ช่วงนี้งานไม่ค่อยมี ไม่รู้ว่าดีไม่ดี ถือโอกาสเล่า Story ซักหน่อย
ถือว่าเป็น Online Marketing ไปในตัว55
ตอนแรกนี้ก็เป็นประวัติย่อละกันว่าทำไม จากนักออกแบบใหญ่มาเป็นนักออกแบบเล็กได้
คือผมมีอาชีพเป็นภูมิสถาปนิก ได้มีโอกาสไปทำงานที่ ฮ่องกง และกินอาหารฮ่องกง (ฮ่องกงฟู้ต)55
เมื่อก่อนนี้...แถวบ้านถ้าบอกว่าไอ้แดงลูกบ้านตาอิ่มมันไปทำงานฮ่องกง แสดงว่ามันติดคุกนะ
ทุกครั้งที่กลับบ้านพ่อก็จะเล่นมุกนี้แหละ ทำหน้าเบื่อๆ
เรื่องของเรื่องคือ...เมื่อก่อนทำงาน Scale ใหญ่มาก
งานส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองจีน เป็นคอนโดมิเนี่ยมเป็นกลุ่มใหญ่ อารมร์ประมาณเมืองทองแต่ตึกจะสูงๆหน่อย
งานผมก็จะไปอยู่ที่สาธารณูปโภคด้านล่าง เช่น ถนน สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะที่คนใช้เยอะๆ
น่าจะพอนึกออกกันละ...
หน้าที่เราคือเสก็ตซ์ลูกเดียวที่เค้าเรียกว่า Masterplan แล้วก็มีไปประชุมที่เมืองจีนบ้าง
เราก็อยู่กับการเขียนๆกับโครงการใหญ่ๆแบบนี้เยอะมากที่ผมเรียก "นักออกแบบใหญ่"อะครับ
ปล.รูปพวกนี้เป็นตัวอย่างหาจากใน Internet นะครับ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทใดๆ
ทีนี้ทำนานๆก็ชักจะเบื่อครับ ทำงานแบบนี้มายาวนานมาก ก็เริ่มหาช่องทางกลับบ้าน
แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เร็วปานความคิดนะครับ อีกหลายปีทีเดียว
ช่วงนี้เราก็เริ่มหาอะไรทำที่มันจะแก้เบื่อเราได้และใช้ประโยชน์ได้ด้วย
เช่นอยากเรียนภาษาเพิ่มเติม จะให้เรียนภาษาอย่างเดียวก็ไม่เอาอะ กลัวเบื่ออีก
เราเลยปิ๊งไอเดียครับ เลยไปลงเรียนทำกระเป๋าหนัง อาจารย์เป็นคนฮ่องกงที่จบนอกมา ได้ทั้งภาษาได้ทั้งกระเป๋า
แต่เป็นภาษาคนทำกระเป๋านะครับ55...กลายเป็นว่าชอบ เอาละซิ
ทีนี้อาจจะขอเล่ายาวๆหน่อย...
เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เราก็เลยตัดสินใจกลับเมืองไทย
กลับมาก็ยังมารับจ้างเค้าอยู่นะครับ พอดีกับมีลูกเลยตัดสินใจซื้อบ้าน
ก็ยังทำงานเหมือนเดิม แต่คราวนี้ก็ลดขนาดของโปรเจ็คมาหน่อย เป็นหมู่บ้าน เป็น คอนโดฯทีละหลัง
แต่กลับมาเที่ยวนี้มีบ้านครับ ซื้อบ้านจัดสรรแถวชานเมืองไว้ ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เพราะเป็นนักออกแบบใหญ่อยู่ ยังทำเล็กไม่เป็น55
และลูกก็คลอดก็ทำงาน เลี้ยงลูกแบบคนทั่วไป ใจก็คิดว่าเรามีบ้านน่าทำอะำรซักอย่าง
ขี่รถผ่านไปผ่านมาในหมู่บ้านเค้าล้มต้นตีนเป็นหรือพญาสัตบรรณ แล้วหั่นไว้เป็นท่อนๆทั้งลำต้นทั้งกิ่ง
ปิ๊ง! คิดออกแล้ว เราน่าจะทำเก้าอี้นั่งชมสวนซักตัว เพราะหมู่บ้านจัดสวนมาให้ละ แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งเล่น จะซื้อก็หมดตูดจ่าบค่าบ้านหมดละ
ทำเองขุดเองสิครับ คิดได้ เสก็ตซ์ แล้วก็ลงมือเลย
ไม้ที่ได้มามันมีตากิ่งอยู่ตรงที่ตัดพอดี พอเอามาทำแล้วใส่ขา มันเหมือน "ไข่หมา" เลยตั้งชื่อเก้าอี้ตัวนี้ว่า "ตา - โปด - ออด"
ตามแนวคิด ทำเอง นั่งเอง เจ็บมือเอง จะเกรงใจใคร 55
อันนี้ผมถือเป็น "นักออกแบบเล็ก" ชิ้นแรกๆของผมเลย
แต่มันยังไม่เต็มตัว ฝั่งหน้าที่การงานก็ยังทำโครงการก่อสร้าง ทำหน้าที่ "นักออกแบบใหญ่" อยู่เพราะต้องหาค่าผ่อนบ้าน
แต่ "ใจ" มันหวั่นไหวละซิ
นี่แค่จุดเริ่มต้นนะครับ ถ้ามีคนชอบเรื่องแนวๆนี้จะเขียนต่อให้อ่านเล่นกัน อย่างที่ว่าช่วงนี้ว่างจริง55
เอาให้ครบ ผมว่ามี 10 EP. ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ติดตามตอนต่อไปนะครับ
นักออกแบบใหญ่ ไหง๋กลายเป็น นักออกแบบเล็ก EP.1
ถือว่าเป็น Online Marketing ไปในตัว55
ตอนแรกนี้ก็เป็นประวัติย่อละกันว่าทำไม จากนักออกแบบใหญ่มาเป็นนักออกแบบเล็กได้
คือผมมีอาชีพเป็นภูมิสถาปนิก ได้มีโอกาสไปทำงานที่ ฮ่องกง และกินอาหารฮ่องกง (ฮ่องกงฟู้ต)55
เมื่อก่อนนี้...แถวบ้านถ้าบอกว่าไอ้แดงลูกบ้านตาอิ่มมันไปทำงานฮ่องกง แสดงว่ามันติดคุกนะ
ทุกครั้งที่กลับบ้านพ่อก็จะเล่นมุกนี้แหละ ทำหน้าเบื่อๆ
เรื่องของเรื่องคือ...เมื่อก่อนทำงาน Scale ใหญ่มาก
งานส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองจีน เป็นคอนโดมิเนี่ยมเป็นกลุ่มใหญ่ อารมร์ประมาณเมืองทองแต่ตึกจะสูงๆหน่อย
งานผมก็จะไปอยู่ที่สาธารณูปโภคด้านล่าง เช่น ถนน สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะที่คนใช้เยอะๆ
น่าจะพอนึกออกกันละ...
