ละครหุ่น'ต้าพิลี่' นั้นเป็นซีรี่ย์จีนกำลังภายของไต้หวันที่ดังจนถึงระดับ 'ละครแห่งชาติ' ก็ว่าได้
เพราะซีรี่ย์เรื่องนี้ถูกฉายในไต้หวันมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 36 ปี อีกทั้งยังมีจุดเด่นนำศิลปะพื้นบ้านอย่างการเชิดหุ่นมาทำเป็นละครแบบจริงจังด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความโด่งดังของต้าพิลี่ ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่นอีก โดยได้มีการร่วมมือกันกับฝั่งญี่ปุ่นทำเป็นซีรี่ย์ใหม่ชื่อว่า Thunder Bolt Fantasy เพิ่มเข้ามาอีกเรื่อง ซีรี่ย์ใหม่นี้มีคนดังในวงการอนิเมญี่ปุ่นอย่าง Urobuchi Gen มาเป็นคนเขียนบท และฉายออกมาแล้ว 2 ซีซั่น
ที่ผ่านมา ผมเคยติดตามผลงานในซีรี่ย์ต้าพิลี่มาแล้ว 2 ชิ้นด้วยกัน ผลงานชิ้นแรกก็คือหนังโรงเรื่อง 'ศึกทะยานฟ้า ศิลามหายุทธ'
ส่วนชิ้นที่สองก็คือนิยายจีนเรื่อง 'เทพยุทธ์ทะลุฟ้า' ของสำนักพิมพ์ SIC ในฉบับหนังผมจำเนื้อเรื่องได้ไม่มากนัก นึกออกแค่ว่าทีมพากย์สตรีเหล็กเอาหนังดีๆมาพากย์จนเละ ส่วนฉบับนิยายนั้น ผมจำได้ว่าสนุก มีตัวละครน่าสนใจมากมาย ด้วยเหตุนี้ พอผมทราบว่ามีการนำซีรี่ย์ต้าพิลี่ตอนใหม่มาฉายบน Netflix โดยใช้ชื่อว่า Pili Fantasy; War of Dragons หรือ เทพยุทธ์ทะลุฟ้า สงครามมังกร ผมจึงตัดสินใจหามาดูเพื่อรื้อฟื้นความหวังทันที
ความรู้สึกที่ได้จากการชม 'เทพยุทธ์ทะลุฟ้า สงครามมังกร' มีดังนี้ครับ
ข้อดี
1. ฉากบู๊มันมาก ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังจีน TVB ที่มันๆสมัยยังเด็ก
ผมเองว่างเว้นจากการดูหนัง/ละครจีนกำลังภายในมาได้หลายปีแล้วเหมือนกัน เพราะเห็นว่าหนังจีนตั้งแต่ช่วงปลายๆทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา
ถ้าไม่เน้น CG เกินไป ก็เน้นฉากสวยอลังการ แทนที่จะไปเน้นเนื้อเรื่องกับคิวบู๊ หนังจีนกำลังภายในเรื่องท้ายๆที่ผมดูแล้วชอบนั้น ก็มี Reign of Assassin และ Kung Fu Hustle
ก่อนที่จะเริ่มดูละครเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก กะจะดูเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆนิดหน่อยเท่านั้น แต่พอได้ดูเข้าไปจริงๆก็รู้สึกว่ามันสู้กันสนุกกว่าที่คาดแฮะ แม้จะเป็นละครหุ่นแต่ตัวละครเคลื่อนไหวได้พลิ้วมาก มีการใช้ CG ประกอบการต่อสู้กันแบบพอเหมาะพอควร ตัดกล้องฉับไว
อีกทั้งยังมีความรุนแรงในแบบที่ไม่จริงเกินไปนัก (มีการฟันแบบหัว แขน ขาขาดกระเด็น มีการซัดพลังใส่ศัตรูจนตัวระเบิด) ความทรงจำเก่าๆสมัยดูละคร TVB เรื่องที่สนุกๆ กลับมาเต็มเลย
2. Character design สวย มีตัวละครเท่ๆ หลายตัว Costume งดงาม
