หลังจากติดตามเรื่องนี้มาหลายวันตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมรู้สึกว่าตัวเองได้แสดงความเห็นในสิ่งที่อยากเห็นไปเยอะแล้ว
ที่จะมูฟออนนี่ไม่ได้มูฟเพราะพอใจกับคำตอบของอฟช. แต่มูฟเพราะคิดว่าเขาคงไม่มีรีแอ็คชั่นอื่นนอกจากแถลงการณ์ล่าสุด
ถ้าไม่มีประเด็นอะไรใหม่ๆก็คงไม่ตั้งกระทู้เพิ่ม ขอกลับไปเป็นสายอ่านความเห็นกดไลค์หรือร่วมแจมเม้นบ้างตามโอกาสเหมือนเดิม
และผมจะไม่ตำหนิคนที่ยังสู้ต่อแน่นอนจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ไฟท์ต่อไปครับ
แต่ก่อนมูฟไปขอทิ้งท้ายสักเล็กน้อย
สำหรับผมดราม่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเธียเตอร์ครับ
แต่แน่นอนเธียเตอร์คือประเด็นหลักที่ร้ายแรงที่สุดและทำให้แฟนคลับรวมตัวกันได้
ผมมองว่าปัญหาเธียเตอร์มันก็แค่หนึ่งในผลลัพธ์ที่เกิดจากชุดความคิดที่มีปัญหาของอฟช.
ชุดความคิดในเรื่องวิธีการต่อยอดธุรกิจบันเทิงครบวงจรของเขาโดยการทำทั้งไอดอลหญิงและชายในบริษัทเดียวกัน
ถ้าวิธีคิดและเป้าหมายในเรื่องนี้ของอฟช.ยังอยู่ มันก็จะมีปัญหาอื่นๆตามมาหลังจากนี้อยู่ดีครับ
แต่การจะเรียกร้องให้อฟช.ทิ้งไอดอลชายไปหรือแยกบริษัทให้เด็ดขาดไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่การถือหุ้นคงทำได้ยากในตอนนี้
เพราะยังมีหลายคนมองที่แค่ว่าปัญหามีแค่เรื่องเธียเตอร์เรื่องเดียวไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว
คำๆนี้มันเริ่มฮิตตอนที่มีสำนักข่าวช่องนึงนำเสนอข่าวในเชิงที่ทำให้แฟนคลับเข้าใจผิด
แฟนคลับเลยออกมาแก้ต่างว่าประเด็นหลักมันคือเรื่องเธียเตอร์และจุดกำเนิดของเธียเตอร์ bnk มากกว่าเรื่องชู้สาว
แต่ไปๆมาๆข้อความกลายเป็น "เราเรียกร้องเฉพาะปัญหาเรื่องเธียเตอร์ ไม่มีคนติดใจเรื่องชู้สาวสามารถทำงานด้วยกันได้ "
ซึ่งผมว่าไม่ใช่ครับ ประเด็นหลักคือเธียเตอร์จริงแต่ไม่ใช่ว่าปัญหาเรื่องชู้สาวไม่สำคัญ
ผมตามไอดอลมาจะ 10 ปีตั้งแต่ตามไอดอลญี่ปุ่น เรื่องชู้สาวสำคัญกับไอดอลเสมอมาครับ
ไม่ว่าอดีตปัจจุบันและอนาคตต่อจากนี้ไปก็จะยังสำคัญเสมอ
ลองคิดดูทำไมธุรกิจไอดอลถึงทำให้คนยอมซื้อสินค้าวงในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น
อะไรทำให้คนยอมจ่าย 350 บาทเพื่อซื้อบัตรจับมือไปจับ 8 วินาที ทำไมคนต้องยอมเอาเงินเดือนและโบนัสมาโหวตเลือกตั้ง
ก็เห็นอยู่ว่ามันไม่ใช่ระบบซื้อขายด้วยเหตุผลและความคุ้มค่าแบบที่เราคิดเวลาซื้อสินค้าทั่วไป
เรายอมจ่ายเพราะอยากสนับสนุนคนที่เรารักเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก และที่สำคัญคือคนที่เรารักนั้นมีกฏที่ให้คนเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน
เมื่อใดก็ตามที่มีอะไรมากระทบความเท่าเทียมนี้ปัญหาจะเกิดขึ้น ดูอย่างกรณีโอตะ vip ก็ได้ เรื่องชู้สาวก็เช่นกัน
มันคือธรรมชาติของธุรกิจไอดอล
การที่บริษัททำไอดอลชายโดยใช้ชื่อบริษัทเดียวกันไปถือหุ้น มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านนี้
แล้วแฟนคลับก็ไม่ได้ใจแคบ ไม่ว่าจะสตาฟทำงานที่เป็นผู้ชายหรือการร่วมงานกับดาราชายที่เป็นดาราจริงๆแฟนคลับไม่มีปัญหาครับ
ที่ผ่านมาผมก็เห็นทำงานร่วมกันได้ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่แบบที่บริษัทพยายามจะชงให้ไอดอลชายมาร่วมงานกับไอดอลหญิงแบบนี้ครับ
