หอบใจพังๆมาภูกระดึง 3 วัน 2 คืน

หอบใจพังๆมาภูกระดึง 3 วัน 2 คืน
 25 – 27 มกราคม 2563
           สวัสดีค่า ประเดิมเริ่มทริปเพราะอกหัก  ตามหัวเรื่องเลย 5555+  เลยชวนเพื่อนสายรหัสตอนเรียนมหาลัยไปเที่ยวกัน อยากไปปล่อยใจและลองซ้อมๆเดินป่าดู อยากว๊าปเข้าสายนี้เลยเคาะที่ภูกระดึงก่อน  เพื่อนก็เลยชวนเพื่อนของเพื่อนเข้าตี้มา ไปๆมาๆพอใกล้วันแม่เพื่อนรหัสป่วย ไปไม่ได้เลยเหลือกันอยู่ 2 คน   
         อ่ะ 2 คนก็ไป  เพราะชั้ลอยากไป   โดยที่เราก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน 555+ นัดเจอกันที่หมอชิตเลย 55555  ไม่แพลนอะไรด้วยนะ ตั๋วรถ เต็นท์ก็ไม่จอง กิ๊บจองแค่ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ นครศรีธรรมราช-ดอนเมือง ไว้แค่นั้น (กิ๊บอยู่นครศรีธรรมราชค่ะ)
ค่าใช้จ่าย
-          ค่ารถทัวร์ (หมอชิต-ผานกเค้า) ป1 486 บาท
-          ค่ารถสองแถวไปภูกระดึง 30บาท 
-          ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท 
-          ค่าเช่าเต็นท์ 2 คืน  คืนละ 225 บาท รวม 450 บาท
-          ค่าเช่าแผ่นรองนอนคืนละ 20 บาท, หมอนคืนละ 10 บาท, ถุงนอนคืนละ 30 บาท  ทั้งหมด 2 คืน รวม 120บาท
-          ค่ารถทัวร์กลับ กทม 431 บาท รอบนี้ได้ vip32 ที่นั่ง
-          ค่ากินแล้วแต่บุคคลเลยจ้า 
รวม  1557 บาท (ไม่รวมค่ากิน)
 
การเดินทาง

24 มกราคม 2563 
-   เริ่มที่หมอชิต ศึกษารอบรถมานิดหน่อย กิ๊บลงเครื่องประมาณ 19.00 น เลยนัดเพื่อนคร่าวๆ 20.00น.ที่หมอชิต ไปจองตั๋วหน้างานได้ ป.1 486 บาท เบาะเอนได้นิดหน่อย มีแจกน้ำกับขนม และแวะให้เข้าห้องน้ำ  และจะมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามสถานีปลายทาง บอกเค้าลง “ผานกเค้า”  เค้าบอกถึงประมาณ 7.00น. 
25 มกราคม 2563
-   ถึงผานกเค้า ตี 5 ใช่ค่ะ 5.00 น.  งงไปดิ ถึงเร็ว  แต่ไม่ต้องตกใจ หันมองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเจอ “ร้านเจ๊กิม” ที่นี่เปรียบเสมือนจุดนัดพบ ผู้ร่วมเดินทางเพียบ

-   เข้าร้านเจ๊กิม ก็ไปล้างหน้า ทานข้าว ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ มีให้ชาร์ทแบตด้วย
-   เสร็จเรียบร้อยก็เดินมาขึ้นสองแถวสีแดง คนละ 30 บาท (ปกติแล้ว เที่ยวละ 300บาท เราเลยรอให้คนครบ 10 คนหารกันตกคนละ 30บาทค่า)

