จากหัวข้อกระทู้เราไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเวเจอเขาหน่ะคะ
เราแอบปลื้มเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว....^^
เหตุการณ์เป็นแบบนี้นะคะ "เรา กะ เขา" เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ วันๆไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ ทำงานคนละแผนก
ที่รู้จักกันเราเคยวีนใส่แผนกเขา เพราะงานครั้งหนึ่ง มันผิดพลาด...แต่เราก็ขอโทษ และให้เหตุผลแผนกเขาไป
หลังจากนั้น จากที่เขาไม่รู้จักเรา เดินสวนกัน แม้แต่อยู่บันไดคนละชั้น เขาก็จะทักสวัสดีเราก่อนทุกครั้ง...จนน้องในแผนกเริ่มถาม...
ทำไม ทักพี่แล้วมีชื่อตามมาด้วย....เราก็เฉยๆ ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา เรากลับบ้าน บังเอิญเจอเขาบนรถโดยสาร ก็เลยคุยกันตลอดทาง
เพื่อนร่วมงานตามปกติ เขาจ่ายเงินให้ค่ารถให้ เราพยายามคืนเงินให้ แต่เขาไม่รับ เราก็เลยบอกเขาครั้งหน้าเราจ่ายเอง ถ้าเจอกัน!! (ทุกครั้งที่เจอเราก็ไม่ได้แสดงอาการว่าเขินมากมาย เราหยิ่งพูดน้อยๆด้วย บางครั้งก็แบบทำมองไม่เห็น)
ช่วงหลังๆมา ไม่ค่อยได้เจอ เจออีกทีมีกิจกรรม เราได้เป็นพิธีกร ดำเนินกิจกรรม ส่วนเขาคอยควบคุมดูแลเสียง เราพยายาหลบเขาไม่มองเพราะเขินที่เป็นพิธีกร ไม่เคยทำงานตำแหน่งนี้ จากที่ทำงานทุกอย่างคล่องมาตาย ตอนนี้อายมาก!! เราสังเกตาว่าเขาก็มองมาที่เราบ้าง...^^
จนในที่สุดคืนวาเลนไทน์ น้องที่ทำงานอยากออกไปท่องราตรี เราก็ไม่รู้จักร้านแถวที่พักสักเท่าไหร่....เลยให้เราถาม เขาคนนั่นว่ามีร้านแนะนำไหม (พอดีเขาเป็นนักดนตรีรับจ๊อบกลางคืนต่อ)..เราทักไปถาม เขาก็บอกมีร้านไรบ้าง จนไปจบที่ร้านเขาจะไปเล่นคืนนี้ เขาก็เลยชวน....แต่เราบอกเราไม่ได้ไปน้องในแผนกไปกัน ....ช่างเป็นใจน้องในแผนกอยู่ๆไปไม่ได้ เหลืออีก 1 เลยขอให้เรามาเป็นเพื่อน...เราก็ว่าง ไปก็ได้~~ ถึงร้านนั่งสักพัก เครื่องดื่มพร้อม เขามากับวงพอดี ก็ทักๆ ใครเห็นก็งง แซวเบาๆ เรากะน้องก็นิ่งๆ เราได้นั่งนอกร้าน โซนส่วน ส่วนดนตรีเล่นในโซนห้องแอร์ แต่พอมองเห็นได้ น้องเราก็ช่างสังเกตว่าเขามองมาที่โต๊ะเราบ่อย นางเลยจัดการให้พนักงานหาโต๊ะ 2 คนโซนห้องแอร์ให้ ...พอได้ ก็ช่างเป็นใจที่นั่งนี่แถบจะติดขอบเวที ...เขาเล่นเพลงจามลูกค้าขอสักพัก หันมาทางโต๊ะเรา..เราฟอร์มมองไม่เห็น..ก้มหน้าเล่นมือถือ เขาพูดออกไมค์ชื่อเราจะขอเพลงอะไร เรานี่ตื่นเต้นเลยค่ะ เราก็ไม่สนใจทำมึนต่อจนพี่โต๊ะข้างๆ(ผู้หญิง)สะกิด บอกว่าเขาจะเล่นเพลงให้ขอเลย เราก็เลยบอกชื่อเพลงไป Price Tag ดันยังจะเล่นได้อีก แต่ก็เสียงแนวๆผู้ชาย...จบเพลงนักร้องวงเขาบอกเลยแซวเรา...ให้ขอมาอีก เราก็ขำๆบอกไปอย่าท้า!! หลังจากนั้นเขาเล่นกีตาร์ไปมองมาหาเราจนพี่ข้างๆถามรู้จักกันหรอ...เรานี่ได้แต่ยิ้มว่าทำงานที่เดียวกัน เขินมากมายค่ะ