แต่เอาเถอะครับจากแถลงการณ์ของอฟช.เขาบอกว่าจากนี้เขาจะแยกระบบการทำงานให้เด็ดขาดกว่าเดิม
เรามารอดูกันครับว่าเขาจะแยกจริงมั้ยและแยกขนาดไหน
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกตั้งแต่สมัยเปิด iam ว่าทำแยกบริษัทกันอยู่แล้ว แฟนคลับได้ยินก็โอเค
แต่ขอโทษครับเขาแยกแค่ชื่อบริษัทครับ แต่ในทางปฏิบัติตามแผนงานที่หลุดบอกมา เล่นแชร์ทั้งสถานที่บุคลากรและออฟฟิส
ถ้าตั้งบริษัทใหม่แต่มาใช้ออฟฟิสร่วมกันแบบนี้ก็อย่าเอาคำว่าตั้งบริษัทแยกให้แล้วมาอ้างกับแฟนคลับเลยครับ มันดูเล่นลิ้นไป
หลังจากนี้หวังว่าจะแยกกันจริงๆแล้วนะ
ส่วนเรื่องตารางงานและยูนิตของ bnk ที่หลายคนสงสัยว่าเตรียมนำมาร่วมงานกันหรือเปล่าเราก็คงได้แค่เดา
คงไม่มีคำตอบให้จนกว่าจะเห็นมันเกิดขึ้น เรื่องนี้ก็ต้องมารอดูกันว่าจะเป็นยังไง
เหมือนก่อนหน้านี้ที่หลายคนเคยทักท้วงแล้วโดนด่าว่าปสด.จนต้องรอถึงวันนี้ที่พิสูจน์แล้วว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้ปสด.ไปเอง
สุดท้ายนี้ถึงไม่สามารถทำให้บริษัทเลิกความคิดการทำไอดอลหญิงและชายครบวงจรได้
แต่ดราม่าครั้งนี้ก็ทำให้คนรู้จักตัวตนของผู้บริหารได้ชัดเจนขึ้นว่าเขากำลังคิดแบบไหนหรือจริงใจต่อแฟนคลับแค่ไหน
ไม่ใช่แค่แฟนคลับหรอกที่เห็น ผมว่าคนในวงการคนอื่นๆก็เห็นแล้วครับว่าเขาเป็นยังไง
ไม่รู้ว่าผมจะหวังได้มั้ยให้อฟช.คิดได้และปรับปรุงจริงๆแบบจริงใจ หวังมาไม่รู้กี่รอบแล้วก็คงต้องหวังต่อไป
ฝากสหายปสด.ทุกท่านไฟท์ต่อด้วยครับ แต่ไฟท์กันระวังๆด้วยหล่ะเดี๋ยวจะกลายเป็นผู้ร้ายเอา
แล้วอฟช.จะกลายเป็นอฟช.ที่น่าสงสารที่ถูกแฟนคลับปสด.หาเรื่องไม่ยอมจบสักที
******************************************************************************************************************
ปล.ขอฝากส่งท้ายอีกนิดนึงเพราะเห็นเมมเบอร์บางคนอ่านพันทิปด้วยเผื่อได้ผ่านมาอ่านกระทู้นี้โดยเฉพาะโอชิผม
อยากให้เมมเข้าใจว่ามุมมองของแฟนคลับและมุมมองของเมมเบอร์มันต่างกันครับ อยากให้เมมเบอร์เข้าใจคนที่ออกมาตำหนิบริษัท
สำหรับเมมเบอร์แล้วแผนงานการทำงานกับไอดอลชายอาจไม่ใช่เรื่องแย่ และผู้บริหารอาจจะเป็นพี่ที่ดีในมุมมองของเมมเบอร์
แต่ในมุมมองแฟนคลับแล้วเขาเป็นผู้บริหารที่แย่ครับ และแผนงานของเขามันทำให้หลายคนไม่อยากสนับสนุนวงต่อ
ไม่ได้หวังให้เมมเบอร์มาเห็นด้วย แต่หวังว่าเมมเบอร์จะเข้าใจและไม่รำคาญกันนะครับ
ทิ้งท้ายก่อนจะมูฟออน..สำหรับผมดราม่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเธียเตอร์ครับ
ที่จะมูฟออนนี่ไม่ได้มูฟเพราะพอใจกับคำตอบของอฟช. แต่มูฟเพราะคิดว่าเขาคงไม่มีรีแอ็คชั่นอื่นนอกจากแถลงการณ์ล่าสุด
ถ้าไม่มีประเด็นอะไรใหม่ๆก็คงไม่ตั้งกระทู้เพิ่ม ขอกลับไปเป็นสายอ่านความเห็นกดไลค์หรือร่วมแจมเม้นบ้างตามโอกาสเหมือนเดิม
และผมจะไม่ตำหนิคนที่ยังสู้ต่อแน่นอนจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ไฟท์ต่อไปครับ
แต่ก่อนมูฟไปขอทิ้งท้ายสักเล็กน้อย
สำหรับผมดราม่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเธียเตอร์ครับ
แต่แน่นอนเธียเตอร์คือประเด็นหลักที่ร้ายแรงที่สุดและทำให้แฟนคลับรวมตัวกันได้
ผมมองว่าปัญหาเธียเตอร์มันก็แค่หนึ่งในผลลัพธ์ที่เกิดจากชุดความคิดที่มีปัญหาของอฟช.