- ฝ่ายพระเอกมีทั้งคนดีศรีสังคมอย่างซู่หวนเจิน แล้วก็ Anti Hero อย่างผู้สัญจรทางวิบาก (ดูไปๆผมกลับรู้สึกว่าตัวนี้แอบเลวกว่าตัวร้ายสายเจ้าเล่ห์อย่าง ไท่หวงจวินเสียอีก) ฝ่ายผู้ร้ายเองก็มีตัวละครที่มีเกียรติและเป็นคนดีกว่าที่คิด (หนุ่มโป๊เจ้าของดาบมาร)
3. องค์ประกอบแบบหนังยุทธจักร Old School มากันครบ ไม่ว่าจะเป็นวิชาพิสดาร จอมมาร สาวงาม ไอเทมวิเศษ สุดยอดศาสตราวุธ อาวุธลับ แผนซ้อนแผน
4. มีความคัลต์แบบแปลกๆ
- ฉากเปิดตัวพระเอกในตอนแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ออกมาไม่ทันไร ก็โดนฟ้าฝ่าบึ้ม! เป็นโกโก้ครันช์
- แม้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุทธจักร แต่มีหุ่น Terminator ทรงผม Afro และตาลุงแต่งชุดแบบ Punk Rock (เคยไผด้ยินมาว่า ในภาคก่อนๆของซีรี่ย์นี้ มีตัวละครดื่มชานมไข่มุก แล้วก็มีคนหน้าคล้าย Neo ณ Matrix ด้วย)
- ตัวละครในเรื่องไปยังแคว้นต่างๆ กันได้ง่ายๆ ราวกับว่าเดินไปเซเว่นหน้าปากซอย
- ระบบการส่งจดหมายในเรื่องที่แนวมาก อยู่ดีๆ ก็จะมีจดหมายเขวี้ยงมาจากขอบจอให้ตัวละครรับ
- หนึ่งในสองตัวละครที่เก่งที่สุดในเรื่อง (พุทธมารใจอธรรมหนึ่งตำรา) มีประโยคพูดติดปากซ้ำๆ แบบ NPC
ข้อเสีย
1. ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงที่สุดของซีรี่ย์เรื่องนี้ ก็คือ ละครไม่มีการปู Backstory มาก่อน คนที่เพิ่งมาติดตามซีรี่ย์ต้าพิลี่เป็นครั้งแรก ต้องมึนแน่ๆ ว่าใครเป็นใคร มีฝ่ายอะไรบ้าง ถ้าพื้นฐานวรยุทธไม่แน่นพอ อาจจะธาตุไฟแตกแล้วเลิกดูเรื่องนี้ไปตั้งแต่ตอนแรกก็ได้ ต้องดูให้ผ่านตอนที่สองไปได้ถึงจะเริ่มๆ จับแนวเรื่องได้แล้วบนเน็ทก็ไม่มี Source ข้อมูลเกี่ยวกับจักรวาลต้าพิลี่ให้อ่านกันได้ง่ายๆอีกด้วย ฐานข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีนไต้หวันที่ผมอ่านไม่ออก
(แต่ถ้าใครเคยอ่านเทพยุทธ์ทะลุฟ้าฉบับนิยาย ในส่วนหน้าแนะนำตัวละครมาแล้ว ก็จะย่อยได้ง่ายขึ้นครับ )
2. จังหวะของเรื่องจะออกมาคล้ายๆกัน คือบู๊กันหนักในช่วงต้น คุยกันและต่อสู้ประปรายช่วงกลาง แล้วจะมี Cliffhanger ในช่วงท้าย ซึ่งจะนำไปสู่ฉากบู๊หนักๆในช่วงต้นตอนถัดไป
3. ฉากบู๊ระหว่างตัวละครสำคัญคู่หนึ่ง ที่ตอนแรกนึกว่าจะอลังการมาก แต่ผลกลับออกมาว่าคุณหลอกดาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในเพลงเปิด ฉากเยี่ยวเสี่ยวไซสู้กับหนึ่งกระบี่หมื่นชีพนี่อลังการมาก แต่พอสู้กันในเรื่องจริงๆ กลับออกมาแป๊บเดียวจบ
4. ผมเองอยู่ที่ต่างประเทศ ดูแบบซับไทยไม่ได้ แล้วซับอังกฤษนี่ก็แปลฉายาและชื่อวิชาไม่ได้อารมณ์สักเท่าไร ต้องพยายามนึกถึงนิยายที่เคยอ่านมา
แล้วแปลในหัวอีกทีหนึ่ง ก็หวังว่าซับไทยคงจะแปลได้สละสลวยแบบนิยายจีนกำลังภายในนะครับ
5. เนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนนัก บางทีก็ได้อารมณ์แบบกลอนพาไป ตัวละครต่างๆดีลกันได้สำเร็จง่ายมาก
