สวัสดีค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเล่าเลยนะคะ
เราซื้อบ้านเดี่ยว ของโครงการค่อนข้างมีชื่อในระดับนึง
บ้านราคา 5.79 ล้านบาท ตอนที่ตัดสินใจซื้อ เพราะ บรรยากาศรอบๆของหมู่บ้านดีไม่อึดอัด หน้าถนนในหมู่บ้านกว้าง และ บ้านที่เราเลือก ทิศทางลมดี อยู่ในโซนส่วนตัว ปัญหาคือ เพื่อนบ้านอยู่ติดหลังบ้าน
มากันสองครอบครัว ซื้อ สองหลัง และ ทุบกำแพงตรงกลางแล้วต่อเติมทำห้องเชื่อมกัน
เข้าใจในส่วนต่อเติมตรงนี้นะคะเพราะถ้าเป็นเรา มาซื้อบ้านกับครอบครัวสองหลังก็คงอยากทุบแล้วทำทางเชื่อมบ้านให้ถึงกัน ตรงนี้ไม่มีผลกระทบใ้ดๆ ไม่ได้ใส่ใจ
แต่ปัญหาคือ การต่อเติมด้านหลังบ้านใกล้ติดกับกำแพงรั้ว คือ มีโครงเสาเตรียมก่อผนัง ซึ่งหากมองด้วยสายตา ก็ค่อนข้างชิดกำแพง รั้วพอควร แต่ไม่แน่ใจว่าชิดเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไหม เพราะมีการเอาผ้าใบบังไว้ ทางเราจึงได้สอบถามทางนิติ ว่า บ้านที่ติดหลังบ้าน ต่อเติมห้องหรือเปล่า ได้คำตอบว่า .. เขาต่อเติมอยู่ในกฏข้อบังคับ เว้นระยะห่างตามที่กำหนด
ประเด็นคือ จะทางนิติประเมินเอาเองได้อย่างไร ในเมื่อ ยังต่อเติมไม่เรียบร้อยเสร็จ เราถามต่อว่า คือจากที่เห็น หากเว้นระยะร่น 0.50 ซ.ม. ผนังต้องทึบทั้งหมดถูกไหมถ้าทึบหมดเราไม่มีปัญหา คำตอบที่ได้รับคือ ถ้ามีหน้าต่างมีได้แต่จะเป็นแบบที่ไม่สามารถเปิดได้ เราจึงสงสัยมากๆว่า ในข้อบังคับ ระบุชัดเจนว่า ถ้าจะต่อเติมห้องหรือผนังต้องทึบเท่านั้น หากทำไม่เกิน 0.50 ซ.ม. สามารถทำได้แต่ต้องทึบ สงสัยว่า นิติบุคคลรู้หรือแกล้งไม่รู้ จริงๆเราโอเคนะถ้าจะต่อเติมอะไรต่อเติมไปเลยแต่ขอแค่ ว่า ให้ทำตามกฏหมายที่กำหนด
ก่อผนังหรือทำห้อง ทำไปเลย แต่ต้องทึบ และห่างตามที่กำหนด เราก็ไม่เข้าใจนะว่า ทำไมเซลล์ในตอนมาดูโครงการ บอกดิบดีว่า ที่นี้ไม่อนุญาติให้ต่อเติมที่เป็นพวกโครงสร้างอันนี้เข้าใจ แต่บอกอีกว่า ทางเราขอความร่วมมือให้ลูกบ้านไม่ต่อเติมอะไรที่ผิดแปลกเพื่อความเรียบร้อยของทัศนียภาพหมู่บ้าน ให้เป็นในแนวเดียวกัน พอตอนนี้บ้านที่ติดด้านหลัง ต่อเติมโครงหลังคาและผนังกันสามหลังติด และ โครงผนังมีความสูงประมาณขอบเพดานชั้นหนึ่ง ซึ่งมันทำให้บ้านดูทึบ แต่เอาจริง ถ้าเขาทำถูดต้องแล้วมันต้องทึบดิฉันก็ยอมรับนะคะ
ก่อนหน้าประมาณปีนิดๆเราซื้อบ้าน ทาวน์โฮมแล้วไม่ชอบเรื่องเสียง จึงยื่นเรื่องซื้อบ้านเดี่ยว เพราะหวังว่าจะมีความเป็นส่วนตัว แล้วดิฉันเชื่อว่าต้องมีคนถามว่าแล้วคุณไม่ต่อเติมหรือไง?