พอ วงเขาหมดเวลา เขาเกบกีต้าร์ เดินลงมา หาโต๊ะเรา แล้วเอาเก้าอี้มานั่งเลย เรานี่เขินไปเลยค่ะ...น้องแผนกที่ไปด้วยเลยชวนเขาคุยแทนเรา เราก็นั่งคุยกับพี่โต๊ะข้างๆแทน พอน้องไปห้องน้ำเขาก็มาคุยกะเรายื่นหน้ามาใกล้ๆ เขินเลยเป็นแบบนี้จน ได้เวลาเขากลับ เขาก็บอกเรากลับแล้วนะ เราก็มองหน้าเขาเพราะเริ่มได้ที่ละ ...แล้วก็ตอบว่า ก็แล้วแต่ จะกลับก็กลับ...เขาลุกขึ้นออกไปเลยค่ะ ผ่านสักพักกลับมาใหม่~~.....บอกว่าเพื่อนไปละ เลยกลับมาใหม่ สถานการณ์ก็ยังเหมือนเดิม เราก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับเขามากมาย เพราะเขิน และเริ่มมึน เพราะพี่โต๊ะข้างๆชนหมดแก้วๆ ตลอดเลย~~~ เหมือนเขารู้ว่าเราไม่ไหว เขาเลยชวนเรากะน้องกลับ.... นั่งแท๊กซี่ เขาจะไปส่งเรากะน้อง แต่เราบอกไม่ต้อง เขาเลยเข้ามาใกล้และบอกเรางอแง ดื้อ!! สรุปไปส่งค่ะ แต่นั่งกันไปส่งน้องก่อน แล้วมาส่งเรา เราโดนไปนั่งหน้ากะพี่คนขับ เขานั่งหลังกะน้อง ระหว่างทางก็คุยกัน เรื่อยๆ แหย่กัน จนเรารู้ความจริงว่าวันงาน วันก่อน เขาแอบมองเราอยู่คคุยกันมาถึงหอน้อง เราลงไปส่ง ขึ้นมาบนรถ คราวนี้โดนน้องไล่ให้ไปนั่งข้างเขา...ระหว่างทางคุยกันมาเรื่อยๆ แบบมึนและภาพลาง เขาบอกให้เรากินเยอะๆ แล้วก็กำข้อมือเรา บอกว่าผอม แล้วก็เอามือมาขยี้ ลูปหัวเรา...ถึงที่พักเราพอดี รีบลง เลยค่ะ!!! อึ้งๆ งงๆอยู่ จากมึนเริ่มหายเลย ขึ้นห้องมาได้ เลยทักไปขอบคุ๊เขาที่มาส่ง ค่าแท๊กซี่หารกัน เขาตอบเราว่า ให้จ่ายค่ารถโดยสารทีาเจอกันครั้งก่อน 7 ครั้ง เราเลยบอกเขาไม่ไปแล้ว ไม่ขึ้นเดี๋ยวขึ้นคันถัดไป เขาเลยงั้นก็จะรอด้วย เราเลยรีบตัดบท ตอบค่ะไปจบๆ เขาเลยบอกให้เรารีบนอนเพราะไปทำงานเช้าต่อคนเดียว เราบอกไม่ต้องห่วง เราแยกแยะได้~~ เขาเลยบอกกลับว่า~~ก็ห่วงไปแล้ว~~เราอึ้ง ไม่ตอบ บอกขอบคุณค่ะ จบบทสนทนาไปเลย..
นี่แหละทั้งหมดมันเริ่มจากแบบนี้ เรายอมรับว่ารู้สึกดีกับเขาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เจอกันครั้งเพราะเขาดูผู้ใหญ่ สุภาพ สะอาดสะอ้าน งงกับการกระทำของเขาจริงๆ เะราะตอนเช้ามา น้องเล่าให้ฟังว่า เขายังไม่รู้จักชื่อน้องเลย เรื่องที่คุยกันก็มีเรื่องของเขา กับเรื่องของเรา.....เจอกันที่ทำงานเราควรทำตัวอย่างไรดีคะ แล้วที่เขาแสดง คือ อัธยาศัยดีรึมีใจ เพราะเราว่าเขาต้องรู้ละว่าเรารู้สึกดีกับเขา~~~ ขอความเห็นหน่อยนะคะ !! ประหม่ามาก เพราะเราไม่มีแฟน มีแต่คนเคยคุย แล้วก็ไม่เคยมีคนคุยในที่ทำงาน....
ลำบากใจ ทำตัวไม่ถูกเลย รึแกล้งมึน ไม่รู้เรื่องไปคะ
เธอมีใจ หรือ แค่อัธยาศัยดี...!!
