ลึกๆ ข้างในมันสั่นมันไหวแปลกๆ นี่ตูต้องจ่ายใช่ไหม..."  
เรื่องราวของผมที่จะมาคุยกันในวันนี้มันทำให้ผมนึกถึงตอนเรียนวิชาๆนึง ซึ่งถ้านักเรียนลืมยางลบมา นักเรียนคนนั้นจะต้องซื้อยางลบ ถ้าใช่ใกล้หมดหรือยางลบดูเก่าๆไปก็ต้องซื้อใหม่ด้วย  .. รวยเลยยยยยยยย
มันก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ผมรู้สึกกับวิธีที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบหักดิบแบบนี้ มันไม่แฟร์มันไม่แฟร์ มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภคมันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภคมันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภค มันไม่แฟร์ต่อผู้บริโภคอย่างยิ่ง  
เรื่องราวในวันนี้คือผมได้ซื้อของร้อนมาจำนวนมากกว่า 3 ถุง ซึ่งแต่ละถุงมันใหญ่พอสมควรไม่สามารถถือ2มือ หรือใส่กระเป๋าไปได้  .. โอเค .. ผมก็ได้ไปสอบถามพนักงานแถวๆนั้น แล้วเค้าก็ชี้มาที่แคชเชียร์ นั่นแหละ..ในความคิดผมๆคิดว่ายอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตลดลง อ่าา ตอนนี้คงคิดได้ละ คงอาจจะเหมือนร้านสะดวกซื้อร้านนึง ซึ่งถ้าคุณลืมเอาถุงผ้ามาแล้วคุณซื้อของร้อนๆ โอเค..ทางร้านก็มีถุงใส่ให้และก็มีขายถุงผ้าไปด้วย (ซึ่งราคาสูงมากกกก..แต่ผมก็เข้าใจว่าขายปลีกนะ)  **แต่ไม่ใช่เลยยยย สรุปต้องเสียเงินค่าถุงผ้าจำนวนเงิน 3 บาทททททท  ถ้าพูดถึงความแพงถามว่าแพงไหม ตอบเลยว่าไม่แพง ถ้าถุงผ้าขนาดนี้ราคา 3 บาท  แต่มูลค่าทางจิตใจในฐานะของผู้บริโภคคนหนึ่งซึ่งโดนหักดิบให้ใช้ถุงผ้าเนี่ยมันวัดกันไม่ได้หรอกครับ เสียความรู้สึกแบบสุดๆ สุดๆ สุดๆ สุดๆ
โอเค.. ขอพูดอีกประเด็นนึง เรื่องลดการใช้ถุงพลาสติก โอเค.. ผมสนับสนุนนะ ผมโอเคด้วยมากๆๆๆๆเลย แต่วิธีการที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างทำนั้นมันคือการหักดิบแบบไม่แฟร์ต่อผู้บริโภคเลย  คุณอาจจะมีนโยบายก่อนที่เริ่มมาใช้ถุงผ้าอย่างจริงจังโดยการแจกถุงผ้าไปก่อนจำนวนเท่านั้น หรือแจกถุงผ้าแค่ถึงเดือนนั้นเดือนนี้ หรือจนกว่าถุงผ้าจะหมด แล้วต่อมาถ้าผู้ซื้อมาซื้อของแล้วลืมเอาถุงผ้ามา โอเคนะ..คุณต้องเสียเงินค่าถุงผ้าในการขนของกลับนะ ด้วยวิธีนี้ผมว่ามันโอเคกว่า
สุดท้าย สิ่งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตทำมันแย่เอามากๆและผมเชื่อว่าผู้บริโภคหลายคนก็คิดแบบนี้