ทริปนี้ ผมกับแฟน ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเที่ยวโซนโทโฮคุมาก่อน เห็นว่า TG ออกโปรขากลับจาก Sendai ราคายั่วยวนมาก กลั้นใจจองไปก่อน (เฉพาะขากลับ) หลังจากนั้นมานั่งจ้ดทริป เอาไงดี หนาวขนาดนี้ หิมะมีท่วมแน่ๆ เช่ารถขับนี่เลิกคิดไปเลย งั้นเอาแบบ สบายๆ เน้นพักผ่อน กินๆนอนๆ แช่ออนเซนให้เต็มที่ไปเลยละกัน จัดเวลาแล้ว มีเวลาแค่ 4 คืน งั้นไปทาง Akita ดีกว่า


เริ่มตันวันแรก เราเดินทางโดย Scoot ลง นาริตะ ช่วงเช้า จัดการเรื่อง JR East Pass ให้เรียบร้อย จองเที่ยว Shinkansen ไปลง Kakunodate ประมาณ 14:30 น. (ใช้เวลาที่ ตม.กับCustom รวมแลกpass ประมาณ 30-40 นาที) คืนแรกนี่เราแวะมาเที่ยวและพักที่ Kakunodate ก่อน ที่นี่เป็นหมู่บ้านซามูไรโบราณ เมืองนี่ตั้งแต่ตัวสถานี Kakunodate ไปนี่ เรโทร มาก ร้านค้าต่างๆ ป้ายสัญลักษณ์ ให้อารมณ์ ห้างไนติงเกล วังบูรพา




ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที เราก็เข้ามาถึง หมู่บ้านซามูไร มีหลายหลังที่เปิดให้เข้าชม ส่วนใหญ่ก็คิดเงินนิดหน่อย เราเดินมาจนถึงหลังสุดท้าย ตัดสินใจเข้าชม มีคุณป้าพาทัวร์ โดยให้เราเลือกภาษา ซึ่งป้าพูดได้ภาษาเดียวคือ......ญี่ปุ่นจ้า เราก็เลือกอังกฤษสิครับ คุณป้าแกก็อ่านโพยให้ฟัง ดูแกตั้งใจมาก เราขอชื่นชม (ส่วนใหญ่จะมีแต่ จนท.สูงอายุทั้งนั้น) ประมาณว่าท่านซามูไรที่นี่ เป็นแลนด์ลอร์ด คอยเก็บภาษี ห้องด้านหน้าเอาไว้รับแขกผู้ใหญ่ คนทั่วไปเข้าประตูข้างห้องนี้เก็บโฉนด ประมาณนั้น



หลังจากนั้นไม่นาน ความมืดและความหนาว เข้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว น่าจะประมาณ 16:30-17:00 น. นี่ มืดทันที ก่อนที่เราจะกลับที่พัก แฟนผมบอกว่ามาถึงที่นี่ ต้องหาเจ้าหมาอะคิตะ ให้หน่อย ยังไม่เห็นสักตัวเลย เอาแบบฟูฟูเลยนะ อึ้งทันที ตอนนี้มืดแทบจะเป็นเมืองร้าง แอบเห็นร้านขายของที่ระลึกยังเปิดไฟอยู่ แอบแว่บๆไปดู อ้าวมีน้องอะคิตะ นั่งหลบอยู้หลังบ้านนี่นา มา เร็วเลย เล่นซะ ก่อนที่เค้าจะปิดร้าน


กลับมาถึงโรงแรม คืนนี้เราเลือกนอนที่ Folkloro kakunodate การเลือกนอนที่นี่ มีข้อดีเพียบครับ 1 ทำเลดีมากที่สุด คือ เดินออกมาจากสถานี kakunodate เลี้ยวซ้าย 10 ก้าว ถึง... 2 เราเลือกแบบรวมอาหารเช้า มื้อเดียว ราคา 12,900 yen ห้องเป็น Twin room นะครับ แต้อุปกรณ์ครบมาก เสียที่ไม่มี Public bath ให้ใช้ 3 พรุ่งนี้เราตั้งใจไปดู Snow Monster ที่ Mt. Moriyoshi โดยต้องขึ้นรถไฟสายหวานเย็น Nairiku Line ไปต่อ Taxi แล้วไป Gondola เพื่อขึ้นไปหาเจ้าปีศาจ กันแต่เช้า โดยได้ซื้อตั๋วรวมไว้แว้ว ราคา 5,000 yen 4 ขากลับแวะมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ เพื่อไป Nyuto ต่อ ประหยัดค่า locker ไปอีก


ซ้ายมือ คือ สถานี Kakunodate ถัดมา Vending Machine ถัดมา โรงแรงเราเอง

มื้อเช้า ถือว่าครบครัน จริงๆมีไลน์อาหารเยอะอยู่ แต่เราเลือกแบบท้องถิ่นหน่อย ที่เด็ด คือ หัวใช้เท้าดองรมควันกลิ่นหอม




