ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนให้เผยแพร่ทาง pantip ครับ
ฝากดูสดกันด้วยนะครับ ^^
#ข้อควรรู้ก่อนดูละคร #ทุ่งเสน่หา เสนอเป็นตอนแรกในวันอาทิตย์ ที่ 16 ก.พ.2563 เวลา 20.15 น.ทางช่อง 3กด33
+
1. นวนิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นจากจินตนาการ โดยใช้ฉากเป็นสถานที่จริง หากชื่อตัวละครไปเกี่ยวข้องกับบุคคลใด ผู้เขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
+
2. หากชื่อตัวละครบังเอิญไปตรงกับชื่อคนในสถานที่จริง คือ บ้านหนองน้ำผึ้ง หมู่ 11 ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ผู้เขียนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง ลูก ๆ หลาน ๆ ป้า ๆ ลุง ๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็อย่ามาโกรธเคืองผมเลยนะ คิดถึงหรอก จึงหยิบมาหยอกให้รู้ว่าคิดถึงมาก
+
3. นิยายเรื่อง ทุ่งเสน่หา เขียน ก่อน ละคร สุดแค้นแสนรัก จะออนแอร์ ในปี 2558 ซึ่งตอนที่เขียน ไม่มีกระแสความดังของละครสุดแค้นฯ มากดดัน แต่อย่างใด เขียนขึ้น เพราะเรื่องบังเอิญ
+
4. บังเอิญ อ่านนิยาย งานครู แล้วรู้สึกขัดใจตอนจบ แบบจบได้ ห้วนมาก งงมาก เหมือนถูกนำไปทิ้งไว้กลางทาง ก็เลยรู้สึกอยากเขียนพีเรียดอีกสักเรื่อง โดยในใจ ก็คิด ชื่อนางเอก ขึ้นมา นางมี ชื่อว่า ยุพิณ และ วันนั้น ข้าพเจ้าก็เอ่ยปากถามพี่สาวว่า ถ้าจะตั้งชื่อนางเอกช่วงปี 2515 อีกสักชื่อ จะตั้งชื่อว่าอะไรดี นางก็บอกว่า ยุพิณ มันเป็นเรื่องบังเอิญ......ที่เหมือนถูกเคาะหัวมาว่า เอ็งต้องเขียนแล้วนะ จุฬามณี
+
5. เขียน จบ ไปแล้ว จึงได้รู้ว่า เขียน ชื่อนางเอก ผิด.... ยุพิน ต้องใช้ น. แปลว่า หญิงงาม แต่ข้าพเจ้า ใช้ ณ. ซึ่ง เปิดพจนานุกรมแล้วไม่มีความหมายใด ๆ ก็ ออกเสียงว่า ยุ+พิณ พิณ ที่แปลว่า เครื่องดนตรี ไปละกัน .....เกร๋ ๆ
+
6.เรื่องนี้ได้ แรงบันบาลใจเพิ่มจากการอ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ เรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง บทประพันธ์ ของครู รังสี ทัศนพยัคฆ์ บทความนั้นพูดถึง อิทธิพลหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉายช่วงปลายปี 2513 คือเพลงประกอบ 14 เพลง ดังมาก และ เสื้อผ้า หน้าผม ของตัวละคร ก็มีอิทธิพลกับวงการภาพยนตร์ ในเรื่องอื่น ๆ ในกาลต่อมา รวมถึงข้าพเจ้าย้อนไปนึกถึงรูปในอดีต ของพ่อแม่ ป้า ลุง น้า อา ในช่วงเวลานั้น ก็เห็นสมควรว่า คนยุคนั้น แต่งตัว แต่งหน้าทำผมเลียนแบบตัวละครมนต์รักลูกทุ่งกันจริง ๆ ภาพเสื้อผ้าตัวละครมันชัดเจนมาก
+
7.ด้วยพื้นเดิมเป็นคนชอบ เพลงมนต์รักลูกทุ่ง รวมถึงชอบ เพลงลูกทุ่งทุกยุคสมัยเป็นทุนเดิม ก็ทำให้มาคิดว่า จะทำอย่างไรให้ เพลงในอดีต นั้นกลับมาโด่งดังได้อีก นิยาย เรื่อง ทุ่งเสน่หา เลย ต้องมีฉากบังคับ ให้ตัวละคร ร้องเพลงลูกทุ่ง เสมือนจริง คือ นำเพลงที่ดังจริง ๆ ไปร้องกันตามเวทีประกวด ร้องขำ ๆ ร้องเอาสนุก ร้องเพราะอยากร้อง ร้องเพื่อแสดงความสามารถ แสดงให้เห็นถึงอารมณ์อันสุนทรีย์ของชีวิตคนตามบ้านไร่ปลายนาว่าเขามีความสุขกับเสียงเพลงผ่านรายการวิทยุกันอย่างไรบ้าง
+
