หลังจากที่ออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือจากประชาชนเรื่องประหยัดการใช้น้ำ ขอสะกิดและเพิ่มเติมลุงตู่หน่อยนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจริงๆ
การขอความร่วมมือจากประชาชนล่วงหน้าอย่างนี้ก็ถือทีมงานลุงตู่เริ่มจะเป็นงานขึ้นมาอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีนะครับ....ไม่ควรจะขอร้องประชาชนอย่างเดียว ภาครัฐควรนำร่องในการวางมาตรการประหยัดน้ำเลย
ทำการสำรวจก่อนดีไหม? ว่านอกจากเกษตรแล้วธุรกิจใดบ้างใช้น้ำสิ้นเปลืองที่สุด แล้วจัดหมวดหมู่ว่าสิ้นเปลืองแบบสูญเปล่าอย่างไรชนิดไหน เช่น สิ้นเปลืองแล้วได้ผลผลิตกับคืนมาในรูปแบบอื่น หรือสิ้นเปลืองเพื่อความบันเทิง (เช่นสนามกอล์ฟ) เพียงอย่างเดียว ภาครัฐควรไปไล่เบี้ย /ขอความร่วมมือ / เพิ่มภาษีจากการใช้น้ำ ฯลฯ กับธุรกิจหรือกิจการเหล่านั้นด้วย ผมเชื่อว่าคงใช้เวลาสำรวจไม่นานหรอกเพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาเรียบเรียงและอัพเดทนิดหน่อย ทำตรงนี้เสียก่อนแล้วค่อยออกแถลงน่าจะได้คะแนนนิยมกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ขอความร่วมมือกับประชาชนเพียงกลุ่มเดียว โฆษณาไปเลยว่า ภาครัฐได้นำร่องก่อนแล้ว เช่นว่า ขึ้นภาษีหรือขอความร่วมในการใช้น้ำจากธุรกิจต่างๆ เช่นว่า ร้านสระ ซอย ผมทั่วประเทศ ธุรกิจล้างรถ โรงงานน้ำแข็ง ฯลฯ ดังนั้น รัฐบาลจึงมาขอความร่วมมือจากประชาชนในเรื่องด้วย อะไรประมาณเนี๊ยะ ขอความร่วมมือประชาชนกลุ่มเดียวอย่างนี้ เดี๋ยวก็มีคนต่อว่ารัฐบาลอีกแระว่า แล้วคนอื่นล่ะ??
ถ้าจะให้เจ๋งเป้งนะครับ พีอาร์ของลุงตู่จะนำไอเดียผมไปใช้ก็ไม่หวงนะครับ สนามกอล์ฟไหนที่ภาครัฐพอจะคอนโทรลได้หรือไหว้วานได้ อย่างเช่นสนามกอล์ฟกองทัพบก ก็ให้เสียสละไปเลยว่าสนามกอล์ฟกองทัพบกจะใช้น้ำครึ่งหนึ่งจากที่เคยใช้ หญ้าคงไม่ถึงกับตายหรอกแต่จะไม่เขียวได้ใจผู้พันหรือนายพลที่ชอบเล่นกอล์ฟ ข้อมูลที่ผมอ่านจากหนังสือผู้จัดการหลายปีมาแล้ว เขาบอกว่า
สนามกอล์ฟหนึ่งแห่งใช้น้ำเท่ากับ 1 อำเภอ!!!
...เรื่องการเตรียมตัวรับภาวะขาดแคลนน้ำ เอาอย่างนี้ด้วยสิครับลุงตู่....
การขอความร่วมมือจากประชาชนล่วงหน้าอย่างนี้ก็ถือทีมงานลุงตู่เริ่มจะเป็นงานขึ้นมาอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีนะครับ....ไม่ควรจะขอร้องประชาชนอย่างเดียว ภาครัฐควรนำร่องในการวางมาตรการประหยัดน้ำเลย
ทำการสำรวจก่อนดีไหม? ว่านอกจากเกษตรแล้วธุรกิจใดบ้างใช้น้ำสิ้นเปลืองที่สุด แล้วจัดหมวดหมู่ว่าสิ้นเปลืองแบบสูญเปล่าอย่างไรชนิดไหน เช่น สิ้นเปลืองแล้วได้ผลผลิตกับคืนมาในรูปแบบอื่น หรือสิ้นเปลืองเพื่อความบันเทิง (เช่นสนามกอล์ฟ) เพียงอย่างเดียว ภาครัฐควรไปไล่เบี้ย /ขอความร่วมมือ / เพิ่มภาษีจากการใช้น้ำ ฯลฯ กับธุรกิจหรือกิจการเหล่านั้นด้วย ผมเชื่อว่าคงใช้เวลาสำรวจไม่นานหรอกเพราะข้อมูลมีอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาเรียบเรียงและอัพเดทนิดหน่อย ทำตรงนี้เสียก่อนแล้วค่อยออกแถลงน่าจะได้คะแนนนิยมกระเตื้องขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่ขอความร่วมมือกับประชาชนเพียงกลุ่มเดียว โฆษณาไปเลยว่า ภาครัฐได้นำร่องก่อนแล้ว เช่นว่า ขึ้นภาษีหรือขอความร่วมในการใช้น้ำจากธุรกิจต่างๆ เช่นว่า ร้านสระ ซอย ผมทั่วประเทศ ธุรกิจล้างรถ โรงงานน้ำแข็ง ฯลฯ ดังนั้น รัฐบาลจึงมาขอความร่วมมือจากประชาชนในเรื่องด้วย อะไรประมาณเนี๊ยะ ขอความร่วมมือประชาชนกลุ่มเดียวอย่างนี้ เดี๋ยวก็มีคนต่อว่ารัฐบาลอีกแระว่า แล้วคนอื่นล่ะ??
ถ้าจะให้เจ๋งเป้งนะครับ พีอาร์ของลุงตู่จะนำไอเดียผมไปใช้ก็ไม่หวงนะครับ สนามกอล์ฟไหนที่ภาครัฐพอจะคอนโทรลได้หรือไหว้วานได้ อย่างเช่นสนามกอล์ฟกองทัพบก ก็ให้เสียสละไปเลยว่าสนามกอล์ฟกองทัพบกจะใช้น้ำครึ่งหนึ่งจากที่เคยใช้ หญ้าคงไม่ถึงกับตายหรอกแต่จะไม่เขียวได้ใจผู้พันหรือนายพลที่ชอบเล่นกอล์ฟ ข้อมูลที่ผมอ่านจากหนังสือผู้จัดการหลายปีมาแล้ว เขาบอกว่า สนามกอล์ฟหนึ่งแห่งใช้น้ำเท่ากับ 1 อำเภอ!!!