เราแอบปลื้มเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว....^^
เหตุการณ์เป็นแบบนี้นะคะ "เรา กะ เขา" เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ วันๆไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ ทำงานคนละแผนก
ที่รู้จักกันเราเคยวีนใส่แผนกเขา เพราะงานครั้งหนึ่ง มันผิดพลาด...แต่เราก็ขอโทษ และให้เหตุผลแผนกเขาไป
หลังจากนั้น จากที่เขาไม่รู้จักเรา เดินสวนกัน แม้แต่อยู่บันไดคนละชั้น เขาก็จะทักสวัสดีเราก่อนทุกครั้ง...จนน้องในแผนกเริ่มถาม...
ทำไม ทักพี่แล้วมีชื่อตามมาด้วย....เราก็เฉยๆ ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา เรากลับบ้าน บังเอิญเจอเขาบนรถโดยสาร ก็เลยคุยกันตลอดทาง
เพื่อนร่วมงานตามปกติ เขาจ่ายเงินให้ค่ารถให้ เราพยายามคืนเงินให้ แต่เขาไม่รับ เราก็เลยบอกเขาครั้งหน้าเราจ่ายเอง ถ้าเจอกัน!! (ทุกครั้งที่เจอเราก็ไม่ได้แสดงอาการว่าเขินมากมาย เราหยิ่งพูดน้อยๆด้วย บางครั้งก็แบบทำมองไม่เห็น)
ช่วงหลังๆมา ไม่ค่อยได้เจอ เจออีกทีมีกิจกรรม เราได้เป็นพิธีกร ดำเนินกิจกรรม ส่วนเขาคอยควบคุมดูแลเสียง เราพยายาหลบเขาไม่มองเพราะเขินที่เป็นพิธีกร ไม่เคยทำงานตำแหน่งนี้ จากที่ทำงานทุกอย่างคล่องมาตาย ตอนนี้อายมาก!! เราสังเกตาว่าเขาก็มองมาที่เราบ้าง...^^
จนในที่สุดคืนวาเลนไทน์ น้องที่ทำงานอยากออกไปท่องราตรี เราก็ไม่รู้จักร้านแถวที่พักสักเท่าไหร่....เลยให้เราถาม เขาคนนั่นว่ามีร้านแนะนำไหม (พอดีเขาเป็นนักดนตรีรับจ๊อบกลางคืนต่อ)..เราทักไปถาม เขาก็บอกมีร้านไรบ้าง จนไปจบที่ร้านเขาจะไปเล่นคืนนี้ เขาก็เลยชวน....แต่เราบอกเราไม่ได้ไปน้องในแผนกไปกัน ....ช่างเป็นใจน้องในแผนกอยู่ๆไปไม่ได้ เหลืออีก 1 เลยขอให้เรามาเป็นเพื่อน...เราก็ว่าง ไปก็ได้~~ ถึงร้านนั่งสักพัก เครื่องดื่มพร้อม เขามากับวงพอดี ก็ทักๆ ใครเห็นก็งง แซวเบาๆ เรากะน้องก็นิ่งๆ เราได้นั่งนอกร้าน โซนส่วน ส่วนดนตรีเล่นในโซนห้องแอร์ แต่พอมองเห็นได้ น้องเราก็ช่างสังเกตว่าเขามองมาที่โต๊ะเราบ่อย นางเลยจัดการให้พนักงานหาโต๊ะ 2 คนโซนห้องแอร์ให้ ...พอได้ ก็ช่างเป็นใจที่นั่งนี่แถบจะติดขอบเวที ...เขาเล่นเพลงจามลูกค้าขอสักพัก หันมาทางโต๊ะเรา..เราฟอร์มมองไม่เห็น..ก้มหน้าเล่นมือถือ เขาพูดออกไมค์ชื่อเราจะขอเพลงอะไร เรานี่ตื่นเต้นเลยค่ะ เราก็ไม่สนใจทำมึนต่อจนพี่โต๊ะข้างๆ(ผู้หญิง)สะกิด บอกว่าเขาจะเล่นเพลงให้ขอเลย เราก็เลยบอกชื่อเพลงไป Price Tag ดันยังจะเล่นได้อีก แต่ก็เสียงแนวๆผู้ชาย...จบเพลงนักร้องวงเขาบอกเลยแซวเรา...ให้ขอมาอีก เราก็ขำๆบอกไปอย่าท้า!! หลังจากนั้นเขาเล่นกีตาร์ไปมองมาหาเราจนพี่ข้างๆถามรู้จักกันหรอ...เรานี่ได้แต่ยิ้มว่าทำงานที่เดียวกัน เขินมากมายค่ะ
