วันนี้มีประเด็นในโลกโซเชียลเรื่องเรือสำราญมาจอดเทียบท่าที่ภูเก็ต แล้วให้นักท่องเที่ยวบนเรือขึ้นฝั่งไทยได้ หลายคนเลยกลัวว่าจะมีปัญหาไวรัสหรือเปล่า กระทู้นี้ก็เลยจะขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมด้านสุขอนามัยของผู้โดยสารบนเรือครับ
เรือ Quantum of the Seas เป็นเรือสำราญของบริษัท Royal Caribbean International ก่อนหน้านี้มีการล่องในหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่ช่วงนี้มาล่องในโซนเอเชีย โดยทริปที่ผมเพิ่งกลับมาคือทริปวันที่ 7 - 11 ก.พ. หลังจากที่มีข่าวการระบาดของไวรัส Covid-19 แล้ว ทริปของผมมีตารางเดินเรือตามนี้
วันแรก - ผู้โดยสารขึ้นเรือที่สิงคโปร์
วันที่สอง - เรือเทียบท่าที่กัวลาลัมเปอร์ตอนเช้า ผู้โดยสารขึ้นฝั่งไปเที่ยวได้ เรือออกจากท่าตอนเย็น
วันที่สาม - เรือเทียบท่าที่ปีนังตอนเช้า ผู้โดยสารขึ้นฝั่งไปเที่ยวได้เช่นกัน
วันที่สี่ - อยู่บนเรือทั้งวัน เรือล่องกลับไปที่สิงคโปร์
วันที่ห้า - เทียบท่าที่สิงคโปร์ตอนเช้า ผู้โดยสารออกจากเรือ
จากนั้นเรือก็จะต้อนรับผู้โดยสารชุดใหม่ โดยผู้โดยสารชุดนี้เดินทางวันที่ 11 - 15 ก.พ. เรือมีกำหนดเทียบท่าที่กัวลาลัมเปอร์และภูเก็ต ซึ่งก็คือเส้นทางที่มีประเด็นตอนนี้นั่นเอง
ก่อนเริ่มทริป ผมได้รับอีเมลจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายของเรือ แจ้งเรื่องมาตรการรับมือกับไวรัส โดยเรือจะไม่รับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม ที่เพิ่งเดินทางเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงในช่วง 15 วันที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็เห็นข่าวสิงคโปร์ไม่ให้คนที่เพิ่งเดินทางเข้าออกจีนและฮ่องกงเข้าประเทศเช่นกัน
วันที่ 6 ก.พ. ผมเดินทางถึงสิงคโปร์ (ล่วงหน้าก่อนลงเรือ 1 วัน) ตอนตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่เปิดดูพาสปอร์ตทุกหน้า คาดว่าเพื่อดูว่ามีการเดินทางไปจีนหรือเปล่า ของแฟนผมมีวีซ่าที่เพิ่งขอเพราะกำลังจะไปเรียนต่อที่ฮาร์บิน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าเพิ่งไปจีนมาหรือเปล่า แฟนบอกว่ายังไม่ได้ไป ก็สามารถผ่านเข้าประเทศได้ ไม่มีปัญหาอะไร
วันที่ 7 ก.พ. ผมไปถึงท่าเรือ Marina Bay Cruise Centre เกือบบ่ายโมง ตอนเช็คอินขึ้นเรือ มีกระบวนการหลายขั้นตอนมาก มีเจ้าหน้าที่ยืนถือถุงแอลกอฮอล์ล้างมือฉีดใส่มือผู้โดยสารทุกคน มีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจพาสปอร์ตแบบพลิกดูทุกหน้าเพื่อดูว่าเพิ่งไปจีนมาหรือเปล่า มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พนักงานที่เคาท์เตอร์มีคำถามหลายข้อให้เราตอบ เช่น คุณได้เดินทางเข้าออกจีนหรือฮ่องกงในช่วง 15 วันหรือเปล่า คุณได้ติดต่อกับคนที่เดินทางเข้าออกจีนหรือฮ่องกงในระยะ 2 เมตรหรือเปล่า คุณมีอาการเป็นไข้หรือเปล่า ฯลฯ
