ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่านี่เป็นประสบการณ์ที่ผมกำลังพบเจอในปัจจุบัน ลงวันที่ ๒๓ กุมภา ๖๓
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับน้องเริ่มคุยกันวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ ช่วงแรก ๆ ที่คุยกันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกก็เหงาอะอยากมีเพื่อนคุย (ตอนนั้นน้องเลิกกับแฟนนานรึยังก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับน้องเลย ส่วนตัวผมนั้นโสดสนิทชนิดที่ไม่เคยมีแฟนเลยครับ) หลังจากคุยกันไปสักพักน้องบอกว่าน้องอะคิดว่าเราอยู่ญี่ปุ่น ถถถถ ตอนนั้นคือฮาจริงเพราะเราชอบลงสตอรี่วัยรุ่นญี่ปุ่น ก็นั่นแหละเริ่มได้คุยกันมาเรื่อย ๆ น้องก็มาปรับทุกข์เรื่องไม่ค่อยมีเพื่อน เกรดน้อยกลัวโดนไทล์เราก็ให้กำลังใจ หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ย้ายสาขาเทียบโอนหน่วยกิตเอาก็ได้ ก็แนะนำไปเท่าที่ทำได้แหละ แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ เรื่องชีวิตบ้างเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย
มีวันนึงน้องบอกว่าเหงาผมนี่ชวนน้องมานอนด้วยเลยครับเพราะเหงาเหมือนกัน ถถถถถ หลังจากที่เราคุยกันมาได้สักระยะนึงน้องก็ถามชื่อเว้ยยย คือแบบเราก็ลืมถามชื่อน้องเหมือนกันคือแบบคุยเพลินไม่เคยเจอคนที่อยากคุยกับเราขนาดนี้ (ปกติต้องพยายามที่จะคุยกับคนอื่นตลอด) คุยไปคุยมามาคุยเรื่องเรียนกันเฉยเลยน้องก็ถามใหญ่เลยเราเรียนอะไรเป็นยังไง น้องก็สนใจด้านภาษาเหมือนกันแล้วก็พูดถึงเรื่องฝึกการพูดภาษาอังกฤษว่า ฝึกโดยการฟังเพลง การดูหนัง ดูการ์ตูนที่เราชอบ แล้วช่วงนั้นวันพีชเข้าโรงพอดีไอ่เรานี่ก็ปากไวชวนน้องอย่างเร็ว น้องอยู่บ้านซึ่งก็ไกลจากตัวเมืองเอาเรื่องอยู่ น้องก็บ้าจี้ตอบจะไปดูกับเราผมนี่ดีใจสุด ๆ เลยครับ แต่วันนั้นไม่ได้ออกไปดูนะฝนตก ขำมากคุยกันซะดิบดีอ้าวฝนตก น้องเอามะม่วงมาฝากด้วยยยยย ดีใจสุด ๆตอนนั้นคือแบบมีความสุขมาก (๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕)
วันต่อมาผมนี่รุกเลยครับบอกจะไปนอนด้วย เหงา น้องก็ตอบแบบอยากให้ไปหาแต่ก็ไม่อยากให้ไปเพราะห้องรกผ้าล้นตะกร้า น้องก็อ่อยไงจะมาซักให้หรอ ผมนี่บอกไปเลยครับว่า”หย่อนลงเครื่องเลยครับเดี๋ยวค่อยตาก” แล้วน้องก็ชวนไปดูหนังวันพีชเปลี่ยนเรื่องคุย เวลาประมาณสี่ทุ่มเราทักน้องไปเล้ยยย อยู่หอไหนจะไปหาอ่อยสุดแล้วนี่ก็บ้าจี้บอกหอมานะเราก็ไปโล้ดจ้าาาา อ่าพอขี่ไปไม่รู้ทางจอดรอข้างเซเว่นละกัน นี่ก็โทรหาเลยตอนนั้นบอกอยู่ข้างเซเว่นแล้วไปไงต่อ เสียงน้องคือลำบากใจมากที่ผมจะมานอนด้วยแต่เอาเป็นว่ามาถึงหน้าหอละ น้องก็ลงมารับแบบอาย ๆ ที่อายกว่าคือผมนี่พึ่งคิดได้ตอนน้องเดินลงมา(กูนี่หน้าด้านเนอะแล้วก็เป็นใบ้ไม่รู้จะพูดอะไร ถถถถถ) น้องเดินนำขึ้นห้องไปผมก็เดินไปแบบเก็ง ๆ พอเข้ามาในห้องใบ้หนักกว่าเดิมอีกผมนั่งหลังชนฝา ๕๕๕๕๕๕๕ จนนอกบอกเขยิบมาอีกก็ได้ผมไม่กัดเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก แล้วก็นั่งคุยกันสักพักน้องถามคิดยังไงมาหาผมเนี่ย โอ๊ยยยยยยน้องพี่เขินพูดอะไรไม่ออกแล้วค้าบบบบ ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเดียว หลังจากนั้นก็เข้านอน สูตรเดิมครับผมนี่นอนหลังชนฝาเลย จนน้องบอกให้เขยิบออกมาอีกรอบ คืนนั้นกว่าจะหลับคือเกือบเช้าแล้วตื่นเต้นนอนไม่หลับ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยยยย
วันจันทร์เราไปดูหนังกันแต่ขี่รถไปคนละคัน น้องรออยู่หน้าห้างเรารอน้องอยู่หน้าโรงหนังยืนรอกันเกือบสิบนาที โคตรขำ หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ไปเรียน กลับห้อง ทำงาน ไปเรียน กลับห้องวนอยู่แบบนั้น จนถึงวันที่ผมต้องออกไปฝึกงาน วันที่ ๒๘ ตุลา ๖๒ พอเดินทางไปถึงที่นู่นก็ต้องปรับตัวพอสมควรในการอยู่กินแรก ๆ ก็คุยกันหลัง ๆ มาไม่ค่อยได้คุย คุยบ้างตอนที่ว่าง ๆ คิดถึงน้องมาก ๆ จนถึงวันที่เราฝึกงานเสร็จแล้วกลับมา น้องมีรูมเมทใหม่เป็นรุ่นน้อง นอนกองกันสามคนเตียงห้าฟุตก็จะแน่น ๆ นิดนึง วันที่ ๔ กุมภา ๖๓ มาถึงห้องน้องก็ยังทำเหมือนเราปกติ กอด ซื้อข้าวมากินด้วยกัน ตอนไปฝึกงานบอกอยากกินรังผึ้งก็ซื้อมาไว้ให้กิน อ่าแฮปปี้
แต่ใช่ว่าจะมีความสุขอยู่ได้นานวันที่ ๑๔ กุมภา ๖๓ ได้รู้ความจริงหลายสิ่งหลายอย่างมาก ถาโถมเข้ามามากวันนั้น
- อย่างแรกที่ทำให้เสียใจเลยคือรู้ว่าหลังจากที่ไปฝึกงานน้องคุยกับพี่คนนึงที่เป็นเจ้าของร้านชาไข่มุกแบรนด์สีเหลือง ผมจะไม่เสียใจมากเลยถ้าไม่ไปรู้ว่าเค้าไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปหากันตลอด ผมแน่ใจว่าเค้าต้องมีอะไรกันแล้วแน่ ๆ เพราะพี่เค้าคนนั้นช่วยเหลือน้องตลอด ไม่ว่าเรื่องการเงินหรือคอยเป็นที่ปรึกษาหลาย ๆ ด้านแบบที่เราไม่เคยเป็นให้
- อย่างที่สองเลยคือไปรู้มาว่าน้องอะคุยเยอะมาก ๆ เยอะชนิดที่ว่าเราแบบเห้ยมันขนาดนี้จริงดิ เสียใจนะเว้ย เจ็บเป็นนะเว้ย (แต่น้องคงไม่รู้สึกอะไรกับเราแล้ว)
- อย่างที่สามน้องไปได้กับแฟนใหม่ของแฟนเก่า
- น้องได้กับน้องข้างห้อง
- น้องน่าจะเคยได้กับเมท เพราะมีคืนนึงที่น้องออกไปข้างนอกเราเลยขยับมานอนตรงกลางแล้วน้องที่เป็นเมทพยายามที่จะล้วงมาจับของเรา
- หลังจากที่เรากลับมาจากฝึกงานแล้วน้องก็ยังออกไปเที่ยวกับใครไม่รู้ ไม่รู้น้องไปรู้จักคนเยอะแยะมาจากไหน (จนวันนี้ได้รู้ความจริงว่าน้องเล่นแอปสีส้ม)
