อย่างที่ทราบกันใน มังกรหยกภาค 1 5 ยอดฝีมือ เฮ้งเต่งเอี๊ยง (หวัง ฉงหยาง) , อึ้งเอี๊ยะซือ (หวงเหยาซือ) , อั้งฉิกกง , อิดเต็งไต้ซือ , อาวเอี๊ยงฮง ต่างต่อสู้แย่งชิง คัมภีร์เก้าอิมจินเอ็ง บัญญัติโดย อึ้งเซียะ แต่หากมาเปลี่ยนเป็นแบบคัมภีร์ทานตะวันที่ต้องผ่านเงื่อนไขบางอย่าง คิดว่าเหล่ายอดฝีมือทั้ง 5 จะมีใครกล้าฝึก หรือกล้าตัดชิ้นส่วนตัวเองเพื่อฝึกวิชาหรือไม่ เพราะในยุคจีนโบราณการไร้คนสืบทอด หรือสืบสกุลถือเป็นเรื่องใหญ่หลวงมาก ขนาดที่เรียกได้ว่าตายทั้งเป็น คนไม่ใช่คนกันเลยทีเดียว ในมุมมองผมต้อง อาวเอี๊ยงฮง แน่นอน เพราะขนาดเก้าอิมที่พระเอกเขียนมั่วๆ ทวนทิศ ย้อนทิศอะไรสักอย่างก็ยังกล้า หรือบ้าพอฝึกจนสำเร็จ แม้จะเสียสติก็เถอะนะ
ยกตัวอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซือหม่าเชียน พงศาวดาร “สื่อจี้”
คัดลอกเนื้อหาบางส่วนจากเว็บ https://www.posttoday.com/life/healthy/515235
แต่ซือหม่าเชียนยังมีทางเลือก ในยุคนั้นโทษประหารละเว้นได้หากจ่ายด้วยเงินครึ่งล้าน หรือไม่ก็ต้องรับโทษ "ตอน" แทน นักวิชาการเถรตรงอย่างซือหม่าเชียนย่อมไม่มีเงินครึ่งล้าน ซือหม่าเชียนจึงเหลือแค่ 2 ทาง คือ ยอมตาย หรือโดนตอน
ถามใจผู้คนสมัยนี้ คำตอบคงเดาได้ไม่ยากว่าขอรักษาชีวิตไว้ก่อน แต่จากจิตวิญญาณและวัฒนธรรมยุคนั้น การโดนตอนน่าละอายกว่าตายหลายเท่าตัว สำนวนจีนว่าไว้ "ฆ่าได้หยามไม่ได้" การตอนคือการถูกลบหลู่อย่างรุนแรง จากประวัติศาสตร์จีน ใครที่อยู่บนทางแพร่งนี้ แทบร้อยทั้งร้อยยินดีเลือกความตาย
แต่ซือหม่าเชียนเจอทางเลือกที่ยากลำบากกว่านั้น ภารกิจที่พ่อฝากฝังยังไม่สำเร็จ และเพราะภารกิจนี้ต้องพึ่งพาประสบการณ์ ความรู้ และความทุ่มเทของเขาเท่านั้น เขาจำต้องเลือกมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเรียบเรียงบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ให้เสร็จเรียบร้อย
ซือหม่าเชียนจึงเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้จะต้องแลกด้วยการอยู่ในสถานะแห่งความต้อยต่ำขนาดไหนก็ตาม หลังจากโดนตอน ซือหม่าเชียนยังบากหน้ารับใช้ราชสำนักฮั่นต่อไป ส่วนฮั่นหวู่ตี้ก็ยินดีช่วงใช้ ซือหม่าเชียนอีกครั้งในตำแหน่งใกล้เคียงเดิม แต่เป็นตำแหน่งที่มีแต่ขันทีเท่านั้นที่ทำ ซึ่งยิ่งเพิ่มความอัปยศให้กับซือหม่าเชียน
หากเปลี่ยนจากคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งมังหยกภาค 1 มาเป็นคัมภีร์ที่ต้องผ่านเงื่อนไขแบบคัมภีร์ทานตะวันจะมีใครกล้าฝึกบ้างครับ
ยกตัวอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้