หลังจากผ่านด่านเช็คอินแล้ว ก็เดินขึ้นเรือ สามารถไปกินข้าวเที่ยงที่ห้องอาหาร Windjammer Marketplace ที่ชั้น 14 บนเรือได้เลย ก่อนเข้าห้องอาหาร จะมีพนักงานบอกให้เราเดินเข้าห้องล้างมือก่อน มีพนักงานยืนดูว่าเราล้างแล้วจริงๆ น้ำล้างมือค่อนข้างร้อนเลยล่ะ ประมาณน้ำในบ่อออนเซ็น ก๊อกปล่อยสบู่เหลวล้างมือเป็นแบบเซ็นเซอร์ ไม่ต้องใช้มือกดเอง ล้างเสร็จก็ดึงกระดาษทิชชู่เช็ดมือให้แห้ง แล้วค่อยเข้าห้องอาหาร
ห้องน้ำบนเรือก็สะอาดสะอ้านดี ตรงประตูเข้าออกห้องน้ำ ด้านในมีป้ายติดไว้ว่า ให้ใช้กระดาษเช็ดมือจับด้ามประตูเวลาดึงประตูเพื่อออกจากห้องน้ำ
เวลา 15.45 น. มี Guest Assembly Drill ผู้โดยสารจะต้องไปรวมตัวกันในจุดที่กำหนด ห้องผมอยู่ฝั่งหัวเรือ ก็ไปรวมตัวที่ Royal Theater เพื่อรับชมวิดีโอมาตรการความปลอดภัยบนเรือ วิดีโอสนุกมาก ยังกับดูหนัง James Bond ตามล่าสายลับบนเรือ
โฆษกในโรงหนังประกาศมาตรการรับมือไวรัสว่า ขอให้ผู้โดยสารทุกคนล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนเข้าห้องอาหาร และทริปนี้เราจะไม่ Handshaking กันนะ ถ้าใครรู้สึกเป็นไข้ไม่สบาย ให้รีบไปที่ห้องพยาบาลทันที
ผมสังเกตดูจำนวนผู้โดยสารใน Royal Theater น่าจะแค่ครึ่งโรงเท่านั้นเอง คงมีผู้โดยสารจากจีนที่ไม่ได้ขึ้นเรืออยู่พอสมควร จากที่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือ 5 วัน 4 คืน สังเกตว่ามีแต่คนอินเดีย บังกลาเทศ สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย และมีฝรั่งบ้าง ไม่แออัดหรือล้งเล้งดี ห้องอาหารก็มีที่นั่งตลอด ดีงามมาก
สิ่งที่สังเกตอีกอย่างคือบนเรือมีเครื่องฉีดแอลกอฮอล์ล้างมืออยู่ตามจุดต่างๆ เยอะมาก หน้าห้องอาหารทุกห้องมีหมด ไปต่อคิวเล่นรถบั๊มพ์ก็มีพนักงานถือถุงฉีดแอลกอฮอล์ให้ทุกคน ซุ้มไอศกรีมริมสระว่ายน้ำก็มีอ่างล้างมือ
มีหนึ่งวันที่ผมออกจากเรือไปเดินเที่ยวปีนัง ตรงท่าเรือมีเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายมาส่องหน้าผากทุกคน เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ ตอนขึ้นฝั่งก็มีเครื่องวัดเหมือนกัน ตอนนั่งเครื่องกลับไทย ที่ดอนเมืองก็มีกล้องวัดเต็มไปหมด
สิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับเรื่องอนามัยของเรือนี้ก็คือปุ่มกดลิฟต์ มันไม่ใช่ปุ่มกดแล้วยุบเด้งทั่วไป แต่มันเป็นปุ่มคล้ายจอสัมผัสของสมาร์ตโฟน ทำให้เราเอามุมมือถือหรือกุญแจไปจิ้มกดไม่ได้ แต่ต้องใช้นิ้วกดอย่างเดียว ก็เลยต้องเลี่ยงไม่ใช้นิ้วที่เราใช้หยิบจับอาหาร แคะขี้มูกขี้ตา ก็คือใช้นิ้วนางเวลากดลิฟต์ แล้วก็ต้องหาโอกาสล้างมือเวลาออกจากลิฟต์แล้ว
โดยรวมแล้ว เรือมีการควบคุมด้านสุขภาพได้ดีเลย ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะตายเพราะไวรัส Covid-19 หรอก แต่จะตายเพราะน้ำตาลพุ่ง ไขมันอุดตัน เนื่องจากของกินบนเรืออร่อย มีให้กินแบบไม่อั้น กินแบบไม่มีช่วงเวลาให้ร่างกายรู้สึกหิวเลย