8. พอนึกขึ้นมาได้ว่า คนยุคนั้น เรียนรู้ เรื่องราวรอบ ๆ ตัว เช่นข่าวสารบ้านเมือง สิ่งละอันพันละน้อย ผ่านรายการวิทยุ มากกว่าการอ่านหนังสือ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึง สมัยเด็ก ๆ ขึ้นมา ว่า เคยได้ยิน เสียงลิเก และเสียงร้องเพลงประกวด ลอยมากับสายลม....ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ที่โรงเรียนหยุดแล้วต้องช่วยทางบ้านทำงานในไร่....และก็มีช่วงหนึ่ง ที่พ่อกับแม่ ทิ้งลูก ๆ ให้อยู่บ้านตอนกลางคืน เพื่อจะไปดูประกวดร้องเพลง รอบตัดสิน ชื่องาน ‘คนเก่งของแม่’ ที่จัดในค่ายจิรประวัติ โดย แอ๊ด เทวดา ร่วมกับ สถานีวิทยุ วปถ.9
+
9. ข้าพเจ้าไม่รู้หรอกว่า วปถ.9 เริ่มจัดประกวดร้องเพลง รวมถึงมีลิเกเล่นออกอากาศ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอเขียน ทุ่งเสน่หา แล้ว อยาก นำเสนอ วิถีทางสู่ดวงดาวของนักร้องดังหลายต่อหลายคนในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นก็ พี่ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ คน อ.ลาดยาว คือกัน จึงต้องดึง รายการประกวดเวทีนี้มาใช้....หากผิดพลาดคลาดเคลื่อนช่วงเวลาประการใด ก็ขออภัยแฟนคลับนักร้องเวทีนี้ไว้ด้วยนะครับ
+
10. และด้วยช่วงปี 2515 น้าน สื่อวิทยุ ยังมีอิทธิพล กับ ชาวบ้านร้านตลาดเป็นอย่างมาก ผมก็เลยมั่นใจว่า ข่าวไหน ก็คงไม่ดังเท่าข่าว รัฐบาลพยายามปราบปรามคอมมิวนิสต์ฯลฯ....ตอนหลัง ๆ จึงได้พัฒนาเรื่องให้ตัวละคร เชื่อมโยงไปสู่เหตุบ้านการเมืองช่วงนั้น เพื่อให้เรื่องมีอะไรมากกว่าเรื่องในท้องไร่ปลายนา ที่ต้อง เป็นอย่างนั้น เพราะ ครั้งหนึ่ง เคยพาลูกทัวร์ ไปเที่ยวเขาค้อ แล้วลูกทัวร์ท่านหนึ่ง เขาบอกกับผมว่า “พี่ชายเป็นทหาร มาเสี่ยชีวิตที่นี่แหละ แม่รู้ข่าวก็เป็นลมล้มตึง” ฟังแล้วก็สะเทือนใจ....และอะไรที่มันสะเทือน ๆ ใจนี้ ก็เข้ากับเรื่องที่กำลังเขียนพอดี.....
+
11. นิยายทุ่งเสน่หา เขียน ขึ้นเพราะ อยาก โชว์ ประเพณี และวิถีชีวิต ของผู้คน ในถิ่นฐานบ้านเกิด เวลาบรรยาย ฉาก งานบวช งานแต่ง งานรื่นเริงต่าง ๆ จึง ลงไว้อย่างละเอียดเริ่มตั้งแต่วันสุกดิบ จนถึงวันเก็บของส่งคืนวัด อยากบันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่ง บ้านไหนมีตังค์ บวชลูกที หมดเปลืองเท่าไหร่ไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ หนึ่งในนั้น ก็ จะใครละ ย่า ของข้าพเจ้านี่แหละ แม่เล่าว่า ตอน บวชอา มีลิเก มาเล่นฉลองพระบวชใหม่ด้วยนะ ดังนั้น ลิเก จาก เวที วปถ.9 จึงต้องหวนไปสร้างเรื่องราวไว้ที่บ้านหนองน้ำผึ้ง จนกลายเป็น ปม ไปสู่ เรื่อง วาสนารัก แบบบังเอิญ ๆ
+
12. ลงมือเขียน ทุ่งเสน่หา 10 ตอนแรก รวดเดียวเลย แบบสนุกมาก แต่แล้วอารมณ์ก็ชะงัก...เพราะไม่รู้ว่า จะพาความสนุกสนาน ไปจบลงตรงไหน และไม่รู้ว่า กำลังจะพาคนอ่านหนังสือไปที่แห่งใด ข้าพเจ้าจึงหยุดเขียนเสียดื้อ ๆ ทิ้ง ตัวละคร ให้อารมณ์ค้างอยู่ในกระดาษเสียนานสองนาน จนวันหนึ่งรู้สึกว่า ว่าง และ อยากทำงาน จึง กลับมาเปิดคอมฯ นั่งอ่านที่เขียน ไปแล้ว จนกระทั่ง มาสะดุด กับประโยคที่ แม่สำเภา บอกกับ ลูกชาย ว่า “โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกไพฑูรย์” และ เขาก็ย้อนแม่ว่า “มันต้องแน่นอนซิแม่ ถ้าใจเรามั่นคง”......โอเค ข้าพเจ้า ได้ คำตอบ ให้กับ ตัวเองว่า จะพาคนอ่านหนังสือไปที่แห่งใด ซึ่งที่แห่งนั้น อาจจะไม่ใช่ที่ แน่นอน ตั้งแต่วางแผนไว้แน่วแน่ก็เป็นได้ และข้าพเจ้าก็ให้คำจำกัดความนิยาย ชื่อหวานปานนิยายพาฝันว่า มันเป็น เรื่องโศกนาฎกรรมทางความรักของคนหนุ่มคนสาว แบบงาน แผลเก่า นิยายที่เป็นแม่แบบ สำหรับงาน สไตล์จุฬามณี .........ทีนี้เอง ไฟ มา เขียน ไปเรื่อย ๆ จนจบ.....