-   นั่งชมวิวไปแปปนึงก็ถึงทางเข้าอุทยาน เสียค่าเข้า 40 บาท
-   มาถึงตรงที่ทำการอุทยาน ประมาณ 6.30น เราจะต้องไปติดต่อที่พัก จองเต็นท์ ให้เรียบร้อยก่อน (ขออธิบายแค่ในส่วนของกิ๊บเลยนะคะ) โดยกิ๊บกับเพื่อนจองคนละหลัง เพราะเพื่อนเป็นผู้ชายยยยยยยยยยย   โดยเต็นท์นอนได้ถึง 3 คนนู่นนนน เสียดาย ไม่มีคนหาร 5555+ส่วนอุปกรณ์ไปจองและรับด้านบนเลยค่า 
-          เสร็จแล้วก็ไปทำประกันต่อ คนละ 10บาท หากเกิดอุบัติเหตุจะมีคนมารับเราค่า โดยเค้าให้เราถ่ายรูปใบประกันคู่กับบัตรค่าเข้าอุทยานเก็บไว้

-          ไปค่ะ ไปขึ้นภูกันเถอะ ห้าวเต็มที่ ไม่จ้างลูกหาบด้วย แบกกระเป๋าเอง ตั้งใจว่า ถ้าแกไม่รอดจากภูกระดึง ก็อย่าไปเขาไหนอีกเลยกิ๊บ 55555+

 


-    เดินไปยังไม่ถึงครึ่งซำแรก  จะตายให้ได้ คิดในใจ ไม่เอาแล้วโว้ยยยย เขาหลวงนครศรีธรรมราชที่ตั้งใจว่าจะไปพิชิตหลังภูกระดึงนี่พับเก็บได้เลย  กำลังกายก็ไม่ออก 55555+ 
-    แต่เอาน่า เราก็มาถึงซำแรก  อะอวดรูปเกร๋ๆแพพ เอารูปที่เราถ่ายให้เพื่อนไปค่ะ 
-          พัก15 นาทีก็ไปต่อ ไปได้ 10นาที เลยกองหินมาหน่อยนึง ตะคริวกินค่า  โอ้มาก้อดดดดดดด  เพิ่งเคยเป็น ใจตกลงตาตุ่มเลยอะ ชั้ลจะไหวมั้ยเนี่ย  รวบรวมสติ ยืดกล้ามเนื้อ นวดๆๆๆเอา ขุดความรู้ที่มีมาใช้หมด  เอ้าหายละเว่ย ไม่มีแล้ว ไม่ตึงด้วย ไปต่อได้ ใจชื้นมาหน่อย 55555  สงสารเพื่อนจริงๆ 5555+ นางก็เดินช้าๆไปด้วยกัน บอกให้ไปก่อนก็ไม่ไป
-    ภูกระดึงไม่น่ากลัว ไม่โหดหรอก แค่เราไม่ต้องรีบ เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เตรียมตัวออกกำลังกายมาด้วย พกน้ำ  สปอนเซอร์ ติดตัวไว้ จิบเรื่อยๆ หิวก็แวะกิน ของกินมีทุกซำ (เฉพาะหน้าท่องเที่ยวนะคะ) แต่จะแพงขึ้นทุกซำเพราะเค้าต้องจ้างลูกหาบ 
-    ระหว่างทาง ก็จะได้ยินเสียง สู้ๆนะ ใกล้แล้ว ข้างบนสวยมาก บลาๆๆๆ เหมือนจะใจชื้นนน
-    และเราก็จะได้เพื่อนเลเวลเดียวกัน  งงใช่มั้ยคะ 555 เลเวลเดียวกันก็คือ ถึงซำต่างๆพร้อมกัน เจอหน้ากันบ่อย เลยทักทายกัน แลกเฟส สรุปคือ เดินไปพร้อมกัน 5555+   ตรงนี้เลย เราก็ได้รู้จักกัน

-   ว้าปไปที่หลังแปเลยนะ กว่าจะถึง หอบบบบบบบบ อากาศร้อนหน่อย แต่ลมเย็น โชคดีที่ได้ร่มเงาของต้นไม้ช่วย จากหลังแปไปจุดกางเต็นท์อีก 3 กม กิ๊บว่าตรงนี้อะเหนื่อยสุด จะตายย จะตายหลายรอบละ5555 แนะนำเอาร่มเอาหมวกมานะคะ ร้อนนนนนนนน
เมนูช่วยชีวิต

