ฮัลโหลทุกคน เราเชื่อว่าไอเทมประจำตัวติดกระเป๋าของหลาย ๆ คน นอกจากโทรศัพท์มือถือก็คือหูฟังเนี่ยแหละ เพราะเราก็เป็นค่ะ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ช้อปปิ้ง ฟังเพลง เล่น Social เรียกได้ว่าทุกวันนี้มีหูฟังเป็นเพื่อนสนิท อยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเข้านอนเลยค่ะ

และยิ่งช่วงนี้กระแสหูฟังไร้สายกำลังมาแรงแบบสุด ๆ ประกอบกับโดนป้ายยามาจากเพื่อน ๆ ที่ใช้ HUAWEI Freebuds 3 หลังจากนั้น กิเลสก็เริ่มมา มีความอยากได้หูฟังเพิ่มอีกสักอัน เราก็เลยเล็งหูฟังตัวใหม่ไว้ เป็น HUAWEI Freebuds 3 แต่ในใจก็กำลังลังเลอยู่นานว่าจะใช้สีไหนดี ระหว่างสีดำ Carbon Black และสีขาว Ceramic White จนในที่สุดเราก็เห็นว่าเค้าเพิ่งออกสีใหม่ต้อนรับเดือนแห่งความรัก เป็นสี Valentine Red Edition ! หูฟังพร้อมตัวเครื่องสีแดงเรียบหรู เห็นแล้วใจสั่น

และวันนี้เราก็ได้พก HUAWEI FreeBuds 3 Valentine Red Edition มาชิลล์ ช้อป และเดินเล่นกันแถวใจกลางสยาม มาดูความดีงามของหูฟังตัวนี้กันว่านอกจากดีไซน์สวย สีสดใสแล้วยังมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจกันบ้าง

ต้องบอกเลยว่าหูฟัง HUAWEI FreeBuds 3 นั้นยังคงรูปทรงและดีไซน์ภายนอกที่มีความสวยงาม โค้งมน และยิ่งโดดเด่นเข้าไปอีก เพราะตัวเครื่องรุ่นนี้เป็นสีแดงวาเลนไทน์ ต้องบอกเลยว่าแจ่มมาก ๆ สีสันสดใสคล้ายกับสีของกลีบดอกกุหลาบแดง มีโลโก้ HUAWEI สีเงินสี่เหลี่ยมตรงกลางด้านหลังเคส หยิบออกมาแล้วสะดุดตามาก ใครเห็นเป็นต้องทัก

ตัวกล่องเคสน่ารักมาก ๆ ใช้งานง่ายเพราะเป็นฝาแบบเปิด-ปิด ใช้เพียงนิ้วเดียวก็กดเปิดเบา ๆ ได้แล้ว ประกอบกับตัวเครื่องมีขนาดเล็กเหมาะมือ กะทัดรัด ดูสิขนาดเล็กพอดี๊พอดีกับตลับเมคอัปที่เราใช้เลยค่ะ พกง่ายจะเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าเครื่องสำอางก็ได้นะ

ด้านล่างมีพอร์ตสำหรับเสียบสายชาร์จ USB Type-C พร้อมไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวเคสชาร์จ ส่วนใครที่ชอบความสะดวก ตัวนี้ก็ยังรองรับการทำงานกับแท่นชาร์จไร้สาย หรือเพียงแค่วางเคสชาร์จบนสมาร์ตโฟนของ HUAWEI ที่รองรับการชาร์จแบบ Reverse Charging ก็ได้อีกด้วย จะบอกว่าตัวนี้แบตอึดมาก เมื่อเช้าเราชาร์จไป 1 ชม. ก็จะสามารถใช้งานได้ถึง 4 ชม. และถ้าหากเราใช้งานร่วมกับตัวเคสชาร์จก็สามารถใช้งานได้ถึง 20 ชั่วโมงไปเลยค่า ดูหนังฟังเพลงได้ยาว ๆ

พอเปิดฝาไปแล้วเราก็จะพบกับตัวหูฟังด้านในทั้งสองข้าง และบริเวณตรงกลางด้านบนของตัวเครื่องยังมีไฟ LED ดวงเล็ก ๆ สำหรับแสดงสถานะของแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งปกติแล้วหากหูฟังมีแบตเตอรี่เต็มหรือเหลือแบตเตอรี่มากกว่า 60% ไฟจะแสดงเป็นสีเขียวอ่อน ๆ หากว่า LED เปลี่ยนเป็นสีส้ม หรือสีแดงก็แสดงว่าแบตเตอรี่ของตัวหูฟังใกล้หมดแล้วค่ะ