+
13. แน่นอนว่า พอละคร ทุ่งเสน่หา จะออนแอร์ ข้าพเจ้าได้รับคำถามว่า เรื่อง ทุ่งเสน่หา มีความเกี่ยวข้องกับ เรื่อง สุดแค้นแสนรัก หรือ กรงกรรม อย่างไรบ้างไหม.... ข้าพเจ้ามีคำตอบ...ดังนี้ คนบ้านหนองน้ำผึ้ง เวลาเดินทางไปไหนมาไหน จะต้อง เดินเท้า ออกมาเป็นระยะทางเกือบสิบกิโลเมตรเพื่อมา ขึ้นรถโดยสาร ที่ ตลาดหนองนมวัวซึ่งเป็นท่ารถ เป็นชุมชนใหญ่อยู่ระหว่างตัวอำเภอลาดยาว และตัวตลาดปากน้ำโพ หนองนมวัวมีตลาด มีบ้านแถวเรือนไม้หน้าถนน ขายของใช้ของกิน ในเรื่อง ตัวละคร จากหนองน้ำผึ้ง ก็ยัง นั่งเกวียนหอบเสื่อหอบหมอนมานอนบ้านญาติที่หนองนมวัว เพื่อ มาเที่ยวงานวัดหนองนมวัว ..... และเพื่อให้ จินตนาการ คนอ่าน ไปไกลกว่าละคร ก็จะบอกไว้ว่า เรื่องทุ่งเสน่หา เกิดปีเดียวกับ สุดแค้นแสนรัก นับเวลาจริง ๆ เปิดเรื่องมา เกิดเรื่องขึ้นก่อนด้วยซ้ำ และช่วงเวลา ก็มาคาบเกี่ยวกับสุดแค้นแสนรัก.... ในงานวัดหนองนมวัว คืนนั้นคืนที่มิ่งขวัญและแก้วใจขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงครั้งแรก ถ้าจะคิดไปว่า ลือพงษ์ กับอุไร พะยอม ประยงค์ อัมพร และตัวละคร แซ่บ ๆ อย่างนางแย้ม จะออกจากบ้าน มาเที่ยวงานเดียวกันนั่งฟังเสียงเพลงหวาน ๆ ก็ยังได้....หรือตอนที่ แก้วใจ นั่งรถโดยสารถือจดหมายไปหาหลวงพี่ไพฑูรย์ ที่วัดโพธาราม ก็ไปรถเที่ยวเดียวกับ พะยอม อุไร ที่เริ่มหมางใจกันเพราะ คดีความของพ่อก็ยังได้....แต่ที่แน่นอน ทั้งไพฑูรย์ และ มิ่งขวัญ บวช ที่วัดหนองนมวัว จ้า เพราะวัดดงจังหัน วัดดอนขวาง รวมถึงวัดหนองน้ำผึ้ง ยังไม่มีโบสถ์ ........นอกจากนี้ ก็ยังมีตัวละคร อีกตัวที่ผมดึง ไปจากเรื่อง ทุ่งเสน่หา ไปโลดแล่นอยู่ในกรงกรรม ก็คือ พี่ประนอม แห่งแก๊งค์นางฟ้าตาคลี......ตัวละคร ตัวนี้ คือ คน ๆ เดียวกันจ้า... เพราะกรงกรรม เขียนทีหลัง จึงสามารถเชื่อมกับเชื้อที่ทิ้งไว้ได้สนิท.......และตัวละคร ตัวนี้ ก็ยังจะมามีบทบาท ในเรื่อง บุษบาตาคลี และ ฉันทนาท่าตะโก อีกด้วย อุ๊บ!
+
14. ด้วยละคร สุดแค้นแสนรัก ยังไม่ได้ ออนแอร์ แน่นอนว่า ไม่มีอะไรมากดดัน ข้าพเจ้า เขียน จบ ก็เลย ส่งไฟล์ต้นฉบับเข้าอีเมลของผู้ใหญ่ใจดีทางช่อง 3 ในตอนบ่ายวันหนึ่ง......และวันรุ่งขึ้น ก็ได้รับโทรศัพท์ ว่า “เรื่องผ่านการพิจารณาแล้วค่ะ คุณสมรักษ์ อ่านทั้งคืนเลย เช้ามารีบให้พี่โทรมาบอกคุณว่า ตกลงช่องซื้อและก็เขียนภาคต่อรุ่นลูกได้เลย....”
