ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนเสมอไปเริ่มตั้งแต่เราเข้าสู่ชีวิตมหาลัยบางคนส่วนใหญ่มีครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่เข้าใจพ่อแม่คอยซัพพอร์ตตลอดเวลามีปัญหาก็สามารถบอกพ่อบอกแม่ด้วยตลอดแต่ไม่ใช่กับครอบครัวเรา
เริ่มต้นตั้งแต่ชีวิตสมัยเด็กเลยแล้วกันเราอยู่กับพ่อกับแม่ตั้งแต่เด็กส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนคอยเลี้ยงดูแต่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเกี่ยวกับเราเลยสักบาทอาจจะมีบ้างที่เป็นค่าขนมเล็กน้อยเวลาเราอยากกินอะไรตอนเด็กๆพอเข้าอนุบาลคนที่ส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เป็นญาติห่างๆที่เราเรียกว่าอาเหล่าโกวเขาคอยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ตลอด เวลาป่วยเขาก็คอยมาเยี่ยมมาดูแล ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราโชคดีมากๆซึ่งบางคนไม่มีโอกาสแบบเราด้วยซ้ำ..จนตอนนี้เราอยู่ปี3 จะปี4 แล้วเขาส่งเสียเราจนถึงตอนนี้พอเราขึ้นมหาลัยเขาก็เพิ่มค่าใช้จ่ายค่ามาให้อีกเป็นค่ากินจำนวน 12,000 บาท/2เดือน แต่ทุกครั้งที่เรามีเงินจากการที่ทางนู้นเค้าให้มาแม่พี่น้อง ซึ่งเขาย้ายมาอยู่ที่นนทบุรีคอยไถเงินเราตลอด บางครั้งเราก็ให้ บางครั้งเราก็ไม่มีจะให้ แต่เขาก็ยังขอทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าเงินที่ทางนู้นให้มา เขาให้มาพอดีกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ทั้งค่ารถเมล์ ค่ากินข้าวถ้าเอาให้ทางแม่แล้วแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของเราจะติดลบ บางครั้งเราก็ต้องยอมอดให้ทางแม่ไปเพราะว่าเราต้องให้ค่าอาหารแมวซึ่งเป็นแมวที่เรารับมาเลี้ยงเองแต่เราเพียงแค่ฝากไว้ซึ่งเราก็เป็นคนออกค่าอาหารเองทั้งหมดไม่ได้เห็นแก่ตัวโดยที่เอาแมวไปฝากเราไม่จ่ายค่าอะไรเลย ทุกครั้งที่ทางพี่ทั้งน้องทั้งแม่มาขอเงินจากเราเวลาเราไม่ให้ในบางครั้งก็จะพูดจาแรงๆว่าว่าเราอกตัญญูบ้างว่าว่าเราไม่ช่วยพ่อช่วยแม่บ้าง มีทั้งน้องมีทั้งพี่สาวแต่ไม่เคยสามารถพึ่งใครได้สักคนโทรมาขอเงินทีก็พูดจาไม่ดีขนาดคนเป็นน้องมันยังด่าพี่มันเลย เวลาไม่ให้เงินน้องมันก็ด่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เราได้รับรู้แล้วว่า “คนเราไม่สามารถพึ่งใครได้ตลอดแหละคนเราก็ไม่ได้สามารถให้ใครพึ่งได้ตลอด” บางคนอาจสงสัยว่าเวลาเราเครียด เรามีปัญหาเราปรึกษาใครเราปรึกษาแฟนที่คบกันมาจะ6 ปีแล้วเค้าเป็นคนเดียวที่เราปรึกษาแล้วก็พึ่งได้...ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเราแค่อยากจะระบายบางทีมันก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเล่าให้ใครๆฟัง เดี๋ยวคนก็จะหาว่าเราไม่ดีหรือพ่อลืมแม่ลืมพี่ลืมน้อง แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้น ถ้าเราเรียนจบ ทำงานแล้วเรามีเงินเดือนแน่นอนเราต้องให้พ่อให้แม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่ใช่แบบนั้นเรายังต้องเรียนหนังสือต้องมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้เราไม่สามารถให้ใครได้เลย บางทีเคยคิดสั้นนะว่าถ้าไม่มีเราสักคนมันคงจะดีแล้วเราก็คงจะสบายใจมากกว่านี้แต่แล้วเราก็ทำไม่ได้เพราะเราคิดว่าคนที่ส่งเสียเราถึงขนาดนี้เราจะไม่ทำให้เขาเสียใจเด็ดขาด...สำหรับทางครอบครัวแล้ว..เราจะทำให้เขาเห็นว่าเราประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีพวกเขาก็ได้