...ค่ะ ดิฉันซื้อบ้านนี้ เป็นบ้านที่อยู่คนเดียวค่ะ 3ห้องนอน สามห้องน้ำ และ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว ดิฉันไม่คิดที่จะต่อเติมอะไรเพิ่มเพราะคิดว่าพื้นที่เท่านี้กับการอยู่คนเดียว เกินพอมากแล้วค่ะ อย่างดีก็คงทำรั้วด้านหลัง บังสายตา โดยทำให้ถูกตามข้อกฏหมาย
ดิฉันอยากขอความเห็นว่า หากทางบ้านที่ติดกัน ต่อเติมเสร็จดีแล้ว แล้ว ไม่เป็นตามข้อกำหนด ดิฉันจะให้นิติลองพูดคุย หากไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง ดิฉันจะเเจ้งหน่วยงานให้รื้อถอน และคงต้องรื้อถอนแบบไม่ต่อรอง ดิฉันมองว่า การที่คุณตัดสินใยซื้อบ้าน
สิ่งที่ต้องคำนึงนอกจากตัวเองคือ บ้านใกล้เรือนเคียง
อย่า ใช้ข้ออ้างที่ว่า ถ้อยทีถ้อยอาศัย อยู่สังคมเดียวกัน อีกนาน ดิฉันคิดว่า ข้ออ้างนี้ ไม่ควรนำมาใช้บอกใครต่อใคร สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ ทำให้ถูกตามข้อกำหนด
อย่าคิดแค่ว่าทำไปเหอะไม่มีใครว่าคนอื่นก็ทำ พฤติกรรมแบบนี้คือความมักง่าย ค่ะ อย่าเอาเรื่องมักง่ายของตัวเองมาเป็นเรื่องของคนอื่นด้วย สำหรับคนที่จะซื้อบ้านนะคะ อย่าไปเชื่ออะไรคำพูดโครงการมาก เราคิดว่า บ้านราคาหลังละ 5.79 ล้าน ราคาถือว่าสูงในระดับนึงเลยแล้วบ้านทาวน์โฮม ที่ซื้อก่อนหน้านี้อีกราคา 2.4 ล้าน รวมๆ 8 ล้าน บาท หนีจากทาวน์โฮมมาบ้านเดี่ยว สุดท้ายก็เจอปัญหาสุดคลาสสิค ใจจริงก็เป็นคนง่ายๆไม่ค่อยอะไรกับใคร แต่พอคิดว่า เสียเงินซื้อบ้านสองรอบ ก็ยังซวยอีก คนแบบนี้ เขาไม่รู้สึกรู้สาถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างหรอคะ อยากทราบจริงๆว่าคิดอะไรทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ถ้อยทีถ้อยอาศัย ? ควรใช้กับคนที่ไม่รู้จัก แค่เพราะบ้านติดกัน มันใช่หรอ
เพื่อนบ้านเห็นแก่ตัว!! ปัญหาสุดคลาสสิค ต่อเติมบ้าน เรื่องส่วนตัว ? แล้วทำไมต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย
เราซื้อบ้านเดี่ยว ของโครงการค่อนข้างมีชื่อในระดับนึง
บ้านราคา 5.79 ล้านบาท ตอนที่ตัดสินใจซื้อ เพราะ บรรยากาศรอบๆของหมู่บ้านดีไม่อึดอัด หน้าถนนในหมู่บ้านกว้าง และ บ้านที่เราเลือก ทิศทางลมดี อยู่ในโซนส่วนตัว ปัญหาคือ เพื่อนบ้านอยู่ติดหลังบ้าน
มากันสองครอบครัว ซื้อ สองหลัง และ ทุบกำแพงตรงกลางแล้วต่อเติมทำห้องเชื่อมกัน
เข้าใจในส่วนต่อเติมตรงนี้นะคะเพราะถ้าเป็นเรา มาซื้อบ้านกับครอบครัวสองหลังก็คงอยากทุบแล้วทำทางเชื่อมบ้านให้ถึงกัน ตรงนี้ไม่มีผลกระทบใ้ดๆ ไม่ได้ใส่ใจ
แต่ปัญหาคือ การต่อเติมด้านหลังบ้านใกล้ติดกับกำแพงรั้ว คือ มีโครงเสาเตรียมก่อผนัง ซึ่งหากมองด้วยสายตา ก็ค่อนข้างชิดกำแพง รั้วพอควร แต่ไม่แน่ใจว่าชิดเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไหม เพราะมีการเอาผ้าใบบังไว้ ทางเราจึงได้สอบถามทางนิติ ว่า บ้านที่ติดหลังบ้าน ต่อเติมห้องหรือเปล่า ได้คำตอบว่า .. เขาต่อเติมอยู่ในกฏข้อบังคับ เว้นระยะห่างตามที่กำหนด
