เราเรียนโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างค่ะ แล้วเรามีปัญหากับอาจารย์ที่ปรึกษาโดยที่เราป่วยเป็นซึมเศร้าและป่วยบ่อยด้วยเทอม1ติดมส.1วิชา 0อีก2วิชาเพราะเวลาเรียนไม่ครบต้องไปโรงพยาบาลบ่อย แล้วคุณครูที่ปรึกษาคนนี้ก็เรียกเราไปคุยเราก็ยังยืนยันว่าเราป่วยจริงและมีใบรับรองแพทย์แต่บางครั้งการป่วยเล็กน้อยต้องไปโรงพยาบาลเลยหรอคะ นี่เลยทำให้เราไม่ได้ใบรับรองแพทย์ส่วนนึง พอเขาเรียกเราไปคุยเสร็จเขาโทรหาแม่เราให้มาคุยกับรองผอ.ค่ะว่าจะทำยังไงเราก็บอกว่าจะเรียนแล้วก็แก้มส.เสร็จหลังจากเปิดเทอม2ครูที่ปรึกษาเดินเข้ามาถามว่ายังไม่ลาออกอีกหรอ บางทีนั่งอยู่ในห้องก็หาว่าเราไม่มา เดือนพฤศจิกาเราไปมหาลัยในชลบุรีค่ะไปวันที่2แม่เรารู้เขาก็ไม่อะไร แต่เราเหนื่อยมากกลายเป็นว่าเราแพนิคเวลาเห็นครูคนนี้ เราเลยขอแม่ลาออกแล้วแม่ลาออกให้วันที่12 แต่วันที่10เราไปหาแฟนที่กรุงเทพค่ะ พอกลับมาเราก็ขอแม่ลาออกให้เลย แต่ในวันประชุมผู้ปกครองของโรงเรียนรองผอ.ได้นำเรื่องเราไปพูดว่า “มีนักเรียนเป็นเคสตัวอย่างคือ1.เขาท้องตัดสินใจจะลาออกไปแต่งงานแล้วเรียนกศน.อันนี้เป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำ2.(เรื่องเรา)แต่มีเด็กอีกคนทำโรงเรียนเสียหายโดยการโกหกพ่อแม่ว่าไปopen houseม.กรุงเทพแต่ความจริงคือหนีตามผู้ชายจนพ่อแม่จับได้เลยมาลาออก” รองผอ.พูดไว้แบบนี้ค่ะ ทั้งที่ความจริงเราแพนิคและเป็นซึมเศร้าขั้นรุนแรงแม่ไม่อยากให้อยู่หอคนเดียวแค่นั้น เพื่อนเราเลยไปแย้งกับครูที่ปรึกษาว่าพูดถึงเราหรือเปล่า เขาบอกว่าใช่ เพื่อนเราเลยแย้งว่าเราไปมหาลัยวันที่2นะแล้วก็ไม่ได้ไปไหนอีกครูมีหลักฐานหรือเปล่า ครูที่ปรึกษาบอกว่าเขามีสายค่ะแล้วพอรู้ว่าเราไม่ได้ไปม.กรุงเทพเขาก็หน้าเจื่อนไป แต่การที่เขาเอาเราไปพูดแบบนี้เราเสียหายมากค่ะ พูดในที่ประชุมผู้ปกครองเลย ถึงจะออกมาแล้วแต่อยากให้ไม่มองข้ามเรื่องนี้เราเป็นซึมเศร้ามันมีบาดแผลในใจไปตลอดนะคะ การทำแบบนี้ของคุณครูไม่เหมาะสมตั้งแต่ไม่ช่วยเหลือเด็กแล้วไปพูดในทางเสียหายเราโดนเองหลายครั้งค่ะ  พอมีวิธีการจัดการไหมคะครอบครัวเราเสียหาย เรากลายเป็นคนหนีตามผู้ชายทั้งที่ไม่จริง. 
**เรื่องตั้งแต่พฤศจิกาค่ะเราพึ่งทราบจากเพื่อนเมื่อวาน ขอความกรุณาเอาผิดครูแบบนี้ด้วยค่ะ