บุญ-กรรมและความรัก

รากกิ่งก้านต้นจนใบยอด
จึงอยู่รอดด้วยสัมพันธ์อย่างชัดแจ้ง
ก่อนลาโลกจากดินสิ้นเรี่ยงแรง
สะสมแสงแห่งธรรมไว้นำทาง    



เย็นวานนี้ ผมคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งหลายเรื่อง ท่านถามถึงชีวิต พื้นฐานครอบครัวของผม เรียนอะไรมา จบอะไรมา ทำงานอะไร บวชมานานแค่ไหน "ทำไมถึงชอบทำบุญ" 
คำถามแรกก็จี้ใจ ชวนให้คิดไปว่า ผมทำอะไรที่มันเกินดี เกินงามไป หรือไปสร้างความน่าฉงนสนเท่ให้เกิดขึ้นหรือเปล่า หรือแค่อยากรู้มูลเหตุที่ทำให้ผมทำแบบนั้น
ผมก็ตอบไปยิ้มๆว่า  
"ทำบาปมันยาก ..อันนี้ล้อเล่นครับ" 
เจ้าของคำถามยิ้มน้อยๆ จากนั้นผมก็อธิบายต่อไปว่า
 
ผมเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด 
เชื่อสังสารวัฏ และเชื่อว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นโชคดีนักหนา ที่ได้เกิดมาสร้างบุญ สะสมบารมี จะเพื่อไปสู่ที่ดีๆ ในภพภูมิหน้า หรือ ไม่กลับมาเวียนว่ายตายและเกิดอีกก็แล้วแต่ ในหนึ่งชีวิตมนุษย์เล็กๆ อย่างผมโชคดีเป็นสองเท่าที่ได้รู้จักพระพุทธศาสนา ดังนั้นสิ่งไหนดี ทำไหว ทำได้ไม่เดือดร้อน จึงหมั่นทำบุญ สะสมเอาบุญนั้นไว้ในขณะยังมีลมหายใจอยู่ เพราะเมื่อไม่มีลมหายใจ ไม่มีกายสังขาลแล้ว เหลือลำพังดวงจิตจะไปประกอบกิจกุศล ทานบารมีสิ่งใดนั้นก็หาได้ไม่
มีทุกข์ทำอย่างไร 
ก็ทุกข์สิครับ ทุกข์เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่ต้องอยู่กับทุกข์ไม่นาน ไม่ทดท้อใจ ไม่โทษในวาสนา แก้ปัญหา หาทางออก อุปสรรค เคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นมาในชีวิตเดี๋ยวมันก็ผ่านไป  มีโชค มีวาสนาก็พึงพอใจ ไม่ได้ลิงโลด เพลินหลงไหล ไม่ประมาท เพราะทุกอย่างมีเกิด มีดับ มียศ ก็เสื่อมยศ มีลาภก็เสื่อมลาภ พยายามศึกษา มองอย่างเข้าใจว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป มันก็เป็นเช่นนั้น  

บุญกุศลและความดีนั้นไม่มีวันเสื่อมสูญ 
อย่างที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสอน ผมเชื่อว่าความดีจะเป็นเกราะคุ้มกันเราจากสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย จากความเกลียดชัง ความริษยาทั้งหลาย  ผมแผ่บุญถึงลูกถึงภรรยา พ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ถึงทุกคนที่เรารัก ปรารถนาให้ทุกคนมีความสุข ผ่อนปรนเคราะห์กรรม ร้ายจากหนักก็จะเบา หากเบาก็จะไม่เกิดขึ้น จางหายไปเอง แคล้วคลาดไป 
พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความรัก 
ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้น เพราะเรามอบความรักและสิ่งดีๆให้กันได้ มีแนวทางพ้นทุกข์ให้ได้ศึกษา ปฏิบัติ ความรักแบบของผมมันอธิบายว่า หน้าที่ของเราเมื่อเกิดมาจึงควรปกป้องคุ้มครองบริวาร ให้ทุกข์และเคราะห์นั้นผ่านพ้นไป กรรมจากการทำเลวหรือคำสาบแช่งจากผู้ที่ได้รับการทำร้ายจากเรานั้น บางทีมันก็ไปเกิดกับคนที่เรารักมากๆ  หากเกิดกับเราเองนั้น ผมรับมือได้ แต่หากเกิดกับคนที่เรารักนั้น ความสงสารและเห็นใจมันทุกข์ทรมาณอย่างยิ่ง โรคภัย ความเจ็บไข้ได้ป่วย บางครั้งมีเงินทองมากมายเพื่อจ่ายรักษา ก็แลกกับการเจ็บปวดสูญเสียนั้นไม่ได้ 
 
แม้ตอนที่ผมบวชพระจะไม่ได้เคร่งครัดพระธรรมวินัยเอาเลยและจำต้องลาสิกขาบทไปก่อนที่จะเข้าพรรษาเพื่อไปเริ่มงานที่สมัครไว้ มาศึกษาธรรมะจริงๆ ก็จากนั้นเป็นสิบปี ยังนึกเสียดายจนบัดนี้
วันมาฆะบูชาผ่านไป วันวาเลนไทน์กำลังจะเข้ามา

ขอให้ความดีรักษาผู้ประพฤติดี ความรักงอกงาม เติบโตและแบ่งปันคนทุกข์ยากครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ ทำบุญ ความเชื่อส่วนบุคคล
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่