- วันที่ ๑๘ กุมภาน้องคุยกับคนชื่อโอเว่นและวันที่ ๑๙ น้องก็ขับรถประมาณ ๓๐ กิโลเพื่อออกไปเอากัน ในวันนั้นเป็นวัน Goodbye Senior ของผมผมรู้สึกไม่ดีเลยกลับมาที่ห้องก่อนงานเลิก พอกลับมาไม่นานน้องก็กลับมาแล้วรีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทันที
- เวลาออกไปมีอะไรกันผมไม่รู้เลยว่าน้องได้ใส่ถุงยางอนามัยไหมเพราะรู้มาว่าน้องไม่กล้าไปซื้อ
- น้องวิดีโอคอลเสียวกันคนอื่น ๆ หรือคุยเรื่องอย่างว่าตอนที่ยังอยู่ในห้องกับผมได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งผมรู้และเจ็บมาก
- ตอนทำความสะอาดห้องเจอเศษซองถุงยางอนามัยวันนั้นถามน้อง น้องก็แก้ตัวว่ารุ่นพี่เอาสาวมานอนที่ห้อง (แต่ตอนนี้คือมีหลักฐานทั้งหมดจากที่เล่ามาทุกข้อ)
ด้วยเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดอยากระบายออกมาบ้างไม่อยากเก็บไว้คนเดียว พอทำใจว่าจะคุยกับเค้าให้รู้เรื่องก็ดันพูดไม่ออกตอนเจอหน้าเค้า ผมกลัวการทะเลาะกลัวที่ว่าจะเสียเค้าไป เพราะตอนเด็ก ๆ เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันแล้วมันเจ็บมาก เจ็บมาก ๆ เจ็บจนไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว แต่อยู่แบบนี้ผมก็เจ็บเหมือนกัน ขนาดว่าจะพูดเรื่องนี้กับเค้าผมยังนอนร้องไห้กอดเค้าเลย เค้าก็ถามเป็นอะไรแหละ แต่ผมก็ทำได้แค่ส่ายหน้า
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ความรักครั้งแรกอันแสนเลวร้ายครั้งนี้ด้วยกันนะครับ ขอบคุณครับ
ผมควรเริ่มคุยและเคลียร์ปัญหาครั้งนี้ยังไงดีครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับน้องเริ่มคุยกันวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ ช่วงแรก ๆ ที่คุยกันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกก็เหงาอะอยากมีเพื่อนคุย (ตอนนั้นน้องเลิกกับแฟนนานรึยังก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับน้องเลย ส่วนตัวผมนั้นโสดสนิทชนิดที่ไม่เคยมีแฟนเลยครับ) หลังจากคุยกันไปสักพักน้องบอกว่าน้องอะคิดว่าเราอยู่ญี่ปุ่น ถถถถ ตอนนั้นคือฮาจริงเพราะเราชอบลงสตอรี่วัยรุ่นญี่ปุ่น ก็นั่นแหละเริ่มได้คุยกันมาเรื่อย ๆ น้องก็มาปรับทุกข์เรื่องไม่ค่อยมีเพื่อน เกรดน้อยกลัวโดนไทล์เราก็ให้กำลังใจ หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ย้ายสาขาเทียบโอนหน่วยกิตเอาก็ได้ ก็แนะนำไปเท่าที่ทำได้แหละ แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ เรื่องชีวิตบ้างเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย
มีวันนึงน้องบอกว่าเหงาผมนี่ชวนน้องมานอนด้วยเลยครับเพราะเหงาเหมือนกัน ถถถถถ หลังจากที่เราคุยกันมาได้สักระยะนึงน้องก็ถามชื่อเว้ยยย คือแบบเราก็ลืมถามชื่อน้องเหมือนกันคือแบบคุยเพลินไม่เคยเจอคนที่อยากคุยกับเราขนาดนี้ (ปกติต้องพยายามที่จะคุยกับคนอื่นตลอด) คุยไปคุยมามาคุยเรื่องเรียนกันเฉยเลยน้องก็ถามใหญ่เลยเราเรียนอะไรเป็นยังไง น้องก็สนใจด้านภาษาเหมือนกันแล้วก็พูดถึงเรื่องฝึกการพูดภาษาอังกฤษว่า ฝึกโดยการฟังเพลง การดูหนัง ดูการ์ตูนที่เราชอบ แล้วช่วงนั้นวันพีชเข้าโรงพอดีไอ่เรานี่ก็ปากไวชวนน้องอย่างเร็ว น้องอยู่บ้านซึ่งก็ไกลจากตัวเมืองเอาเรื่องอยู่ น้องก็บ้าจี้ตอบจะไปดูกับเราผมนี่ดีใจสุด ๆ เลยครับ แต่วันนั้นไม่ได้ออกไปดูนะฝนตก ขำมากคุยกันซะดิบดีอ้าวฝนตก น้องเอามะม่วงมาฝากด้วยยยยย ดีใจสุด ๆตอนนั้นคือแบบมีความสุขมาก (๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕)
วันต่อมาผมนี่รุกเลยครับบอกจะไปนอนด้วย เหงา น้องก็ตอบแบบอยากให้ไปหาแต่ก็ไม่อยากให้ไปเพราะห้องรกผ้าล้นตะกร้า น้องก็อ่อยไงจะมาซักให้หรอ ผมนี่บอกไปเลยครับว่า”หย่อนลงเครื่องเลยครับเดี๋ยวค่อยตาก” แล้วน้องก็ชวนไปดูหนังวันพีชเปลี่ยนเรื่องคุย เวลาประมาณสี่ทุ่มเราทักน้องไปเล้ยยย อยู่หอไหนจะไปหาอ่อยสุดแล้วนี่ก็บ้าจี้บอกหอมานะเราก็ไปโล้ดจ้าาาา อ่าพอขี่ไปไม่รู้ทางจอดรอข้างเซเว่นละกัน นี่ก็โทรหาเลยตอนนั้นบอกอยู่ข้างเซเว่นแล้วไปไงต่อ เสียงน้องคือลำบากใจมากที่ผมจะมานอนด้วยแต่เอาเป็นว่ามาถึงหน้าหอละ น้องก็ลงมารับแบบอาย ๆ ที่อายกว่าคือผมนี่พึ่งคิดได้ตอนน้องเดินลงมา(กูนี่หน้าด้านเนอะแล้วก็เป็นใบ้ไม่รู้จะพูดอะไร ถถถถถ) น้องเดินนำขึ้นห้องไปผมก็เดินไปแบบเก็ง ๆ พอเข้ามาในห้องใบ้หนักกว่าเดิมอีกผมนั่งหลังชนฝา ๕๕๕๕๕๕๕ จนนอกบอกเขยิบมาอีกก็ได้ผมไม่กัดเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก แล้วก็นั่งคุยกันสักพักน้องถามคิดยังไงมาหาผมเนี่ย โอ๊ยยยยยยน้องพี่เขินพูดอะไรไม่ออกแล้วค้าบบบบ ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเดียว หลังจากนั้นก็เข้านอน สูตรเดิมครับผมนี่นอนหลังชนฝาเลย จนน้องบอกให้เขยิบออกมาอีกรอบ คืนนั้นกว่าจะหลับคือเกือบเช้าแล้วตื่นเต้นนอนไม่หลับ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยยยย
วันจันทร์เราไปดูหนังกันแต่ขี่รถไปคนละคัน น้องรออยู่หน้าห้างเรารอน้องอยู่หน้าโรงหนังยืนรอกันเกือบสิบนาที โคตรขำ หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ไปเรียน กลับห้อง ทำงาน ไปเรียน กลับห้องวนอยู่แบบนั้น จนถึงวันที่ผมต้องออกไปฝึกงาน วันที่ ๒๘ ตุลา ๖๒ พอเดินทางไปถึงที่นู่นก็ต้องปรับตัวพอสมควรในการอยู่กินแรก ๆ ก็คุยกันหลัง ๆ มาไม่ค่อยได้คุย คุยบ้างตอนที่ว่าง ๆ คิดถึงน้องมาก ๆ จนถึงวันที่เราฝึกงานเสร็จแล้วกลับมา น้องมีรูมเมทใหม่เป็นรุ่นน้อง นอนกองกันสามคนเตียงห้าฟุตก็จะแน่น ๆ นิดนึง วันที่ ๔ กุมภา ๖๓ มาถึงห้องน้องก็ยังทำเหมือนเราปกติ กอด ซื้อข้าวมากินด้วยกัน ตอนไปฝึกงานบอกอยากกินรังผึ้งก็ซื้อมาไว้ให้กิน อ่าแฮปปี้