+
15. นับเป็นอะไรที่วิเศษที่สุด ในชีวิตคนเขียนนิยายละ เพราะปกติ กว่า นิยาย จะผ่าน การพิจารณา จากสถานีโทรทัศน์ ใช้เวลาในการพิจารณา ยาวนานมาก ทุ่งเสน่หา จึงถือเป็นขวัญและกำลังใจ อย่างแรง ทำให้มั่นใจว่า จุฬามณี เริ่มมีทางเดินไปสู่ดวงดาวแล้ว......
+
16. วันไปเซ็นสัญญา คุณสมรักษ์ บอกว่า เรื่องนี้จะให้ พี่คิง สมจริง ศรีสุภาพ เป็นผู้ผลิต...ผมก็ครับ ๆ .....แล้วแต่ผู้ใหญ่เห็นสมควร รับเช็ค แล้วก็ กลับบ้านมาใช้เงิน....พร้อมกับกับคิดพล็อตภาคต่อ ชนิด บ้านหมุนติ้ววววววววว..........วาสนารัก กดดันเข้าให้แล้ว
+
17. ต้นปี 2561 พี่คิง โทรมาบอกว่า บทละครเสร็จ ละนะ พี่จะเริ่มงานถ่ายทำละ.....พี่อยากเห็น หมู่บ้านหนองน้ำผึ้ง...พาพี่ไปดูหน่อยซิ...... พี่คิงมานครสวรรค์กับทีมงานหนึ่งรถตู้.....ผมก็พาไปหมู่บ้านหนองน้ำผึ้ง อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งติดกับหมู่บ้านดงจังหัน บ้านเกิดผม พร้อมกับบอกว่า หมู่บ้านนี้มีอะไรแบบที่เห็นนี่แหละ.... ไกลปืนเที่ยงจริง ๆ พี่ /แล้วทำไมเฟื่อง ถึง ใช้สถานที่ที่นี่ละ......ผมก็บอกไปว่า ก็ ไม่รู้จะไปใช้ที่ไหนซึ่งพอจะเป็นเซฟโซนกันคนมาด่าเพราะเขียนตัวละครแต่ละตัวร้ายเกินคนปกติ บ้านดงจังหัน บ้านตัวเอง ก็มีแต่ไร่ มากกว่า นา จะใช้ เป็นฉากทุ่งเสน่หา ก็ไม่ใช่อีก...... ก็เลยต้องขยับ มาไว้หมู่บ้านนี้แหละ และที่สำคัญ คือ บ้านผมมีนาอยู่ที่นี่ด้วย เผื่อละครดัง ราคา ที่นาจะขึ้นบ้างอะไรบ้าง 555555++++
+
18. พอพี่คิงมาถึงนครสวรรค์แล้ว ก็เลย ถือโอกาส อ้อนเสียหน่อย อ้อนว่า พี่ๆ ชิงชัง สุดแค้นแสนรัก รวมถึง กรงกรรม ไม่ได้มาถ่ายที่นครสวรรค์สักฉากเลยอ่ะ คนก็ถามผมจังว่าเขามาถ่ายบ้านเราบ้างไหม อะไรแบบนี้ ถ้าจะขออะไรพี่สักข้อ ก็ขอให้พี่ ยกกองถ่ายมาถ่ายทำที่นครสวรรค์สักฉากเถอะนะครับ....ผมจะได้ตอบเขาได้ และ คนนครสวรรค์ จะได้ รู้สึกตื่นเต้นกว่าที่เคยตื่นเต้นเวลาละครออนแอร์ ได้ไหมครับ พี่คิง บอกว่า ได้ซิ.......
+
19. ละครทุ่งเสน่หา ถ่ายที่นครสวรรค์ หลายฉากอยู่เหมือนกัน มีในค่ายจิรประวัติ ในตลาดเทศบาลนครสวรรค์ รวมถึง ตลาดชุมแสง ริมน้ำวัดเกาะหงษ์ ในอุทยานสวรรค์ ฯลฯ อย่างไร ช่วงละครออนแอร์ ก็จับตาดูกันด้วยนะครับว่า ฉากนี้ใช่ฉากที่ถ่ายที่บ้านเราหรือเปล่า และ มีคนใกล้ ๆ ตัวเราเป็นดาราหน้ากล้องบ้างหรือเปล่า?
+
และแน่นอนว่า ดูแล้วชอบก็เชียร์ แชร์ ไปให้สุดขอบจักรวาล....
ภูมิใจนำเสนอนครสวรรค์ บ้านเกิดเมืองนอนเช่นเคย.........
+
รักนะจุ๊บ ๆ
ปล.นิยายทุ่งเสน่หา ราคาปก 450 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ.......และถ้าต้องการแบบมีลายเซ็นเกร๋ ๆ จาก นักเขียน 360 บาท รวมค่าจัดส่งแบบพัสดุธรรม +ของที่ระลึก (ทำมานิดหน่อย)........สอบถามรายละเอียดการสั่งซื้อได้ที่กล่องข้อความนะครับ.........