6.ละครยังไม่จบ มีต่อ Season 2 ครับ
ใครที่สนใจเรื่องนี้ สามารถติดตามได้บน Netflix ครับ
[Netflix] เทพยุทธ์ทะลุฟ้า สงครามมังกร - ละครหุ่นบู๊ดุเดือด ใครที่คิดถึงหนังจอมยุทธ Old School ยุค TVB ไม่ควรพลาด
เพราะซีรี่ย์เรื่องนี้ถูกฉายในไต้หวันมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 36 ปี อีกทั้งยังมีจุดเด่นนำศิลปะพื้นบ้านอย่างการเชิดหุ่นมาทำเป็นละครแบบจริงจังด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความโด่งดังของต้าพิลี่ ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงญี่ปุ่นอีก โดยได้มีการร่วมมือกันกับฝั่งญี่ปุ่นทำเป็นซีรี่ย์ใหม่ชื่อว่า Thunder Bolt Fantasy เพิ่มเข้ามาอีกเรื่อง ซีรี่ย์ใหม่นี้มีคนดังในวงการอนิเมญี่ปุ่นอย่าง Urobuchi Gen มาเป็นคนเขียนบท และฉายออกมาแล้ว 2 ซีซั่น
ที่ผ่านมา ผมเคยติดตามผลงานในซีรี่ย์ต้าพิลี่มาแล้ว 2 ชิ้นด้วยกัน ผลงานชิ้นแรกก็คือหนังโรงเรื่อง 'ศึกทะยานฟ้า ศิลามหายุทธ'
ส่วนชิ้นที่สองก็คือนิยายจีนเรื่อง 'เทพยุทธ์ทะลุฟ้า' ของสำนักพิมพ์ SIC ในฉบับหนังผมจำเนื้อเรื่องได้ไม่มากนัก นึกออกแค่ว่าทีมพากย์สตรีเหล็กเอาหนังดีๆมาพากย์จนเละ ส่วนฉบับนิยายนั้น ผมจำได้ว่าสนุก มีตัวละครน่าสนใจมากมาย ด้วยเหตุนี้ พอผมทราบว่ามีการนำซีรี่ย์ต้าพิลี่ตอนใหม่มาฉายบน Netflix โดยใช้ชื่อว่า Pili Fantasy; War of Dragons หรือ เทพยุทธ์ทะลุฟ้า สงครามมังกร ผมจึงตัดสินใจหามาดูเพื่อรื้อฟื้นความหวังทันที
ความรู้สึกที่ได้จากการชม 'เทพยุทธ์ทะลุฟ้า สงครามมังกร' มีดังนี้ครับ
ข้อดี
1. ฉากบู๊มันมาก ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังจีน TVB ที่มันๆสมัยยังเด็ก
ผมเองว่างเว้นจากการดูหนัง/ละครจีนกำลังภายในมาได้หลายปีแล้วเหมือนกัน เพราะเห็นว่าหนังจีนตั้งแต่ช่วงปลายๆทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา
ถ้าไม่เน้น CG เกินไป ก็เน้นฉากสวยอลังการ แทนที่จะไปเน้นเนื้อเรื่องกับคิวบู๊ หนังจีนกำลังภายในเรื่องท้ายๆที่ผมดูแล้วชอบนั้น ก็มี Reign of Assassin และ Kung Fu Hustle
ก่อนที่จะเริ่มดูละครเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก กะจะดูเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆนิดหน่อยเท่านั้น แต่พอได้ดูเข้าไปจริงๆก็รู้สึกว่ามันสู้กันสนุกกว่าที่คาดแฮะ แม้จะเป็นละครหุ่นแต่ตัวละครเคลื่อนไหวได้พลิ้วมาก มีการใช้ CG ประกอบการต่อสู้กันแบบพอเหมาะพอควร ตัดกล้องฉับไว
อีกทั้งยังมีความรุนแรงในแบบที่ไม่จริงเกินไปนัก (มีการฟันแบบหัว แขน ขาขาดกระเด็น มีการซัดพลังใส่ศัตรูจนตัวระเบิด) ความทรงจำเก่าๆสมัยดูละคร TVB เรื่องที่สนุกๆ กลับมาเต็มเลย
2. Character design สวย มีตัวละครเท่ๆ หลายตัว Costume งดงาม
