เราเป็นเด็กที่ไม่มีเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยเงินทองเท่าไร เป้นลูกกำพร้า ไม่รุ้ว่าพ่อตัวเองเป้นใครหน้าตาเป้นยังงัย เท่าที่จำความได้ก้อาศัยอยุ่กับตายาย ตาคนส่งเรียนหนังสือให้ค่าขนมจ่ายค่ารถค่างานต่างๆที่ครูแต่ละวิชาสั่ง ขอเท่าไรก้หามาให้ทุกอย่าง จนเราเรียนจบ ม.6. แล้วเรียนต่ออนุปริญญา เอกการศึกษาปฐมวัย ครูอนุบาล เรียนมาได้ 2 ปี ครึ่ง ก้จบ ก่อนจะจบเราต้องหาโรงเรียนที่จะฝึกประสบการณ์ซึ่งเราเลือกโรงเรียนที่บ้านเป้นโรงเรียนที่เราเรียนจบมา ตาจะคอยถามทุกครั้งสอบยัง อ่านหนังสือบ้าง ใช้เงินประหยัดๆหน่อย คำนี้เป้นคำที่เราจำไม่เคยลืม จนไม่รุ้ว่าวาสนาหรือเป้นเพราะครูที่โรงเรียนที่เราฝึกงานสงสาร เพราะครูส่วนใหญ่เป้นครูที่สอนเรามา หลังจากฝึกงานเสร้จเราก้ได้มาทำงานที่โรงเรียนต่อเป้นอัตตราจ้างชึ่งเงินเดือนก้ไม่เยอะมากเท่าไร ชึ่งเราคิดตอนนั้นว่าทำก้ได้เพราะเรียนจบเราก้ไม่ได้ไปไหนอยุ่แล้ว ช่วยงานโรงเรียนเก่ามันก้เป้นเรื่องที่ดี ผอ.เป้นคนเก่งสอนงานทุกอย่าง ผอ.เป้นผู้หญิงชึ่งแกเป้นคนเก่งงานเนียมทกอย่าง โชคชะตาวาสนาก้ทำให้เราได้ทำธุรการโรงเรียนเนื่องจากธุรการคนเดิมเขาลาคลอดลูก3 เดือนชึ่งหน้าที่นี้ก้เป้นเราที่ต้องทำ จนมีข่าวจาก สพฐ.ว่าจะจ้างธุรการทุกโรงเรียน จากเดิม1คนทำ2-3 โรงเรียนบ้าง แล้วเราก้ได้ลองสมัครเพราะที่โรงเรียนว่างพอดี ธุรการคนเดิมก้ย้ายกลับบ้าน ทำให้ตำแหน่งว่าง โอกาสของเราก้มาถึงช่วงที่เราสมัครธุรการ ตาเราป่วยเข้าโรงพยาบาลเข้าออกเป้นว่าเล่น แข่งกับเราที่จะสมัครงาน ความรุ้สึกตอยนั้นคือแย่มาก ทุกครั้งที่ตาเข้าโรงบาลเราจะพาตาไปแจ้งรถโรงบาลมารับแล้วตาต้องใส่ท่อช่วยให้ใจทุกครั้ง เป้นครัเงแรกที่เราเห้นหมอใส่ท่อให้ตาน้ำตาก้ไหลมาอย่างไม่รุ้สาเหตุ หน้าตาแดงไปหมด น้ำตาไหลระหว่างทางที่รถไปส่งโรงบาลในเมือง จนอาการดีขึ้นแล้วกลับบ้านได้ จนมาวันที่เราจะสอบเพื่อคัดเลือกเป้นธุรการโรงเรียน อาการตากำเริบ ก่อนหน้านี้แก่พุดกับเราว่า ตาคงอยุ่ไม่ทันว่าตาคงอยุ่ไม่ทันวันเรารับปริญญาบัตร จนวันสอบคัดเลือกก้มาถึง ตาอาการหนักเข้าโรงบางอีกครั้ง ชึ่งมันใกล้เคียงกับกานสอบคัดเลือกของเรา สรุปเราได้ตำแหน่งธุรการโรงเรียน แต่ตาเราเสีย ตาแกห่วงเรามากเล่าบอกทุกคนในหมุ่บ้าน กับแม่เรา ถามหาเราทุกครั้ง ในระหว่างที่อยุ่โรงบาล ชึ่งเราเองเพิ่งได้งานจะลางานก้ไม่ได้ ก้ได้แค่รอเสาร์อาทิตย์ จนมาวันศุกร์วันทราตั้งใจว่าจะไปหาตา แต่แม่พ่อบอกตาจะกลับมาบ้าน มาตายที่บ้าน หมอบอกให้ทำใจ ชึ่งเราช้อกทำงานไม่ได้ นั่งรถที่โรงบาลยังไม่ทันแม้ได้คุยได้บอกว่าเราได้งาน รถมาส่งตาที่บ้าน เรานั่งรถอีกคัน ระหว่างใกล้ถึงบ้าน รถที่มาส่งตาถึงบ้านก่อน น้าเป้นคนที่นั่งมากับตาโทรมาบอกว่าตาเสียแล้ว ทุกอย่างมันหยุด ไม่ได้แม้ดูใจ ไม่ได้แม้คุยอะไรตาเลย จนตอนนี้เฝ้าโทษตัวเองว่าทำไมไม่ไปหาแก ทำไมไม่พาแกกลับบ้านตอนแกอยากกลับ หรือเป้นเพราะเราได้งานแต่เราต้องเสียตาไป เป้นคำถามที่คาใจมาก ถ้าเลือกจะขอเลือกตาไม่ขอเลือกงาน ทุกวันก้เฝ้าคิดถึง นึกถึงทุกครั้งที่จะสอบ คำพุดแกก้จะโผล่มา สอบแล้วให้อ่านหนังสือ ตอนนี้ก้ 1 ปี 3 เดือน ที่ตาจากไป ในวันรับปริญญาบัตรอนุปริญญาก้ไม่มีตาอย่างเช่นที่เคยฝันไว้
เชื่อเรื่องที่ว่า หากได้อะไรสักอย่างก้ต้องเสียอะไรอีกอย่างไปไหม