48 ไป แต่ไงก็ดีกว่าเงียบๆ ไม่มีอะไรไรเลย เพราะอย่างน้อยมีกลุ่มนี้เหมือนเป็นต้นเสียงให้คนอื่นยิงด้วย แล้วมันสร้าง reaction ระหว่างคนดูกับบนเวที (อันนี้หมายถึงคอนฯ อื่นๆ) เพราะสำหรับวันนี้กลุ่มนี้ถึงกับบิ้วพวกเราไม่ขึ้นครับ ผมยังง่วงเลย สุดท้ายมีแต่เสียงเชียร์จากกลุ่มนี้แหละที่คอยตอบโต้กับบนเวที ผมยังไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไหร่ จะเริ่มมาแย้วๆ ก็ตอนช่วยส่งเสียงตอนลำโพงดับนั่นแหละ เพราะถ้าไม่ได้กลุ่มนี้บอกเลย reaction จากคนดูแทบกริบ แถม spirit ของกลุ่มนี้ยังดีกว่าผมเลย คือเข้าใจว่าเตรียมมายิง แต่ไม่ได้ยิงก็ยังอุส่าห์อยู่จนจบ ถึงจะมีบางคนดูออกว่านอยๆ เพราะตัวผมเองนี่กลับเป็นคอนฯ แรกที่ MV จบผมเดินออกเลยไม่ได้ถ่ายรูปร่วม รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ มีอารามณ์ร่วมกับน้องๆ อย่างเต็มที่ อยากขอโทษ จริงๆ ผิดไปแล้ว แต่ตอนนั้นมันแอบเซ็งนิดๆ จริงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ผมไม่ควรอยู่ตั้งแต่เริ่ม ผมควรกลับตั้งแต่ CGM48 เล่นจบ (CGM48 นี่ performance มีเสน่ห์จริงๆ นะหวังว่าจะได้ดูสดๆ อีก)
ส่วนถ้าจะบอกว่าคอนฯ จากเพราะเพลง High Tension ผมว่าไม่นะ มันไม่น่าจากเพราะเพลง เพราะอัตราการขึ้นยอดวิว ณ ตอนนี้ก็ดูโอเคอยู่ แล้วเพลงก็โอเคอยู่นะ แล้วสำหรับผมเพลงมันไม่ได้ฟังไม่รู้เรื่องขนาดนั้นนะ มันก็ปกติของเพลง rap ถึงจะเป็นเพลงที่แต่งเพื่อภาษาไทยโดยเฉพาะ rap เร็วขนาดนั้นไม่ดูเนื้อยังไงก้ฟังไม่ออก
สรุป คหสต งานเป็นตัวครั้งนี้เอาไป 1/10
ปล. เห็นจ็อปซังใน MV คราวนี้แล้วความรู้สึกเปลี่ยนไป มันทำให้ความอยากดู MV ลดลงไปเยอะ สำหรับผมนะ ภาพลักษณ์คุณในสายตาพวกเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปละจนกว่าเราจะเห็นความจริงใจของคุณ ไม่ต้องเอาหน้าเข้ามาใน MV อีกแล้วนะ 555