[Ghibli] Ocean Waves (1993) : เปลี่ยวเหงา, สุข และเศร้า ในเวลาเดียวกัน

Ocean Waves (1993) : สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว

"เปลี่ยวเหงา, สุข และเศร้า ในเวลาเดียวกัน"


     ล่าสุด Netflix ได้นำภาพยนตร์จาก Studio Ghibli เข้ามาฉายให้พวกเราได้ดูได้ชม หลังจากที่ผมไล่ดู List ก็ต้องไปสะดุดตากับเรื่อง Ocean Waves (1993) ความทรงจำหลังจากที่เคยดูก็ผุดขึ้นมา ประกอบกับ Main theme ของเรื่องนี้ค่อนข้างกินใจ ฟังทุกทีก็ทำให้นึกถึงความทรงจำหลายๆ อย่างในวันเวลาที่ผ่านไป... เลยอยากจะมาแนะนำเผื่อใครยังไม่เคยดู ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็จัดว่าเป็นหนังที่ดีใช้ได้เลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Studio Ghibli film collection comming to Netflix l Netflix

     Ocean Waves (1993) ได้รับการกำกับโดย Tomomi Mochizuki เนื้อเรื่องถูกนำมาจากนิยายปี 1990 ของ Saeko Himuro 

     เรื่องเริ่มต้นที่ สถานีคิชิโจจิ โตเกียว, ทาคุ เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ทำให้เขาย้อนนึกถึงความหลังในวัยเรียน เรื่องราวในความทรงจำต่างผุดขึ้นมา... เขานึกถึง 'ริคาโกะ' หญิงสาวจากโตเกียวที่ย้ายมาเรียนที่จังหวัดโคจิ และได้พบกับชายหนุ่มบ้านนอกอย่างเขา ผ่านทาง ยูทากะ เพื่อนสนิทของทาคุที่แอบชอบริคาโกะ

     กลายเป็นความรักที่มีมิตรภาพระหว่างเพื่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง "รักสามเส้า" และไม่ว่าทางไหนก็เป็นทางเลือกที่ยากสำหรับทาคุ...

OCEAN WAVES (1993) : แอนิเมชั่นที่ถูกมองข้าม แต่เนื้อในจัดว่า 'คุณภาพ'

     หากเทียบชื่อชั้นของหนังใน Studio Ghibli แล้ว Ocean Waves คงจะถูกจับไปอยู่ลำดับท้ายๆ ของ List ที่ค่อนข้างนอกสายตาผู้ชมส่วนใหญ่ และยังโดนรัศมีเรื่องอื่นๆ กลบทับไปหมด ไม่ว่าจะ My Neighbor Totoro (1988), Princess Mononoke (1997), Spirited Away (2001), Howl's Moving Castle (2004) เนื่องเพราะ Ocean Waves มีรูปแบบการนำเสนอและรูปแบบเรื่องที่ไม่ดึงดูดตามากนัก เลยอาจจะไม่ติดตาผู้ชมนั่นเอง เป้าหมายในตอนแรกของหนังก็ตั้งใจทำมาเป็น TV Movie แถมหลังฉายก็ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลตัวหนังถูก Underated ไปพอสมควร

     หนังดำเนินเรื่องแบบนิ่งๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่หวือหวาและเน้นความสมจริงเป็นหลัก ผสมกับอารมณ์ดราม่าหน่วงๆ เนือยๆ เหมือนกับเราดูภาพยนตร์คนแสดงอยู่ (หากใครเคยดูหนังดราม่าญี่ปุ่นสายรางวัลหรือสายเทศกาล สไตล์ของเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละ) ทว่าหนังก็ทำได้น่าติดตามชวนให้อยากรู้ต่อว่าสุดท้ายความสัมพันธ์และเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ขณะเดียวก็นำเสนอภาพบรรยากาศของญี่ปุ่นในช่วงราวปี 1990 หรือราว 30 ปีที่แล้ว ชวนให้นึกถึงความทรงจำ ภาพบรรยากาศเก่าๆ ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน ทั้งวิถีชีวิต สภาพเมือง การแต่งกาย ก็แตกต่างไปจากยุคนู้นอย่างสิ้นเชิง

     ส่วน Production หนัง แม้งานภาพอาจจะดูเก่า แต่ก็ถือว่าสวยใช้ได้เลย งานเก็บละเอียด ลายเส้นสวย โทนสีสบายตาสไตล์ Ghibli  

'If I could be the sea' - ความรู้สึกอันลึกซึ้งของการจากลาที่ทั้งสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน...


     Soundtrack ของ Ocean Waves ไม่ได้ประพันธ์โดย Joe Hisaishi เหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ประพันธ์โดย Shigeru Nagata ดังนั้นบรรยากาศเพลงก็จะเป็นไปอีกแบบนึง ด้วยบรรยากาศดนตรีที่เปลี่ยวเหงา โหยหาอดีตเข้ากับเนื้อเรื่องที่ย้อนความหลังของหนุ่มสาววัยเรียน (Nostalgic)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Ocean Waves - If I could be the sea

     โดยเฉพาะเพลงที่ผมประทับใจที่สุดในเรื่อง... ‘If I could be the sea’ (Main theme) ความรู้สึกหลังดูจบก็เป็นไปตามทำนองในเพลงนี้เลย มันคือความรู้สึกที่ทั้งสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน ซึ่งทุกคนน่าจะเคยพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้กัน ขมขื่นในวันวาน แต่พอนึกย้อนกลับไปก็ยิ้มให้กับเรื่องราวที่ผ่านม ฟังแล้วก็รู้สึกค่อนข้างโดดเดี่ยว เหงา ลงเอยกับตัวหนังแนบเนียน บรรยายความรู้สึกของหนังได้อย่างน่าประทับใจ และเติมเต็มอารมณ์หนังให้สมบูรณ์

     ถือเป็น Soundtrack ที่ฟังแล้วรู้สึกถึงความสวยงามและความร้าวลึกจริงๆ...

สรุป
     Ocean Waves (1993) อาจจะไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่สำหรับคอหนังดราม่าญี่ปุ่น หรือคอหนังสายรางวัล / เทศกาล ไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้กัน เพราะจัดว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งของ Ghibli หนังให้อารมณ์ต่างๆ ได้ดี ทั้งดราม่า คอมเมดี้ ความรัก พร้อมกับบรรยากาศแบบเหงาๆ ในยุค 90 ที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำ

     และสุดท้ายหนังก็จบลงอย่างสวยงาม ควรค่าแก่การดูมากเลยทีเดียว...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Ocean Waves Official US Release Trailer (2017)

----------------------------------------------------------------------

ป.ล.อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่