[CR] 🚢 รีวิวย่อ เรือสำราญ Quantum of the Seas 2020 มาตรการด้านสุขอนามัยของผู้โดยสารบนเรือ
เรือ Quantum of the Seas เป็นเรือสำราญของบริษัท Royal Caribbean International ก่อนหน้านี้มีการล่องในหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่ช่วงนี้มาล่องในโซนเอเชีย โดยทริปที่ผมเพิ่งกลับมาคือทริปวันที่ 7 - 11 ก.พ. หลังจากที่มีข่าวการระบาดของไวรัส Covid-19 แล้ว ทริปของผมมีตารางเดินเรือตามนี้
วันแรก - ผู้โดยสารขึ้นเรือที่สิงคโปร์
วันที่สอง - เรือเทียบท่าที่กัวลาลัมเปอร์ตอนเช้า ผู้โดยสารขึ้นฝั่งไปเที่ยวได้ เรือออกจากท่าตอนเย็น
วันที่สาม - เรือเทียบท่าที่ปีนังตอนเช้า ผู้โดยสารขึ้นฝั่งไปเที่ยวได้เช่นกัน
วันที่สี่ - อยู่บนเรือทั้งวัน เรือล่องกลับไปที่สิงคโปร์
วันที่ห้า - เทียบท่าที่สิงคโปร์ตอนเช้า ผู้โดยสารออกจากเรือ
จากนั้นเรือก็จะต้อนรับผู้โดยสารชุดใหม่ โดยผู้โดยสารชุดนี้เดินทางวันที่ 11 - 15 ก.พ. เรือมีกำหนดเทียบท่าที่กัวลาลัมเปอร์และภูเก็ต ซึ่งก็คือเส้นทางที่มีประเด็นตอนนี้นั่นเอง
ก่อนเริ่มทริป ผมได้รับอีเมลจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายของเรือ แจ้งเรื่องมาตรการรับมือกับไวรัส โดยเรือจะไม่รับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม ที่เพิ่งเดินทางเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงในช่วง 15 วันที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็เห็นข่าวสิงคโปร์ไม่ให้คนที่เพิ่งเดินทางเข้าออกจีนและฮ่องกงเข้าประเทศเช่นกัน
วันที่ 6 ก.พ. ผมเดินทางถึงสิงคโปร์ (ล่วงหน้าก่อนลงเรือ 1 วัน) ตอนตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่เปิดดูพาสปอร์ตทุกหน้า คาดว่าเพื่อดูว่ามีการเดินทางไปจีนหรือเปล่า ของแฟนผมมีวีซ่าที่เพิ่งขอเพราะกำลังจะไปเรียนต่อที่ฮาร์บิน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าเพิ่งไปจีนมาหรือเปล่า แฟนบอกว่ายังไม่ได้ไป ก็สามารถผ่านเข้าประเทศได้ ไม่มีปัญหาอะไร
วันที่ 7 ก.พ. ผมไปถึงท่าเรือ Marina Bay Cruise Centre เกือบบ่ายโมง ตอนเช็คอินขึ้นเรือ มีกระบวนการหลายขั้นตอนมาก มีเจ้าหน้าที่ยืนถือถุงแอลกอฮอล์ล้างมือฉีดใส่มือผู้โดยสารทุกคน มีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจพาสปอร์ตแบบพลิกดูทุกหน้าเพื่อดูว่าเพิ่งไปจีนมาหรือเปล่า มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พนักงานที่เคาท์เตอร์มีคำถามหลายข้อให้เราตอบ เช่น คุณได้เดินทางเข้าออกจีนหรือฮ่องกงในช่วง 15 วันหรือเปล่า คุณได้ติดต่อกับคนที่เดินทางเข้าออกจีนหรือฮ่องกงในระยะ 2 เมตรหรือเปล่า คุณมีอาการเป็นไข้หรือเปล่า ฯลฯ
