ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะสัปดาห์นี้มีสองเรื่องที่โดดเด่น และเรื่องนี้ก็คงต้องเป็น a must สำหรับคอหนังอยู่แล้ว กับการฉีกเรื่องราวออกจาก Suicide Squad ที่เป็นเหมือนจุดกำเนิดของ Harley Quinn มาจับพลัดจับผลูบังเอิญมากลายเป็นทีมที่สร้าง story ของทีมตัวเอง ซึ่งถ้าพูดถึงตัวคาแรคเตอร์ Harley Quinn เองแล้ว นับว่าจุดนี้ DC ประสบความสำเร็จในการสร้างความโดดเด่นและแข็งแรงให้ตัวละครตัวนี้ได้อย่างน่าทึ่ง


หนังเล่าเรื่องราวของ Harley Quinn หลังจากที่โดน Mr.J หรือ Joker เขี่ยทิ้ง ใครต่อใครที่เคยเจอฤทธิ์ความแสบของ Harley พอรู้ว่าไม่มีคนคุ้มหัวแล้วก็ออกตามล่าเธอ โดยเฉพาะ โรมัน ไซโอนิส หรือ Black Mask ซึ่ง Harley ก็ดันไปเกี่ยวโยงกับเพ็ชรของ โรมัน ที่ถูกขโมยไป เลยทำให้เธอได้เจอกับหนูน้อยแคสแซนดร้า เคน และแก๊งสาวๆ แบล็ค คานารี่, ฮันเทรส, เรเน่ มอนโตย่า ซึ่งทั้งหมดถูกตามล่าตัวเช่นกัน ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวของทีม Birds of Prey ขึ้นเพื่อสู้กับทีมของ Black Mask ที่มาตามล่า


ส่วนตัวผมว่าหนังดูกล้าๆ กลัวๆ ที่จะสร้างตัวละครคนอื่นขึ้นมาเทียบกับ Harley Quinn เพราะหนังใช้ตัวของ Harley เป็นตัวเล่าเรื่องตั้งแต่ต้น แถมยังเล่าแบ็คกราวน์ของตัวละครซะละเอียดยิบ ผิดกับตัวละครตัวอื่นที่แทบจะไม่ได้มีอะไรให้รู้จักมากมาย เลยกลายเป็นว่า ช่วงต้นครึ่งแรกของหนัง เป็น Harley Quinn Show ไปเต็มๆ ทั้งๆ ที่คนดูอาจจะอยากรู้จัก The Huntress, หรือ Black Canary บ้าง แต่ก็ว่าไม่ได้อีกนั่นแหละ ด้วยตัวละคร Harley Quinn เป็นตัวละครที่ DC สร้างขึ้นมาให้โคตรจะโดดเด่นตั้งแต่ Suicide Squad แล้ว มันก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเดินเรื่องด้วยตัวละครตัวนี้มากที่สุด


ซึ่งเอาจริงๆ นะ ครึ่งแรกของหนังยาวไปนิดในความรู้สึกส่วนตัวของผม มีบางช่วงที่อืดจนง่วงนอนด้วยซ้ำ หนังพยายามจะปูความสัมพันธ์ของตัวละครระหว่าง Harley กับ แคส มากที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้หนังค่อนข้างหน่วงพอสมควร แต่พอเข้าช่วงครึ่งหลังของหนัง หลังจากรวมทีมกันแล้ว หนังกลับสนุกขึ้นแบบสุดๆ เมื่อทั้ง 5 สาวออกมาโชว์ตัวแบบเต็มๆ 


แน่นอนว่า Harley Quinn แบกหนังเรื่องนี้ไว้แทบจะทั้งเรื่อง เพราะหนังโอนความโดดเด่นไปให้ตัวละครตัวนี้เรียกว่า 85% ของเรื่องเลยทีเดียว แล้วอย่างที่เห็นกัน Margot Robbie เล่นเป็นตัวละครตัวนี้ได้น่ารักมากๆ หลายคนหลงรัก Harley Quinn จากการแสดงของ Margot ด้วยซ้ำ ยังดีมีช่วงครึ่งหลังของหนังที่ตัวละครอื่นในทีมมีความเด่นขึ้นมาบ้าง แต่มีคนนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ โอบีวัน เอ้ย โรมัน ไซโอนิส หรือ Black Mask เป็นตัวร้ายที่มีมิติและดูน่าค้นหามาก ยิ่งได้นักแดสงสุดยอดฝีมืออย่าง Ewan McGregor ยิ่งทำให้ตัวละครนี้โดดเด้งขึ้นมา


จุดเด่นของหนัง DC เกือบทุกเรื่องคือ เรื่องของฉากแปลกๆ สวยๆ แต่ละฉากที่ทำออกมาได้อย่างสุดยอด ในเรื่องนี้ฉากที่ Harley พา แคส ไปเพื่อจะเอาไว้แลกตัวกับทาง Black Mask (จำไม่ได้ละว่าเรียกว่าอะไร) ฉากนี้เป็นฉากที่ดูสวยและดูน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน บวกกับเอกลักษณ์การคุมโทนหนังหม่นๆ ไว้ได้ตลอด เรื่องนี้ถึงแม้จะมีสีสันจากความเป็น Harley Quinn แต่หนังก็ยังคุมโทนไว้ได้ และที่โดดเด่นมากๆ อีกอย่างของหนัง DC คือเรื่องของเพลงและเสียงประกอบ ที่เรื่องนี้ทำออกมาได้เป็นที่พูดถึงค่อนข้างเป็นวงกว้างเลยทีเดียว


เอาตามตรงหนังเรื่องนี้ได้ Harley Quinn เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องจริงๆ ต้องบอกว่าตัวละครตัวนี้ถึงจะไม่ใช่ตัวละครฝ่ายดีเหมือน Superheroes ตัวอื่นๆ แต่คนดูกลับหลงรักตัวละครตัวนี้ได้ไม่ยาก และด้วยความน่ารักสดใส ทำให้หนังมีสีสันมากขึ้น บวกกับความสนุกของหนังในช่วงครึ่งท้าย ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ตกม้าตายเหมือนที่ใครหลายคนคาดเดาเอาไว้ตั้งแต่ก่อนถ่ายทำ

ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ  >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/