ตัวหูฟังเป็น True wireless ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่สำคัญก็คือทำให้เราใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นขณะที่เราหยิบขึ้นมา หรือตอนจะใส่หูฟังกลับคืนในกล่องก็ง่ายเช่นกัน แค่วางให้ตรงช่องเสียบ แรงดึงดูดเบา ๆ ของแม่เหล็กช่วยทำให้การจัดเก็บหูทั้งสองข้างง่ายและแน่นไปกับช่องเสียบเลย

ตัวก้านหูฟังช่วงบนจะมี Sensor เล็ก ๆ รองรับการแท็บได้ทั้งสองข้างทั้งซ้ายและขวา พร้อมดีไซน์หูฟังแบบ Dolphine Bionic ใส่ถนัด กระชับรับกับช่องหูของเราพอดีเป้ะ เวลาเราเดินเร็ว ๆ ก็ไม่หลุดง่ายค่ะ น้ำหนักค่อนข้างเบา ใส่ไว้นาน ๆ นั่งทำงานหลายชั่วโมงหรือฟังเพลงต่อเนื่องยาวนานก็ไม่รู้สึกว่าปวดหู

เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานก็ต้องบอกเลยว่าสบาย เพราะ HUAWEI FreeBuds 3 นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Kirin A1 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชิปเซ็ตขนาดเล็ก แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานแบบทรงพลัง ช่วยทำให้การใช้งานหูฟังนั้นมีความเสถียร และชาญฉลาดแบบสุด ๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรากำลังรับสายคุยโทรศัพท์ในที่ที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวน เจ้าตัว HUAWEI FreeBuds 3 ก็จะเพิ่มเสียงของเราให้ดังขึ้นตามเสียงรอบข้าง ไม่ต้องตะโกนหรือพูดซ้ำเวลาอีกฝั่งไม่ได้ยินให้หมดพลังกันอีกต่อไป

ทีนี้เรามาดูฟังก์ชันการใช้งานที่เราชอบกันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าปกติเราเป็นคนที่ชอบออกไปนั่งเล่น หรือหาที่ทำงานนอกบ้าน แต่บางครั้งเราก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานที่ใช้สมาธิสูงหรือต้องคุยธุระสำคัญกับลูกค้าแบบด่วน ๆ ซึ่งต้องการความเงียบเป็นพิเศษ หูฟังที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้นี่ถือเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ซึ่ง HUAWEI Freebuds 3 นั้นทำได้ดีกว่าที่เราคิดไว้มากค่ะ

เพราะเราสามารถปรับเอฟเฟกต์ ANC (Active Noise Cancellation) ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงเล็ดลอดเวลาเข้าร้านอาหารใหญ่ ๆ ในห้าง หรือคาเฟ่ฮิต ๆ คนจอแจ โดยเราสามารถปรับระดับได้นะคะว่าอยากได้ระดับความเงียบประมาณไหนให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่เราทำได้เลย เช่น เวลาเรานั่งทำงานที่ต้องการใช้สมาธิ หรือต้องการฟังเพลง ก็เลือกระดับการรบกวนความถี่จากคลื่นเสียงภายนอกได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้เราฟังเพลงได้รายละเอียดที่ดี เข้าถึงเพลงเข้าถึงอารมณ์ค่ะ ใครที่ใช้โทรศัพท์ HUAWEI สามารถเข้าไปปรับค่า ANC ผ่านแอปพลิเคชัน Ai Life ได้โดยตรงเลยค่ะ

โดยเฉพาะคุณภาพเสียง ก็ต้องบอกไว้เลยว่าทำได้ดี เพราะเราเป็นคนที่ชอบฟังเพลงหลายแนวมาก ๆ และเจ้าตัวนี้ก็คือให้เสียงใส ครอบคลุมทุกตัวโน้ต เรียกได้ว่าทำออกมาได้ประทับใจ โดยเฉพาะสำหรับใครที่เป็นชาวร๊อกเกอร์ชอบเสียงเบสหนัก ๆ จะบอกว่าตัวนี้ไดนามิคเสียงดี ฟังแล้วสะใจสุด ๆ เพราะภายในเค้ามีหลอดเสียงเบส (Bass Tube) ด้วยค่ะ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะชอบฟังเพลงแนวไหน เจ้าตัวนี้ก็เอาอยู่

