สวัสดีครับ ผมขอทำการบันทึกและแชร์เรื่องราวของแฟนที่ป่วย ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ครับ

ย้อนอดีตและขอท้าวความก่อนครับ ผมและแฟนคนนี้เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนตั้งแต่มัธยม เค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าครับ แต่พอได้สนิท ได้รู้จักนี้ พูดไม่หยุดเลย 555+ เป็นคนตลกและอารมณ์ดีมากที่สุดคนนึงในชีวิตผมที่เคยรู้จักมาครับ

มีช่วงสมัยเรียนเคยพยายามจีบเค้าครับ แต่เนื่องด้วยเทคโนโลยีบ้าง ไม่ค่อยมีตังค์บ้าง เลยแห้ว T_T กลายเป็นเพื่อนผมคนนี้เลยมีแฟนไปครับ 

ผมก็กลับกลายต้องไปเรียนต่างประเทศ ทำงานต่างประเทศอยู่หลายปี จนกลับมาเมื่อราวปี 2017 ที่ผ่านมา

จนเมื่อกลับมา ผมก็เห็นเพื่อนคนนึง ที่เป็นเพื่อนกับแฟนผมคนนี้ ได้แท็กมาในเฟส แล้วผมก็ไปแอบส่องในเฟสเค้า น่าจะไม่มีแฟน แล้วก็เลยเริ่มทักไปหาครับ

พอได้คุยกัน ก็ดีใจมากเลยครับ คุยกันทุกวัน เค้าไม่มีแฟน และเนื่องด้วยอะไรไม่ทราบ คลิกกันไวและขอคบตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ แล้วก็ได้เป็นแฟนกันในที่สุด

ชีวิตเราดำเนินไปอย่างปกติสุขมากๆครับ ถึงแม้ตัวเราจะอยู่ไกลกัน แต่เดินทางมาหากันบ่อยมากๆ เกือบทุกวันหยุด หรือวันที่เค้าไม่มีเวรครับ (เพราะเค้าเป็นพยาบาลครับ) ก็จะมาหาที่ กรุงเทพ หรือผมเดินทางไปหาที่ต่างจังหวัดครับ

เค้าสามารถเข้าออกบ้านผม และที่บ้านผมก็รักเค้ามากๆๆๆ เหมือนลูกคนนึงเลยครับ

ก่อนคบกันเค้าแจ้งผมว่าเค้ามีสภาวะเลือดจางครับ เราก็ไม่เป็นไร ค่อยๆรักษากันไป เราก็คอยซัพพอร์ตให้เค้า

แต่พอมาวันนึงหลังจากคบกันไม่นาน เค้าก็บอกว่าเค้าเป็นโรค MS หรือ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ซึ่งเค้าเป็นทีแรก ทราบว่าเป็นที่จอประสาทตาครับ และพึ่งรักษาเสร็จ ในช่วงนี้ไม่มีอาการอะไรบ่งบอกครับ เหมือนรักษาเสร็จแล้วอาการดีขึ้นเยอะ เราก็สบายใจไปนิดนึง

และมีข่าวดีอีกข่าวถัดมา ในช่วงกลางปี 2019 คือ เรากำลังจะมีน้องครับ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆ เลย

แต่พอหลังแฟนท้อง อาการก็เริ่มออกครับ เริ่มด้วยอาการตาพร่า ทีแรกไม่ถี่ครับ หลังๆเริ่มถี่ และถัดมาตาก็เริ่มมืดบอดเป็นระยะๆครับ ประกอบกับมีอาการผมร่วงเป็นปริมาณมากครับ

แฟนเริ่มปรึกษาหมอสูติ เริ่มปรึกษาหมอ MS เพราะอาการหนักมากครับ มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดบ่อยมาก และพบว่าเด็กมีภาวะแท้งคุกคามครับ

และแฟนมีอาการหนักมากคือขับรถอยู่แล้วตามืดบอดเฉียบพลันครับ เกิดอุบัติเหตุ แต่ดีที่ทั้งแม่และลูกไม่เป็นอะไรมาก และไม่มีผู้สัญจรท่านอื่นได้รับอันตรายแต่อย่างใด