- ฝ่ายพระเอกมีทั้งคนดีศรีสังคมอย่างซู่หวนเจิน แล้วก็ Anti Hero อย่างผู้สัญจรทางวิบาก (ดูไปๆผมกลับรู้สึกว่าตัวนี้แอบเลวกว่าตัวร้ายสายเจ้าเล่ห์อย่าง ไท่หวงจวินเสียอีก) ฝ่ายผู้ร้ายเองก็มีตัวละครที่มีเกียรติและเป็นคนดีกว่าที่คิด (หนุ่มโป๊เจ้าของดาบมาร)
3. องค์ประกอบแบบหนังยุทธจักร Old School มากันครบ ไม่ว่าจะเป็นวิชาพิสดาร จอมมาร สาวงาม ไอเทมวิเศษ สุดยอดศาสตราวุธ อาวุธลับ แผนซ้อนแผน
4. มีความคัลต์แบบแปลกๆ
- ฉากเปิดตัวพระเอกในตอนแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- แม้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุทธจักร แต่มีหุ่น Terminator ทรงผม Afro และตาลุงแต่งชุดแบบ Punk Rock (เคยไผด้ยินมาว่า ในภาคก่อนๆของซีรี่ย์นี้ มีตัวละครดื่มชานมไข่มุก แล้วก็มีคนหน้าคล้าย Neo ณ Matrix ด้วย)
- ตัวละครในเรื่องไปยังแคว้นต่างๆ กันได้ง่ายๆ ราวกับว่าเดินไปเซเว่นหน้าปากซอย
- ระบบการส่งจดหมายในเรื่องที่แนวมาก อยู่ดีๆ ก็จะมีจดหมายเขวี้ยงมาจากขอบจอให้ตัวละครรับ
- หนึ่งในสองตัวละครที่เก่งที่สุดในเรื่อง (พุทธมารใจอธรรมหนึ่งตำรา) มีประโยคพูดติดปากซ้ำๆ แบบ NPC
ข้อเสีย
1. ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงที่สุดของซีรี่ย์เรื่องนี้ ก็คือ ละครไม่มีการปู Backstory มาก่อน คนที่เพิ่งมาติดตามซีรี่ย์ต้าพิลี่เป็นครั้งแรก ต้องมึนแน่ๆ ว่าใครเป็นใคร มีฝ่ายอะไรบ้าง ถ้าพื้นฐานวรยุทธไม่แน่นพอ อาจจะธาตุไฟแตกแล้วเลิกดูเรื่องนี้ไปตั้งแต่ตอนแรกก็ได้ ต้องดูให้ผ่านตอนที่สองไปได้ถึงจะเริ่มๆ จับแนวเรื่องได้แล้วบนเน็ทก็ไม่มี Source ข้อมูลเกี่ยวกับจักรวาลต้าพิลี่ให้อ่านกันได้ง่ายๆอีกด้วย ฐานข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีนไต้หวันที่ผมอ่านไม่ออก
(แต่ถ้าใครเคยอ่านเทพยุทธ์ทะลุฟ้าฉบับนิยาย ในส่วนหน้าแนะนำตัวละครมาแล้ว ก็จะย่อยได้ง่ายขึ้นครับ )
2. จังหวะของเรื่องจะออกมาคล้ายๆกัน คือบู๊กันหนักในช่วงต้น คุยกันและต่อสู้ประปรายช่วงกลาง แล้วจะมี Cliffhanger ในช่วงท้าย ซึ่งจะนำไปสู่ฉากบู๊หนักๆในช่วงต้นตอนถัดไป
3. ฉากบู๊ระหว่างตัวละครสำคัญคู่หนึ่ง ที่ตอนแรกนึกว่าจะอลังการมาก แต่ผลกลับออกมาว่าคุณหลอกดาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ผมเองอยู่ที่ต่างประเทศ ดูแบบซับไทยไม่ได้ แล้วซับอังกฤษนี่ก็แปลฉายาและชื่อวิชาไม่ได้อารมณ์สักเท่าไร ต้องพยายามนึกถึงนิยายที่เคยอ่านมา
แล้วแปลในหัวอีกทีหนึ่ง ก็หวังว่าซับไทยคงจะแปลได้สละสลวยแบบนิยายจีนกำลังภายในนะครับ
5. เนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนนัก บางทีก็ได้อารมณ์แบบกลอนพาไป ตัวละครต่างๆดีลกันได้สำเร็จง่ายมาก
6.ละครยังไม่จบ มีต่อ Season 2 ครับ
ใครที่สนใจเรื่องนี้ สามารถติดตามได้บน Netflix ครับ