พอ วงเขาหมดเวลา เขาเกบกีต้าร์ เดินลงมา หาโต๊ะเรา แล้วเอาเก้าอี้มานั่งเลย เรานี่เขินไปเลยค่ะ...น้องแผนกที่ไปด้วยเลยชวนเขาคุยแทนเรา เราก็นั่งคุยกับพี่โต๊ะข้างๆแทน พอน้องไปห้องน้ำเขาก็มาคุยกะเรายื่นหน้ามาใกล้ๆ เขินเลยเป็นแบบนี้จน ได้เวลาเขากลับ เขาก็บอกเรากลับแล้วนะ เราก็มองหน้าเขาเพราะเริ่มได้ที่ละ ...แล้วก็ตอบว่า ก็แล้วแต่ จะกลับก็กลับ...เขาลุกขึ้นออกไปเลยค่ะ ผ่านสักพักกลับมาใหม่~~.....บอกว่าเพื่อนไปละ เลยกลับมาใหม่ สถานการณ์ก็ยังเหมือนเดิม เราก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับเขามากมาย เพราะเขิน และเริ่มมึน เพราะพี่โต๊ะข้างๆชนหมดแก้วๆ ตลอดเลย~~~ เหมือนเขารู้ว่าเราไม่ไหว เขาเลยชวนเรากะน้องกลับ.... นั่งแท๊กซี่ เขาจะไปส่งเรากะน้อง แต่เราบอกไม่ต้อง เขาเลยเข้ามาใกล้และบอกเรางอแง ดื้อ!! สรุปไปส่งค่ะ แต่นั่งกันไปส่งน้องก่อน แล้วมาส่งเรา เราโดนไปนั่งหน้ากะพี่คนขับ เขานั่งหลังกะน้อง ระหว่างทางก็คุยกัน เรื่อยๆ แหย่กัน จนเรารู้ความจริงว่าวันงาน วันก่อน เขาแอบมองเราอยู่คคุยกันมาถึงหอน้อง เราลงไปส่ง ขึ้นมาบนรถ คราวนี้โดนน้องไล่ให้ไปนั่งข้างเขา...ระหว่างทางคุยกันมาเรื่อยๆ แบบมึนและภาพลาง เขาบอกให้เรากินเยอะๆ แล้วก็กำข้อมือเรา บอกว่าผอม แล้วก็เอามือมาขยี้ ลูปหัวเรา...ถึงที่พักเราพอดี รีบลง เลยค่ะ!!! อึ้งๆ งงๆอยู่ จากมึนเริ่มหายเลย ขึ้นห้องมาได้ เลยทักไปขอบคุ๊เขาที่มาส่ง ค่าแท๊กซี่หารกัน เขาตอบเราว่า ให้จ่ายค่ารถโดยสารทีาเจอกันครั้งก่อน 7 ครั้ง เราเลยบอกเขาไม่ไปแล้ว ไม่ขึ้นเดี๋ยวขึ้นคันถัดไป เขาเลยงั้นก็จะรอด้วย เราเลยรีบตัดบท ตอบค่ะไปจบๆ เขาเลยบอกให้เรารีบนอนเพราะไปทำงานเช้าต่อคนเดียว เราบอกไม่ต้องห่วง เราแยกแยะได้~~ เขาเลยบอกกลับว่า~~ก็ห่วงไปแล้ว~~เราอึ้ง ไม่ตอบ บอกขอบคุณค่ะ จบบทสนทนาไปเลย..
นี่แหละทั้งหมดมันเริ่มจากแบบนี้ เรายอมรับว่ารู้สึกดีกับเขาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เจอกันครั้งเพราะเขาดูผู้ใหญ่ สุภาพ สะอาดสะอ้าน งงกับการกระทำของเขาจริงๆ เะราะตอนเช้ามา น้องเล่าให้ฟังว่า เขายังไม่รู้จักชื่อน้องเลย เรื่องที่คุยกันก็มีเรื่องของเขา กับเรื่องของเรา.....เจอกันที่ทำงานเราควรทำตัวอย่างไรดีคะ แล้วที่เขาแสดง คือ อัธยาศัยดีรึมีใจ เพราะเราว่าเขาต้องรู้ละว่าเรารู้สึกดีกับเขา~~~ ขอความเห็นหน่อยนะคะ !! ประหม่ามาก เพราะเราไม่มีแฟน มีแต่คนเคยคุย แล้วก็ไม่เคยมีคนคุยในที่ทำงาน....
ลำบากใจ ทำตัวไม่ถูกเลย รึแกล้งมึน ไม่รู้เรื่องไปคะ