แชร์ทริปปีใหม่ countdown 2020 ที่โตเกียว ด้วย JR Pass แบบใช้คุ้มสุดๆ 8 เมือง 7 วัน ให้ฟังกันค่ะ

เราออกเดินทางคืนของวันที่ 25 ธ.ค. 62 และได้ไฟล์ทของ AirAsia 02.30 ไปถึงนาริตะ 10.45 น.
ทริปนี้ตั้งใจจะไป countdown ที่โตเกียว แล้วจะลองใช้ JR Pass แบบ 7 วันให้คุ้มสุดๆดู เลยแพลนไว้ว่าจะพักเมืองละวันแบบได้ใช้ชินคันเซ็นให้คุ้มและไม่เหนื่อยมาก ตอนออกเดินทางเราไปกัน 2 คน ไปอยู่บ้านเพื่อนที่ย่านอูเอโนะ แล้วไปพักที่เมือง kusatsu onsen แล้วจะเจอเพื่อนที่บินตามมาที่เมือง takasaki ด้วยรถไฟชินคันเซ็นคันเดียวกัน แล้วเราจะไปพักที่เมือง kanazawa >> ตื่นเช้าไปเที่ยว Shirakawago แล้วนั่งรถบัสกลับเข้าเมือง Takayama >>ต่อรถไฟเที่ยวพิเศษไปพัก Nagoya เมืองแห่งสีสันคึกคักทั้งคืน >> ตื่นสายๆไป Shizuoka แล้วไปชมฟูจิซังที่เมือง Fujinomiya >> กินดื่มช้อปปิ้งในเมือง Shizuoka >> แล้วกลับเข้าโตเกียวไป countdown กับเพื่อนๆคนไทยในโตเกียวที่ย่านอูเอโนะ >> แล้วบินไฟล์ทบ่ายจากนาริตะกลับเข้ากรุงเทพ
แต่!!!! ทุกอย่างก็ไม่ค่อยเป็นไปตามแพลนที่ตั้งกัยไว้เท่าไหร่
แต่เอาจริงๆนะ บางทีอะไรไม่เป็นตามที่เราคิดบ้าง มันก็สนุกแปลกๆดีนะ



แชร์แพลนเที่ยวที่แพลนไว้ให้เพื่อนๆนะคะ
แอบเล่าก่อนว่า เราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 6 เดือน จองที่พักล่วงหน้า 2-3 เดือน และจองตั๋ว JR Pass & ตั๋วรถบัสไป-กลับชิราคาวาโกะล่วงหน้า 1 เดือนค่ะ เราเลยได้ทุกอย่างแบบราคาแฮปปี้กรุะเป๋าไม่ฉีกเท่าไหร่ มีตังค์เหลือไปช้อปปิ้งได้ชิลๆเลย



แพลนอื่นๆ
- สำหรับที่พัก เราเน้นจองแบบที่ราคาไม่สูง ห้องขนาดไม่แคบมาก (ยกเว้นอูเอโนะ เพราะเปลี่ยนใจจากที่จะนอนบ้านเพื่อนมาเป็นพักโรงแรมปุบปับครึ่งเดือนก่อนเดินทาง เลยจำไปต้องพักที่ APA ที่ห้องแคบสุดๆ แต่ดีที่ใกล้รถไฟ ใกล้ร้านอาหาร และใกล้บ้านพื่อนที่จะ countdow)
- เราจอง JR Pass จาก klook เพราะช่วงนั้นราคาที่นี่ดีสุดๆ
- การจองรถบัสไป-กลับชิราคาวาโกะ Shirakawago เราอ่านมาว่ามีโอกาสที่จะไม่ได้รถบัสสูงถ้าเป็นช่วงเทศกาล เราเลยจองล่วงหน้าจากเว็ปโดยตรงของ nohibus/japanbus online (จองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วัน) สามาถจองวันและเวลาที่จะไป-กลับได้เลย
https://www.nouhibus.co.jp/highwaybus/kanazawa_en/

สำหรับพวกเราจากที่ตั้งใจว่าจะนั่งรถบัสจาก kanazawa (lสถานีจำหน่าย/แลกตั๋วอยู่ใกล้ที่พักมาก)แต่วันที่ต้องการเดินทางเป็นช่วงเทศกาล ที่นั่งแบบจองล่วงหน้าเลยเต็ม (ขนาดจองวันล่วงหน้า30วันเป๊ะๆแล้วนะ ยังไม่ทันเลย) ด้วยความที่กลัวจะพลาดเที่ยว เราเปลี่ยนไปลองจองขึ้ที่ Toyama แทนเพราะมีรอบรถบัสที่ว่างอยู่ และถ้านั่งรถไฟชินคันเซ็นใช้เวลาแค่ 25 นาทีเราเลยจองเที่ยวนั้น 
และสำหรับขากลับ แพลนแรกคือกลับไปลองพักที่ทาคายาม่า Takayama แต่มาอ่านรีวิวแล้ว กลัวเมืองจะเน้นสงบๆหน่อย เราเลยกลัวจะเหงาๆ และอยากปรับโหมดไม่ให้ซ้ำกับเมืองคานาซาว่า kanazawa ด้วย เราเลยหันแพลนไปเลือกพักที่นาโกย่า nagoya เมืองที่คึกคักทั้งคืน และใกล้โตเกียวขึ้นมาอีกหน่อยด้วย

