เพราะญี่ปุ่นไปเน้นแต่วิดีโอเกมและมังงะทำให้วันนี้ดุเหมือนว่าวงการภาพยนต์โดนเกาหลีแซงไปแล้ว

นวนิยายดังๆบอกได้เลยว่าญี่ปุ่นสุดยอด เช่น kokoro อ่านนวนิยายเกาหลีไม่มากนัก แต่มองคร่าวๆวงการวรรณกรรม ญี่ปุ่นสุดยอด แต่ทำไมวงการภาพยนต์ดูเหมือนว่าเกาหลีแซงไปแล้ว เกาหลีไปแข่งกับเมกา ไปแข่งกับโจ๊กเกอร์แล้ว เพราะ ญี่ปุ่นคนเก่งไปไปกองกันอยู่แต่วงการมังงะ แอนนิเมะ และเกม  หนังของญี่ปุ่นทำแต่ไลแอคชัน กับดราม่าไฮสกุล พอหมดยุคอคิระ คุโรซาว่าก็ดูเหมือนแผ่วลงไปไม่มีใครมาแทนผู้กำกับคนนี้ได้เลย หนังที่ดูแล้วชอบล่าสุดของญี่ปุ่นก็คือ shoplifters ซึ่งก็ยังห่างกับปรสิตพอสมควร บอกได้เลยว่าอนาคตหนังเกาหลีจะดังกว่านี้อีก ส่วนญี่ปุ่นถ้าคนเก่งๆยังไปกองอยู่ที่มังงะ เกม และไม่สนใจตลาดหนังนอกประเทศ วงการหนังญี่ปุ่นก็จะถูกเกาหลีทิ้งห่างไปเรื่อยๆ ซึ่งคนญี่ปุ่นก็คงไม่แคร์เท่าไหร่อยู่แล้ว

ยินดีด้วย ปรสิต หนังคุณสุดยอดจริงๆ รางวัลเยอะกว่าโจกเกอร์อีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 50
จริงๆแล้วพออคิระ คุโรซาว่า ยูม่า อซามิ มาเรีย โอซาวา หมดยุคคนเหล่านี้ดูเหมือนหนังญี่ปุ่นจะไม่ดังเหมือนแต่ก่อน ดังขณะที่ลูคัส ผู้กำกับสตาวอร์หรือผกกดังๆคนอื่นๆล้วนเล่าว่าหนังของเขาได้อิทธิพลจากการดูหนังเหล่านี้ อย่างราโชมอน หรือเจ็ดซามูไรนี่ขึ้นชื่อมาก แต่ถามว่าคุ้มไหมที่คนเก่งๆกองกันอยู่ที่วงการมังงะ เกมแบบปัจจุบัน ผมว่าคุ้มมาก sekiro ได้ GOTY ปี 2019 ก่อนหน้านี้ก็มี BOTW ของสวิสก็ได้ วงการเกมของญี่ปุ่นยังแข็งแกร่งมาก นี่ก็พึ่งได้เล่น zelda link awakening ฉบับรีเมคไปบอกได้เลยว่าสุดยอดฝีมือ หรือล่าสุดอย่าง death stranding แม้ผมไม่ชอบ แต่บอกได้ว่าแนวคิด ไอเดียของคนญี่ปุ่นที่ทำนั้นเจ๋งจริงๆ

วงการมังงะ แอนนิเมะก็อย่างที่หลายคนเม้นว่าญี่ปุ่นเขาแข็งแกร่งอยู่แล้วแล้วมันไปต่อยอดสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจอื่นๆได้มาก อันนี้เป็น creative economy แบบที่รัฐบาลไทยวาดฝันไว้ แต่ญี่ปุ่นเขาทำได้จริงๆและทำมานานแล้ว