ทดลองอ่านตัวอย่าง ได้ที่นี่ครับ
https://www.readawrite.com/a/3dd622b3ff716833d9852c9337630cc0 
ขอควรรู้ก่อนชมละคร “ทุ่งเสน่หา” จากผู้เขียน : จุฬามณี
ฝากดูสดกันด้วยนะครับ ^^
#ข้อควรรู้ก่อนดูละคร #ทุ่งเสน่หา เสนอเป็นตอนแรกในวันอาทิตย์ ที่ 16 ก.พ.2563 เวลา 20.15 น.ทางช่อง 3กด33
+
1. นวนิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นจากจินตนาการ โดยใช้ฉากเป็นสถานที่จริง หากชื่อตัวละครไปเกี่ยวข้องกับบุคคลใด ผู้เขียนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
+
2. หากชื่อตัวละครบังเอิญไปตรงกับชื่อคนในสถานที่จริง คือ บ้านหนองน้ำผึ้ง หมู่ 11 ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ผู้เขียนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง ลูก ๆ หลาน ๆ ป้า ๆ ลุง ๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็อย่ามาโกรธเคืองผมเลยนะ คิดถึงหรอก จึงหยิบมาหยอกให้รู้ว่าคิดถึงมาก
+
3. นิยายเรื่อง ทุ่งเสน่หา เขียน ก่อน ละคร สุดแค้นแสนรัก จะออนแอร์ ในปี 2558 ซึ่งตอนที่เขียน ไม่มีกระแสความดังของละครสุดแค้นฯ มากดดัน แต่อย่างใด เขียนขึ้น เพราะเรื่องบังเอิญ
+
4. บังเอิญ อ่านนิยาย งานครู แล้วรู้สึกขัดใจตอนจบ แบบจบได้ ห้วนมาก งงมาก เหมือนถูกนำไปทิ้งไว้กลางทาง ก็เลยรู้สึกอยากเขียนพีเรียดอีกสักเรื่อง โดยในใจ ก็คิด ชื่อนางเอก ขึ้นมา นางมี ชื่อว่า ยุพิณ และ วันนั้น ข้าพเจ้าก็เอ่ยปากถามพี่สาวว่า ถ้าจะตั้งชื่อนางเอกช่วงปี 2515 อีกสักชื่อ จะตั้งชื่อว่าอะไรดี นางก็บอกว่า ยุพิณ มันเป็นเรื่องบังเอิญ......ที่เหมือนถูกเคาะหัวมาว่า เอ็งต้องเขียนแล้วนะ จุฬามณี
+
5. เขียน จบ ไปแล้ว จึงได้รู้ว่า เขียน ชื่อนางเอก ผิด.... ยุพิน ต้องใช้ น. แปลว่า หญิงงาม แต่ข้าพเจ้า ใช้ ณ. ซึ่ง เปิดพจนานุกรมแล้วไม่มีความหมายใด ๆ ก็ ออกเสียงว่า ยุ+พิณ พิณ ที่แปลว่า เครื่องดนตรี ไปละกัน .....เกร๋ ๆ
+
6.เรื่องนี้ได้ แรงบันบาลใจเพิ่มจากการอ่านบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ เรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง บทประพันธ์ ของครู รังสี ทัศนพยัคฆ์ บทความนั้นพูดถึง อิทธิพลหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉายช่วงปลายปี 2513 คือเพลงประกอบ 14 เพลง ดังมาก และ เสื้อผ้า หน้าผม ของตัวละคร ก็มีอิทธิพลกับวงการภาพยนตร์ ในเรื่องอื่น ๆ ในกาลต่อมา รวมถึงข้าพเจ้าย้อนไปนึกถึงรูปในอดีต ของพ่อแม่ ป้า ลุง น้า อา ในช่วงเวลานั้น ก็เห็นสมควรว่า คนยุคนั้น แต่งตัว แต่งหน้าทำผมเลียนแบบตัวละครมนต์รักลูกทุ่งกันจริง ๆ ภาพเสื้อผ้าตัวละครมันชัดเจนมาก
+
7.ด้วยพื้นเดิมเป็นคนชอบ เพลงมนต์รักลูกทุ่ง รวมถึงชอบ เพลงลูกทุ่งทุกยุคสมัยเป็นทุนเดิม ก็ทำให้มาคิดว่า จะทำอย่างไรให้ เพลงในอดีต นั้นกลับมาโด่งดังได้อีก นิยาย เรื่อง ทุ่งเสน่หา เลย ต้องมีฉากบังคับ ให้ตัวละคร ร้องเพลงลูกทุ่ง เสมือนจริง คือ นำเพลงที่ดังจริง ๆ ไปร้องกันตามเวทีประกวด ร้องขำ ๆ ร้องเอาสนุก ร้องเพราะอยากร้อง ร้องเพื่อแสดงความสามารถ แสดงให้เห็นถึงอารมณ์อันสุนทรีย์ของชีวิตคนตามบ้านไร่ปลายนาว่าเขามีความสุขกับเสียงเพลงผ่านรายการวิทยุกันอย่างไรบ้าง
+