ช่วงมกรา 2020 นี้ แฟนมีอาการหนักมากขึ้นครับ คือมีอาการเป็นตะคริว มีอาการปวดกระดูก ปวดหลัง เป็นอย่างมาก และเนื่องจากต้องรับยาอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ มีอาการหน้ามืด มองไม่เห็น ออกซิเจนต่ำ ความดันต่ำ หมดต้องฉีดมอฟีน ให้ออกซิเจน และรับเลือดครับ

ตลอดช่วงมกรา 2020 อาการแบบข้างต้นเกิดขึ้นบ่อยจนหมอ MS ส่งใบให้ไปปรึกษาหมอสูติ เรื่องยุติการตั้งครรภ์เนื่องจากตัวแฟนผมนั้นร่างกายยังไม่พร้อมที่จะมีน้อง 

หมอแนะนำให้ทำการยุติการตั้งครรภ์และรักษาตัวแฟนผม เพราะอาการเริ่มหนักเรื่อยๆ ถ้ายังตั้งครรภ์อยู่ อาจจะเสียชีวิตทั้งคุณแม่และลูกครับ

ในช่วงนี้แฟนผมเริ่มมีอาการหน้ามืด ตาบอดชั่วคราว อาการหลงลืมในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผมเลยให้ไปหาหมอเร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ และรีบปรึกษาเรื่องการตั้งครรภ์ครับ

แต่แฟนผมก็พยายามยื้อการตั้งครรภ์ ดูแลตัวเองให้มากที่สุด แต่สามารถสู้อาการของโรค MS ได้ครับ มันอาการหนักมาก ปวดกระดูกทุกส่วน เดินไม่ได้ ลุกไม่ได้ ไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ เลยจำเป็นต้องทำการยุดติการตั้งครรภ์ไปเมื่อช่วงวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ 2020 นี่เอง และมีพี่ๆน้อง พ่อแม่ ช่วยกันดูแลและเป็นห่วงเป็นใยครับ และผมก็โทรคุย โทรให้กำลังใจไม่ห่าง

หลังจากยุติการตั้งครรภ์ไป, และเมื่อวันพฤหัส ที่ 20 กุมภาฯ 2020 ได้ไปหาหมอ MS ในตอนเช้าครับ ได้รับยา MS มา พร้อม แฟนผมก็นั่งทำงานอยู่ดีๆ เกิดอาการลืมครับ ลืมทุกสิ่งอย่างเลยและเกิดขึ้นอย่างกระทันหันมากครับ ลืมแบบนั่งงงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ว่ามานั่งทำอะไรอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และลืมว่าผมเป็นใคร ลืมว่ามาคบกับผมได้ยังไง ลืมว่าแม่มาเฝ้าทำไม ลืมว่าตัวเองป่วย MS ลืมว่าตัวเองเคยตั้งครรภ์ ลืมว่าตัวเองเคยเรียนอะไรมาบ้าง ลืมว่าเพื่อนร่วมงานคือใคร ผมนี้ร้องไห้ทั้งคืนเลยครับ ยังไงก็ไม่หยุดร้อง

แฟนผมก็พยายามไปอ่านข้อความ พยายามทำความเข้าใจ เพื่อที่จะประติดประต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผมก็ได้แต่เข้าใจ และพยายามรักษาเค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าความทรงจำเค้าจะกลับมาหรือไม่ โดยสรุปแล้ว แฟนผมเสียความทรงจำไปประมาณ 4 ปีครับ

ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอีกไหม จะรักษาความทรงจำได้ไหมครับ

ทุกอย่างต้องเริ่มกันใหม่ครับ ทำความรู้จักกันใหม่ คบกันใหม่ เริ่มใหม่ทุกสิ่งอย่าง ผมก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ครับ พยายามบันทึกรูป บันทึกข้อความ จดบันทึกทุกสิ่งอย่างเผื่อถ้าเกิดขึ้นอีก จะได้ให้เค้าได้ดู ได้อ่าน เผื่อในอนาคตมันเกิดขึ้นอีกครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้กำลังใจทุกท่าน ท่านที่มีเพื่อน พี่น้อง แฟน หรือญาติ สังเกตอาการ ถ้ามีคล้ายๆแฟนผมด้านบน ให้รีบไปหาหมอโดยด่วนเพื่อการรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่อาการรุนแรงเหมือนแฟนผมครับ

ชีวิตไม่ได้ยาวไกลอย่างที่คิด ใช้ชีวิตให้เหมือนวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน คอยเติมความรัก คอยเติมความใส่ใจให้กันเสมอนะครับ