ดูหนังญี่ปุ่น เกมโชว์ญี่ปุ่น จากช่อง gem, true x-zyte บอกได้ว่าถ้าญี่ปุ่นจะทำหนังแข่งกับเกาหลีจริงๆแบบ สนับสนุนจริงจัง และสนใจที่จะทำจริงจัง มีรัฐบาลออกนโยบายสนับสนุนแบบที่เกาหลีทำผมว่าสู้ได้นะ เพราะวัตถุดิบ จินตนาการต่างๆเยอะ (shoplifters  ก็มาจากหนังสือมีแปลไทยด้วย ครอบครัวที่ลัก หรือวัตถุดิบอื่นๆที่เจ๋งๆอีกก็เช่นพระอาทิตย์เที่ยงคืน kokoro ปาฏิหาริย์ร้านชําของคุณนามิยะ no longer human และอีกมากมาย)แค่ต้องปรับ cinematography ปรับจังหวะ ต่างๆให้ขายได้ง่ายขึ้น อย่างปรสิตที่ได้นี่ก็เพราะดูไม่ยาก ไม่ต้องปีนบันไดดูแบบหนังพี่เจ้ยเรื่องที่ได้รางวัลเดียวกันก่อนหน้านั้น แถมเล่าเรื่องได้สนุกมีครบทุกรส คนถึงชอบกัน

แม้หมดยุค อาซามิ ก็ยังมี ยูอิ ฮาตาโนะ แต่อาซามิจังก็จะอยู่ในใจเสมอ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
จริงๆแล้วในประวัติศาสตร์ ภาพยนต์ญี่ปุ่นถูกยกย่องมากมาย แต่ที่ทำให้ไม่ได้ออสการ์เพราะมัน ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น

ส่วนเกาหลีเน้นพัฒนาภาพยนต์ไปในแนวทางสากล เลยตีตลาดทั่วโลกได้ดีกว่า

จะสังเกตว่าวงการบันเทิงญี่ปุ่นทั้งหนัง เพลง ซีรีย์ ออกมาตีตลาดโลกได้น้อยมากๆ ส่วนนึงอาจจะเพราะไม่สนใจส่งออกจริงจัง อีกส่วนก็คงเพราะว่ามัน ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จึงทำให้กลายเป็น niche market
ความคิดเห็นที่ 43
ดูหนังญี่ปุ่นมากี่เรื่อง จึงคิดเช่นนั้น

ดูหนังตลาดแบบที่ไทยชอบเอามาฉาย บอกเลยว่าไม่แปลกที่จะเจอแต่โอเวอร์แอคติ้ง
เห็นเอามาแต่พวก live action สร้างจากการ์ตูน

และถ้าหากว่าจำไม่ผิด
ปรสิต ตอนเข้าฉาย กระแสในไทยเกินครึ่งบอกว่าหนังธรรมดา ไปดูแล้วผิดหวัง
หลายกระทู้ในพันทิปก็สับเละเลย ลองหาดู

(แต่เราชอบหนังเรื่องนี้นะ ไม่ได้ย่ำแย่อะไร
แค่ไม่ได้รู้สึก ว้าว
เราดูแล้วเดาตอนต่อไปได้เกือบหมด
พล็อตมันธรรมดามากเลย
เลยไม่ได้รู้สึกว้าวอะไร)

พอได้รางวัล กลายเป็นหนังสุดยอดซะงั้น
อย่างกับสังคมนิยมหัวโขน ใช้หัวโขนนำความคิด

หนังหลายเรื่องของญี่ปุ่น ทำออกมาได้ดีกว่าปรสิตค่ะ แค่มันไม่ใช่หนังตลาด
ความคิดเห็นที่ 8
ความเห็นของผมนะ

1. สไตล์การสร้างผลงานที่แตกต่างกัน

โดยพื้นฐานแล้ว Creator ญี่ปุ่นเป็นเหมือนศิลปิน สร้างผลงานตามแบบของตนเอง พอทำเสร็จแล้ว แต่บังเอิญว่าศิลปินนี้ก็มีฝีมือในการทำการค้าด้วย
สไตล์ผลงานเด่นๆของญี่ปุ่นจึงมีความ Niche และมีความเป็นญี่ปุ่นสูง  คนที่ไม่ได้อินกับผลงานสไตล์ญี่ปุ่นเองก็คงไม่ชอบเท่าไร

