ในปี 2001 มีอีกปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการออสการ์ นั่นก็คือ มีภาพยนตร์จากเอเชียเรื่องหนึ่งสามารถทะลุได้เข้าไปถึงระดับเข้าชิง Best Picture นั่นก็คือ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ภาพยนตร์สัญชาติไต้หวันที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างไต้หวัน ฮ่องกง จีน และสหรัฐฯ ตัวหนังเรื่องนี้ได้รับการกำกับโดย Ang Lee ผู้กำกับชาวไต้หวันที่มีผลงานระดับออสการ์ เช่น Brokeback Mountain (2006), Life of pi (2012) 
     Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ถือเป็น Foreign Film จากเอเชียเรื่องแรกที่มีสามารถเข้าชิง Best Picture ได้ เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์ในขณะนั้นเช่นเดียวกับ Parasite เพราะตัวหนังได้รับเสียงวิจารณ์ดีเยี่ยม และนอกจากจะเป็นหนังเอเชียที่เข้าชิง Best Picture ได้แล้ว หนังก็ยังเข้าชิงสาขาอื่นๆ อีกมากมาย โดยเข้าชิงออสการ์ไป 10 สาขาและกวาดมาได้ถึง 4 รางวัล พร้อมทำสถิติใหม่ได้หลายๆ อย่าง

     สาขาหลักที่เข้าชิง ได้แก่ Best Picture, Best Director, Best Screenplay - นับว่าไม่ธรรมดาเลย...
     สาเหตุที่ Crouching Tiger, Hidden Dragon มาได้ไกลขนาดนี้ อย่างแรกต้องบอกว่าคุณภาพ Crouching Tiger, Hidden Dragon ทั้งตัวภาพยนตร์ บท งานภาพ งานโปรดักชั่น องค์รวมถือว่าดีในระดับสากลในระดับที่ไปแข่งกับคนอื่นได้สบาย
 
     แต่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้หนังสำเร็จ ผมคิดว่ามาจากวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ... Ang Lee แกสามารถตีความหนังกำลังภายในที่อยู่ในจินตนาการให้ยืนอยู่บนฐานของโลกความเป็นจริงได้ พร้อมกับสื่อถึงปรัชญาตะวันออก / วิถีแบบเอเชียได้อย่างคมคาย ในขณะเดียวกันหนังก็มีความเป็นสากลที่กลุ่มผู้ชมที่ไม่ใช่ชาวเอเชียสามารถเข้าใจได้ จนทุกคนสามารถรับรู้และรู้สึกประทับใจได้ในระดับวงกว้าง (คล้ายๆ กับ Parasite)
 
     นี่ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ทั้งกลุ่มนักวิจารณ์และผู้ชมตะวันตกจะเซอร์ไพร์สและประทับใจในตัวหนัง เกิดเป็นกระแสและดันให้หนังประสบความสำเร็จในโลกตะวันตก...
     
     จริงๆ แล้ว ในปี 2006 ก็มีอีกเรื่องที่เป็น Foreign Language Film เข้าชิง Best Picture มาได้เหมือนกัน ก็คือ Letter from Iwo Jima (2006) แต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนภาพยนตร์เอเชียได้เต็มตัว แม้ว่าเรื่องนี้จะใช้ภาษาญี่ปุ่นสื่อสารกันทั้งเรื่อง แต่ว่าตัวผู้กำกับนั่นก็คือ Clint Eastwood ก็ไม่ได้เป็นชาวเอเชีย อีกทั้งกอง Production ส่วนใหญ่ก็มาจากฟากของสหรัฐฯ 
จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ถึง Parasite (2019)
    มาถึงตอนนี้ปี 2020 นับแล้วก็เกือบ 20 ปี กว่าจะมีภาพยนตร์จากเอเชียที่ทำได้แบบนี้... ผมต้องขอชื่นชม Parasite และตัวผู้กำกับ บอง จุน โฮ ที่สามารถคว้า Best Picture ไปได้ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับหนังภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะหนังเอเชียให้ได้เข้าไปมีโอกาสแบบนี้มากขึ้น (หากมีฝีมือจริง) 

     ในยุคที่กำแพงเชื้อชาติและภาษาลดลง เชื่อว่าจากนี้ไป แนวโน้มหนังเอเชียคงจะบูมในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ ซึ่งก็เป็นผลดีกับผู้ผลิตหนังจากเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย เรียกได้ว่าหากมีผลงานดีๆ โอกาสที่จะเข้าไปทำรายได้ สร้างกระแส หรือเผยแพร่โลกทัศน์ภาพยนตร์ในมุมมองเอเชีย (หรือไทย) ก็ทำได้ง่ายขึ้น โดยมี Case Study ดีๆ อย่าง Parasite เป็นตัวไกด์แนวทางได้

     สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้... สาเหตุที่เขียนกระทู้นี้ก็มาจากอยากจะแชร์ภาพยนตร์ดีๆ ให้ทุกคนได้รู้จักกัน Crouching Tiger, Hidden Dragon อาจจะไม่ใช่หนังที่ดูง่ายอย่าง Parasite แต่ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ดีๆ ที่คอภาพยนตร์ไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียว