คือ เรื่องมีอยู่ว่า เหตุเกิดมันเกิดขึ้นเมื่อวันที่9 ก.พ 63 พี่เราไปทริปกันที่ระยอง ละขากลับมา พี่เราก็ขับกลับมาปกติ พอขับมาถึงช่วงเกิดเหตุก็คือ มีรถเก๋งคันนึงเขาก็ขับมาปกติ พี่เราก็ขับมาที่ความเร็ว60/80 เพราะรถพี่เราเป็นบิ๊กไบค์ ทีนี้ ก็เจอรถเก๋งคันนั้นพอดีละด้วยเหตุที่ว่า พี่เราขับมาตรงเลนน์ของ ผู้หญิงคนนั้น คือขับมาเลนน์เดียวกันเลย พอขับมาได้ กำลังจะต่อท้ายรถคันผู้หญิงคนนั้นก็เบรคกันทันหัน พี่เราเลยชนท้ายเข้าไปเต็มๆ ทีนี้ก็เลยเคลียกัน ท้ายรถเก๋งของ ผู้หญิงคนนั้นบุบ ส่วนรถพี่เราก็ กาบพังบ้างไรบ้าง ก็คือกำลังเอาเข้าศูนย์รอเช็คสภาพกับประเมิณราคา แต่พังเยอะพอสมควร ทีนี้ พอสอบถามผู้หญิงคนนั้น เขาบอกว่าก็เห็นคันหน้าเบรคกระทันหัน ก็เลยเบรคตาม แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุที่คันหน้าเบรคเพราะอะไร ทีนี้ก็เลยเรียกประกันมาละไปเคลียต่อที่โรงพัก คุยกับตำรวจเรียบร้อย เรื่องลงเอยและจบด้วยกับการที่ฝ่ายเราผิดที่ไปชนท้ายเขา ตอนแรกที่ยังไม่สรุปผลที่เราผิดก็คือ ฝ่ายนั้นเราคงนึกว่าเราจะผิด เขาเลยทำหน้าหงิกๆหงอยๆ พอผลสรุปคือ ฝ่ายเขาถูก เขาก็ทำหน้ายิ้ม ทีนี้พอพี่เราไปถามเรื่องราคาซ่อม พี่เราก็พูดดีๆนะ แบบว่า พอๆจะช่วยกันหน่อยได้ไหม ค่าซ่อม ช่วยๆกันหน่อย นี่ก็ไม่ค่อยได้มีเงินทองมากมาย คำตอบที่เราได้ยินจากผู้หญิงคนนั้นคือ ทำไมฉันต้องช่วย ฉันไม่ได้เป็นคนผิด จะช่วยทำไม พร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจใส่เลย พี่เราก็เลยไม่ได้ว่าอะไร ละเดินออกมา สรุปเราเสียค่าซ่อมให้ผู้หญิงคนนั้นรวมๆประมาณ40,000กว่าบาท โดยที่เราก็ต้องมาซ่อมรถตัวเองด้วย อยากรู้ว่าเราผิดเดียวจริงหรอหรือว่าผิดคู่ เพราะตำรวจสรุปแบบนี้ ส่วนตัวเลยคือไม่ชอบคำพูดกับสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นมากๆ555
ชนท้ายกระทันหัน เราจะผิดไหม