ประเด็นคือ จะทางนิติประเมินเอาเองได้อย่างไร ในเมื่อ ยังต่อเติมไม่เรียบร้อยเสร็จ เราถามต่อว่า คือจากที่เห็น หากเว้นระยะร่น 0.50 ซ.ม. ผนังต้องทึบทั้งหมดถูกไหมถ้าทึบหมดเราไม่มีปัญหา คำตอบที่ได้รับคือ ถ้ามีหน้าต่างมีได้แต่จะเป็นแบบที่ไม่สามารถเปิดได้ เราจึงสงสัยมากๆว่า ในข้อบังคับ ระบุชัดเจนว่า ถ้าจะต่อเติมห้องหรือผนังต้องทึบเท่านั้น หากทำไม่เกิน 0.50 ซ.ม. สามารถทำได้แต่ต้องทึบ สงสัยว่า นิติบุคคลรู้หรือแกล้งไม่รู้ จริงๆเราโอเคนะถ้าจะต่อเติมอะไรต่อเติมไปเลยแต่ขอแค่ ว่า ให้ทำตามกฏหมายที่กำหนด
ก่อผนังหรือทำห้อง ทำไปเลย แต่ต้องทึบ และห่างตามที่กำหนด เราก็ไม่เข้าใจนะว่า ทำไมเซลล์ในตอนมาดูโครงการ บอกดิบดีว่า ที่นี้ไม่อนุญาติให้ต่อเติมที่เป็นพวกโครงสร้างอันนี้เข้าใจ แต่บอกอีกว่า ทางเราขอความร่วมมือให้ลูกบ้านไม่ต่อเติมอะไรที่ผิดแปลกเพื่อความเรียบร้อยของทัศนียภาพหมู่บ้าน ให้เป็นในแนวเดียวกัน พอตอนนี้บ้านที่ติดด้านหลัง ต่อเติมโครงหลังคาและผนังกันสามหลังติด และ โครงผนังมีความสูงประมาณขอบเพดานชั้นหนึ่ง ซึ่งมันทำให้บ้านดูทึบ แต่เอาจริง ถ้าเขาทำถูดต้องแล้วมันต้องทึบดิฉันก็ยอมรับนะคะ
ก่อนหน้าประมาณปีนิดๆเราซื้อบ้าน ทาวน์โฮมแล้วไม่ชอบเรื่องเสียง จึงยื่นเรื่องซื้อบ้านเดี่ยว เพราะหวังว่าจะมีความเป็นส่วนตัว แล้วดิฉันเชื่อว่าต้องมีคนถามว่าแล้วคุณไม่ต่อเติมหรือไง?
...ค่ะ ดิฉันซื้อบ้านนี้ เป็นบ้านที่อยู่คนเดียวค่ะ 3ห้องนอน สามห้องน้ำ และ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว ดิฉันไม่คิดที่จะต่อเติมอะไรเพิ่มเพราะคิดว่าพื้นที่เท่านี้กับการอยู่คนเดียว เกินพอมากแล้วค่ะ อย่างดีก็คงทำรั้วด้านหลัง บังสายตา โดยทำให้ถูกตามข้อกฏหมาย
ดิฉันอยากขอความเห็นว่า หากทางบ้านที่ติดกัน ต่อเติมเสร็จดีแล้ว แล้ว ไม่เป็นตามข้อกำหนด ดิฉันจะให้นิติลองพูดคุย หากไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง ดิฉันจะเเจ้งหน่วยงานให้รื้อถอน และคงต้องรื้อถอนแบบไม่ต่อรอง ดิฉันมองว่า การที่คุณตัดสินใยซื้อบ้าน
สิ่งที่ต้องคำนึงนอกจากตัวเองคือ บ้านใกล้เรือนเคียง
อย่า ใช้ข้ออ้างที่ว่า ถ้อยทีถ้อยอาศัย อยู่สังคมเดียวกัน อีกนาน ดิฉันคิดว่า ข้ออ้างนี้ ไม่ควรนำมาใช้บอกใครต่อใคร สิ่งที่ง่ายที่สุดคือ ทำให้ถูกตามข้อกำหนด
อย่าคิดแค่ว่าทำไปเหอะไม่มีใครว่าคนอื่นก็ทำ พฤติกรรมแบบนี้คือความมักง่าย ค่ะ อย่าเอาเรื่องมักง่ายของตัวเองมาเป็นเรื่องของคนอื่นด้วย สำหรับคนที่จะซื้อบ้านนะคะ อย่าไปเชื่ออะไรคำพูดโครงการมาก เราคิดว่า บ้านราคาหลังละ 5.79 ล้าน ราคาถือว่าสูงในระดับนึงเลยแล้วบ้านทาวน์โฮม ที่ซื้อก่อนหน้านี้อีกราคา 2.4 ล้าน รวมๆ 8 ล้าน บาท หนีจากทาวน์โฮมมาบ้านเดี่ยว สุดท้ายก็เจอปัญหาสุดคลาสสิค ใจจริงก็เป็นคนง่ายๆไม่ค่อยอะไรกับใคร แต่พอคิดว่า เสียเงินซื้อบ้านสองรอบ ก็ยังซวยอีก คนแบบนี้ เขาไม่รู้สึกรู้สาถึงความรู้สึกคนอื่นบ้างหรอคะ อยากทราบจริงๆว่าคิดอะไรทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ถ้อยทีถ้อยอาศัย ? ควรใช้กับคนที่ไม่รู้จัก แค่เพราะบ้านติดกัน มันใช่หรอ