8. พอนึกขึ้นมาได้ว่า คนยุคนั้น เรียนรู้ เรื่องราวรอบ ๆ ตัว เช่นข่าวสารบ้านเมือง สิ่งละอันพันละน้อย ผ่านรายการวิทยุ มากกว่าการอ่านหนังสือ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึง สมัยเด็ก ๆ ขึ้นมา ว่า เคยได้ยิน เสียงลิเก และเสียงร้องเพลงประกวด ลอยมากับสายลม....ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ที่โรงเรียนหยุดแล้วต้องช่วยทางบ้านทำงานในไร่....และก็มีช่วงหนึ่ง ที่พ่อกับแม่ ทิ้งลูก ๆ ให้อยู่บ้านตอนกลางคืน เพื่อจะไปดูประกวดร้องเพลง รอบตัดสิน ชื่องาน ‘คนเก่งของแม่’ ที่จัดในค่ายจิรประวัติ โดย แอ๊ด เทวดา ร่วมกับ สถานีวิทยุ วปถ.9
+
9. ข้าพเจ้าไม่รู้หรอกว่า วปถ.9 เริ่มจัดประกวดร้องเพลง รวมถึงมีลิเกเล่นออกอากาศ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอเขียน ทุ่งเสน่หา แล้ว อยาก นำเสนอ วิถีทางสู่ดวงดาวของนักร้องดังหลายต่อหลายคนในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นก็ พี่ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ คน อ.ลาดยาว คือกัน จึงต้องดึง รายการประกวดเวทีนี้มาใช้....หากผิดพลาดคลาดเคลื่อนช่วงเวลาประการใด ก็ขออภัยแฟนคลับนักร้องเวทีนี้ไว้ด้วยนะครับ
+
10. และด้วยช่วงปี 2515 น้าน สื่อวิทยุ ยังมีอิทธิพล กับ ชาวบ้านร้านตลาดเป็นอย่างมาก ผมก็เลยมั่นใจว่า ข่าวไหน ก็คงไม่ดังเท่าข่าว รัฐบาลพยายามปราบปรามคอมมิวนิสต์ฯลฯ....ตอนหลัง ๆ จึงได้พัฒนาเรื่องให้ตัวละคร เชื่อมโยงไปสู่เหตุบ้านการเมืองช่วงนั้น เพื่อให้เรื่องมีอะไรมากกว่าเรื่องในท้องไร่ปลายนา ที่ต้อง เป็นอย่างนั้น เพราะ ครั้งหนึ่ง เคยพาลูกทัวร์ ไปเที่ยวเขาค้อ แล้วลูกทัวร์ท่านหนึ่ง เขาบอกกับผมว่า “พี่ชายเป็นทหาร มาเสี่ยชีวิตที่นี่แหละ แม่รู้ข่าวก็เป็นลมล้มตึง” ฟังแล้วก็สะเทือนใจ....และอะไรที่มันสะเทือน ๆ ใจนี้ ก็เข้ากับเรื่องที่กำลังเขียนพอดี.....
+
11. นิยายทุ่งเสน่หา เขียน ขึ้นเพราะ อยาก โชว์ ประเพณี และวิถีชีวิต ของผู้คน ในถิ่นฐานบ้านเกิด เวลาบรรยาย ฉาก งานบวช งานแต่ง งานรื่นเริงต่าง ๆ จึง ลงไว้อย่างละเอียดเริ่มตั้งแต่วันสุกดิบ จนถึงวันเก็บของส่งคืนวัด อยากบันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่ง บ้านไหนมีตังค์ บวชลูกที หมดเปลืองเท่าไหร่ไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ หนึ่งในนั้น ก็ จะใครละ ย่า ของข้าพเจ้านี่แหละ แม่เล่าว่า ตอน บวชอา มีลิเก มาเล่นฉลองพระบวชใหม่ด้วยนะ ดังนั้น ลิเก จาก เวที วปถ.9 จึงต้องหวนไปสร้างเรื่องราวไว้ที่บ้านหนองน้ำผึ้ง จนกลายเป็น ปม ไปสู่ เรื่อง วาสนารัก แบบบังเอิญ ๆ
+
12. ลงมือเขียน ทุ่งเสน่หา 10 ตอนแรก รวดเดียวเลย แบบสนุกมาก แต่แล้วอารมณ์ก็ชะงัก...เพราะไม่รู้ว่า จะพาความสนุกสนาน ไปจบลงตรงไหน และไม่รู้ว่า กำลังจะพาคนอ่านหนังสือไปที่แห่งใด ข้าพเจ้าจึงหยุดเขียนเสียดื้อ ๆ ทิ้ง ตัวละคร ให้อารมณ์ค้างอยู่ในกระดาษเสียนานสองนาน จนวันหนึ่งรู้สึกว่า ว่าง และ อยากทำงาน จึง กลับมาเปิดคอมฯ นั่งอ่านที่เขียน ไปแล้ว จนกระทั่ง มาสะดุด กับประโยคที่ แม่สำเภา บอกกับ ลูกชาย ว่า “โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกไพฑูรย์” และ เขาก็ย้อนแม่ว่า “มันต้องแน่นอนซิแม่ ถ้าใจเรามั่นคง”......โอเค ข้าพเจ้า ได้ คำตอบ ให้กับ ตัวเองว่า จะพาคนอ่านหนังสือไปที่แห่งใด ซึ่งที่แห่งนั้น อาจจะไม่ใช่ที่ แน่นอน ตั้งแต่วางแผนไว้แน่วแน่ก็เป็นได้ และข้าพเจ้าก็ให้คำจำกัดความนิยาย ชื่อหวานปานนิยายพาฝันว่า มันเป็น เรื่องโศกนาฎกรรมทางความรักของคนหนุ่มคนสาว แบบงาน แผลเก่า นิยายที่เป็นแม่แบบ สำหรับงาน สไตล์จุฬามณี .........ทีนี้เอง ไฟ มา เขียน ไปเรื่อย ๆ จนจบ.....