เอาล่ะ!! ลองดูนะคะว่าเพื่อนๆว่าพอไหวกันมั้ยกับทริปหนาวๆ โหดๆนี้

02.30 จากโตเกียว เราถึงนาริตะ Narita 10.45
ใช้เวลากับ ตม.สักพัก ดีนะปีนี้เรามาญี่ปุ่นรอบนี้เป็นรอบที่ 3 เลยผ่านง่ายหน่อย
เดินออกมา เราตั้งใจจะเอา Voucher Ticket JR Pass ไปแลกที่ JR Office ก่อน และเราได้เตรียมเอกสารแพลนเการใช้รถไฟชินคันเซ็นแะรถไฟเที่ยวพิเศษไว้แบบระบุรอบและเวลา ให้เจ้าหน้าที่เค้าออกตั๋วให้ทีเดียวเลย

ออกจากตม. เดินตามรูปนี้เลยค่ะ หาคำว่า Train นะคะ

วันที่เราไปถึงคนต่อคิวเยอะและยาวมากๆ มีเจ้าหน้าที่เดินมาสอบถามเรื่อง voucher และให้เรากรอกข้อมูลบนบัตร JR Pass ตัวจริงของแต่ละคนเอง และรอคิวเพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและตรวจบัตร
เรายื่นเอกสารตารางรถไฟที่จะใช้ทั้งทริปไปให้เจ้าหน้าที่ แต่แจ้งว่าอยากให้ลอง booking วันที่ยังไกลๆทีหลังก่อนเพราะเผื่อนเปลี่ยนแปลง และคนใช้บริการที่นี่ค่อนข้างเยอะ ส่วนของวันถัดไปลองเช็คที่นั่งแบบตู้ reserved แล้ว ปรากฎมีแค่แบบต้องนั่งแยกกัน เลยให้ไปเสี่ยงขึ้นตู่ Non Reserved ดีกว่าเพราะอาจจะได้นั่งเป็นคู่กัน เพราะตู้รถไฟมีจำนวนมากกกว่า
เจ้าหน้าที่จองตั๋ว NEX ในขบวนถัดไปไว้ให้ เพราะเห็นในใบตารางรถไฟของเราตั้งใจจะไปลงสถานี Tokyo

รับบัตรและเดนไปตามภาพค่ะ ทางไปขึ้น NEX 

เจ้าหน้าที่จะแสตมป์บัตรให้ที่จุดนี้ว่าเปิดใช้งานวันแรก และปล่อยให้เราเข้าไป


ในบัตรเจ้าหน้าที่จะวงมาให้มาให้ขึ้นรถที่ car no. อะไรค่ะ

เรานั่ง Nex มาลงสถานีโตเกียว และต่อรถไฟไป ueno อีกแค่ 5 นาที (เราใช้ JR Pass ก็เลยต้องใช้รถไฟของ JR ให้คุ่มที่สุดค่ะ จริงๆแล้วจากนาริตะสามารถนั่ง skyliner ไปลงอูเอโนะได้เลย แต่ไม่ค่ะเราจะใช้ JR Pass แบบเป็นบัตรเบ่งชนิดคุ้มกันสุดๆไปเลย

มาถึงอูเอโนะตั้งแต่บ่าย กินข้าว เดินเล่น ช้อปปิ้งเล็กๆ (ทนไม่ไหวจริงๆ เล่น sales ทั้งเมืองขนาดนี้) แล้วไปขอพักบ้านเพื่อนที่อูเอโนะ ก่อนที่สายๆเราจะไปเที่ยวเมือง kusatsu onsen กันต่อ

<img class="img-in-post in-tiny-editor">

ตามแพลน เราต้องขึ้นรถไฟจาก Ueno เวลา 10.22  เราเลยออกจากที่พัก 09.15 และเอาผลไม้ที่ซื้อไว้เมื่อคืนไปกินบนชินคันเซ็น
10.22 JR Ueno ไปถึง Takasaki 11.05 
11.19 Takasaki ไปเมือง Naganoharakusatsuguchi เวลา 12.18  และจะขึ้นรถบัสที่สถานีไปเมือง kusatsuonsen ภายใน 25 นาที แล้วเราจะกินข้าวเที่ยงที่นั่น



 
แต่อย่างที่บอกค่ะ ถ้าตามแพลนเป๊ะๆอาจจะไม่สนุก
จริงๆระหว่างทาง มองไปนอกหน้าต่างแอบเซ็งๆ เพราะแห้งมาก ไม่เจอหิมะเลย พอใกล้สถานีที่จะลงก็มีฝนลงเล็กๆ เราคิดในใจว่าแย่แล้ว ไม่เจอหิมะปุยๆแน่เลย
พอถึงสถานี Naganoharaguchi มีคนรอต่อคิวยาวมากๆ แต่ลมหนาวที่ปะทะหน้าทำให้ทุกคนยังคุยกันสนุกเชียว
สักพักเริ่มมีละอองฝนลงมา จากภูเขาเขียวๆที่อยู่ตรงหน้าเริ่มขาวขึ้นเรื่อยๆ หิมะก็เริ่มลงหนักขึ้นๆ แถวที่ต่อเพื่อขึ้นรถบัสก็เริ่มยาวขึ้นมากๆ 

