ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย บาดเจ็บ และ ขอสดุดีเจ้าหน้าที่ผู้กล้าทุกท่านครับ
ผมได้ติดตามข่าวตั้งแต่แรกๆที่เกิดเหตุการณ์ จนกระทั่งเช้าวันที่ 9 ก.พ. แต่หลับไปก่อนช่วง7โมงเช้า ผมจะขอถามในช่วงที่ผมสงสัย  เริ่มจั้งแต่ตอนไปปล้นปืนในค่าย ช่วงนั้นเข้าใจว่าเป็นวันหยุด อาจจะมีทหารน้อย ซึ่งผมเคยเป็นพลทหารมา เคยเข้าเวรยาม ส่วนใหญ่วันหยุด ในค่ายจะมีทหารน้อย
และเวรยาม อาจจะหละหลวม  หลังจากคนร้ายปล้นปืนไปแล้ว ยังไงก็ต้องมีเสียงปืน ทำไมในค่ายถึงไม่มีการวิทยุ ให้ทหารในค่ายติดตาม จากนั้นคนร้ายขับรถมาจนถึงวัด  มีเวลาบรรจุกระสุน และนำปืนออกมาตั้งตามจุด เพื่อซุ่มยิงชาวบ้าน จุดนี้มีตำรวจมาสกัดแล้ว แต่เข้าใจว่าสู้คนร้ายไม่ได้ คนร้ายใจเย็นที่จะรอยิงคนที่ผ่านไปมา  จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปที่ห้าง พอไปถึงทางเข้าห้าง จุดที่จอดรถฮัมวี่ และมีน้องขับมอไซค์มาจะไปช่วยคนเจ็บจนถูกยิง และจะมีคลิปนึงหลังจากยิงน้องมอไซค์แล้ว
คนร้ายยืนยิงสาดออกมาตรงถนน จุดนี้คนร้ายยืนยิงอย่างใจเย็น ไม่กลัวที่จะมีคนตามมาสกัดจากทางด้านอื่นเลย จากนั้นคนร้ายเข้าไปเซลฟี่ ถ่ายคลิปตอนไฟไหม้ พอเข้าไปในห้าง ตอนนั้นคนก็เริ่มแตกตื่นแล้ว คนร้ายเดินหาคนในห้างเพื่อที่จะยิง
พอเริ่มหัวค่ำ ตำรวจหน่วยต่างๆเริ่มมา แต่คนร้ายก็ยังใจเย็นเดินไปนู่นมานี่คนเดียว ซึ่งห้างก็กว้าง ประตูเข้าออกน่าจะมีหลายทาง แต่คนร้ายเดิน เหมือนกับว่าทั้งห้าง มีเข้าได้แค่ทางเดียวแล้วตัวเองเห็นตลอด เลยไม่กลัว จุดนี้ผมเข้าใจเจ้าหน้าที่ว่าทำงานยาก แต่ในใจคนร้ายแล้ว ถือว่าใจเย็นมากๆ ขนาดมาแค่คนเดียว ถ้ามาซัก3คน แล้วฝีมือเท่ากัน ผมว่าน่าจะวุ่นวายกว่านี้ คนร้ายเป็นนักกีฬาแม่นปืน เชี่ยวชาญการรบ  ถูกฝึกมาอย่างดี ผมอยากทราบว่า เข้าฝึกขนาดไหน ทหารบกถ้าแรกๆเลยก็หลักสูตรจู่โจม  จริงๆแล้วเรื่องของเค้าที่โดนผู้บังคับบัญชาโกง ก็น่าจะเป็นชนวนเหตุให้ทำได้ แต่ไม่น่าทำกับคนอื่นขนาดนี้ และรู้สึกเสียดาย ที่เอาความรู้ความสามารถมาใช้ในทางที่ผิด