อยากจะขอบคุณอาเหล่าโกวแล้วก็แฟนของเรา แล้วก็เพื่อนๆของเราที่คอยอยู่ข้างๆเวลาเรามีปัญหาคอยปลอบเวลาเราเครียดและเป็นที่ปรึกษาให้เรา ขอบคุณมากจริงๆ
ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนสำหรับฉัน
เริ่มต้นตั้งแต่ชีวิตสมัยเด็กเลยแล้วกันเราอยู่กับพ่อกับแม่ตั้งแต่เด็กส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนคอยเลี้ยงดูแต่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเกี่ยวกับเราเลยสักบาทอาจจะมีบ้างที่เป็นค่าขนมเล็กน้อยเวลาเราอยากกินอะไรตอนเด็กๆพอเข้าอนุบาลคนที่ส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เป็นญาติห่างๆที่เราเรียกว่าอาเหล่าโกวเขาคอยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ตลอด เวลาป่วยเขาก็คอยมาเยี่ยมมาดูแล ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราโชคดีมากๆซึ่งบางคนไม่มีโอกาสแบบเราด้วยซ้ำ..จนตอนนี้เราอยู่ปี3 จะปี4 แล้วเขาส่งเสียเราจนถึงตอนนี้พอเราขึ้นมหาลัยเขาก็เพิ่มค่าใช้จ่ายค่ามาให้อีกเป็นค่ากินจำนวน 12,000 บาท/2เดือน แต่ทุกครั้งที่เรามีเงินจากการที่ทางนู้นเค้าให้มาแม่พี่น้อง ซึ่งเขาย้ายมาอยู่ที่นนทบุรีคอยไถเงินเราตลอด บางครั้งเราก็ให้ บางครั้งเราก็ไม่มีจะให้ แต่เขาก็ยังขอทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าเงินที่ทางนู้นให้มา เขาให้มาพอดีกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ทั้งค่ารถเมล์ ค่ากินข้าวถ้าเอาให้ทางแม่แล้วแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของเราจะติดลบ บางครั้งเราก็ต้องยอมอดให้ทางแม่ไปเพราะว่าเราต้องให้ค่าอาหารแมวซึ่งเป็นแมวที่เรารับมาเลี้ยงเองแต่เราเพียงแค่ฝากไว้ซึ่งเราก็เป็นคนออกค่าอาหารเองทั้งหมดไม่ได้เห็นแก่ตัวโดยที่เอาแมวไปฝากเราไม่จ่ายค่าอะไรเลย ทุกครั้งที่ทางพี่ทั้งน้องทั้งแม่มาขอเงินจากเราเวลาเราไม่ให้ในบางครั้งก็จะพูดจาแรงๆว่าว่าเราอกตัญญูบ้างว่าว่าเราไม่ช่วยพ่อช่วยแม่บ้าง มีทั้งน้องมีทั้งพี่สาวแต่ไม่เคยสามารถพึ่งใครได้สักคนโทรมาขอเงินทีก็พูดจาไม่ดีขนาดคนเป็นน้องมันยังด่าพี่มันเลย เวลาไม่ให้เงินน้องมันก็ด่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เราได้รับรู้แล้วว่า “คนเราไม่สามารถพึ่งใครได้ตลอดแหละคนเราก็ไม่ได้สามารถให้ใครพึ่งได้ตลอด” บางคนอาจสงสัยว่าเวลาเราเครียด เรามีปัญหาเราปรึกษาใครเราปรึกษาแฟนที่คบกันมาจะ6 ปีแล้วเค้าเป็นคนเดียวที่เราปรึกษาแล้วก็พึ่งได้...ก็ไม่มีอะไรมากหรอกเราแค่อยากจะระบายบางทีมันก็เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะเล่าให้ใครๆฟัง เดี๋ยวคนก็จะหาว่าเราไม่ดีหรือพ่อลืมแม่ลืมพี่ลืมน้อง แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้น ถ้าเราเรียนจบ ทำงานแล้วเรามีเงินเดือนแน่นอนเราต้องให้พ่อให้แม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่ใช่แบบนั้นเรายังต้องเรียนหนังสือต้องมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้เราไม่สามารถให้ใครได้เลย บางทีเคยคิดสั้นนะว่าถ้าไม่มีเราสักคนมันคงจะดีแล้วเราก็คงจะสบายใจมากกว่านี้แต่แล้วเราก็ทำไม่ได้เพราะเราคิดว่าคนที่ส่งเสียเราถึงขนาดนี้เราจะไม่ทำให้เขาเสียใจเด็ดขาด...สำหรับทางครอบครัวแล้ว..เราจะทำให้เขาเห็นว่าเราประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีพวกเขาก็ได้
อยากจะขอบคุณอาเหล่าโกวแล้วก็แฟนของเรา แล้วก็เพื่อนๆของเราที่คอยอยู่ข้างๆเวลาเรามีปัญหาคอยปลอบเวลาเราเครียดและเป็นที่ปรึกษาให้เรา ขอบคุณมากจริงๆ