คู่รักโฟลเทนที่ได้ให้เกียรติกับเราในเทศกาลวาเลนไทน์อันแสนหวานในครั้งนี้ นับว่าเป็นคู่รักอีกคู่หนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจและเป็นที่อิจฉาในความเหมาะสมกันของคนทั้งคู่ ด้วยว่าทั้งเขาและเธอต่างเป็นดารายอดนิยมที่หลายคนคอยเป็นกำลังใจและเอาใจช่วย และสิ่งหนึ่งที่เราแอบภาคภูมิใจอย่างมากและมีโอกาสได้นำมาเสนอให้แก่คุณผู้อ่านในวันนี้ก็คือ ทัศนคติที่ทั้งคู่มีต่อความรัก และการดูแลทนุถนอมความรักซึ่งกันและกัน เราเชื่อว่าคงเป็นที่ถูกอกถูกใจทุกคนแน่ ๆ แต่ก่อนที่เราจะได้ฟังทัศนคติจากคู่รักคู่นี้ คงมีผู้อ่านหลายท่านสงสัยว่าทำไมกามเทพถึงส่งให้ รอน บรรจงสร้าง และ ปรารถนา สัชฌุกร มาพบกันได้ ซึ่งคุกล้วยได้เปิดเผยกับเราว่า

"ปกติไม่ค่อยจะคุยเรื่องนี้ให้ใครฟังนะ คือจริง ๆ แล้วกล้วยกับอี๊ด (รอน) นี่รู้จักกันมานานแล้ว อยู่ในวงการด้วยกันมาตลอด เมื่อก่อนนี้กล้วยก็แหย่เขา แหย่โดยที่ไม่ได้คิดอะไร มันมีอยู่ช่วงหนึ่งช่วงที่ชีวิตเราทั้งคู่ได้พบกับอะไรหลายอย่าง พอมาเจอกัน จากความที่ไม่เคยสนใจในจุดนี้ ก็มาคิดว่าทำไมเราไม่มาลองคุยกันดี ๆ เพราะต่างคนต่างก็ผ่านอะไรมาทั้งคู่ ก็ดีนะถือว่าตัวเองยังมีบุญ ทุกคนก็ว่าอย่างนั้น"

"อี๊ดเป็นคนดีมาก ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยสร้างความหนักใจอะไรให้กล้วยเลย เวลาทำงานเขาก็รับผิดชอบ ตรงเวลามาก ไม่เหลาะแหละ ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แล้วก็รักแม่มาก รักที่บ้านมาก เสร็จงานก็คือกลับบ้านไปหาแม่แล้ว อย่างกล้วยยังมีบ้าง ถ่ายละครเสร็จไปทานข้าวกับเพื่อน ไม่ใช่ว่าอี๊ดไม่มีเพื่อนนะ เพื่อนเยอะด้วยล่ะ แต่เขาเป็นคนอย่างนี้จริง ๆ"

ถ้าหากคุณผู้อ่านได้อ่านต่อไปอีกคงจะยิ่งอิจฉาคุณกล้วยเธอมากขึ้นแน่ ๆ เพราะทัศนคติในเรื่องความรัก และวิธีทนุถนอมความรักของคุณรอนที่มีต่อคุณกล้วยนั้นคงเป็นแบบที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันให้หวานใจของตนเป็นแบบนี้

"ความรักก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าเราเข้าใจกัน เป็นธรรมดาต้องมีทะเลาะกันบ้าง ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไปง้อเสียก็หมดเรื่อง ความรักก็จะอยู่ได้ยืด"

"ใครง้อใครมากกว่ากันเหรอ ส่วนมากจะเป็นผมนะ โดยเฉพาะเวลารถติดนี้ ไม่มีอะไรทำ ผมก็จะหันไปง้อเขา"

ส่วนความหมายของคำว่า "ความรัก" ในความคิดของคุณกล้วยนั้น เธอบอกกับเราว่า

"กล้วยคิดว่าถ้าเรามีความรัก มันรวมทุกสิ่งทุกอย่างนะ ทั้งทุกข์ทั้งสุข แต่ก็เป็นอะไรที่ดี ถึงแม้ช่วงนั้นเราจะมีทุกข์ แต่กำลังใจจากคนที่เรารักก็จะช่วยเราได้ แล้วกล้วยเป็นคนที่ชอบทำงานมากเลย ถ้ากล้วยมีกำลังใจ คือมีแฟนที่คอยให้กำลังใจช่วยเหลืออะไรนี่ กล้วจะมีแรงที่ต่อสู้งานมากขึ้น"

