เราเก็บลูกแมวจรอายุประมาณ 2 เดือนมาเลี้ยง เลี้ยงระบบปิด เลี้ยงตัวเดียว พอเลี้ยงไปได้ 3 สัปดาห์ ก็พาแมวไปฉีดวัคซีนรวมป้องกันหัดแมว-หวัดแมว หลังจากฉีดวัคซีนได้ 1 สัปดาห์ แมวมีอาการซึม นอนทั้งวัน ไม่กินข้าว กินแต่น้ำ ไม่อึ ไม่อ้วก (ปกตินางจะร่าเริง ซนมาก กินเก่งมาก)  เราเห็นว่าผิดปกติเลยพาไปหาหมอ

พอไปถึงคลินิคก็พาแมวชั่งน้ำหนัก น้ำหนักลงไปประมาณ 1 ขีดจากสัปดาห์ที่แล้ว จากนั้นหมอได้ล้วงอึของแมวไปตรวจในชุดตรวจไข้หัด (ราคา 600 บาท) ผลปรากฏว่าน้องเป็นหัดแมว

คุณหมออธิบายเพิ่มว่า แม้ว่าแมวจะฉีดวัคซีนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็มีโอกาสติดโรคได้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ก็หวังว่าวัคซีนที่แมวได้นับไปจะมีส่วนช่วยให้อาการไม่หนัก

เราตัดสินใจให้น้องแมวแอดมิด คุณหมอและพี่ผู้ช่วยสัตวแพทย์ดูแลน้องดีมาก ใช้เวลารักษา 4 วัน แมวของเราก็อาการดีขึ้น สามารถทานอาหารได้ อึเป็นก้อน หมอจึงให้พากลับบ้านได้ เพราะผลของการฉีดวัคซีน ทำให้น้องแมวอาการไม่หนัก และฟื้นตัวได้เร็ว

ค่าใช้จ่ายในการรักษา
โดยเฉลี่ยวันละ 1,300 บาท (เป็นค่ายาฆ่าเชื้อ, ค่าน้ำเกลือและอุปกรณ์ให้น้ำเกลือ, ค่าที่พัก, ค่ายากระตุ้นภูมิ) ค่าอาหารสำหรับสัตว์ป่วยคิดแยกต่างหากตามปริมาณที่น้องแมวกิน

ดีใจมากที่แมวเราหายดีและกลับมาร่าเริงกินเก่งได้เหมือนเดิม เพราะสำหรับเราเค้าไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว

สุดท้ายนี้อยากฝากว่า การฉีดวัคซีนมีความสำคัญมาก แม้ว่าจะเลี้ยงระบบปิด ก็อย่าประมาท แมวอาจจะติดโรคได้เหมือนกัน ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่เรารักไปค่ะ