รถไฟออก 9:50 เราก็มารอขึ้นรถไฟ มี นทท มารอซื้อตั๋วอีกหลายสิบคน เราจองมาตั้งแต่เมื่อวานละ ออกมาถ่ายรูปรอ ซักพัก จนท สถานีเรียกเราไปหา แล้วแจ้งว่า ตั๋วของเราใช้ไม่ได้นะ อ้าว ทำไมอ่ะ หรือ เราซื้อตั๋วผิดวัน  อะโน่ว วันนี้ Gondola ไม่เปิดนะ สภาพอากาศไม่ดี เราเลยขอยกเลิก มามา มาrefund ตั๋วไป โอ้วว Snow Moster ของชั้น.....
ตัดสินใจทันที หยิบ pass ขึ้นมา เราไปอะคิตะกันเถอะ แฟนถาม มันมีไรเที่ยวบ้าง เรามีเวลาประมาณ 4-5 ชม.นะ เอิ่มม ไม่มีข้อมูลไรเลยจ้ะ ก็ไปเดินเล่นไง หาไรกินนะ ว่าแล้วก็รอ Shinkansen มุ่งหน้า Akita
ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชม.ก็มาถึง ระหว่างทางก็ดู Tripadvisor หาร้านกลางวันอร่อยๆ ไปเจอร้านเนื้อย่างA4 อยู่ใกล้สถานีอะคิตะเลย น่าสนใจมาก




มุ่งหน้าไปหาร้านเนื้อย่างทันที แต่เอ๊ะ นี่มันทางเดินไปตลาดสดนี่นา แวะไปเดินเล่นก่อนดีกว่า พอดีว่าแอบเห็นป้ายร้านซูชิจานหมุน น่าสนใจ อยู่หน้าตลาดพอดี เอาหน่อยมั้ย เบาๆ เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บเนื้อย่างกัน ภาพที่เห็นก็เลยเป็นเช่นนี้



2 คน 15 จาน กลับกันเถอะ เนื้อย่างไว้วันหลังก็ได้เนอะ

ถึงเวลาเข้าป่ากันซะที เราเช็ครอบรถบัสเพื่อไป Nyuto Onsen ซึ่งมันจะมีประมาณ รอบละชม. ซึ่งจากประสบการณ์เมื่อวานนี้ แค่4-5โมงนี่เริ่มมืดละ เดินทางมาถึงสถานี  Tazawako เข้าไปซื้อตั๋วรถบัสที่ Tourist inf แกบอกว่าให้จ่ายตอนลงรถได้เลย ถ้าเป็น Nyuto นี่ ก็ 840 yen นะครับ

อย่างที่ทราบกันครับ มาโซนนี้ อยากแช่ออนเซน มันต้อง Nyuto Onsen เท่านั้น หาข้อมูลจาก Pantip นี่แหละ มีกระทู้เจ๋งๆเพียบ ที่ Nyuto Onsen นี่ เปรียบเหมือนหมู่บ้านลึกลีบตั้งตัวอยู่ในหุบเขา มีเรียวกังทั้งหมด 7 แห่ง และมีเพียง 5 แห่งที่เปิดในช่วงฤดูหนาว ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด น่าจะเป็น Tsunoyu Onsen ว่ากันว่า จองที่พักยากมากๆ ซึ่งเราก็พยายามหาทางจองที่นี่ แต่ก็ไม่สามารถ ที่พอจะมีว่างจะเป็นที่ Yamanoyado ซึ่งเป็นเครือเดียวกัน แต่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ส่วน Magoroko กับ Kuroyu ก็ปิดในฤดูหนาว

ทางเลือกที่เหลือของเราที่ต้องการพักที่นี่ 2 คืน จึงเหลือ Kyukamura, Taenoyu, Ogama และ Ganiba เราเลยทำการจองไปทั้ง 4 แห่ง โดย 2 ที่แรก รวมทั้ง Yamanoyoda ราคาประมาณ 33,000-38,000 yen ต่อคืนรวมอาหาร 2 มื้อ ส่วน2 แห่งหลังนี่ประมาณ 16,000-20,000 yen รวมอาหารเหมือนกันโดยที่ Taenoyu นี่จะจองยากหน่อย ต้อง จองผ่านทาง Japanese Guesthouse อีกที

สรุป เราเลือกพักคืนแรกที่ Ganiba Onsen (20,000yen) ก็นั่งบัสสุดสายไปเลย ไม่ต้องกลังหลง ลงรถ ถึงเลย
ปล. สำหรับ Day Trip ถ้าจะฝากกระเป๋า สามารถฝากได้ที่ Tourist Inf ได้นะ ใบละ 500 yen




มาถึงนี่ยังไม่ 5 โมงเลย มืดมากแล้ว มีนัดมื้อค่ำไว้ 18:30 น. ยังมีเวลา ไปแช่สักบ่อก่อนดีกว่า ที่นี่มีบ่อ Outdoor อยู่ 2 บ่อครับ ทั้ง 2 บ่อ เป็นบ่อรวม โดยบ่อแรกจะอยู่ติดกับตัวเรียวกังเลย บ่อที่ 2 ที่เป็นไฮไลท์ จะต้องเดินฝ่าหิมะไป 50 เมตร ทั้ง 2 บ่อนี้ ไม่มีที่อาบน้ำนะครับ เราต้องมาอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำรวม ซึ่งจะมีบ่อ indoor อยู่อีก แบ่งชาย หญิง เรียบร้อยดี ไอ้บ่อไฮไลท์นี่ มันจะอยู่กลางป่าจริงๆ มีไฟส่องอยู่ 2-3 ดวง แค่นั้น แต่เค้าจะเปิดให้เฉพาะผู้หญิงตอน 20-21:00 น. เพื่อความสบายใจ สรุป Ganiba Onsen  มี 4 บ่อ ที่ชอบสุดต้องบ่อ Outdoor 50 เมตรนี่แหละครับ น้ำร้อนเองก็มีแร่ธาตุหลายอย่างมาก กลิ่นกำมะถันติดจมูกแน่นอน แช่ขณะที่หิมะลง ตอน 3-4 ทุ่ม มีแต่เรา 2 คน



ต่อตอนหน้านะครับ