แต่ใช่ว่าจะมีความสุขอยู่ได้นานวันที่ ๑๔ กุมภา ๖๓ ได้รู้ความจริงหลายสิ่งหลายอย่างมาก ถาโถมเข้ามามากวันนั้น
- อย่างแรกที่ทำให้เสียใจเลยคือรู้ว่าหลังจากที่ไปฝึกงานน้องคุยกับพี่คนนึงที่เป็นเจ้าของร้านชาไข่มุกแบรนด์สีเหลือง ผมจะไม่เสียใจมากเลยถ้าไม่ไปรู้ว่าเค้าไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปหากันตลอด ผมแน่ใจว่าเค้าต้องมีอะไรกันแล้วแน่ ๆ เพราะพี่เค้าคนนั้นช่วยเหลือน้องตลอด ไม่ว่าเรื่องการเงินหรือคอยเป็นที่ปรึกษาหลาย ๆ ด้านแบบที่เราไม่เคยเป็นให้
- อย่างที่สองเลยคือไปรู้มาว่าน้องอะคุยเยอะมาก ๆ เยอะชนิดที่ว่าเราแบบเห้ยมันขนาดนี้จริงดิ เสียใจนะเว้ย เจ็บเป็นนะเว้ย (แต่น้องคงไม่รู้สึกอะไรกับเราแล้ว)
- อย่างที่สามน้องไปได้กับแฟนใหม่ของแฟนเก่า
- น้องได้กับน้องข้างห้อง
- น้องน่าจะเคยได้กับเมท เพราะมีคืนนึงที่น้องออกไปข้างนอกเราเลยขยับมานอนตรงกลางแล้วน้องที่เป็นเมทพยายามที่จะล้วงมาจับของเรา
- หลังจากที่เรากลับมาจากฝึกงานแล้วน้องก็ยังออกไปเที่ยวกับใครไม่รู้ ไม่รู้น้องไปรู้จักคนเยอะแยะมาจากไหน (จนวันนี้ได้รู้ความจริงว่าน้องเล่นแอปสีส้ม)
- วันที่ ๑๘ กุมภาน้องคุยกับคนชื่อโอเว่นและวันที่ ๑๙ น้องก็ขับรถประมาณ ๓๐ กิโลเพื่อออกไปเอากัน ในวันนั้นเป็นวัน Goodbye Senior ของผมผมรู้สึกไม่ดีเลยกลับมาที่ห้องก่อนงานเลิก พอกลับมาไม่นานน้องก็กลับมาแล้วรีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทันที
- เวลาออกไปมีอะไรกันผมไม่รู้เลยว่าน้องได้ใส่ถุงยางอนามัยไหมเพราะรู้มาว่าน้องไม่กล้าไปซื้อ
- น้องวิดีโอคอลเสียวกันคนอื่น ๆ หรือคุยเรื่องอย่างว่าตอนที่ยังอยู่ในห้องกับผมได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งผมรู้และเจ็บมาก
- ตอนทำความสะอาดห้องเจอเศษซองถุงยางอนามัยวันนั้นถามน้อง น้องก็แก้ตัวว่ารุ่นพี่เอาสาวมานอนที่ห้อง (แต่ตอนนี้คือมีหลักฐานทั้งหมดจากที่เล่ามาทุกข้อ)
ด้วยเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดอยากระบายออกมาบ้างไม่อยากเก็บไว้คนเดียว พอทำใจว่าจะคุยกับเค้าให้รู้เรื่องก็ดันพูดไม่ออกตอนเจอหน้าเค้า ผมกลัวการทะเลาะกลัวที่ว่าจะเสียเค้าไป เพราะตอนเด็ก ๆ เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันแล้วมันเจ็บมาก เจ็บมาก ๆ เจ็บจนไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว แต่อยู่แบบนี้ผมก็เจ็บเหมือนกัน ขนาดว่าจะพูดเรื่องนี้กับเค้าผมยังนอนร้องไห้กอดเค้าเลย เค้าก็ถามเป็นอะไรแหละ แต่ผมก็ทำได้แค่ส่ายหน้า
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ความรักครั้งแรกอันแสนเลวร้ายครั้งนี้ด้วยกันนะครับ ขอบคุณครับ