อีกหนึ่งสิ่งที่เรียกว่าไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับ HUAWEI Freebuds 3 ตัวนี้ เรื่องการเชื่อมต่อที่ไวมาก และอัตราการประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น เพราะมีระบบบลูทูธ 5.1 Soc ที่ได้รับรอง BT/BLE Dual-Mode หลังจากที่เราเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ตโฟนไว้ครั้งแรก ครั้งต่อไปเมื่อเราหยิบหูฟังออกมา ก็จะเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนให้อัตโนมัติเลย ใช้ง่าย และรวดเร็ว เหมาะกับคนใจร้อน (แบบเรา) โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน หรือเวลาเพื่อนส่งคลิปออนไลน์ตั่งต่าง ๆ มาให้ก็หยิบขึ้นมาฟังได้ทันใจ ไม่ว่าจะดูคลิปวีดีโอ หรือเล่นเกมส์เสียงจากหูฟังก็แทบจะไม่ดีเลย์ เล่นได้ไม่สะดุด

ด้วยความที่เป็นหูฟังไร้สาย หลาย ๆ คนอาจจะกลัวหลุด แต่จะบอกว่าเจ้าตัวนี้ตอนใช้จริงแล้วกระชับหูมาก ไม่ว่าจะทำกิจกรรม ช้อปปิ้งไป ที่สำคัญคือควบคุมง่าย แค่แตะหูฟังด้านขวาสองครั้งบริเวณก้านหูฟังก็สามารถเปลี่ยนเพลง ข้ามหรือหยุดเพลงได้เลย ส่วนถ้าอยากเข้าสู่โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกก็แค่ Double Tap ด้านซ้ายเพื่อเปิดฟังก์ชันลดเสียงรบกวนรอบข้าง และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราถอดหูฟังออกเพลงก็จะหยุดเล่นอัตโนมัติ เจ๋งสุด ๆ ไปเลยค่ะ

ยังไม่หมด ๆ อีกหนึ่งความดีงามของ HUAWEI Freebuds 3 ก็คือการใช้งานไมโครโฟนสำหรับพูดคุย ทำงาน เมาท์มอย เพราะเจ้าหูฟังตัวนี้มี Bone Sensor ตัวจับการสั่นของกระดูกกรามของเราค่ะ ทำให้เวลาเรารับสาย คุยโทรศัพท์ก็รู้สึกว่าสามารถพูดได้แบบราบลื่น คมชัด แฮปปี้ทั้งคนพูดทั้งคนฟัง แถมยังมี Aerodynamic Mic Duct Design ช่วยกรองลมและลดเสียงที่เข้ามาปะทะไมโครโฟนด้วย

หลังจากเดินเล่น ช้อปปิ้งไปหลายชั่วโมง ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นหูฟังที่ตอบโจทย์มาก ๆ สะดวกสบาย จนต้องขอยกเจ้าหูฟัง HUAWEI FreeBuds 3 ตัวนี้ให้กลายเป็นไอเทมโปรด ที่เราพกพาไปทุกที่ไม่ว่าจะใช้ทำงาน คุยโทรศัพท์ หรือเสพความบันเทิงต่าง ๆ ครบ เป็นหูฟังที่สเปกแน่น ๆ ดีไซน์สวย คุ้มค่า ยิ่งเป็นสีแดงวาเลนไทน์ โดดเด่นแบบนี้ชนะใจ งามจนอยากมอบมงให้เลยจ้า

เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังอยากได้หูฟังเจ๋ง ๆ ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ มีฟังก์ชัน Active Noise Cancellation ใช้งานสะดวก เชื่อมต่อง่าย มีฟีเจอร์แน่น ๆ กับพลังเสียงที่ตอบโจทย์ เสียงใส เบสแน่น แบบนี้ก็ต้องลอง HUAWEI FreeBuds 3 Valentine Red Edition ตัวนี้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ช็อป HUAWEI ทุกสาขา หรือ Click ดูรายละเอียดได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/accessories/freebuds3/

[Advertorial]