หลังจากผ่านด่านเช็คอินแล้ว ก็เดินขึ้นเรือ สามารถไปกินข้าวเที่ยงที่ห้องอาหาร Windjammer Marketplace ที่ชั้น 14 บนเรือได้เลย ก่อนเข้าห้องอาหาร จะมีพนักงานบอกให้เราเดินเข้าห้องล้างมือก่อน มีพนักงานยืนดูว่าเราล้างแล้วจริงๆ น้ำล้างมือค่อนข้างร้อนเลยล่ะ ประมาณน้ำในบ่อออนเซ็น ก๊อกปล่อยสบู่เหลวล้างมือเป็นแบบเซ็นเซอร์ ไม่ต้องใช้มือกดเอง ล้างเสร็จก็ดึงกระดาษทิชชู่เช็ดมือให้แห้ง แล้วค่อยเข้าห้องอาหาร
ห้องน้ำบนเรือก็สะอาดสะอ้านดี ตรงประตูเข้าออกห้องน้ำ ด้านในมีป้ายติดไว้ว่า ให้ใช้กระดาษเช็ดมือจับด้ามประตูเวลาดึงประตูเพื่อออกจากห้องน้ำ
เวลา 15.45 น. มี Guest Assembly Drill ผู้โดยสารจะต้องไปรวมตัวกันในจุดที่กำหนด ห้องผมอยู่ฝั่งหัวเรือ ก็ไปรวมตัวที่ Royal Theater เพื่อรับชมวิดีโอมาตรการความปลอดภัยบนเรือ วิดีโอสนุกมาก ยังกับดูหนัง James Bond ตามล่าสายลับบนเรือ
โฆษกในโรงหนังประกาศมาตรการรับมือไวรัสว่า ขอให้ผู้โดยสารทุกคนล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนเข้าห้องอาหาร และทริปนี้เราจะไม่ Handshaking กันนะ ถ้าใครรู้สึกเป็นไข้ไม่สบาย ให้รีบไปที่ห้องพยาบาลทันที
ผมสังเกตดูจำนวนผู้โดยสารใน Royal Theater น่าจะแค่ครึ่งโรงเท่านั้นเอง คงมีผู้โดยสารจากจีนที่ไม่ได้ขึ้นเรืออยู่พอสมควร จากที่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือ 5 วัน 4 คืน สังเกตว่ามีแต่คนอินเดีย บังกลาเทศ สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย และมีฝรั่งบ้าง ไม่แออัดหรือล้งเล้งดี ห้องอาหารก็มีที่นั่งตลอด ดีงามมาก
สิ่งที่สังเกตอีกอย่างคือบนเรือมีเครื่องฉีดแอลกอฮอล์ล้างมืออยู่ตามจุดต่างๆ เยอะมาก หน้าห้องอาหารทุกห้องมีหมด ไปต่อคิวเล่นรถบั๊มพ์ก็มีพนักงานถือถุงฉีดแอลกอฮอล์ให้ทุกคน ซุ้มไอศกรีมริมสระว่ายน้ำก็มีอ่างล้างมือ
มีหนึ่งวันที่ผมออกจากเรือไปเดินเที่ยวปีนัง ตรงท่าเรือมีเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายมาส่องหน้าผากทุกคน เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ ตอนขึ้นฝั่งก็มีเครื่องวัดเหมือนกัน ตอนนั่งเครื่องกลับไทย ที่ดอนเมืองก็มีกล้องวัดเต็มไปหมด
สิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับเรื่องอนามัยของเรือนี้ก็คือปุ่มกดลิฟต์ มันไม่ใช่ปุ่มกดแล้วยุบเด้งทั่วไป แต่มันเป็นปุ่มคล้ายจอสัมผัสของสมาร์ตโฟน ทำให้เราเอามุมมือถือหรือกุญแจไปจิ้มกดไม่ได้ แต่ต้องใช้นิ้วกดอย่างเดียว ก็เลยต้องเลี่ยงไม่ใช้นิ้วที่เราใช้หยิบจับอาหาร แคะขี้มูกขี้ตา ก็คือใช้นิ้วนางเวลากดลิฟต์ แล้วก็ต้องหาโอกาสล้างมือเวลาออกจากลิฟต์แล้ว
โดยรวมแล้ว เรือมีการควบคุมด้านสุขภาพได้ดีเลย ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะตายเพราะไวรัส Covid-19 หรอก แต่จะตายเพราะน้ำตาลพุ่ง ไขมันอุดตัน เนื่องจากของกินบนเรืออร่อย มีให้กินแบบไม่อั้น กินแบบไม่มีช่วงเวลาให้ร่างกายรู้สึกหิวเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้