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ส่วน Creator เกาหลีเป็นเหมือนพ่อค้า แต่เลือกที่จะสร้างงานศิลปะออกมาเป็น Product ของตัวเอง แต่บังเอิญว่าพ่อค้าคนนี้มีฝีมือด้านงานศิลปะด้วย
ผลงานที่สร้างขึ้นมานั้น จะทำโดยการคำนึงถึง trend ต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าต้องทำแบบไหนคนถึงนิยม แล้วก็ทำออกมาตามนั้น


2. ความรักชาติในรูปแบบที่แตกต่างกันระหว่าง คนเกาหลีที่อยู่โพ้นทะเล และคนญี่ปุ่นโพ้นทะเล

คนเกาหลีโพ้นทะเล ถึงจะอยู่ต่างประเทศ แต่ก็จะยังมีความรักชอบในบ้านเกิดอยู่ และพยายามช่วยโปรโมตวัฒนธรรมเกาหลีเท่าที่มีโอกาส
ปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้ผลงานฝั่งเกาหลีเป็นที่โด่งดังในตลาดโลกก็คือชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี พออยู่ใกล้เมืองหลวงวงการบันเทิงโลกอย่าง Hollywood การโปรโมตอะไรๆก็ทำได้ง่าย  

นอกจากเรื่องบันเทิงแล้ว คนเกาหลีที่อยู่โพ้นทะเลยังช่วยเป็นกระบอกเสียงทางการเมืองให้กับบ้านเกิดเดิมด้วย  ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เกาหลีพยายามเรียกร้องให้ นานาชาติเปลี่ยนชื่อ Sea of Japan เป็นทะเลเอเชียตะวันออก ชาวเกาหลีในอเมริกาก็พยายามผลักดันล็อบบี้ให้
โรงเรียนในอเมริกาเรียกชื่อทะเลดังกล่าว (แต่ไม่สำเร็จ) หรือในสมัยที่ทะเลาะกับญี่ปุ่นเรื่อง Comfort women คนเกาหลีโพ้นทะเลก็จะช่วยเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้งรูปปั้น Comfort women ในประเทศตะวันตก

คนญี่ปุ่นโพ้นทะเล ส่วนหนึ่งจะเป็นพวกคนญี่ปุ่นที่บริษัทญี่ปุ่นส่งมาประจำที่ต่างประเทศ ซึ่งก็จะไม่มีความอินเตอร์มากนัก
อีกส่วนที่สามารถมาอยู่ต่างประเทศด้วยตัวเอง ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนญี่ปุ่นแล้ว แต่เป็นคนของชาติที่ตัวเองไปอยู่ คนกลุ่มนี้จะไม่เสพสื่อบันเทิงญี่ปุ่น และไม่โปรโมทอะไรให้ทั้งสิ้น  หากจะมีการแสดงความรู้สึกต่อประเทศเดิมของตน ก็จะเป็นในเชิงวิพากย์วิจารณ์เสียมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น Kazu Hiro หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาการแต่งหน้าและจัดผมในปีนี้จากเรื่อง Bombshell ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
'ต้องขออภัยที่ต้องพูดอย่างนี้ แต่ผมได้ทิ้งความเป็นญี่ปุ่น และกลายเป็นคนอเมริกันไปแล้ว ผมเกลียดวัฒนธรรมญี่ปุ่น อยู่ที่นั่นไปก็ไม่ทำให้ความฝันเป็นจริง ผมจึงมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้  ขอโทษด้วยครับ'
https://www.asahi.com/articles/ASN2B6X6CN2BUHBI01W.html

จะว่าไปแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเห็นใจและเข้าใจคนญี่ปุ่นกลุ่มนี้เหมือนกัน เพราะสังคมการทำงานของญี่ปุ่นก็มีด้านไม่ดีอยู่ไม่น้อย
แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ สังคมใต้เกาหลีเองนั้นก็มีความเครียดไม่แพ้ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่กลับไม่ทำให้คนเกาหลีที่อยู่โพ้นทะเลมีความรู้สึกต่อต้านเกาหลีเท่าไรนัก  โดยส่วนตัว สาเหตุหลักที่ทำให้คนเกาหลีเป็นอย่างนี้ก็เพราะเกาหลีมีวัฒนธรรมขงจื๊อที่เข้มข้นกว่าญี่ปุ่นนั่นเอง  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่