หน้าที่เราคือเสก็ตซ์ลูกเดียวที่เค้าเรียกว่า Masterplan แล้วก็มีไปประชุมที่เมืองจีนบ้าง
เราก็อยู่กับการเขียนๆกับโครงการใหญ่ๆแบบนี้เยอะมากที่ผมเรียก "นักออกแบบใหญ่"อะครับ
ปล.รูปพวกนี้เป็นตัวอย่างหาจากใน Internet นะครับ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทใดๆ
ทีนี้ทำนานๆก็ชักจะเบื่อครับ ทำงานแบบนี้มายาวนานมาก ก็เริ่มหาช่องทางกลับบ้าน
แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เร็วปานความคิดนะครับ อีกหลายปีทีเดียว
ช่วงนี้เราก็เริ่มหาอะไรทำที่มันจะแก้เบื่อเราได้และใช้ประโยชน์ได้ด้วย
เช่นอยากเรียนภาษาเพิ่มเติม จะให้เรียนภาษาอย่างเดียวก็ไม่เอาอะ กลัวเบื่ออีก
เราเลยปิ๊งไอเดียครับ เลยไปลงเรียนทำกระเป๋าหนัง อาจารย์เป็นคนฮ่องกงที่จบนอกมา ได้ทั้งภาษาได้ทั้งกระเป๋า
แต่เป็นภาษาคนทำกระเป๋านะครับ55...กลายเป็นว่าชอบ เอาละซิ
ทีนี้อาจจะขอเล่ายาวๆหน่อย...
เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เราก็เลยตัดสินใจกลับเมืองไทย
กลับมาก็ยังมารับจ้างเค้าอยู่นะครับ พอดีกับมีลูกเลยตัดสินใจซื้อบ้าน
ก็ยังทำงานเหมือนเดิม แต่คราวนี้ก็ลดขนาดของโปรเจ็คมาหน่อย เป็นหมู่บ้าน เป็น คอนโดฯทีละหลัง
แต่กลับมาเที่ยวนี้มีบ้านครับ ซื้อบ้านจัดสรรแถวชานเมืองไว้ ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เพราะเป็นนักออกแบบใหญ่อยู่ ยังทำเล็กไม่เป็น55
และลูกก็คลอดก็ทำงาน เลี้ยงลูกแบบคนทั่วไป ใจก็คิดว่าเรามีบ้านน่าทำอะำรซักอย่าง
ขี่รถผ่านไปผ่านมาในหมู่บ้านเค้าล้มต้นตีนเป็นหรือพญาสัตบรรณ แล้วหั่นไว้เป็นท่อนๆทั้งลำต้นทั้งกิ่ง
ปิ๊ง! คิดออกแล้ว เราน่าจะทำเก้าอี้นั่งชมสวนซักตัว เพราะหมู่บ้านจัดสวนมาให้ละ แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งเล่น จะซื้อก็หมดตูดจ่าบค่าบ้านหมดละ
ทำเองขุดเองสิครับ คิดได้ เสก็ตซ์ แล้วก็ลงมือเลย
ไม้ที่ได้มามันมีตากิ่งอยู่ตรงที่ตัดพอดี พอเอามาทำแล้วใส่ขา มันเหมือน "ไข่หมา" เลยตั้งชื่อเก้าอี้ตัวนี้ว่า "ตา - โปด - ออด"
ตามแนวคิด ทำเอง นั่งเอง เจ็บมือเอง จะเกรงใจใคร 55
อันนี้ผมถือเป็น "นักออกแบบเล็ก" ชิ้นแรกๆของผมเลย
แต่มันยังไม่เต็มตัว ฝั่งหน้าที่การงานก็ยังทำโครงการก่อสร้าง ทำหน้าที่ "นักออกแบบใหญ่" อยู่เพราะต้องหาค่าผ่อนบ้าน
แต่ "ใจ" มันหวั่นไหวละซิ
นี่แค่จุดเริ่มต้นนะครับ ถ้ามีคนชอบเรื่องแนวๆนี้จะเขียนต่อให้อ่านเล่นกัน อย่างที่ว่าช่วงนี้ว่างจริง55
เอาให้ครบ ผมว่ามี 10 EP. ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ติดตามตอนต่อไปนะครับ