ชุดความคิดในเรื่องวิธีการต่อยอดธุรกิจบันเทิงครบวงจรของเขาโดยการทำทั้งไอดอลหญิงและชายในบริษัทเดียวกัน
ถ้าวิธีคิดและเป้าหมายในเรื่องนี้ของอฟช.ยังอยู่ มันก็จะมีปัญหาอื่นๆตามมาหลังจากนี้อยู่ดีครับ
แต่การจะเรียกร้องให้อฟช.ทิ้งไอดอลชายไปหรือแยกบริษัทให้เด็ดขาดไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่การถือหุ้นคงทำได้ยากในตอนนี้
เพราะยังมีหลายคนมองที่แค่ว่าปัญหามีแค่เรื่องเธียเตอร์เรื่องเดียวไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว
คำๆนี้มันเริ่มฮิตตอนที่มีสำนักข่าวช่องนึงนำเสนอข่าวในเชิงที่ทำให้แฟนคลับเข้าใจผิด
แฟนคลับเลยออกมาแก้ต่างว่าประเด็นหลักมันคือเรื่องเธียเตอร์และจุดกำเนิดของเธียเตอร์ bnk มากกว่าเรื่องชู้สาว
แต่ไปๆมาๆข้อความกลายเป็น "เราเรียกร้องเฉพาะปัญหาเรื่องเธียเตอร์ ไม่มีคนติดใจเรื่องชู้สาวสามารถทำงานด้วยกันได้ "
ซึ่งผมว่าไม่ใช่ครับ ประเด็นหลักคือเธียเตอร์จริงแต่ไม่ใช่ว่าปัญหาเรื่องชู้สาวไม่สำคัญ
ผมตามไอดอลมาจะ 10 ปีตั้งแต่ตามไอดอลญี่ปุ่น เรื่องชู้สาวสำคัญกับไอดอลเสมอมาครับ
ไม่ว่าอดีตปัจจุบันและอนาคตต่อจากนี้ไปก็จะยังสำคัญเสมอ
ลองคิดดูทำไมธุรกิจไอดอลถึงทำให้คนยอมซื้อสินค้าวงในราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น
อะไรทำให้คนยอมจ่าย 350 บาทเพื่อซื้อบัตรจับมือไปจับ 8 วินาที ทำไมคนต้องยอมเอาเงินเดือนและโบนัสมาโหวตเลือกตั้ง
ก็เห็นอยู่ว่ามันไม่ใช่ระบบซื้อขายด้วยเหตุผลและความคุ้มค่าแบบที่เราคิดเวลาซื้อสินค้าทั่วไป
เรายอมจ่ายเพราะอยากสนับสนุนคนที่เรารักเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก และที่สำคัญคือคนที่เรารักนั้นมีกฏที่ให้คนเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน
เมื่อใดก็ตามที่มีอะไรมากระทบความเท่าเทียมนี้ปัญหาจะเกิดขึ้น ดูอย่างกรณีโอตะ vip ก็ได้ เรื่องชู้สาวก็เช่นกัน
มันคือธรรมชาติของธุรกิจไอดอล
การที่บริษัททำไอดอลชายโดยใช้ชื่อบริษัทเดียวกันไปถือหุ้น มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านนี้
แล้วแฟนคลับก็ไม่ได้ใจแคบ ไม่ว่าจะสตาฟทำงานที่เป็นผู้ชายหรือการร่วมงานกับดาราชายที่เป็นดาราจริงๆแฟนคลับไม่มีปัญหาครับ
ที่ผ่านมาผมก็เห็นทำงานร่วมกันได้ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่แบบที่บริษัทพยายามจะชงให้ไอดอลชายมาร่วมงานกับไอดอลหญิงแบบนี้ครับ