 
-    และแล้วเราก็มาถึงจุดกางเต็นท์ เนี่ยขอเม้าท์หน่อย  ตอนเดินมาอะเจอ ผช. คนนึง น่ารักอะ มาคนเดียวด้วย เจอกันบ่อยตรงที่พักแต่ละซำ ก็มีคุยๆกันตรงเส้นหลังแปว่าไปดูอาทิตย์ตกมั้ย เค้ามาคืนเดียว พรุ่งนี้กลับแล้ว ส่วนเรา (ผู้หญิง 3 คน ที่เจอกันกลางทาง  ส่วนเพื่อนผู้ชายนั้นเดินไปก่อนแล้ว) เลือกไปวันพรุ่งนี้ เพราะวันนี้ไม่ไหวล้าวววววว  ด้วยความที่เราเดินช้า เค้าเลยเดินไปก่อน ซึ่งไปเจอกันอีกทีตรงที่ทำการอุทยาน  พี่คะ ถ้าพี่เห็นกระทู้นี้  หนูอยากจะบอกพี่ว่า หนูกับมันไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ 55555555+  จบความฟินไว้ตรงนี้ (ลืมอารมณ์อกหักไปแพพนุงงง)

-    หลังจากติดต่อรับที่รองนอน หมอน ถุงนอนเสร็จก็เอาของไปเก็บ อาบน้ำเย็นฟินๆไป พักแปปนึงก็ไปหาข้าวทานกัน ตอนนี้เราได้เพื่อนเพิ่มแล้วนร้า ได้แก่ พี่น้ำเย็น น้องหมิว(มาคนเดียว)  พี่หมวย(เพื่อนพี่น้ำเย็นซึ่งมาถึงคนแรกของวัน ใช้เวลา 2.45ชม โอ้วววมายยยก้อดดดดด)  กิ๊บ และบาส เพื่อนของเพื่อนกิ๊บ ผู้ชายคนเดียวของตี้เรา 
-    เพื่อนกิ๊บที่เคยมาก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแนะนำให้ไปทานร้านธรรม อาหารใต้ (จริงๆมีเมนูอื่นด้วยนร้า) พี่แกใจดี ซึ่งจริง กับข้าวอร่อย เราเลยมาทานร้านพีแกตลอดที่อยู่ที่นี่ 

-    หลังทานอาหารเสร็จก็ไปไหว้องค์พระพุทธเมตตา ประมาณ 300 เมตร  แล้วเลยไปดูอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก 

   
-   จบวันด้วยหมูกระทะค่า อิ่ม จุก ปวดขา กินยาคลายกล้ามเนื้อแล้วไปนอน 
26 มกราคม 2563
-    ตี 5 จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานพาเราไปดูอาทิตย์ขึ้นที่ผานกนางแอ่น แนะนำว่าเอาไฟฉายไปด้วยค่า 
-    จากนั้นก็กลับมาทานข้าว  นอนต่อแปปนึง อาบน้ำ แล้วก็ปักหมุดไปผาหล่มสัก เพื่อถ่ายรูปใต้ต้นสนต้นนั้นให้ได้ เราไม่รอดูอาทิตย์ตกนะ เพราะเดี๋ยวดึก ไปกลับ 18 กม.เบาๆ  ขานี่เบาอ่อนแรงไปเลย ไปค่ะไปดูภาพกัน ระหว่างทางก็แวะถ่ายไปเรื่อย เราสายชิว ไม่รีบ  อ้อ เราห่อข้าวไปทานด้วยนะคะ 555 พี่ธรรมจัดให้ 
 
27 มกราคม 2563
-          ลงจากภูประมาณ 9.00น. เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักค่า ถึงด้านล่างก็อาบน้ำ และติดรถน้องหมิว(สาวน้อยผู้มาคนเดียว) ลงมาข้างล่าง 
-          เราจองตั๋วมาตั้งแต่บนภูแล้วเบอร์นี้ค่ะ 085-9284506  ขึ้นที่เจ๊กิมเหมือนเดิม 
-          ขอจบทริปนี้ด้วยมิตรภาพใหม่ๆที่ได้มา แล้วเจอกันทริปเบตงกับตี้ภูกระดึงค่า 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่