เรายืนรออยู่ท่ามกลางหิมะด้านนอกตัวอาคารประมาณ 3 ชั่วโมงจนรถบัสคันที่เราขึ้นได้มา (รถบัสคันนึงรับผู้โดยสารไม่น่าจะเกิน 80 คน) ทั้งหิวทั้งหนาว ดีใจมากจะได้เข้าที่พักแล้ว

รถขับขึ้นเขา จนเราเข้าใจสถานการณ์
อยู่ดีๆ วันนี้มีพายุหิมะเกิดขึ้น น่าจะเป็นหิมะหนักแรกของปีนี้ เลยทำให้รถที่ชับขึ้นเราติดหล่มหิมะ หลายจุดมีหิมะปกคลุมหนา ยิ่งรถข้างหน้าติดหล่มรถคันต่อๆไปที่จอดรถก็ติดตามกันต่อๆไป     แล้ว     รถบัสของเราที่ถึงจะติดโซ่อย่างแน่นหนาก็ไปไม่ได้เพราะทุกคันที่อยู่ข้างหน้าบนทางขึ้นเขาไป kusatsu ต่างก็รถติดหล่มทุกคัน  เรานั่งดมยาดมในรถบัสอยุ่ 2 ชั่วโมง และเห็นรถของทางการที่เริ่มมาช่วยรถต่างๆแล้ว เดาว่าตำรวจเองก็ยังรับมือไม่ทันอยู่ เลยเป็นวันที่หนักหย่วงของทุกคนที่เดินทางไป kusatsu onsen 
และแล้วหลังจากแพลนกินข้าวเช้าที่ kusatsu ก็เลยกลายเป็นดินเนอร์แทน เราไปถึงสถานีรถบัสประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งหน้าหนาว 6 โมงไม่ต่างจาก 3 ทุ่ม

เราลากกระเป๋าจากสถานีรถบัสบนพื้นถนนที่มีแต่น้ำแข็งหนาๆ เพื่อเข้าที่พัก
อย่างเหนื่อย หิว และเกร็งมาก

เดินเข้าที่พักที่อยู่ด้านหน้า Yubatake เลย ที่นีคือเมืองผลิตน้ำแร่ออนเซ็นที่ไหลมาจากน้ำพุร้อนและมาผ่าน Yubatake เพื่อส่งเข้าไปยังที่พักที่มีออนเซ็นต่างๆ (ข้อมูลแน่นๆ ฝากอ่านจากที่อื่นทีนะคะ ทำการบ้านมาน้อยมาก 5555)
ที่พักของเราคือ Kusatsu Onsen Daitokan เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ใกล้Yubatake และร้านรวงต่างๆมาก วิวสวย ห้องพักขนาดใหญ่ มีบ่อออนเซ็น 2 บ่อใหญ่ๆ  แต่เป็นโรงแรมเก่าแก่ ซึ่งเราเองรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน

อันนี้วิวหลักล้าน จากห้องพัก 


เราเอาของเก็บลงไปถ่ายรูป ทานข้าว และรีบกลับมาแช่ออนเซ็น



 
ร้านนี้ดีงาม อาหารอร่อย ง่ายๆเป็นกันเอง อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามโรงแรม มีไอศครีมไว้ทานแก้หนาวด้วย
กินอิ่มก็เข้าที่พัก เช่ออนเซ็น และพยายามนอนข่มตาให้หลับ แต่ทำไมมันร้อนทั้งคืนก็ไม่รู้ค่ะ จะไปปิดฮีตเตอร์ หรือเปิเประตูเอาลมเย็นเข้ามาก็กลัวป่วย
ที่นี่เราชอบที่พักนะ ติดเรื่องนอนไม่หลับ และเหม็นกลิ่นกัมมะถันแต่เช้าตรู่นี่แหล่ะ เฮ้อ!!! จะดีอยู่แล้ว

ตอนเช้าเราออกจากที่พัก ไปขึ้นรถบัสกลับ เพื่อไปเจอเพื่อนที่เมือง Takasaki กันค่ะ

มีเซเว่นอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย

ออกจากที่พักด้วยรถบัส เพื่อไปขึ้นรถไฟที่สถานีเดิม
แต่วันนี้นั่งรถไฟสายหวานเย็นขึ้นหน่อย เพราะรถไฟเที่ยวที่จะไป Takasaki ในเวลาที่เรามาถึงสถานีมีรอบที่สามารถขึ้นได้เลย และทำให้เรามีเวลากินข้าวที่สถานีมากขึ้น เราเลยขึ้นรถไฟเที่ยวนี้ไป 
 

ขอเวลาพักสักครู่นะคะ จะรีบมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