+
13. แน่นอนว่า พอละคร ทุ่งเสน่หา จะออนแอร์ ข้าพเจ้าได้รับคำถามว่า เรื่อง ทุ่งเสน่หา มีความเกี่ยวข้องกับ เรื่อง สุดแค้นแสนรัก หรือ กรงกรรม อย่างไรบ้างไหม.... ข้าพเจ้ามีคำตอบ...ดังนี้ คนบ้านหนองน้ำผึ้ง เวลาเดินทางไปไหนมาไหน จะต้อง เดินเท้า ออกมาเป็นระยะทางเกือบสิบกิโลเมตรเพื่อมา ขึ้นรถโดยสาร ที่ ตลาดหนองนมวัวซึ่งเป็นท่ารถ เป็นชุมชนใหญ่อยู่ระหว่างตัวอำเภอลาดยาว และตัวตลาดปากน้ำโพ หนองนมวัวมีตลาด มีบ้านแถวเรือนไม้หน้าถนน ขายของใช้ของกิน ในเรื่อง ตัวละคร จากหนองน้ำผึ้ง ก็ยัง นั่งเกวียนหอบเสื่อหอบหมอนมานอนบ้านญาติที่หนองนมวัว เพื่อ มาเที่ยวงานวัดหนองนมวัว ..... และเพื่อให้ จินตนาการ คนอ่าน ไปไกลกว่าละคร ก็จะบอกไว้ว่า เรื่องทุ่งเสน่หา เกิดปีเดียวกับ สุดแค้นแสนรัก นับเวลาจริง ๆ เปิดเรื่องมา เกิดเรื่องขึ้นก่อนด้วยซ้ำ และช่วงเวลา ก็มาคาบเกี่ยวกับสุดแค้นแสนรัก.... ในงานวัดหนองนมวัว คืนนั้นคืนที่มิ่งขวัญและแก้วใจขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงครั้งแรก ถ้าจะคิดไปว่า ลือพงษ์ กับอุไร พะยอม ประยงค์ อัมพร และตัวละคร แซ่บ ๆ อย่างนางแย้ม จะออกจากบ้าน มาเที่ยวงานเดียวกันนั่งฟังเสียงเพลงหวาน ๆ ก็ยังได้....หรือตอนที่ แก้วใจ นั่งรถโดยสารถือจดหมายไปหาหลวงพี่ไพฑูรย์ ที่วัดโพธาราม ก็ไปรถเที่ยวเดียวกับ พะยอม อุไร ที่เริ่มหมางใจกันเพราะ คดีความของพ่อก็ยังได้....แต่ที่แน่นอน ทั้งไพฑูรย์ และ มิ่งขวัญ บวช ที่วัดหนองนมวัว จ้า เพราะวัดดงจังหัน วัดดอนขวาง รวมถึงวัดหนองน้ำผึ้ง ยังไม่มีโบสถ์ ........นอกจากนี้ ก็ยังมีตัวละคร อีกตัวที่ผมดึง ไปจากเรื่อง ทุ่งเสน่หา ไปโลดแล่นอยู่ในกรงกรรม ก็คือ พี่ประนอม แห่งแก๊งค์นางฟ้าตาคลี......ตัวละคร ตัวนี้ คือ คน ๆ เดียวกันจ้า... เพราะกรงกรรม เขียนทีหลัง จึงสามารถเชื่อมกับเชื้อที่ทิ้งไว้ได้สนิท.......และตัวละคร ตัวนี้ ก็ยังจะมามีบทบาท ในเรื่อง บุษบาตาคลี และ ฉันทนาท่าตะโก อีกด้วย อุ๊บ!
+
14. ด้วยละคร สุดแค้นแสนรัก ยังไม่ได้ ออนแอร์ แน่นอนว่า ไม่มีอะไรมากดดัน ข้าพเจ้า เขียน จบ ก็เลย ส่งไฟล์ต้นฉบับเข้าอีเมลของผู้ใหญ่ใจดีทางช่อง 3 ในตอนบ่ายวันหนึ่ง......และวันรุ่งขึ้น ก็ได้รับโทรศัพท์ ว่า “เรื่องผ่านการพิจารณาแล้วค่ะ คุณสมรักษ์ อ่านทั้งคืนเลย เช้ามารีบให้พี่โทรมาบอกคุณว่า ตกลงช่องซื้อและก็เขียนภาคต่อรุ่นลูกได้เลย....”