และเราก็สามารถจะยืนยันได้ว่ากำลังใจที่คุณกล้วยได้รับนั้น ช่างเป็นกำลังใจที่แสนวิเศษจริง ๆ เฉพาะในวันที่เราไปสัมภาษณ์คนทั้งสองนั้น คุณกล้วยมีคิวถ่ายละครตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงเย็น คุณรอนเองก็มาคอยเป็นกำลังใจอยู่ตลอดวันนั้นด้วย ไม่เพียงแค่นั้นทั้งคู่ยังมีธุรกิจร้านอาหารร่วมกัน ใช้ชื่อร้านว่า "กล้วย" อยู่ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และที่หลักสี่ พลาซ่า เป็นกิจการที่ดำเนินไปด้วยดี เพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจที่ทั้งคู่มีให้ต่อกันในการดำเนินงาน จนดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งของใด ๆ ที่มีความสำคัญเทียบค่าได้กับกำลังใจที่ทั้งคู่มีให้กันได้เลยในเวลานี้

"กล้วยเขานึกสนุกขึ้นมาเขาอยากจะทำ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ต่อมาก็สนุกดี ถ้าว่าง ๆ ก็จะเข้าไปเสมอ เป็นธุรกิจอะไรอย่างหนึ่งที่เราตั้งใจช่วยกันทำและอยากทำให้ดี อยากมีสาขาเยอะ ๆ น่ะ"

อีกสิ่งหนึ่งที่จะเป็นเครื่องมือยืนยันถึงความเป็นคู่รักกันของเขาและเธอก็คือ การที่ทั้งคู่มักคิดอะไรในใจเหมือน ๆ กันอยู่เสมอ

"กับอี๊ดนี่จะเป็นอะไรที่ใจตรงกันตลอดเวลา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอกล้วยคิดอะไรอยู่เขาจะต้องรู้ว่ากล้วยคิดอะไร เช่นอยากกินอะไร อยากซื้ออะไร ใช้อะไรนี่ ใจจะตรงกันอยู่แล้ว จริง ๆ ตลกมาก กล้วยเองก็ไม่คิดว่าจะมาเจอคนอย่างนี้"

"ขนาดโฟลเทนนี่ก็ยังใช้เหมือนกันเลย กล้วยนี่ผมจะร่วงมาก เพราะต้องทำผมบ่อยเวลาถ่ายละคร ส่วนอี๊ดเขาก็ผมร่วงไปก่อนกำหนด แล้วไรผมข้างหน้านี่ไม่ค่อยมี ก็ต้องคอยใส่โฟลเทนอยู่เรื่อยทั้งคู่ ใช้แล้วก็ดีขึ้นก็เลยใช้มาตลอด"

สำหรับวาเลนไทน์นี้ทั้งคู่ก็ได้ฝากข้อคิดที่น่าสนใจมาให้แก่คู่รักอื่น ๆ ด้วย

"กล้วยเองก็ผ่านอะไรมามาก ถึงตรงนี้ก็คิดว่า คนเราเมื่อมีคนที่เรารักแลัว เราต้องซื่อสัตย์กับเขาและไว้ใจเขา แล้วลูกผู้หญิงนี่ชีวิตครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญ มีแฟนที่ดีก็เป็นอะไรที่มันสดใส มันไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล"

ส่วนคุณรอนก็ได้บอกกับเราว่า

"ก็คงต้องพยายามทำความเข้าใจกันให้ดี รู้จักการให้อภัยเห็นอกเห็นใจก็จะอยู่กันได้อย่างดี"

เราเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อคิดที่คนทั้งสองได้ฝากไว้ และในเทศกาลแห่งความรักนี้ ขออวยพรให้ทั้งคู่ ตลอดจนคู่รักคู่อื่น ๆ จงประสบแต่ความรักที่ผลิบานในหัวใจตลอดไป

ขอขอบพระคุณบทสัมภาษณ์จากนิตยสารคู่สร้างคู่สม 

ฉบับที่ ๑๗๒ ปี ปักษ์หลัง 2535