แต่เอาเถอะครับจากแถลงการณ์ของอฟช.เขาบอกว่าจากนี้เขาจะแยกระบบการทำงานให้เด็ดขาดกว่าเดิม
เรามารอดูกันครับว่าเขาจะแยกจริงมั้ยและแยกขนาดไหน
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกตั้งแต่สมัยเปิด iam ว่าทำแยกบริษัทกันอยู่แล้ว แฟนคลับได้ยินก็โอเค
แต่ขอโทษครับเขาแยกแค่ชื่อบริษัทครับ แต่ในทางปฏิบัติตามแผนงานที่หลุดบอกมา เล่นแชร์ทั้งสถานที่บุคลากรและออฟฟิส
ถ้าตั้งบริษัทใหม่แต่มาใช้ออฟฟิสร่วมกันแบบนี้ก็อย่าเอาคำว่าตั้งบริษัทแยกให้แล้วมาอ้างกับแฟนคลับเลยครับ มันดูเล่นลิ้นไป
หลังจากนี้หวังว่าจะแยกกันจริงๆแล้วนะ
ส่วนเรื่องตารางงานและยูนิตของ bnk ที่หลายคนสงสัยว่าเตรียมนำมาร่วมงานกันหรือเปล่าเราก็คงได้แค่เดา
คงไม่มีคำตอบให้จนกว่าจะเห็นมันเกิดขึ้น เรื่องนี้ก็ต้องมารอดูกันว่าจะเป็นยังไง
เหมือนก่อนหน้านี้ที่หลายคนเคยทักท้วงแล้วโดนด่าว่าปสด.จนต้องรอถึงวันนี้ที่พิสูจน์แล้วว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้ปสด.ไปเอง
สุดท้ายนี้ถึงไม่สามารถทำให้บริษัทเลิกความคิดการทำไอดอลหญิงและชายครบวงจรได้
แต่ดราม่าครั้งนี้ก็ทำให้คนรู้จักตัวตนของผู้บริหารได้ชัดเจนขึ้นว่าเขากำลังคิดแบบไหนหรือจริงใจต่อแฟนคลับแค่ไหน
ไม่ใช่แค่แฟนคลับหรอกที่เห็น ผมว่าคนในวงการคนอื่นๆก็เห็นแล้วครับว่าเขาเป็นยังไง
ไม่รู้ว่าผมจะหวังได้มั้ยให้อฟช.คิดได้และปรับปรุงจริงๆแบบจริงใจ หวังมาไม่รู้กี่รอบแล้วก็คงต้องหวังต่อไป
ฝากสหายปสด.ทุกท่านไฟท์ต่อด้วยครับ แต่ไฟท์กันระวังๆด้วยหล่ะเดี๋ยวจะกลายเป็นผู้ร้ายเอา
แล้วอฟช.จะกลายเป็นอฟช.ที่น่าสงสารที่ถูกแฟนคลับปสด.หาเรื่องไม่ยอมจบสักที
******************************************************************************************************************
ปล.ขอฝากส่งท้ายอีกนิดนึงเพราะเห็นเมมเบอร์บางคนอ่านพันทิปด้วยเผื่อได้ผ่านมาอ่านกระทู้นี้โดยเฉพาะโอชิผม
อยากให้เมมเข้าใจว่ามุมมองของแฟนคลับและมุมมองของเมมเบอร์มันต่างกันครับ อยากให้เมมเบอร์เข้าใจคนที่ออกมาตำหนิบริษัท
สำหรับเมมเบอร์แล้วแผนงานการทำงานกับไอดอลชายอาจไม่ใช่เรื่องแย่ และผู้บริหารอาจจะเป็นพี่ที่ดีในมุมมองของเมมเบอร์
แต่ในมุมมองแฟนคลับแล้วเขาเป็นผู้บริหารที่แย่ครับ และแผนงานของเขามันทำให้หลายคนไม่อยากสนับสนุนวงต่อ
ไม่ได้หวังให้เมมเบอร์มาเห็นด้วย แต่หวังว่าเมมเบอร์จะเข้าใจและไม่รำคาญกันนะครับ