+
15. นับเป็นอะไรที่วิเศษที่สุด ในชีวิตคนเขียนนิยายละ เพราะปกติ กว่า นิยาย จะผ่าน การพิจารณา จากสถานีโทรทัศน์ ใช้เวลาในการพิจารณา ยาวนานมาก ทุ่งเสน่หา จึงถือเป็นขวัญและกำลังใจ อย่างแรง ทำให้มั่นใจว่า จุฬามณี เริ่มมีทางเดินไปสู่ดวงดาวแล้ว......
+
16. วันไปเซ็นสัญญา คุณสมรักษ์ บอกว่า เรื่องนี้จะให้ พี่คิง สมจริง ศรีสุภาพ เป็นผู้ผลิต...ผมก็ครับ ๆ .....แล้วแต่ผู้ใหญ่เห็นสมควร รับเช็ค แล้วก็ กลับบ้านมาใช้เงิน....พร้อมกับกับคิดพล็อตภาคต่อ ชนิด บ้านหมุนติ้ววววววววว..........วาสนารัก กดดันเข้าให้แล้ว
+
17. ต้นปี 2561 พี่คิง โทรมาบอกว่า บทละครเสร็จ ละนะ พี่จะเริ่มงานถ่ายทำละ.....พี่อยากเห็น หมู่บ้านหนองน้ำผึ้ง...พาพี่ไปดูหน่อยซิ...... พี่คิงมานครสวรรค์กับทีมงานหนึ่งรถตู้.....ผมก็พาไปหมู่บ้านหนองน้ำผึ้ง อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งติดกับหมู่บ้านดงจังหัน บ้านเกิดผม พร้อมกับบอกว่า หมู่บ้านนี้มีอะไรแบบที่เห็นนี่แหละ.... ไกลปืนเที่ยงจริง ๆ พี่ /แล้วทำไมเฟื่อง ถึง ใช้สถานที่ที่นี่ละ......ผมก็บอกไปว่า ก็ ไม่รู้จะไปใช้ที่ไหนซึ่งพอจะเป็นเซฟโซนกันคนมาด่าเพราะเขียนตัวละครแต่ละตัวร้ายเกินคนปกติ บ้านดงจังหัน บ้านตัวเอง ก็มีแต่ไร่ มากกว่า นา จะใช้ เป็นฉากทุ่งเสน่หา ก็ไม่ใช่อีก...... ก็เลยต้องขยับ มาไว้หมู่บ้านนี้แหละ และที่สำคัญ คือ บ้านผมมีนาอยู่ที่นี่ด้วย เผื่อละครดัง ราคา ที่นาจะขึ้นบ้างอะไรบ้าง 555555++++
+
18. พอพี่คิงมาถึงนครสวรรค์แล้ว ก็เลย ถือโอกาส อ้อนเสียหน่อย อ้อนว่า พี่ๆ ชิงชัง สุดแค้นแสนรัก รวมถึง กรงกรรม ไม่ได้มาถ่ายที่นครสวรรค์สักฉากเลยอ่ะ คนก็ถามผมจังว่าเขามาถ่ายบ้านเราบ้างไหม อะไรแบบนี้ ถ้าจะขออะไรพี่สักข้อ ก็ขอให้พี่ ยกกองถ่ายมาถ่ายทำที่นครสวรรค์สักฉากเถอะนะครับ....ผมจะได้ตอบเขาได้ และ คนนครสวรรค์ จะได้ รู้สึกตื่นเต้นกว่าที่เคยตื่นเต้นเวลาละครออนแอร์ ได้ไหมครับ พี่คิง บอกว่า ได้ซิ.......
+
19. ละครทุ่งเสน่หา ถ่ายที่นครสวรรค์ หลายฉากอยู่เหมือนกัน มีในค่ายจิรประวัติ ในตลาดเทศบาลนครสวรรค์ รวมถึง ตลาดชุมแสง ริมน้ำวัดเกาะหงษ์ ในอุทยานสวรรค์ ฯลฯ อย่างไร ช่วงละครออนแอร์ ก็จับตาดูกันด้วยนะครับว่า ฉากนี้ใช่ฉากที่ถ่ายที่บ้านเราหรือเปล่า และ มีคนใกล้ ๆ ตัวเราเป็นดาราหน้ากล้องบ้างหรือเปล่า?
+
และแน่นอนว่า ดูแล้วชอบก็เชียร์ แชร์ ไปให้สุดขอบจักรวาล....
ภูมิใจนำเสนอนครสวรรค์ บ้านเกิดเมืองนอนเช่นเคย.........
+
รักนะจุ๊บ ๆ
ปล.นิยายทุ่งเสน่หา ราคาปก 450 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ.......และถ้าต้องการแบบมีลายเซ็นเกร๋ ๆ จาก นักเขียน 360 บาท รวมค่าจัดส่งแบบพัสดุธรรม +ของที่ระลึก (ทำมานิดหน่อย)........สอบถามรายละเอียดการสั่งซื้อได้ที่กล่องข้อความนะครับ.........
ทดลองอ่านตัวอย่าง ได้ที่นี่ครับ
https://www.readawrite.com/a/3dd622b3ff716833d9852c9337630cc0